The Legendary Mechanic - ตอนที่ 949 ท้าทาย
อาณาเขตของอาณาจักรเคล็นท์มีพรมแดนติดกับกลุ่มดาวโคลตันของอารยธรรมผนึกม่วงพวกเขาแยกกันโดยแถบจักรวาลรกร้างและเชื่อมต่อกันด้วยประตูดาว หลังสงครามลับจบ ทั้งสองฝ่ายก็ยกเลิกมาตรการฉุกเฉินและเปิดประตูดาวอีกครั้ง ให้คนกลับมาเดินทางต่อไป
ภายในป้อมสังเกตการณ์ของประตูดาวกลุ่มดาวโซลทหารเฝ้าระวังทำหน้าที่หย่อนยาน หลับตาให้กองยานที่เข้าออกประตูดาว เขาถืออุปกรณ์สื่อสารไว้ในมือ จ้องดูรายการบันเทิง
ต้งแต่สงครามลับจบเคล็นท์กับผลึกม่วงก็ตัดสินใจพักฟื้น ขณะที่กองทัพแบล็คสตาร์เข้าร่วมจักรวรรดิคริมสัน มันไม่มีโอกาสเกิดสงครามขึ้นอีก ดังนั้นสภาพจิตของทหารยามจึงผ่อนคลาย
พวกเขาไม่อาจถูกตำหนิได้ว่าขาดความเป็นมืออาชีพเหตุผลหลักคือยานอวกาศขนส่งส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การตรวจสอบโดยปัญญาประดิษฐ์ และก็มีโอกาสน้อยที่ต้องตรวจสอบเอง ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ พวกเขาจึงไม่ทำอะไร
“นักร้องเสมือนคนนี้ยอดเยี่ยมมาก..”
บนอุปกรณ์สื่อสารของทหารยามภาพเสมือนของชาวเคล็นท์หน้าตางดงามในชุดบางๆกำลังเต้นขณะร้องเพลง เสียงของเธอไพเราะและกระจ่างใส
ทหารยามที่ปฏิบัติหน้าที่กำลังได้อารมณ์เขย่าขาอย่างเมามันขณะปาดนิ้วผ่านหน้าจอเพื่อส่งของขวัญเสมือนจริงที่ซื้อด้วยเงินสด
นี่คือแอปความบันเทิงที่ได้รับความนิยมไปทั่วจักรวาลผู้ใช้สามารถปรับแต่งอวตารที่พวกเขาชื่นชอบได้ตามความสวยงามของเผ่าพันธุ์ นอกจากรูปร่าง พวกเขายังเลือกบุคลิกได้ หลังสร้างอวตาร ผู้ใช้จะสามารถโต้ตอบกับคนอื่นได้หลายวิธี เช่นขอให้เต้น ร้องหรือเล่นไพ่เวย์นออนไลน์
คนยังสามารถอนุญาตให้ชีวิตเสมือนกลายเป็นภาพฉายสามมิติได้หากมีความต้องการเพิ่มเติม พวกเขาสามารถติดต่อเว็บไซต์เพื่อซื้อเครื่องแต่งกายเสมือนจริง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสัมผัสกับมันได้ นี่แบ่งออกเป็นสองหมวดหมู่ เด็กกับผู้ใหญ่
ในยุคสมัยนี้แม้จะติดต่อกันได้ง่าย ก็ยังมีหลายคนที่อยากมีเพื่อนเสมือน พี่น้อง ลูกหรือคู่หูมากกว่าเพื่อนจริง
สิ่งที่น่าสังเกตคือแอปยอดนิยมนี้ได้รับการพัฒนาโดยแบรนด์ย่อยของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดรายได้ต่อปีนั้นน่ากลัวมาก การประกาศรายได้ต่อปีของพวกเขามากพอจะซื้อทั้งแดนหลั่งเลือด
ทหารยามที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับคนรักในฝันเขาพลันได้ยินเสียงเย็นของปัญญาประดิษฐ์
“ตรวจพบกองยานที่มีเครื่องหมายพิเศษขอรับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่”
ทหารยามตกใจเกือบโยนอุปกรณ์สื่อสารออกนอกหน้าต่างด้วยความตกใจ จากนั้นเขาก็หันมาทำหน้าที่
“ไอโง่นี่เป็นใคร..?กองทัพแบล็คสตาร์?!”
ในชั่วพริบตาทหารยามที่วิญญาณล่องลอยดูเหมือนจะถูกตบจนได้สติ อีกฝ่ายคือกองทัพแบล็คสตาร์!
ภายในฐานข้อมูลของประตูดาวสาธารณะเช่นนั้นพวกเขามีบุคคลที่ถูกทำเครื่องหมายพิเศษไว้ เช่นอาชญากร เพราะความขุ่นเคืองของสงครามลับ เคล็นท์จึงเพิ่มกองทัพแบล็คสตาร์ลงในรายชื่อด้วย บุคลากรที่เป็นของกองทัพแบล็คสตาร์จะได้รับการรายงานต่อเบื้องบนทันทีหากพวกเขาเข้ามายังอาณาเขตของเคล็นท์
ทหารยามปฏิบัติหน้าที่รู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์ไปตรวจสอบและแจ้งหัวหน้าเขาทันที นี่ถูกส่งไปทีละขั้น ส่งตรงเข้าหาเจ้าหน้าที่อาวุโส
ไม่นานคำสั่งก็ถ่ายทอดลงมาให้กองทัพแบล็คสตาร์ผ่าน
ไม่ช้ากองยานขนาดเล็กที่มีสัญลักษณ์กองทัพแบล็คสตาร์ก็แล่นออกประตูดาว เปลี่ยนเป็นลำแสง หายลับไป
แม้กองทัพแบล็คสตาร์จะได้รับอนุญาตให้ข้ามพรมแดนได้แต่เบื้องบนของอาณาจักรเคล็นท์ไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง
โดยปกติกองทัพแบล็คสตาร์ไม่มีการติดต่อใดๆกับพวกเขา และพวกเขาก็จะไม่มากลุ่มดาวโซล
แต่จู่ๆอีกฝ่ายกลับมาโดยไม่ทราบเหตุจูงใจ…ต้องมีคนตามไปจับตาดูพวกเขาไว้!
..
ข่าวที่กองทัพแบล็คสตาร์มาเยือนอาณาจักรเคล็นท์พลันกระจายไปอย่างรวดเร็วเป็นที่รู้จักกันในหลายๆองค์กรกับประชากรกาแล็กซี่ของวงแหวนดาวกระจาย
เคล็นท์รู้ว่าต้องมีคนคอยประโคมข่าวอยู่เบื้องหลัง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้มันก็อาจมีเพียงกองทัพแบล็คสตาร์ที่อยากทำอะไรแบบนี้ เคล็นท์ไม่เข้าใจเจตนาในคราแรก แต่ในไม่ช้าก็ตระหนักว่าพวกเขาอยากทำอะไรตอนเห็นกองทัพแบล็คสตาร์เคลื่อนไปทางแดนหลั่งเลือด
มันควรเป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของแดนหลั่งเลือดที่ดึงดูดกองทัพแบล็คสตาร์!
เคล็นท์ไม่รู้ความจริงเบื้องหลังความร่วมมือของแดนหลั่งเลือดและกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดและรู้แค่ว่าองค์กรภายในแดนหลั่งเลือดกำลังก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แย่งชิงธุรกิจของกองทัพแบล็คสตาร์
ฮีเบอร์ยังเป็นพันธมิตรพวกเขาเช่นกันและเดิมเคล็นท์ก็อยากใช้วิธีการบางอย่างเพื่อปกปิดมัน แต่พวกเขาก็พบว่ามันสายเกินไป
ข่าวที่กองทัพแบล็คสตาร์กำลังไปเยือนแดนหลั่งเลือดกระจายไปนานแล้วตอนนี้ คนของวงแหวนดาวกระจายต่างรู้ว่ากองทัพแบล็คสตาร์กำลังเตรียมเปิดศึกกับฮีเบอร์
นี่คือเป้าหมายการประกาศของกองทัพแบล็คสตาร์ทุกวัน ระยะห่างพวกเขากับแดนหลั่งเลือดจะลดลงเรื่อยๆ
ภายใต้โมเมนตัมเช่นนี้ประชากรกาแล็กซี่หลายคนของวงแหวนดาวกระจายกำลังรอชมการแสดงอย่างใจจดใจจ่อ
หลังผ่านไปอีกครึ่งเดือนในที่สุดกองยานกองทัพแบล็คสตาร์ก็มาถึงศูนย์ใหญ่แดนหลั่งเลือด
…
เหนือท้องฟ้าของศูนย์ใหญ่แดนหลั่งเลือดกองยานของยานอวกาศกระจายไปทั่วเหมือนเมฆเหล็ก เหล่าขุนพลทั้งหมดถูกเรียกกลับมาเพื่อนำกองยานต่างๆ
อีเบอร์ยืนบนผิวดาวด้วยมือที่ไพล่หลังแหงนมองขึ้นบนท้องฟ้าสีดำด้วยใบหน้าตายด้าน
ตามกำหนดการเดินทางที่ประกาศโดยกองทัพแบล็คสตาร์วันนี้จะเป็นวันที่กองยานพวกเขาจะมาถึง
เมื่อเขาพบว่ากองทัพแบล็คสตาร์กำลังมาหาเขาฮีเบอร์ก็รู้ว่านี่คือสาเหตุของลางสังหรณ์ แต่นี่คือถิ่นเขา เขาไม่อาจหนีไปไหนได้
ดังนั้นฮีเบอร์จึงหยุดอยู่กับที่ รอการมาของกองยานแบล็คสตาร์และตั้งใจแสดงว่าเขาไม่ได้ตื่นตระหนก นี่เพื่อป้องกันคนจากการเข้าใจผิดคิดว่าเขากลัวแบล็คสตาร์
ในความเป็นจริงฮีเบอร์เองก็ไม่เข้าใจเจตนาของแบล็คสตาร์ เขาไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะกล้าทำให้เกิดปัญหาในหมู่พันธมิตรจักรวรรดิ.ไอรีนโนเวล.
เป็นไปได้ไหมว่าชายคนนี้แค่อยากใช้วิธีนี้เพื่อขัดขวางเขา?
เห็นได้ชัดว่าแกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิฉันต้องกลัวอะไร?
ฮึ่ม!
ตอนนี้ฮีเบอร์ผ่อนคลายขึ้นมากและอยากดูว่าหานเซี่ยวมีแผนการอะไร
แม้เขาจะไม่คิดว่าหานเซี่ยวจริงจังนักแต่พวกเขาก็ยังต้องเผชิญหน้ากัน ดังนั้นเขาจึงสั่งให้กองยานเขาตื่นตัว
สำหรับว่ากองยานจะใช้ทางอ้อมเพื่อหลอกเขาไหมฮีเบอร์ไม่เคยคำนึงถึงความเป็นไปได้นี้ ถ้ากองทัพแบล็คสตาร์ทำจริงๆ มันก็มีแต่จะทำให้ตัวเองอับอาย
หลังรอสักพักจุดแสงก็สว่างขึ้นสุดสายตาเขาและหยุดห่างจากดาวฮีเบอร์ไปไม่ไกลนัก
ขนาดของกองยานทั้งคู่ไม่อาจเทียบได้ฮีเบอร์มียานอวกาศกว่าล้านลำทางฝั่งเขา ส่วนกองทัพแบล็คสตาร์มีแค่หลักสิบ
อีกด้านสิ่งที่มาพร้อมกองยานแบล็คสตาร์คือกองยานเคล็นท์ พร้อมด้วยกลุ่มสื่อมากมาย
ฮีเบอร์แค่นเสียงหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา เปิดช่องสื่อสารวงกว้างก่อนพูด
“แบล็คสตาร์ฉันไม่ได้เชิญแก แกไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะมาหาฉัน และแกก็ไม่ใช่คนของที่นี่..นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ผู้ชมหลายคนก็ตื่นเต้น พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองในประโยค และก็รอคำตอบจากแบล็คสตาร์อย่างระมัดระวัง
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเสียงจักรกลเย็นชาก็ดังขึ้น โดยไม่มีการทักทายหรืออะไร เขาตรงเข้าประเด็นหลัก
“ฮีเบอร์ยังจำการต่อสู้ที่ยังไม่จบของเราได้ไหม?”
ฮีเบอร์พลันหรี่ตาแคบ
โดยไม่รอคำตอบเขากายสถิตของหานเซี่ยวพลันกล่าว”เมื่อฉันก้าวเข้าสู่อาณาจักรผู้อยู่เหนือ แกท้าทายฉัน และเพราะจักรวรรดิ ฉันจึงตอบรับ แต่ก็ไม่มีผู้ชนะ”
“ฮึ่ม”ฮีเบอร์แค่นเสียงเย็น”งั้นแกมาที่นี่เพื่อขอท้าประลอง?”
“ถูกต้อง”หานเซี่ยวตอบ”เมื่อฉันเป็นผู้อยู่เหนือใหม่ๆแกอยากรังแกฉัน ตอนนี้มันถึงเวลาที่ต้องชำระหนี้กับแกแล้ว ในอีก20วัน ฉันจะสู้กับแกในกลุ่มดาวโซล แกสามารถเลือกสถานที่ได้”
“20วัน?แกจะกลับมาจากจักรวรรดิได้หรือไง?”
“ไม่ต้องห่วงมีเพียงกองทัพจักรกลสองล้านและหนึ่งกายสถิตในกองยานนี้ที่จะสู้กับแก”หานเซี่ยวกล่าว”แกคงไม่กลัวสินะ?ความมั่นใจของแกไปอยู่ไหน?ฉันเพิ่งก้าวสู่อาณาจักรผู้อยู่เหนือได้ไม่กี่ปี แต่แกกลับไม่กล้าสู้กับฉัน?”
สิ่งมีชีวิตจักรกลเขากำลังพัฒนาในโลกริบหรี่ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่นำพวกมันมาด้วย มันจึงมีเพียงทหารจักรกลชุดเดียวรวมถึงกายสถิต ทั้งหมดเป็นแค่กองทัพสำรองของศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์ กองทหารชุดนี้ผลิตก่อนจะแตะระดับ300ด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงไม่มีโบนัสการผลิตอะไร
เมื่อได้ยินแบบนี้ฮีเบอร์ก็รู้สึกรำคาญขึ้นมา
หลังศึกบนดาวประภาคารฮีเบอร์ก็สงสัยว่าเขาไม่ใช่คู่มือหานเซี่ยว แต่นั่นคือกรณีที่หานเซี่ยวมาด้วยตัวเอง ตอนนี้ เขาไม่ได้นำหนึ่งในอาวุธอัครฑูตมาสักตน และอยากคิดพึ่งพาแค่กายสถิตจักรกลกับทหารจักรกลชุดหนึ่งเพื่อท้าทายเขา?
แบล็คสตาร์ไม่ไว้หน้าเขาเลย!
“ฮ่าๆๆ..”สีหน้าของฮีเบอร์หนาวเหน็บ”แกแค่กลัวสินะ?แกกลัวว่าหากแกมาเองแกจะไม่มีที่ให้หนี?ฮึ่ม คิดใช้แค่ทหารจักรกลชุดนี้เพื่อท้าทายฉัน ต่อให้ฉันทำลายพวกมันจนหมด แกก็ยังปลอดภัยสินะ?”
“มันขึ้นอยู่กับแกว่าแกจะคิดอย่างไรฉันได้ออกคำท้าไปแล้ว แกจะกล้ายอมรับมันไหม?”หานเซี่ยวไม่คิดอธิบาย
ฮีเบอร์คิดเกี่ยวกับมันและตระหนักว่าหานเซี่ยวได้ปิดเส้นทางถอยของเขาจนหมดแล้ว
อย่างแรกเรื่องนี้ได้ลุกลามไปแล้ว และชื่อเสียงของเผด็จการก็ไม่อนุญาตให้เขายอมรับความพ่ายแพ้ สอง เมื่อเขาออกคำท้าตอนหานเซี่ยวเพิ่งเป็นผู้อยู่เหนือ อีกฝ่ายตอบรับมันง่ายๆ หากเขาพยายามเถียงกลับเอาตอนนี้ มันก็มีแต่จะทำให้ตัวเองอับอาย
ปรากฏว่านี่เป็นแผนของแกมาตลอด…
ฮีเบอร์โกรธ
การแก้ไขความขุ่นเคืองนี้เป็นเพียงข้ออ้างที่บังคับให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้แต่จริงๆแล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะการแข่งขันทางธุรกิจของพวกเขา อีกฝ่ายพุ่งเข้าสู่แกนกลางของเรื่อง ออกคำท้า อยากใช้หมัดเพื่อคุย ทำลายชื่อเสียงเขา
แบล็คสตาร์เวลาของแกประจวบเหมาะเจาะมาก ตอนนี้ฉันขึ้นขี่หลังเสือแล้ว และไม่สามารถลงมาได้!
ฮีเบอร์ยิ้มผ่านความโกรธ”ดีฉันจะยอมรับคำท้าของแก แบล็คสตาร์ แกประสบความสำเร็จมากเกินไปจนเริ่มอวดดี ฉันจะเป็นคนให้บทเรียนกับแกเอง!”
หากมันเป็นร่างหลักของหานเซี่ยวมันคงแตกต่าง ฮีเบอร์รู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานเซี่ยว แต่หากมันแค่กายสถิตจักรกล ฮีเบอร์คิดว่าเขาจะไม่แพ้
แกกลับกล้าดูถูกฉัน…
คิดว่าฉายาเผด็จการฉันได้มาฟรีๆหรือไง?!
“ดีมากแล้วฉันจะรอ”
เมื่อเห็นว่าฮีเบอร์ยอมรับคำท้ากองยานแบล็คสตาร์ก็หมุนกลับ หายไปอย่างรวดเร็ว
“แยกย้ายกันได้แล้ว”ฮีเบอร์ส่งเสียงโบกมือและสั่งกองยานเขาให้ถอยกลับ
เขากวาดสายตามองผู้ชมอย่างเย็นชาก่อนเดินกลับไปวังเขา
ประชากรกาแล็กซี่ที่เฝ้าดูเริ่มตื่นเต้น
หลายคนเคยเห็นการต่อสู้ระหว่างทั้งสองหลายปีก่อนและตอนนี้ประวัติศาสตร์กำลังซ้ำรอยอีกครั้ง
แต่ทว่าครั้งนี้ บทบาทได้พลิกกลับ!
“จะมีการแสดงดีๆให้ชม!”
“ครั้งก่อนจักรวรรดิออกมาไกล่เกลี่ย ดังนั้นจึงไม่มีผู้แพ้ผู้ชนะ แต่ครั้งนี้ ฉันไม่รู้ว่าจักรวรรดิจะออกมาอีกไหม”
“ฉันเองก็สงสัยอย่างนั้นพวกเขาไม่มีเหตุผลให้แทรกแซงแล้ว ครั้งก่อน พวกเขาไม่ได้ห้ามฮีเบอร์จากการท้าประลอง ดังนั้นพวกเขาก็ย่อมไม่สามารถทำกับแบล็คสตาร์ได้”
หลายคนเริ่มพูดคุยถึงการต่อสู้
ภายในศูนย์ใหญ่แดนหลั่งเลือดโซโรคินนั่งด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
การเคลื่อนไหวของแบล็คสตาร์อุกอาจเกินไปโซโรคินเดาว่าสถานการณ์นี้เป็นไปได้ แต่ไม่คิดว่าแบล็คสตาร์จะใช้มันจริงๆ
หากเขาสามารถเอาชนะฮีเบอร์ได้แบล็คสตาร์ก็จะลดแรงกดดันได้ แต่ราคาของมันก็คือชื่อเสียงของฮีเบอร์ที่ลดฮวบ จักรวรรดิริมสันจะไม่นั่งเฉยๆ อำนาจของพันธมิตรผู้อยู่เหนือเทียบเท่ากับหมากต่อรองของจักรวรรดิ
หากแกทำสำเร็จจริงๆงั้นแผนของฉันก็คงยากลำบากขึ้น โซโรคินจมอยู่ในความคิด