The Legendary Mechanic - ตอนที่ 935 ฉันจะเกี่ยวข้าวด้วยเคียวในมือฉันเอง
เลพตัสมีท่าทางเคารพต่อหน้าเขาและเลขาข้างเขาก็กังวลมาก หานเซี่ยวสำรวจทั้งสองและยืนยันบางสิ่งในใจ เขาไม่มีความประทับใจต่อทั้งสอง ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ใชNPCชื่อดังในชีวิตก่อนหน้าเขา อย่างน้อย พวกเขาก็ไม่ได้มีชื่อเสียงในหมู่ผู้เล่น
แต่ทว่าการไม่มีชื่อเสียงไม่ได้หมายความว่าเขาไร้ความสามารถ กาแล็กซี่กว้างใหญ่ไพศาล และต้องมีตัวละครหลายตัวที่ผู้เล่นไม่ได้ติดต่อด้วย บางทีเลพตัสคงไม่ประสบความสำเร็จมากนักในชีวิตก่อนหน้าเขา หรือบางทีเลพตัสอาจจากไปก่อนวัยอันควร
หานเซี่ยวกำลังตามหาคนที่มีศักยภาพในชีวิตก่อนหน้าเขาแต่นอกจานกี้ มันยังเป็นไปได้สำหรับเขาที่จะขุดหาคนมีพรสวรรค์
ก่อนจะมาช่างหานได้ตรวจสอบประวัติของเลพตัสแล้ว ประวัติเขาใสสะอาด เขายังก่อตั้งกลุ่มการเงินท้องถิ่นและการตัดสินใจเขาก็ยังดีมาก
จากที่เขาเห็นแม้เลพตัสจะไม่มีความสามารถต่อสู้ เขาก็ยังมีพรสวรรค์ในด้านการจัดการและสามารถนำกลับไปช่วยซิลเวียได้
ด้วยความคิดต่างๆที่เกิดขึ้นในหัวหานเซี่ยวไม่พูดอะไรไปสักพัก ความเงียบเขากลับเพิ่มแรงกดดันให้เลพตัสแทน
เม็ดเหงื่อไหลลงมาที่คอของเลพตัสแต่เลพตัสยังรักษาท่าทางเขาและไม่กล้าปาดเหงื่อ
“นายคิดจะให้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปงั้นหรอ?”หานเซี่ยวแกล้ง
“ขออภัยด้วยครับเชิญตามผมมา ผมได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว”เลพตัสกล่าวทันทีและก่นด่าตัวเองในใจ แรงบกดดันมหาศาลของหานเซี่ยวทำให้เขาเสียการควบคุมความคิดและเขาก็กลัวว่าจะทำให้หานเซี่ยวเดือดดาล
เลพตัสนำทางไปข้างหน้าและขึ้นยานพาหนะบินไปกับหานเซี่ยวและออโรร่า
จากนั้นมันก็เริ่มขับเคลื่อนไปทางเมืองเลพตัสและเลขาเขานั่งตรงข้ามหานเซี่ยวด้วยท่าทีสงวน
“นายคือคนที่เชิญฉันมาแล้วจะกังวลทำไม?”หานเซี่ยวหัวเราะ
“มีคนไม่ถึงร้อยในจักรวาลที่สามารถรักษาท่าทีสงบต่อท่านได้และผมก็ไม่ได้รวมอยู่ในนั้น”เลพตัสสงบสติตัวเองลงและพยายามเลียเขา
มันน่าเสียดายที่หานเซี่ยวไม่ชอบพวกประจบจากนั้นเขาก็กล่าว”ใช่แล้ว นายดูเหมือนจะโกหกฉัน นายยังไม่ได้เป็นเจ้าศักดินาของดาวดวงนี้เลย”
เลพตัสพยายามสงบอารมณ์และฝืนยิ้ม”นี่แค่ชั่วคราวด้วยคะแนนเสียงปัจจุบันของผม การเป็นเจ้าศักดินาเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น”
หานเซี่ยวไม่โต้ตอบแต่หัวเราะเบาๆ”นั่นหมายความว่ากองทัพแบล็คสตาร์เราจะสามารถจัดตั้งสาขาที่นี่ได้หลังนายกลายเป็นเจ้าศักดินาสินะ?”
คำถามตรงๆนี้แทงบาดลึกแม้เลพตัสจะคิดไว้แล้ว เขาก็ไม่กล้ายอมรับ เขาทำได้แค่ใช้ความเงียบเป็นคำตอบ
ปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไม่เป็นไปตามคาดของหานเซี่ยวจากนั้นเขาก็หยุดและกล่าวด้วยรอยยิ้ม”หากเป็นแบบนั้น ทำไมฉันถึงไม่ร่วมมือกับเจ้าศักดินาคนปัจจุบันละ?”
“วันเลือกตั้งกำลังจะมาถึงและผมจะกลายเป็นเจ้าศักดินาของดาวนี้ผมจะยังเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องร่วมงานกับท่าน ดังนั้น ผมจึงใช้ประโยชน์จากตอนท่านอยู่ใกล้ๆเพื่อส่งคำเชิญ”เลพตัสรู้ว่าเหตุผลนี้ไม่ดีและมันก็แค่ข้ออ้าง
ก่อนจะเชิญหานเซี่ยวเขาได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่าอาจทำให้แบล็คสตาร์โกรธ เขารู้ว่าแบล็คสตาร์อาจจบลงด้วยการเลือกทำงานกับตระกูลใหญ่อื่น แต่ทว่า นี่คือการเดิมพัน หากแบล็คสตาร์ไม่มา เขาก็คงไม่รอดอยู่ดี ดังนั้น ต่อให้แบล็คสตาร์เลือกร่วมมือกับตระกูลใหญ่ สถานการณ์เขาก็คงไม่ได้เลวร้ายน้อยลง หลังพิจารณาผลได้ผลเสีย เขาจึงตัดสินใจใช้อิทธิพลของแบล็คสตาร์
ถึงแม้เขาจะ’ใช้ประโยชน์’ของแบล็คสตาร์เลพตัสก็ชัดเจนดีว่ามันคือแบล็คสตาร์ที่ช่วยเขา กลเม็ดเล็กๆน้อยๆของเขาไม่สามารถหลอกคนอย่างแบล็คสตาร์ได้ และเขาก็ไม่มั่นใจว่าแบล็คสตาร์จะแสดงตัว
ตอนนี้ที่อีกฝ่ายมามันหมายความว่าต่อให้แบล็คสตาร์รู้เจตนาเขา แบล็คสตาร์ก็ยังเต็มใจช่วยเขา ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องทำสิ่งต่างๆให้ชัดเจน และทั้งคู่ก็เข้าใจกันโดยปริยาย
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายหานเซี่ยวก็ไม่คิดสร้างความลำบากให้เขาและหัวเราะ
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องราวจากชีวิตก่อนหน้าเขามีชายหนุ่มที่อยากกลายเป็นลูกเขบของชายที่ร่ำรวยสุดในโลกโดยหวังจะได้รับตำแหน่งสูง จากนั้นเขาก็ไปพบกับชายที่รวยสุดในโลกและอ้างว่าเขามีตำแหน่งสูงในธนาคารชื่อดัง และอยากแต่งงานกับลูกสาวเขา
แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องแต่งแต่กลยุทธ์ของเลพตัสก็คล้ายกันมาก
แม้มันจะเสี่ยงเล็กน้อยและมีโอกาสสำเร็จต่ำการตัดสินใจของเลพตัสก็ไม่เลว
หานเซี่ยวลอบพยักหน้า
แต่ทว่าการกระทำของอีกฝ่ายไม่ต่างจากการเชิญหมาป่าเข้าบ้านตน ด้วยพืชผลที่กระโดดเข้าอ้อมกอดเขา เขาคงเป็นคนโง่หากไม่คิดกินมัน!
การสร้างสาขาบนดาวทั่วไปแทบไม่มีความหมายต่อเขาสิ่งที่หานเซี่ยวต้องการคือตัวเลพตัส
เขากระตุ้นภารกิจบนหน้าต่างสถานะเขาแต่รางวัลสำหรับภารกิจช่างน่าสมเพช ในเมื่อเขากำลังจะช่วยเลพตัส เขาก็เลยรับภารกิจไปด้วย
จากนั้นหานเซี่ยวและออโรร่าก็มาถึงบ้านพักของเลพตัสและในที่สุดเลพตัสก็ถนอหายใจโล่งอกหลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อย
คนคุ้มกันกลับมาประจำตำแหน่งหลังเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ เลขาของเลพตัสก็อดกอดคอเลพตัสจากด้านหลังไม่ได้ด้วยความตื่นเต้น
“เราทำได้!เราจะต้องชนะแน่ด้วยความช่วยเหลือของแบล็คสตาร์!”
เลพตัสฝืนยิ้มและส่ายหัว”แค่แบล็คสตาร์มาก็นับว่าเพียงพอแล้วฉันแค่อยากยืมชื่อเสียงเขา ตราบเท่าที่ตระกูลใหญ่ไม่ทำอะไรในที่มืด ฉันก็จะชนะการเลือกตั้งแน่!”
“ฉันเกือบหัวใจวายตายตอนแบล็คสตาร์ปรากฏตัว”เลขาสาวกลอกตา”การกระทำครั้งนี้ของพี่เสี่ยงเกินไปจริงๆอย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ”
หากไม่ใช่เพราะฉันตัดสินใจเช่นนี้จุดจบเราคงน่ากลัวมาก”เลพตัสกล่าวด้วยสายตาแน่วแน่”ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งคิดการกระทำของคนอย่างเขา ทำไมเราไม่ลองดูสักตั้งละ?เราจะรู้ก็ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายเต็มใจช่วยเรา?เราต้องเป็นฝ่ายริเริ่มคว้าโอกาสยังไงละ!”
…
อีกด้านการมาของหานเซี่ยวบนดาวแลดบ็ทำให้ตระกูลใหญ่ขลาดกลัว และปัจจุบันก็กำลังคุยกันว่าควรทำอย่างไรต่อไป
ในห้องประชุมหัวหน้าตระกูลของตระกูลต่างๆสวมสีหน้าดำมืด
“ข้อมูลเราเผยว่าเลพตัสไม่มีเบื้องหลังอะไรทำไมคนอย่างแบล็คสตาร์ถึงมาพบเขา?”หนึ่งในนั้นถามอย่างสงสัย.ไอรีนโนเวล.
“รายงานข่าวเราต้องพลาดอะไรไปแน่รีบตรวจสอบความสัมพันธ์เขากับแบล็คสตาร์เดี๋ยวนี้!ก่อนหน้านี้ แผนเราทั้งหมดต้องหยุดไว้ก่อน!”อีกตระกูลคำราม
การมาของแบล็คสตาร์ได้ทำให้แผนทั้งหมดพวกเขาหยุดชะงักกลายเป็นอุปสรรคที่ไม่อาจมองข้าม พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากพิจารณาทัศนคติของแบล็คสตาร์ก่อน
ปัจจุบันทุกคนไม่แน่ใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองและนี่ก็เป้นความเข้าใจผิดที่เลพตัสต้องการ
ด้วยแบล็คสตาร์ข้างๆมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกลอบสังหาร หากเลพตัสเป็นเพื่อนกับแบล็คสตาร์จริงๆ พวกเขาย่อมตายแน่หากกล้าขยับตัว
หัวหน้าตระกูลเหล่านี้สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบบนดาวนี้แต่พวกเขาไม่แตกต่างจากมดปลวกหากนำไปเทียบกับแบล็คสตาร์
ต่อให้แบล็คสตาร์ฆ่าพวกเขาทั้งหมดจักรวาลก็คงไม่สนใจเรื่องนี้ ในฐานะคนสนิทของจักรวรรดิ รัฐบาลย่อมไม่ยืนหยัดเพื่อพวกเขาแน่
ต่อให้พวกเขาตายก็ไม่มีใครคิดมาสนใจพวกเขา!
“โชคดีเราหยุดการลอบสังหารทัน แต่ฉันเกรงว่า..”หนึ่งในหัวหน้าตระกูลกล่าวด้วยความกลัวที่ยังอ้อยอิ่งในหัวใจ
“เจ้าศักดินาคนปัจจุบันยังเป็นสมาชิกตระกูลเราเราควรไปพบแบล็คสตาร์ก่อนและพยายามหาข้อมูล”
…
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเจ้าศักดินาคนปัจจุบันของดาวแลดบูก็ไปเยือนบ้านพักของเลพตัสพร้อมของขวัญมากมาย
ถึงแม้หานเซี่ยวจะเป็นเพียงแขกในสถานที่แห่งนี้เขาก็ดูเหมือนเจ้าของบ้านซะมากกว่า เลพตัสไม่กล้าปฏิเสธแขกแทนหานเซี่ยวและรายงานต่อหานเซี่ยวอย่างเชื่อฟัง
เจ้าศักดินาของดาวรออยู่ด้านนอกประตูสักพักก่อนจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปจากนั้นเขาระงับความกังวลและมาถึงห้องรับแขก
แต่ทว่าเขาก็ต้องตกตะลึงทันทีที่เขามา หานเซี่ยวไม่สามารถมองเห็นได้ในห้อง และมีเพียงเด็กสาวน่ารักที่นั่งอยู่บนโซฟา
จากนั้นเขาก็จำได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คือหนึ่งในลูกน้องของแบล็คสตาร์และนั่งตรงข้ามเธออย่างเชื่อฟัง
“คุณสามารถบอกฉันได้ว่าคุณต้องการอะไร”ออโรร่าพยายามสวมสีหน้าเคร่งขรึม
จากนั้นเจ้าศักดินาดาวแลดบูก็หัวเราะและกล่าวด้วยน้ำเสียงประจบสอพลอ”ในฐานะผู้นำของดาวแลดบูผมอยากมาพบท่านแบล็คสตาร์และต้อนรับเขาเป็นการส่วนตัว…”
“คุณไม่ต้องกังวลท่านแบล็คสตาร์ไม่ใช่คนที่คุณสามารถพบได้ตามใจชอบ”ออโรร่าโบกมือและเลียนแบบคำพูดและน้ำเสียงที่หานเซี่ยวสอนเธอ”คุณสามารถกลับไปได้แล้วหากไม่มีอะไรอื่นอีก”
เจ้าศักดินาไม่ยอมพ้และพยายามเย้าแหย่ออโรร่าอยู่หลายครั้งแต่ก็ต้องออกไปหลังสังเกตเห็นคิ้วที่ขมวดแน่นของเธอ
หลังออกบ้านพักใบหน้าเขาก็บิดเบี้ยวจนน่าเกลียด เขาไม่สามารถพบกับแบล็คสตาร์ได้ แต่เลพตัสสามารถ ความหมายเบื้องหลังนี้ทำให้หัวใจเขาดำดิ่ง
…
ด้วยตำแหน่งปัจจุบันของหานเวี่ยวเรื่องซับซ้อนมากมายกลายเป็นง่าย แค่ชื่อและการปรากฏตัวของเขาก็เพียงพอจะทำให้ใครหลายคนหวาดกลัว พวกเขาไม่กล้าทำอะไรตามใจชอบอีก กลัวว่าอาจทำให้เขาโกรธ เช่นนั้น พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากนั่งดูคะแนนเสียงของเลพตัสเพิ่มขึ้นเฉยๆ
หานเซี่ยวฝึกฝนพลังงานเขาและอยู่บนดาวแลดบูสักพักเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และมันก็ถึงวันเลือกตั้ง
ในช่วงวันเลือกตั้งเลพตัสได้รับคะแนนเสียงอย่างถล่มทลาย
จากนั้นเขาก็กล่าวสุนทรพจน์และผ่านพิธีการมากมาย
กลางคืนค่อยๆมาถึงและความมืดก็ปกคลุม
ยานพาหนะบินเคลื่อนผ่านอากาศช้าๆและเลพตัสก็เหม่อมองออกนอกหน้าต่างไปที่เมือง
ความตื่นเต้นเขาจากวันนี้หมดลงแล้วและเมื่อคิดถึงชายคนนั้นที่กำลังรอเขาที่บ้าน เขาก็ไม่สามารถรู้สึกมีความสุขได้
“คุณกลับมาแล้ว?”
เมื่อเปิดประตูเขาก็เห็นออโรร่ากำลังยืนพิงกำแพง รอเขาในโถง จากนั้นก็ชี้ขึ้นและยิ้ม
“เขากำลังรอคุณอยู่ในห้อง”
จากนั้นเลพตัสก็เดินขึ้นไปอย่างประหม่า
หานเซี่ยวคือคนเดียวในห้องและหลังเขาก็หันให้ประตูโดยไม่หันกลับมา เขารู้ว่ามีคนมาถึงและกล่าว”เข้ามาสิ”
“ครับ”
บรรยากาศในห้องทำให้เลพตัสกลืนน้ำลายอึกใหญ่และนั่งตรงหน้าหานเซี่ยว
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองเลพตัสด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“เมื่อนายทำสำเร็จมันก็ถึงเวลาทำตามสัญญา”
เลพตัสถอนหายใจโล่งอกและกล่าวอย่างเคารพ”ผมเข้าใจแล้วผมจะใช้อำนาจผมเพื่อทำงานร่วมกับกองทัพแบล็คสตาร์และสนับสนุนการสร้างสาขาที่นี่ ผม..”
ก่อนเขาจะพูดจบหานเซี่ยวก็กล่าวแทรก”ฉันไม่ได้จะพูดถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆนี้”
เลพตัสรู้สึกลำไส้พันกัน
หานเซี่ยวจ้องเขา”ในเมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้นแล้วฉันก็ควรพูดอย่างเปิดเผย นายหยิบยืมชื่อฉันเพื่อข่มตระกูลใหญ่อื่น และนี่เป็นแค่แรงจูงใจผิวเผิน แรงจูงใจอีกอย่างของนายคือได้รับการสนับสนุนจากกองทัพผ่านสาขาที่จะสร้างขึ้นที่นี่เพื่อให้แน่ใจว่านายจะสามารถนั่งบนตำแหน่งเจ้าศักดินาได้อย่างสบายใจ”
เลพตัสเงียบไป
นั่นเป็นแผนเขาจริงๆ
การเลือกตั้งแต่จุดเริ่มต้นหลังควบคุมดาวแลดบูมาหลายปี ตระกูลใหญ่ก็ควบคุมเจ้าหน้าที่ไว้ทุกระดับ ต่อให้เขากลายเป็นเจ้าศักดินา เขาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าหุ่นเชิดไร้อำนาจ เมื่อแบล็คสตาร์จากไปและตระกูลต่างๆตรวจสอบความสัมพันธ์เขากับแบล็คสตาร์ดีแล้ว ชีวิตเขาคงตกอยู่ในอันตราย
ดังนั้นเขาจึงต้องหาที่พึ่ง
แบล็คสตาร์ผู้อยู่ใกล้เคียงสุดดึงดูดความสนใจเขามากสุดเช่นนั้น เขาจึงหวังทำให้กองทัพแบล็คสตาร์เป็นผู้สนับสนุนเขา
“ท่านต้องการอะไร?”เลพตัสกล่าวด้วยใบหน้าดำมืด
หานเซี่ยวมองเขาและยิ้มบรรยากาศบีบคั้นในห้องพลันหายไปเช่นกัน
“ไม่ต้องกังวลฉันจะไม่ทำร้ายนายหรอก”
เลพตัสผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ก่อนเลพตัสจะได้หายใจคำพูดต่อไปของหานเซี่ยวก็ทำให้เขาต้องหยุดนิ่ง
“เอาละนายเล่นมามากพอแล้ว เก็บของและตามฉันขึ้นยานไป”
ใบหน้าของเลพตัสแข็งค้าง