The Legendary Mechanic - ตอนที่ 932 ศักยภาพของผู้อยู่เหนือ
ในเวลาเดียวกันในดินแดนกลางของจักรวรรดิ กองยานไร้เครื่องหมายขนาดเล็กเทียบท่าอยู่เหนือดาวสีฟ้า ดาวดวงนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงสุดของจักรวรรดิคริมสัน ด้วยเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองและประชากรจำนวนมาก
กองยานนี้มาจากสาขาของกองทัพแบล็คสตาร์ในเส้นทางดาวเพราะเขาต้องอยู่ในจักรวรรดิอีกนาน หานเซี่ยวจึงระดมกองยานของกองทัพท้องถิ่นเพื่อใช้โรงงานเครื่องจักรของกองยาน สร้างเครื่องจักรจำนวนมากระหว่างทาง
จักรวรรดิคริมสันรู้ว่าหานเซี่ยวจะมากาแล็กซี่กลางด้วยจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปดาววงแหวนคริมสันเพื่อรายงานตัว เว้นแต่พื้นที่ลับทางทหาร เขามีอิสระที่จะไปไหนก็ได้และเบื้องบนของจักรวรรดิก็จะไม่จำกัดเขา
หานเซี่ยวกำลังฝึกเทคนิคฝึกฝนพลังงานเขาขณะค้นหาบุคคลที่มีชื่อเสียงของจักรวรรดิในอนาคตเขามาถึงเมืองดวงดาวนี้เพื่อเยี่ยมคนๆเดียว สถาบันฝึกสอนพลังพิเศษหมายเลข16ของจักรวรรดิคือมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งและเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากบนดาวนี้ เป้าหมายการเดินทางของหานเซี่ยวคือสถาบันแห่งนี้ ในความทรงจำเขา สมาชิกผู้อยู่เหนือจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ตามข้อมูลที่เขาได้รับจากชีวิตก่อนหน้าผู้อยู่เหนือคนนี้ได้รับเลือกให้เข้าเรียนตอนระหว่างปี709ถึง712 นี่คือช่วงแรกของการอัปเดทจากเวอร์ชั่นสามไปสี่ และเป็นเวลาเหมาะเจาะ
เพราะกองยานเขาไร้เครื่องหมายการมาของหานเซี่ยวจึงไม่ทำให้เกิดความปั่นป่วนอะไรบนดาว มีเพียงพวกระดับสูงของสถาบันถึงได้รับการแจ้งเตือนและอาจารย์ใหญ่ก็ทิ้งงานทั้งหมดเพื่อมาทักทายหานเซี่ยวเป็นการส่วนตัว ในขณะนี้ ในหนึ่งในวิทยาเขตของสถาบันฝึกสอนพลังพิเศษ หานเซี่ยวพาออโรร่าเดินเล่นไปตามถนนร่มรื่น ใบหน้าทั้งคู่ถูกปลอมแปลง ไม่มีใครสามารถเห็นใบหน้าจริงของทั้งคู่ได้
ต้นไม้สังเคราะห์จะช่วยบังแสงจากดวงอาทิตย์เทียมบนท้องฟ้าและแสงแดดที่ส่องผ่านหลังคาก็ถูกตัดเป็นเส้นสีทองนอกจากนี้ยังมีแม่น้ำระยิบระยับด้านข้างถนน ซึ่งมีนักเรียนหลายคนกำลังเล่นน้ำ ด้านหน้า มีผินหญ้าที่นักเรียนหลากเผ่าปะปนกันเพื่อพูดคุยและบางครั้งจะมีนักเรียนเหาะขึ้นฟ้าขณะถือหนังสือไว้ รีบไปเข้าเรียน ทุกที่เต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์
“ดีจัง..”เมื่อเห็นฉากนี้ความปราถนาและความอิจฉาก็ปรากฏเล็กน้อยในดวงตาของออโรร่า ชีวิตวัยเด็กเธอคล้ายกับขุมนรก และเธอก็ไม่ได้โตขึ้นตามสภาพแวดล้อมทั่วไป
หานเซี่ยวพลันรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยชีวิตของคนธรรมดามันไกลเกินไปสำหรับฉัน…
เขาลดหัวก้มมองออโรร่า ภายใต้แสงยามเช้า เธอดูบริสุทธิ์เป็นพิเศษ และขนตายาวเธอก็ขยับเบาๆ
“ท่านแบล็คสตาร์แผนกนักสู้อยู่ตรงหน้าเราครับ”
ครั้งนี้เสียงของอาจารย์ใหญ่ดังขึ้นข้างหูเขา หานเซี่ยวละสายตาจากออโรร่า มองไปยังอาคารสูงด้านหน้า มีพื้นที่ฝึกแรงโน้มถ่วงทรงพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและนักสู้หลายคนก็กำลังฝึก ทั้งสามเดินไปรอบๆพื้นที่การสอนสักพักและเดินผ่านห้องเรียน นักสู้เด็กใหม่อยู่ตรงกลางของชั้นเรียนวัฒนธรรม เมื่อหานเซี่ยวมองเข้าไป สายตาเขาก็หยุดกับคนที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์กาแล็กซี่ ใบหน้าเรียบเฉยนี้ดูคุ้นเคยมากในสายตาเขา…
คาร์ล็อตผู้อยู่เหนือภายใต้จักรวรรดิโดยตรง หลัง’จ้าวแห่งความมืด’คล็อตติตาย เขาก็มารับตำแหน่งแทนคล็อตติและความสามารถต่อสู้เขาก็นับว่าถึงจุดสูงสุดของผู้อยู่เหนือ..
ความทรงจำฉายผ่านหัวของหานเซี่ยวและดวงตาเขาก็เป็นประกาย
เมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวหยุดและไม่ขยับอาจารย์ใหญ่ก็สับสนเล็กน้อย เขามองตามและเห็นคาร์ล็อตนั่งอยู่ตรงนั้น เขาลังเลก่อนถาม”ท่านแบล็คสตาร์ ท่านรู้จักนักเรียนใหม่คนนี้งั้นหรอครับ?”
หานเซี่ยวส่ายหัว”ผมแค่รู้สึกว่าเขามีศักยภาพมาก”
เมื่อได้ยินแบบนี้อาจารย์ใหญ่ก็หรี่ตามอง แต่ก็ไม่อาจเห็นอะไรพิเศษในตัวคาร์ล็อตได้เลย เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใส่ใจกับความเห็นของผู้อยู่เหนือ อาจารย์ใหญ่ลอบนำอุปกรณ์สื่อสารเขาขึ้นมาเพื่อตรวจสอบไฟล์ของคาร์ล็อต แต่ก็พบว่านักเรียนใหม่คนนี้ยังไม่ปลุกยีนขึ้นเลย และดังนั้น คะแนนเขาจึงเป็นอันดับล่างๆ
นักศึกษาใหม่ส่วนใหญ่ในสถาบันแค่คนธรรมดาเพราะสถาบันจะทำการทดสอบเพื่อคัดเลือกต้นกล้าที่ดีเพื่อเริ่มการศึกษาก่อนหน้า ภายในระยะเวลาปีครึ่งนี้ หากพวกเขาไม่สามารถปลุกยีนพิเศษของตนได้ พวกเขาจะถูกขอให้ลาออก
“ผมหวังว่าจะได้คุยกับเขา”หานเซี่ยวกล่าว
“นี่…ตกลงครับ”อาจารย์ใหญ่ลังเลก่อนตอบรับ
หานเซี่ยวเดินไปในห้องเรียนว่างสุ่มๆและเมื่อเสียงระฆังดัง ทางเดินก็วุ่นวาย ประตูห้องเรียนเปิดและอาจารย์ใหญ่ก็เดินมาพร้อมคาร์ล็อต
“นั่งสิ”หานเซี่ยวยิ้ม
“ทำไมคุณถึงอยากพบผม?ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”คาร์ล็อตยืนอึ้งๆเผยใบหน้าทำอะไรไม่ถูก
ครอบครัวเขาเป็นคนธรรมดาที่ทำธุรกิจเล็กๆแต่ทว่า พ่อแม่เขาอยากให้เขากลายเป็นผู้ใช้พลังเพื่อให้ธุรกิจครอบครัวสามารถได้รับสวัสดิการทางสังคม ดังนั้น พวกเขาจึงอนุญาตให้เขามาเรียน คาร์ล็อตไม่มีความเห็น และทำการสอบเข้า ผ่านมาได้ด้วยความโชคดี
ในฐานะน้องใหม่ที่ไม่เคยติดต่อกับผู้ใช้พลังคนใดคาร์ล็อตเคยพบอาจารย์ใหญ่แค่ครั้งเดียวตอนพิธีเปิด แต่ทว่า วันนี้อาจารย์ใหญ่กลับเดินมาหาเขาเป็นการส่วนตัว ซึ่งทำให้เขากังวลว่าเขาเผลอทำผิดกฏไปหรือเปล่า
“ฮ่าๆนายไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันแค่อยากคุยกับนาย”หานเซี่ยวหัวเราะ
คาร์ล็อตถอนหายใจโล่งอกสังเกตใบหน้าของหานเซี่ยวก่อนถาม”คุณ..คุณเป็นใคร?ผมไม่รู้จักคุณ ทำไมคุณถึงมาหาผม?”
“ฉันชื่อแบล็คสตาร์บางทีนายอาจเคยได้ยินชื่อฉัน ฉันเป็นพันธมิตรของจักรวรรดิคริมสันและฉันก็เห็นว่านายมีศักยภาพ นายยินดีที่จะเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์ของฉันไหม?”หานเซี่ยวยิ้ม
จุดประสงค์การเดินทางนี้คือค้นหาคนที่มีศักยภาพแต่เพราะตัวตนแรกเริ่มของคาร์ล็อตต่ำเกินไป เขาจึงไม่ถูกพบในช่วงต้น หากหานเซี่ยวสามารถนำคนแบบนี้กลับไปได้ เขาก็จะไม่ลังเล.ไอรีนโนเวล.
เมื่อเห็นแบบนี้อาจารย์ใหญ่ก็เริ่มสงสัยในสายตาเขา แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร มันน่าแปลกใจยิ่งกว่าที่เห็นแบล็คสตาร์เชิญเด็กคนนี้เป็นการส่วนตัว
“กองทัพแบล็คสตาร์คืออะไร?”คาร์ล็อตเบิกตากว้างดูสับสน เขาไม่เคยให้ความสนใจกับเรื่องระหว่างดวงดาวและยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ปกครองของจักรวรรดิชื่ออะไร
ใบหน้าหานเซี่ยวกระตุกและเหลือบมองออโรร่าออโรร่าทำได้เพียงอธิบายให้เขาฟังอย่างอดทน
คาร์ล็อตดูเหมือนจะเข้าใจแค่ครึ่งเดียว”งั้นพวกคุณก็คือทหารรับจ้าง?”
“จะพูดแบบนั้นก็ได้”หานเซี่ยวกล่าวอย่างหน่ายใจ”หากนายเข้าร่วมกองทัพเราไม่เพียงจะได้รับการสอนที่ดีขึ้น นายยังสามารถได้รับผลประโยชน์เพิ่ม ฉัน…”
โดยไม่รอให้หานเซี่ยวพูดจบคาร์ล็อตส่ายหัว”ผมไม่พอ พ่อส่งผมมาที่นี่เพื่อความเป็นอยู่ของครอบครัวเรา เขาไม่ยอมให้ผมออกไปสู้และฆ่าฟันแน่ หากเขารู้เรื่องนี้ เขาต้องตีผมแน่”
เมื่อได้ยินประโยคนี้หานเซี่ยวก็ไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี
จักรวาลไม่ขาดคนที่อยากเป็นผู้ใช้พลังแค่เพราะผลประโยชน์แต่ทว่า เมื่อพวกเขาได้รับพลัง จิตใจพวกเขาจะเปลี่ยนไป ดังนั้น เขาจึงเข้าใจได้ว่าทำไมคาร์ล็อตถึงคิดแบบนี้ในตอนนี้ ในชีวิตก่อนหน้าเขา คาร์ล็อตเป็นคนซื่อสัตย์ ซุ่มซ่ามและมีอัตราเติบโตช้า แต่เขาก็ค่อยๆก้าวไปข้างหน้าจนกระทั่งยืนอยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาล ในช่วงสูงสุดของเขา เขาสามารถฆ่าผู้อยู่เหนือธรรมดาได้โดยไม่ต้องหายใจด้วยซ้ำ
หลังจบการศึกษาจากสถาบันนี้ฝ่ายทหารและรัฐบาลก็มารับสมัครเขา ตอนนั้น ในที่สุดคาร์ล็อตถึงมีความเชื่อเป็นของตัวเองและเข้าร่วมกองทัพ ต่อต้านเจตนาของครอบครัวเขา เริ่มต้นตำนานของเขาขึ้น แต่ทว่า ตอนนี้ คาร์ล็อตยังเป็นแค่เด็กไร้เดียงสาเท่านั้น
ผู้อยู่เหนือทุกคนต่างก็มีเอกลักษณ์หากเขาฝืนเปลี่ยนอนาคตของคาร์ล็อต เขาอาจไม่เติบโตเหมือนชีวิตก่อนหน้า เหนือสิ่งอื่นใด คนอย่างคาร์ล็อตไม่เหมือนฮีล่า ผู้มีศักยภาพเป็นผู้อยู่เหนือแต่กำเนิด
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรคาร์ล็อตก็เกาหัวและถามอย่างลังเล”ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมไปได้หรือยังครับ?”
“ได้สิ”หานเซี่ยวพับเก็บความคิดไปและยิ้มเขาตัดสินใจไม่ผลักดันคาร์ล็อตไปมากกว่านี้
แต่เขาก็ยังช่วยคาร์ล็อตอ้อมๆในเมื่อเขาแสดงความสำคัญต่อนักเรียนคนนี้ อาจารย์ใหญ่ย่อมพยายามฝึกเขา และเขาก็สามารถใช้เวลานี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเขาให้แน่นแฟ้นขึ้นได้
เขามองคาร์ล็อตออกไปและอำลาอาจารย์ใหญ่สักพักก่อนกลับยานเขา
ทันทีที่เข้ายานอุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดัง มันมาจากซิลเวีย
“อาจารย์เราพบปัญหาแล้ว!”
ดวงตาหานเซี่ยวไหววูบ”อธิบายมา”
ซิลเวียรีบสรุปเหตุการณ์อย่างรวดเร็วและหานเซี่ยวก็ขมวดคิ้วขณะประติดประต่อภาพเขากำลังสนทนากับโซโรคิน
“กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดเข้าตลาดวงแหวนดาวกระจายเพราะอยากจัดการกับฉันนี่เอง”
“อาจารย์กำลังจะบอกว่า…”
หานเซี่ยวถอนหายใจ”บนผิวเผินกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดทำหน้าที่เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและการค้า แต่แรงจูงใจจริงคือสนับสนุนแดนหลั่งเลือดให้ต่อต้านเรา แทรกแซงการพัฒนาเรา ฉันกำลังรออดูว่าโทเท็มวิวัฒนาการจะมอบแรงกดดันแบบไหนมาให้ และมันก็เป็นแบบนี้นี่เอง ควรมีผู้หนุนหลังกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด อาจจะเป็นสหพันธ์และศาสนจักร”
“งั้นเราควรทำยังไง?เราไม่มีทางแก้ปัญหานี้ได้เลย!”สีหน้าซิลเวียดูดำมืด
หานเซี่ยวเองก็จนตัวในแง่กิจกรรมทางการค้า กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดคือผู้ปกครอง ธุรกิจหลักของกองทัพไม่ได้รับผลกระทบ แต่เขาไม่สามารถป้องกันโซโรคินจากการเข้าซื้อกิจการคู่ค้าเขาได้เลย นั่นจะทำให้เกิดผลเสียภายหลังเพราะหุ้นส่วนทางธุรกิจอื่นๆเขาจะเลือกยุติความสัมพันธ์เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย
นี่คือกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมา
“หากเราหวังแข่งขันกับกลุ่มการเงินเราต้องเปลี่ยนเงินทุนที่กระจัดกระจายทั้งหมดให้รวมเป็นหนึ่ง ใช้แรงกดดันภายนอกนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันภายในหมู่พันธมิตรเรา ส่งเสริมให้พวกเขารวมตัวกันและสร้างการดำรงอยู่ที่คล้ายกับหอการค้า เราสามารถช่วยกันต่อต้านการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดได้”
ซิลเวียครุ่นคิดก่อนพยักหน้าเห็นด้วย”วิธีนี้ไม่เลว”
“เห้อไม่มีวิธีจัดการกับรากหญ้า เราทำได้แค่หยุดความเสียหายจากการลุกลาม”ดวงตาหานเซี่ยวทอประกายเย็นชา”หลังผ่านไประยะหนึ่ง ฉันจะให้กายสถิตจักรกลที่ฉันทิ้งไว้ในศูนย์ใหญ่ไปแดนหลั่งเลือดเพื่อคุยกับฮีเบอร์!”
หลังคุยถึงมาตรการรับมือหานเซี่ยวก็วางสายด้วยใบหน้าดำมืด
ตอนนี้ที่กองทัพแบล็คสตาร์ได้รับโอกาสเฉิดฉายในโลกและพัฒนาอย่างรวดเร็วโซโรคินกลับพยายามลากพวกเขาลง
เขาอยากทำลายเครือข่ายผลประโยชน์ของหานเซี่ยว!
แม้วิธีการของโซโรคินจะไม่สามารถสั่นคลอนธุรกิจหลักได้มันก็ยังน่ากลัวและมันจะฆ่าอนาคตของกองทัพ!
เขาอยากติดต่อโซโรคินเพื่อซักถามแต่ก็รีบลบความคิด ด้วยนิสัยของจิ้งจอกเฒ่า เขาต้องใช้กิจกรรมทางธุรกิจทุกประเภทเพื่อเป็นข้ออ้าง และไม่มีทางแสดงความไม่พอใจส่วนตัวออกมา
เนื่องจากเขารู้ว่าโซโรคินจะตอบกลับอย่างไรจึงไม่มีประเด็นอะไรให้โทรหาเขา หากฮีเบอร์สัญญาว่าจะร่วมมือ นั่นก็หมายความว่าเขากำลังคว้าโอกาสนี้เพื่อพัฒนากองกำลังเขา แน่นอน เขาไม่รังเกียจที่จะโค่นฉันด้วยวิธีนี้ เมื่อฉันเลื่อนเป็นระดับ300 ฉันจะไปคุยกับเขา
หานเซี่ยวกำหมัดด้วยสีหน้าหนักใจ
ในเมื่อเขาไม่สามารถจัดการกับโซโรคินได้เขาก็จะสร้างปัญหาให้ฮีเบอร์!
ฮีเบอร์น้อยไม่ไว้หน้าฉันเลยหากแกคิดว่าการซื้อขายครั้งนี้สร้างผลกำไรให้แกมาก ก็อย่าตำหนิฉันที่ทำลายชื่อเสียงแก!