The Legendary Mechanic - ตอนที่ 934 นายกล้ามาก
ในห้องรวมพลังงานมืดของยานอวกาศแบล็คสตาร์
ทรงกลมโลหะสีดำที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสิบเมตรลอยอยู่ตรงกลางห้องผิวของมันมีรูคล้ายรังผึ้งจำนวนมากเรียงกันอย่างเป็นระเบียบตามผิว รูส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อกับสายเคเบิลส่งถ่ายพลังงานประสิทธิภาพสูง ทอดยาวไปยังผนัง
ยานอวกาศมีห้องรวบรวมพลังงานมืดแบบนี้มากมายที่ใช้เพื่อสะสมพลังงานมืดตอนเดินทางในจักรวาลทรงกลมดำนี้คือตัวแปลงพลังงานมืด ภายใต้สถานการณ์ปกติ เตาปฏิกรณ์พลังงานมืดจะแค่พอให้พลังงานกับการบินปกติ การใช้เครื่องสะสมพลังงานเช่นนี้คล้ายกับการเก็บเกี่ยวพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อสำรองและปล่อยให้เตาปฏิกรณ์พลังงานได้พักเป็นระยะ มันยังสามารถใช้เป็นพลังงานเพิ่มเติมได้หากจำเป็น
ห้องเต็มไปด้วยพลังงานมืดหานเซี่ยวลอยอยู่ตรงหน้าอุปกรณ์และมีเส้นพลังงานสีแดงเข้มไหลรอบร่างเขา เซลล์เขาดูดซับพลังงานมืดที่ปล่อยออกมาและเขาก็ใช้การแปลงพลังงานเพื่อเพิ่มเพิ่มพลังงานเขา
หวือ!
หลังจากนั้นไม่นานแสงสีแดงในตาหานเซี่ยวก็ลดลง เขาพ่นลมร้อนออกมา มองหน้าต่างสถานะ จำนวนการปรับแต่งสำหรับ[คู่มือการปรับแต่งพลังงานมืด]ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ท่ามกลางเทคนิคฝึกฝนพลังงานที่เขาซื้อนี่คือหนึ่งในอันที่ดีสุด เขาสามารถดูดซับพลังงานมืดและแปลงมันเป็นพลังงานเขาได้ด้วยขีดจำกัดสูงสุด240การปรับแต่ง ทุกการปรับแต่งจะมอบพลังงานให้เขาสิบ และเขาก็จะสามารถได้รับพลังงานทั้งหมด2400หน่วย
หลังกระตุ้นภารกิจยกระดับหานเซี่ยวก็ฝึกพลังงานเขาทุกวันและแต้มพลังงานเขาก็เพิ่มขึ้นหลายพันแล้ว
เขาลงบนพื้นหานเซี่ยวกระดิกนิ้วและสายเคเบิลที่เขาถอดก็ถูกเสียบกลับไปในเครื่องรวบรวมพลังงาน จากนั้นก็เดินออกห้อง และจิตสำนึกก็เข้าเครือข่ายควอนตัม ด้วยสองนิ้ว เขาคว้าฟิลลิปมาตรงหน้าเขา
“มีอะไรเกิดขึ้นไหม?”
“ขอผมดูก่อนฮึ่ม..”
จากนั้นฟิลลิปก็หยิบหนังสือโฮโลแกรมออกมาและแสร้งทำเป็นพลิกดูจากนั้นหลอดไฟก็สว่างขึ้นเหนือหัวมัน
“องค์กรจักรวรรดินับสิบได้ออกคำเชิญให้ท่านพวกเขาอยากทำความรู้จักท่าน ฮึ่ม..”
“อีกแล้ว”หานเซี่ยวกล่าวอย่างหน่ายใจ
มันไม่ใช่ความลับใดที่เขากำลังเดินทางในอาณาเขตจักรวรรดิส่วนใหญ่รู้แต่ไม่รบกวนเขา แต่ส่วนน้อยอยากปีนเกาะต้นขาเขาและก็มีองค์กรนับร้อยแล้วที่เชิญเขามา พวกเขาทั้งหมดถูกปฏิเสธโดยหานเซี่ยวอย่างไม่ไว้หน้า
“ปฏิเสธให้หมดหากไม่มีคำเชิญใดที่ควรค่าแก่การใส่ใจ”หานเซี่ยวโบกมือ
“ผมได้ตรวจดูคำเชิญทั้งหมดและมีคำเชิญที่ผมคิดว่าท่านน่าจะสนใจ..”
ขณะกล่าวคำเชิญก็แสดงตรงหน้าหานเซี่ยว
“ท่านแบล็คสตาร์”
“ผมคือผู้ก่อตั้งกลุ่มการเงินเลพตัสและมักชื่นชมกองทัพแบล็คสตาร์ ผมอยากทำงานร่วมกับกองทัพแบล็คสตาร์และสร้างสาขาบนดาวแลดบู ผมได้ยินว่าท่านมาแถวนี้ ผมจึงอยากเชิญให้ท่านมาเยือนดาวแลดบู”
“เจ้าศักดินาดาวเคราะห์แลดบูเลพตัส”
หานเซี่ยวมองผ่านคำเชิญและไม่เข้าใจว่ามันมีอะไรพิเศษ
“มีอะไรพิเศษ?นี่ก็แค่คำเชิญทั่วไปไม่ใช่หรอ?แค่ส่งคนไปสร้างสาขาทำไมถึงต้องเชิญฉันไปเอง?”
“ปัญหาก็คือลายเซ็นเขาผิด เมื่อผมตรวจสอบตัวตนเขา เขาไม่ใช่เจ้าศักดินาของดาวแต่เป็นคนที่เข้าร่วมการเลือกตั้ง ผมได้ตรวจดูฐานข้อมูล และมันก็เป็นไปได้มากว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม เขาจึงเลือกออกคำเชิญนี้”
หานเซี่ยวไม่มีความรู้สึกประทับใจอะไรต่อเลพตัสและก็ออนไลน์ไปเพื่อตรวจสอบเบื้องหลัง สถานการณ์ปัจจุบันของเลพตัสไม่ใช่ความลับอะไรต่อช่างกลเสมือนอย่างเขา
หลังตรวจดูข้อมูลหานเซี่ยวก็สามารถเดาความคิดของเลพตัสได้ และความสนใจก็ปรากฏบนหน้าเขา
เขาอยากใช้ประโยชน์จากฉัน?และก็ไม่คิดปิดบังเลย?
ดวงตาหานเซี่ยวพลันเป็นประกาย
สถานะพวกเขาอยู่กันคนละโลกผู้นำกลุ่มการเงินเล็กๆถึงกับอยากใช้คนอย่างเขา?
โดยไม่ต้องพูดถึงส่วนอื่นเขานับว่ามีความกล้าหาญมาก
“นายท่านผมควรตอบกลับเขาไหม?”ฟิลลิปถาม
หานเซี่ยวคิดและยิ้ม
“ตอบรับเขาและเปลี่ยนเส้นทางไปดาวแลดบูฉันจะไปเจอเขาหน่อย”
ในห้องเลพตัสกำลังเดินวนด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เลขาเขากำลังัจดการกับงานธุรการสำหรับการเลือกตั้งและเหลือบมองเลพตัสเป็นครั้งคราว
“ปี้บปี้บ!”
ตอนนี้เองอุปกรณ์สื่อสารดังขึ้นและเลพตัสก็หยิบมันขึ้นมาทันที
“พี่ไม่เป็นไรนะ?”เมื่อเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไป เลขาสาวก็อดถามไม่ได้
“มันดีมาก!แบล็คสตาร์ตอบกลับฉันและตอบรับคำเชิญฉันเขาจะมาดาวแลดบูในไม่ช้า!”เลพตัสมีความสุขมาก
“เขาตอบรับจริงๆ?”เลขาสาวไม่อยากเชื่อ
เธอไม่คิดว่าแผนของเลพตัสจะได้ผลจริงๆในสายตาเธอ คนอย่างแบล็คสตาร์ย่อมไม่สนใจคนไม่สำคัญเช่นพวกเธอ
“ดูเอาเองสิ”
เลพตัสส่งอุปกรณ์สื่อสารให้เลขาเขานี่แค่มาจากความพยายามอันกล้าหาญเขา และเขาก็รู้ว่ามันไม่น่าจะสำเร็จ ต่อให้แบล็คสตาร์มองเจตนาเขาออก มันก็ยังยากที่จะล่อลวงอีกฝ่ายด้วยผลประโยชน์เล็กน้อย แต่ในเมื่อแบล็คสตาร์ตอนรับคำเชิญ มันก็หมายความว่าความร่วมมือพวกเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว
“เตรียมการทันที”เลพตัสสั่ง”ฉันอยากต้อนรับแบล็คสตาร์เป็นการส่วนตัว”
“เข้าใจแล้ว”เลขายืนขึ้นทันทีและกล่าวด้วยความลังเล”พวกตระกูลเหล่านั้นได้ลงมือแล้วเราควรปล่อยข่าวและให้พวกเขา…”
“ไม่!”เลพตัสปฏิเสธโดยไม่ลังเล”ข้อมูลนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ก่อนแบล็คสตาร์จะมาถึงหากมันรั่วไหลออกไป ฉันจะตกอยู่ในอันตราย ยกเลิกแผนทั้งหมดของฉันในช่วงเวลานี้ เราต้องไม่ให้โอกาสศัตรู!”
ตัวแทนของตระกูลมั่งคั่งต่างๆมารวมตัวกันมีชายหน้าตาซีดเซียวนั่งบนโซฟาพร้อมกล่องในมือเขา มือเขาไม่เคยปล่อยจากมัน.Aileen-novel.
“เลพตัสกำลังทำอะไร?เขายกเลิกแผนทั้งหมดซ่อนตัวในบ้าน เราจะไม่มีโอกาสลงมือเลย”หนึ่งในตัวแทนกล่าว
ตัวแทนคนอื่นมองชายหน้าซีดและกล่าว”คุณมีแผนกำจัดเขาไหม?”
ชายหน้าซีดคนนี้คือมือสังหารที่ตระกูลต่างๆเลี้ยงดูมาเขาคือผู้ใช้ปืนใหญ่เกรดB เขาส่ายหัวเมื่อได้ยินคำถาม”ผมได้สังเกตความปลอดภัยของบ้านเลพตัสแล้ว เขาจ้างคนคุ้มกันระดับBหลายคน การป้องกันเขาแน่นหนามาก เว้นแต่เขาจะออกมา มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะบุกฝ่าเข้าไป”
“ฉันได้ติดต่อกับทหารรับจ้างเกรดBเหล่านั้นแล้ว”หนึ่งในตัวแทนกล่าว”พวกเขาเอาเงินฉันไปแต่บอกฉันว่าพวกเขาทำได้แค่แสร้างทำเป็นประมาทพวกเขาไม่สามารถทรยศนายจ้างได้อย่างเปิดเผย ไม่งั้นมันจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือพวกเขา เราควรรอให้เลพตัสออกจากบ้านก่อนดีกว่า”
“หากคนเหล่านั้นอยู่ข้างเราผมมั่นใจว่าจะฆ่าเขาได้”ชายหน้าซีดยิ้ม
“งั้นก็เตรียมรับคำสั่ง”หนึ่งในตัวแทนกล่าวด้วยสีหน้าดำมืด”ดาวแลดบูคืออาณาเขตเราเราจะไม่มีทางยอมให้มันถูกจัดการโดยคนนอก”
หลายวันต่อมาในที่สุดเลพตัสก็ออกจากบ้านและนำขึ้นอุปกรณ์บินกันกระสุนไปยังหนึ่งในท่าเรือแห่งหนึ่ง แรงจูงใจเขาไม่อาจทราบได้
ตระกูลใหญ่ต่างๆได้รับข่าวและลงมือทันทีพวกเขาให้ชายหน้าซีดตามไปและรอโอกาส
อย่างรวดเร็วเลพตัสมาถึงท่าเรือและอุปกรณ์บินเขาก็ร่อนลงภายใต้การคุ้มครองของคนคุ้มกัน
ชายหน้าซีดตามมาด้านหลังและมาถึงห้องเก็บของภายใต้การจัดเตรียมของตระกูลต่างๆไม่มีหน้าต่างในห้อง แต่ผู้ใช้ปืนใหญ่จะมีความสามารถล็อคเป้าหมาย เขาสามารถยิงได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องเห็นเป้าหมาย นี่จะทำให้การลอบสังหารเขาลอบเร้นขึ้น
เขาเปิดกล่องข้างๆชิ้นส่วนปืนไรเฟิลถูกเก็บไว้ในนั้น เขาประกอบมันอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิงแม่เหล็กไฟฟ้า จากนั้นเขาก็เล็งมันที่เลพตัส
เหล่าผู้คุ้มกันจงใจทิ้งช่องโหว่ไว้ในสายตาของชายหน้าซีดจากนั้นเขาก็กดไมโครโฟนที่หูเขา
“ผมประจำตำแหน่งแล้วสามารถยิงได้ทุกเมื่อ”
“ดีมาก”เสียงของตัวแทนดังเข้ามาในหูเขา
ในเมืองนี้เหล่าตัวแทนได้จับตาดูการเคลื่อนไหวของเลพตัสผ่านดาวเทียม หลังควบคุมดาวมาหลายปี พวกเขาก็มีทรัพยากรมากมายให้ใช้
เมื่อมองเลพตัสผ่านดาวเทียมตัวแทนทั้งหมดก็อดสับสนไม่ได้”เขากำลังรอใครบางคนอยู่หรือเปล่า?”
“แปลกเขาจะมาพบใคร?”
“ยังไงซะเขาก็มีกลุ่มการเงินหนุนหลังบางทีเขาอาจจ้างคนคุ้มกันเพิ่มก็ได้”
“แต่มันจำเป็นที่เขาต้องออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยงั้นหรอ?”ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถเข้าใจเจตนาได้พวกเขาจึงตัดสินใจไม่คิดถึงมัน ไม่ว่าเลพตัสจะวางแผนอะไรไว้ พวกเขาก็แค่ต้องฆ่าเขาและปัญหาก็จะหมดไป
จากนั้นหนึ่งในตัวแทนก็ออกคำสั่งฆ่า
“คุณ…”
ก่อนเขจะพูดจบสายฉุกเฉินก็โทรมาจากกองกำลังป้องกันนอกชั้นบรรยากาศ
ตัวแทนนี้รีบรับสาย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“นี่คือสถานีสังเกตการณ์นอกชั้นบรรยากาศครับมีกองยานนิรนามปรากฏนอกชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ กองยานกลุ่มหนึ่งเพิ่งทะลุตาข่ายตรวจจับและกำลังลงจอดอย่างรวดเร็วครับ เป้าหมายพวกเขาควรเป็นท่าเรือใกล้เมืองหลวงของดาว”
เมื่อได้ยินถึงตำแหน่งทุกคนก็ตกตะลึง
เลพตัสกำลังรอกองยานนี้?
นี่คือการแสดงพลังอำนาจ?
“ฮึ่มเรียกคนมาแล้วไง?ยังไงแกก็ต้องตาย!”
ใบหน้าทุกคนดำมืด
เพียงเมื่อพวกเขากำลังจะออกคำสั่งฆ่าอีกครั้งเสียงหนึ่งก็ดังผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
“รอเดี๋ยว!ผมจำได้แล้วนี่คือกองยานของกองทัพแบล็คสตาร์!แม้จะไม่มีสัญลักษณ์บนยาน แต่พวกเขาก็ท่องผ่านอยู่แถวนี้และหมายเลขกับรุ่นของยานก็ได้รับการยืนยันแล้ว!”
สีหน้าของตัวแทนทั้งหมดเปลี่ยนไป
ในเวลาเดียวกันเสียงลมกระโชกก็สามารถได้ยินตรงท่าเรือและทุกคนก็แหงนมอง กลุ่มยานอวกาศกำลังดิ่งลงมาด้วยความเร็วสูงและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นยานอวกาศก็ร่อนลงมาตรงหน้ากลุ่มของเลพตัส ทำให้ผมยุ่งเหยิง
หวือ!
ประตูยานเปิดและร่างสูงก็เดินออกจากยานเขาลบการปลอมแปลงและเผยหน้าตาจริง
“แบล็คสตาร์?”
ตัวแทนทั้งหมดตะลึงงันบางคนถึงกับทรุดลงกับพื้น
แบล็คสตาร์คือยักษ์ใหญ่ที่อยู่กันคนละโลกกับพวกเขาโดยสิ้นเชิง
ถึงกระนั้นบุคคลที่เลพตัสมาต้อนรับก็คือแบล็คสตาร์?
มันเป็นไปได้ยังไง?
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาคืออะไร?ทำไมแบล็คสตาร์ถึงเดินทางมายังดาวเล็กๆ?
ไม่ใช่แค่ตัวแทนของตระกูลแม้กระทั่งคนคุ้มกันข้างเลพตัสก็ยังตกใจ
พวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากแบล็คสตาร์และพวกเขาก็รู้สึกหายใจลำบากขึ้น
ตอนนี้เองเหล่าตัวแทนดูเหมือนจะถูกกระชากปลุกจากฝันและคำรามใส่ไมโครโฟน
“ถอนตัวเร็ว!หยุดปฏิบัติการทั้งหมด!”
พวกเขาต่างหวาดกลัวกับการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของแบล็คสตาร์ก่อนจะเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเลพตัสและแบล็คสตาร์ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
ชายหน้าซีดกลืนน้ำลายและถอดชิ้นส่วนปืนอย่างรวดเร็วก่อนวิ่งหนีไป
หานเซี่ยวมองไปในทิศทางของมือสังหารก่อนจะหันมามองผู้นำกลุ่มตรงหน้าด้วยความสนใจ
“นายคือเลพตัสสินะ?”
เลพตัสระงับความกังวลในใจและกล่าว”ครับผมมาต้อนรับท่าน ท่านแบล็คสตาร์ ในนามของดาวแลดบู การมาของท่านนับเป็นเกียรติต่อเรา”
แม้แผนเขาจะสำเร็จและเขาก็ได้เตรียมบทพูดกับหานเซี่ยวไว้แล้วหัวเขาก็ยังขาวโพลนเมื่อเห็นหานเซี่ยว
สภาพจิตใจเขาสั่นคลอน
ครั้งนี้ฉันไปอัญเชิญสัตว์ประหลาดแบบไหนมา?
จากนั้นหานเซี่ยวก็สำรวจเขาและฉีกยิ้ม
“นายกล้ามาก”
ร่างของเลพตัสสั่นเล็กน้อยและไม่กล้าตอบ
ครั้งนี้ต่อให้เป็นทวยเทพก็ไม่สามารถช่วยเขาได้