The Legendary Mechanic - ตอนที่ 940 ความโกลาหล
หลายวันต่อมา เฟย์ดินและออโรร่าได้ทำงานร่วมกันกับเรย์มอนด์และค้นหาร่องรอยของโบสถ์ค้อนโลหิตในภูมิภาคต่างๆ เรื่องนี้ได้รายงานต่อกองกำลังรักษาความปลอดภัยของศูนย์เอ็นย่าแล้ว หลังเจรจาหลายครั้ง กองกำลังรักษาความปลอดภัยได้รับปากว่าจะตรวจสอบร่องรอยของบุคคลน่าสงสัยก่อนส่งพวกเขาทั้งหมดออกประตู
แม้ฮีโร่จะถูกกฏหมายในจักรวาลกองกำลังรักษาความปลอดภัยของภูมิภาคก็ไม่ชอบทำงานร่วมกับฮีโร่ เหนือสิ่งอื่นใด ฮีโร่ส่วนใหญ่ก็แค่เกรดB ซึ่งสามารถพบตัวได้ง่ายๆ นอกจากนี้ พลังของพวกฮีโร่อาจเทียบไม่ได้กับสมาชิกธรรมดาของกองกำลังรักษาความปลอดภัยด้วยซ้ำ เช่นนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกฮีโร่เลย
เรย์มอนด์ยืนกรานจะตรวจสอบตำแหน่งโบสถ์ค้อนโลหิตและเฟย์ดินก็จำภารกิจที่หานเซี่ยวมอบให้เขาได้ เขาจึงย้ายไปยังตำแหน่งที่เรย์มอนด์เช่าและซ่อนพลังเขาเพื่อช่วยเรย์มอนด์
หลังจากนั้นทั้งสามก็ยังไม่พบเบาะแสใดๆของโบสถ์ค้อนโลหิต ทำได้แค่รอกำลังเสริมมาถึง
“ในที่สุดพวกนายก็มากัน!”
ในบ้านเช่าเรย์มอนด์ดีใจและต้อนรับกำลังเสริมทันที จากนั้นก็แนะนำเฟย์ดินกับออโรร่า ส่วนใหญ่เป็นมิตรมาก
“สองคนนี้คือเฉินซิ่งและออร่าที่ฉันเคยพูดทั้งคู่เป็นเกรดB ความสามารถการรักษาของออร่ายอดเยี่ยมมาก”
“สวัสดีทุกคนฉันเฉินซิ่ง”เฟย์ดินยิ้ม เขาไม่ได้มีกลิ่นอายของภัยพิบัติเลยและพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
ช่วงเวลาที่เขายิ้มหลายคนก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้น
เสน่ห์ของเฟย์ดินดึงดูดทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศหรือเผ่าใด แม้เขาจะปลอมตัว เสน่ห์เขาก็ไม่อาจปกปิดได้
สหายใหม่ของพวกเขาให้ความรู้สึกดีอย่างแท้จริงหลายคนคิดเช่นนั้นและมองหน้ากัน
“ฉันออ…ออร่า”ออโรร่าไม่ชินกับชื่อปลอมเธอ
จากนั้นทุกคนก็มองด้วยสายตาหลงใหลไม่มีใครไม่ชอบคนที่มีความสามารถรักษา ทุกคนอาจได้รับความช่วยเหลือจากเธอเข้าสักวัน
เพียงเมื่อพวกเขาอยากก้าวไปจับมือกับสหายใหม่น้ำเสียงไม่เป็นมิตรก็ดังขึ้น
“ฉันอยากถามบางอย่างทำไมพวกนายถึงอยากเข้าร่วมพันธมิตรลงทัณฑ์?”
จากนั้นทุกคนก็มองมาด้วยสีหน้าหน่ายใจคนที่พูดคือสเลด
“เพราะเขาเชิญเรา”ออโรร่ายักไหล่และชี้เรย์มอนด์
“ยังไงพวกนายก็เป็นผู้ใช้พลังเกรดBแต่เข้าร่วมกับเราแค่เพราะคำเชิญง่ายๆ?ไม่คิดว่ามันแปลกหรือไง?พวกนายไม่เคยได้ยินชื่อพันธมิตรลงทัณฑ์มาก่อนและเปลีย่นความคิดง่ายๆ?อ้า ฉันไม่เชื่อว่าพวกนายสองคนจะไม่มีแผนร้าย”สเลดกล่าว ทุกอย่างบังเอิญเกินไปจนเขาอดสงสัยไม่ได้
เฟย์ดินยิ้มและไม่เถียงคนอื่นกังวลว่าเฟย์ดินอาจไม่พอใจและรีบก้าวไปหยุดสเลด ความประทับใจแรกที่เฟย์ดินมอบให้พวกเขาดีเกินไปและพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดแทนเขา
คนที่ดูดีเช่นนี้ต้องเป็นคนดีอยู่แล้ว!
สเลดพยายามป้องกันสเน่ห์ของเฟย์ดินเต็มที่และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็น”ฉันจะจับตาดูพวกนายไว้หากมีเจตนาอื่น อย่าตำหนิว่าฉันโหดร้าย”
จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินออกไป
บรรยากาศเริ่มอึดอัดและเรย์มอนด์ก็เดินไปหาเฟย์ดิน”อย่าไปสนใจเขาเลย เขามักเป็นแบบนี้ ฉันเองก็ตกเป็นเป้าเขาตอนเข้าร่วมใหม่”
“ไม่เป็นไรหรอก”เฟย์ดินยิ้ม
เมื่อเห็นทุกคนก็เดินมาคุยกับเฟยืดินและเฟย์ดินก็เข้ากับบรรยากาศได้ง่ายๆ
หลังหยุดพักครึ่งวันหัวหน้าชั่วคราวของกลุ่มนี้ก็จับกลุ่มกันไปค้นหาโบสถ์ค้อนโลหิต
พันธมิตรลงทัณฑ์มีคนไม่มากนักและทำได้แค่ส่งคนไม่กี่คนไปทำการค้นหา
เฟย์ดินย่อมอยู่กับออโรร่าและทั้งคู่ก็ได้รับมอบหมายให้ทำงานร่วมกับเรย์มอนด์และนักสู้อีกคน ทั้งสี่อยู่ในทีมค้นหาย่านการค้าของศูนย์เอ็นย่า
….
ดวงอาทิตย์เทียมค่อยๆลับฟ้าและท้องฟ้าก็ถูกย้อมเป็นสีแดงความมืดค่อยๆมาเยือนที่ศูนย์และไฟของอาคารก็สว่างขึ้น ศูนย์เอ็นย่าจะมีชีวิตชีวาในตอนกลางคืนและอีกฝั่งของเมืองก็จะปรากฏ มันจะเปลี่ยนจากนักเดินทางเหนื่อยล้าเป็นอย่างอื่น
ทุกคนใช้เวลาทั้งคืนเมามายและบรรยากาศสนุกสนานก็ปกคลุมอากาศ
กลุ่มของเฟย์ดินสี่คนเดินไปตามถนนและสังเกตสภาพแวดล้อมเรย์มอนด์ผลักคนขี้เมาออกไปและพูดด้วยน้ำเสียงอดกลั้น”โดยปกติ โบสถ์ค้อนโลหิตมักประกอบพิธีกรรมตอนกลางคืน อย่ามองข้ามกลิ่นเลือดและให้ความสำคัญกับสถานที่ร้าง”
หลังเดินสักพักออโรร่าก็ดึงแขนเสื้อเฟย์ดิน ชี้ไปบนฟ้า
“มีพลังชีวิตของภัยพิบัติ”
เฟย์ดินมองขึ้นไปและเห็นยานบินหยุดด้านบนอาคารกลุ่มคนคุ้มกันแหวกฝูงชน มีคนคุ้มกันสองคนที่ปล่อยกลิ่นอายของภัยพิบัติ
คนสัญจรเห็นกลิ่นอายพวกเขาและแหงนมองด้วยจากนั้นเรย์มอนด์ก็พึมพำ”มันดูเหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโต”
นักสู้ข้างๆส่ายหัว”เราไม่สามารถติดต่อกับคนอย่างนั้นได้อยู่แล้วหยุดมองเถอะ นี่ไม่เกี่ยวกับเรา”
“นายพูดถูก”
โดยไม่สนทั้งสองข้างเฟย์ดินรู้สึกว่าคนคุ้มกันทั้งสองดูหน้าคุ้นๆราวกับเขาเคยเห็นในรูปมาก่อน เฟย์ดินมักเชื่อในสัญชาตญาณเขาและรีบนำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาเพื่อส่งภาพให้ฟิลลิป
“ฟิลลิปตรวจสอบว่าพวกเขาเป็นใคร”
“ฮึ่ม..กำลังจับคู่ในฐานข้อมูล..จับคู่สำเร็จ”
ฐานข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ของกองทัพแบล็คสตาร์เปิดกว้างให้คนธรรมดาและส่วนใหญ่ก็ใช้โปรแกรมลูกของฟิลลิป เพราะเฟยืดินติดตามหานเซี่ยวมานานมากแล้ว เขาจึงมีสิทธิ์ใช้ปัญญาประดิษฐ์หลักของฟิลลิป ความแตกต่างของประสิทธิภาพเหมือนกับ3Gและ5G
เขาลดหัวดูเขาตระหนักว่าคนคุ้มกันทั้งสองเป็นของจักรวรรดิคริมสัน แต่ไม่มีข้อมูลของชายหนุ่ม เห็นได้ชัดว่ามีคนเข้ารหัสข้อมูลเขาไว้ คนธรรมดาไม่มีสิทธิพิเศษเช่นนี้แน่ และเขาควรเป็นลูกหลานของพวกระดับสูง
“เขาควรเป็นลูกหลานของพวกระดับสูงในจักรวรรดิ”
เฟย์ดินพยักหน้าและไม่สนใจเกินไปตอนนี้เอง ออโร่ราส่งข้อความหาเขา”ฉันสามารถรู้สึกได้ถึงภัยพิบัติสี่คนกำลังซ่อนอยู่ใกล้ๆ”
ออโรร่าสามารถใช้ความสามารถตรวจจับพลังชีวิตเพื่อหาคนตราบเท่าที่ไม่มีความสามารถม่านพลังเวทย์ เธอควรสามารถตรวจจับพลังชีวิตของคนได้ง่ายๆและระบุความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย
จากนั้นเฟย์ดินก็หยุดสักพักและมองพิกัดที่ออโรร่าส่งให้เขา เขาตระหนักว่าภัยพิบัติทั้งสี่ได้ล้อมพื้นที่นั้นไว้แล้ว พวกเขากำลังคุ้มกันจากในที่มืดหรือมีเจตนาอื่น?
“เอ่อมันไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ต้องสนใจหรอก”
แม้เฟย์ดินจะกล่าวแบบนั้นออโรร่าก็ยังให้ความสนใจ เธอมีความรู้สึกไม่ดีว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นค่ำคืนนี้
หลังค้นหาสักพักเรย์มอนด์ก็ได้รับข่าวจากสหาย
“เร็วเข้าเราพบพวกมันแล้ว!”น้ำเสียงกังวลของสหายพวกเขาสามารถได้ยินพร้อมกับเสียงต่อสู้เป็นฉากหลัง
“นายอยู่ไหน?สู้กับพวกมันแล้วงั้นหรอ?”เรย์มอนด์รีบถาม
“มันไม่ใช่เรา”สหายเขากล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกๆ”เราไม่ได้เจอพวกมันแต่..พวกมันกำลังโจมตีพื้นที่ทางทหาร!”
“ว่าไงนะ?”ทุกคนตกตะลึง.ไอลีนโนเวล.
ในความคิดพวกเขาโบสถ์ค้อนโลหิตเป็นเพียงลัทธิที่จะจับคนมาทำพิธีกรรม ทำไมจู่ๆพวกมันถึงโจมตีพื้นที่ทางทหาร?
ทันใดนั้นทุกคนก็มีความรู้สึกไม่ดีในหัวใจ
ตอนนี้เองพื้นใต้เท้าพวกเขาเริ่มสั่น
บูม!
แสงสว่างมาจากระยะไกลและการระเบิดก็สามารถเห็นได้ทั่ว
คลื่นกระแทกอันทรงพลังกวาดไปทั่วบริเวณและแม้พวกเขาจะอยู่ไกลจากแรงระเบิดคลื่นก็ยังพัดผมพวกเขาจนยุ่งเหยิง
จากนั้นทุกคนก็หันมองทางระเบิด
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”เฟย์ดินขมวดคิ้ว
นี่คือศูนย์เอ็นย่าซึ่งมีทหารจำนวนมากคอยอารักขา ความปั่นป่วนใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่องค์กรชั้นสองอย่างโบสถ์ค้อนโลหิตจะกระทำได้
เราถูกเรย์มอนด์หลอกต้องมีองค์กรอื่นพยายามสร้างปัญหาให้ศูนย์เอ็นย่า และก็ควรมีแผนร้ายที่ใหญ่กว่านี้
เพียงเมื่อความคิดแวบเขามาสัญญาณเตือนแหลมก็ดังขึ้น ยานรบของเมืองบินออกจากค่ายทหารต่างๆ
คนสัญจรต่างตกอยู่ในความวุ่นวาย
ปัง!
แสงสีเงินแวบผ่านและหัวของทหารศูนย์เอ็นย่าก็ระเบิด
จากนั้นหัวหน้าบิชอปก็เปิดฉากยิงกับทหารของพื้นที่ทางทหาร
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดหอคอยปืนใหญ่รอบๆเปิดฉากยิงใส่พวกนักบวชของโบสถ์ค้อนโลหิตและพลังงานมืดก็สาดเทใส่ม่านพลังเวทย์ของพวกนักบวช นักบวชหลายคนตายภายใต้การระดมยิงและไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า
หัวหน้าบิชอปแสดงพลังของภัยพิบัติและค้อนในมือเขาก็ทำให้เกิดความโกลาหลทั่วทั้งสนามรบทุกอย่างที่ขวางทางเขาจะถูกทำลายด้วยการหวดค้อนครั้งเดียว พลรบระดับสูงของศูนย์เอ็นย่าจะไม่ประจำการที่ด่านหน้าตลอดเวลา และยังอยู่ระหว่างทางมา
หัวหน้าบิชอปทุบค้อนเขาลงบนพื้นและแสงสีแดงแปลกๆก็ส่องบนค้อนจากนั้นเลือดบนพื้นก็เริ่มระเหยกลายเป็นหมอกเลือด ซึ่งก่อตัวเป็นเงาร่างใหญ่ในอากาศ
วินาทีต่อมาดวงตาที่เหมือนดวงอาทิตย์ส่องดวงก็ส่องสว่างบนใบหน้าของหมอกแดง จิตสำนึกของบุคคลได้จุติบนหมอกเลือดนี้
จากนั้นหมอกเลือดก็ยิงลูกศรเวทย์เลือดใส่นักบวชทั้งหมดในสนามรบนักบวชทั้งหมดถูกอาบด้วยสีแดงทันทีราวกับพวกเขาได้รับพร ไม่เพียงแผลจะหาย พลังพวกเขายังเพิ่ม
เงาร่างนี้คือ’เทพ’ของโบสถ์ค้อนโลหิตมันคือสิ่งมีชีวิตมิติที่สองที่สามารถจุติได้ชั่วคราวผ่านวิธีพิเศษ มันมีพลังของภัยพิบัติ
สถานการณ์เดียวกันเกิดขึ้นกับตำแหน่งต่างๆและโบสถ์ค้อนโลหิตก็ไม่ใช่องค์กรเดียวที่โจมตีค่ายทหารนี่คือแผนที่วางมาอย่างดี!
อาคารสูงสุดที่ตั้งอยู่ตรงกลางศูนย์เอ็นย่าเป็นของผู้พิทักษ์ศูนย์เอ็นย่าคนคุ้มกันสถานที่นี้คือภัยพิบัติมากประสบการณ์ที่ชื่อจาบรา
เมื่อเห็นว่าเมืองสว่างไสวด้วยไฟจาบราก็โยนสิ่งมีชีวิตเพศเมียในแขนเขาออกไปและยืนตรงหน้าต่างเพื่อดูการระเบิด
“ท่านจาบราเกิดเหตุฉุกเฉินครับ!”ภาพของรองผู้บัญชาการเขาปรากฏในห้องและเขาก็เล่าสถานการณ์
“มีคนกำลังโจมตีค่ายทหารที่ตั้งโทเท็มวิวัฒนาการ?พวกมันกำลังรนหาที่ตาย!”จาบรากล่าวด้วยกลิ่นอายรุนแรงจากนั้นก็สวมกางเกงและถีบหน้าต่าง กระโดดไปในท้องฟ้า ร่างเขาเปล่งแสงของเพลิงนักสู้สีเทาและร่างเขาก็พุ่งไปทางสนามรบ
ในเวลาเดียวกันอาชญากรระดับภัยพิบัติคนหนึ่งก็เห็นดาวหางสีเทาในท้องฟ้าและกดไมค์ของเขา
“จาบราได้ออกไปแล้วภัยพิบัติคนอื่นเองก็กำลังมุ่งหน้าไปสนามรบ องค์กรต่างๆที่นั่นจะรั้งพวกเขาไว้ เราสามารถดำเนินการได้เมื่อความโกลาหลปกคลุมทั้งเมือง จำไว้ว่าให้รีบจบการต่อสู้”
ในเวลาเดียวกันบุคคลหน้าตาธรรมดาสองคนก็ยืนบนดาดฟ้าของตึกระฟ้า มองไปยังความวุ่นวายด้านล่าง
“ปฏิบัติการได้เริ่มขึ้นแล้ว”
“ขอบคุณที่พิสูจน์ว่าฉันไม่ได้ตาบอด”
“ฉันสงสัยว่าจะมีสักกี่องค์กรเหล่านั้นที่รอด”
“อ่าต่อให้รอด พวกมันก็จะถูกเก็บกวาดอยู่ดีโดยเรา ต่อให้ไม่ถูกเก็บกวาดโดยเรา พวกมันก็จะถูกจักวรรดิจับ”
“กองทัพได้ไปปกป้องโทเท็มวิวัฒนาการแล้วพวกมันคิดจริงว่าเราสร้างความปั่นป่วนใหญ่ถึงเพียงนี้แค่เพราะโทเท็มวิวัฒนาการ?”
“โชคดีเราไม่ได้อยู่บนดาวอาณานิคมของจักรวรรดิ หากเราอยู่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะลักลอบนำอาวุธเหล่านี้เข้ามา ทีมอื่นจะมีเวลาพอสร้างความวุ่นวายไปทั่วเมือง”
“คนที่คุ้มกันดาวนี้เป็นผู้ช่วยของผู้อยู่เหนือเขาอาจจะระงับความวุ่นวายได้ก่อนรุ่งสาง เราใช้ทรัพยากรไปมากกับแค่คืนเดียว”
“มันไม่สำคัญแต่ให้องค์กรมืดเหล่านี้ตาย พวกมันจะถ่วงเวลาได้นานพอให้ทีมอื่นจัดการเป้าหมาย จากนั้นเราก็จะสามารถรายงานต่อหัวหน้าทีมเราได้”
“มันเป็นงานที่อันตรายจริงๆจิ๊ ฉันชักอิจฉาทีมอื่นแล้วสิ..”