The Legendary Mechanic - ตอนที่ 953 สภาพจิตใจที่แหลกสลาย

การต่อสู้กลายเป็นการทุบตีอยู่ฝ่ายเดียวสภาพน่าสมเพชของฮีเบอร์สะท้อนในตาของเทพจักรกล แต่มันไม่รู้ว่าการทุบตีจะหยุดตอนไหน
บางคนไม่สามารถทนดูได้และเบือนสายตาหนีแต่ก็จำต้องหันกลับมาอีกครั้ง
สภาพน่าสมเพชของผู้อยู่เหนือไม่ได้พบเห็นได้ง่ายๆและมันก็เป็นข้อมูลวิดิโอล้ำค่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่พลาดโอกาสดูกับตาและมีทุนจะไปอวดคนอื่นๆในอนาคต
ขณะที่ทุกคนในแดนหลั่งเลือดเฝ้าดูหัวหน้าพวกเขาถูกทุบตีความรู้สึกอับอายและโกรธก็ลุกโชนในหัวใจพวกเขา พวกเขาแทบไม่อาจต้านแรงกระตุ้นที่จะพุ่งไปช่วยไม่ได้
แต่ทว่าพวกเขาตระหนักดีว่าหากฮีเบอร์ยังสู้แบล็คสตาร์ไม่ได้ พวกเขาก็คงไม่ต่างอะไรไปกับมดปลวก ไม่เพียงจะเปล่าประโยชน์ มันยังทำลายความยุติธรรมของการต่อสู้ ลดชื่อเสียงของแดนหลั่งเลือด
ยิ่งไปกว่านั้นฮีเบอร์ย่อมไม่มีวันให้อภัยใครก็ตามที่เข้าไปยุ่ง
ดังนั้นทุกคนจึงทำได้แค่ดูด้วยความโกรธ
ปัง!
สีหน้าฟอสเตอร์บิดเบี้ยวเขาทุบกำแพงโลหะของยานด้วยความโกรธ ทั่วร่างเขาสั่นสะท้าน
“ท่าน..”จอร์ดกัดฟันรู้สึกอับอายเช่นกัน
พวกเขาจะรู้สึกภาคภูมิใจได้ยังไงเมื่อนายพวกเขาถูกรังแก?
อีกด้านสามอารยธรรมจักรวาลมีผู้อยู่เหนือมากมายที่ลงเดิมพันและพวกเขาก็ดูการถ่ายทอดสดตาไม่กระพริบตา
หลังศึกบนดาวประภาคารแวดวงผู้อยู่เหนือก็ได้ยืนยันถึงพลังของแบล็คสตาร์และส่วนใหญ่ก็เดาว่าแบล็คสตาร์ต้องชนะแต่ไม่ใช่หมดจดแบบนี้
ในการคาดการณ์ของพวกเขาฮีเบอร์ต้องทำให้แบล็คสตาร์ลำบากบ้าง ฆ่ากองทัพจักรกลไปส่วนใหญ่ พวกเขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนี้
“การถูกทุบตีในสภาพเช่นนี้มันน่าอับอายมาก”เรเวนลูดส่ายหัว
“แบล็คสตาร์เป็นคนที่น่ากลัวมากจริงๆฉันคิดว่าฮีเบอร์นับว่าแข็งแกร่งแล้วที่ทนมาได้นานขนาดนี้ หากมันเป็นฉัน..”เบโยนี่ตัวสั่น จินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาเป็นฮีเบอร์
ตอนนี้แกจะไปกลัวทำไม?แบล็คสตาร์และตัวแกเป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่ดี…
“เกี่ยวกับประเด็นนี้ฉันเชื่อว่าดีแลนและนายคงมีเรื่องให้คุยกันมาก”มิลิซาสอดเย้าแหย่ไม่ได้
ไวรุเศร้าใจเล็กน้อย”เห้อหลังศึกนี้ ชื่อเสียงของฮีเบอร์คงเหลือไม่ถึงหนึ่งในสิบ”
ในฐานะนักสู้การเห็นฮีเบอร์ถูกทุบตีในสภาพเช่นนี้ก็ทำให้เขารู้สึกเศร้าใจและอับอาย
การใช้เทพจักรกลทำให้ผู้อยู่เหนือทุกคนรู้ว่านี่หมายความว่ายังไงมันหมายความว่าเขาได้สัมผัสจุดสูงสุดของอาณาจักรผู้อยู่เหนือแล้ว ดังนั้น ความพ่ายแพ้ของฮีเบอร์จึงไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่มันคือความจริงที่ฮีเบอร์ได้ไปตอแยหานเซี่ยวก่อน
มันไม่ใช่แค่พันธมิตรของจักรวรรดิเท่านั้นแม้กระทั่งคนจากสหพันธ์และศาสนจักรก็ยังคุยถึงแบล็คสตาร์ ฝีมือของแบล็คสตาร์ทำให้ผู้อยู่เหนือคนอื่นเหงื่อแตก
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันเทพจักรกลก็พลันหยุด
ดวงตาทุกคนเปล่งประกาย
“มันจบแล้ว!”
…
พลังที่ไม่อาจต้านทานมาจากฝ่ามือของเทพจักรกลและฮีเบอร์ก็ถูกระเบิดปลิวอีกครั้งบดขยี้ผ่านเศษดาวเคราะห์มากมายจนกระทั่งโมเมนตัมหมดลงเมื่อเขาชนกับแผ่นทวีปใหญ่ ร่างเขาถูกตรึงไว้ในนั้น ทิ้งหลุมรูปมนุษย์ไว้ด้านนอก
เลือดสดปกคลุมวิสัยทัศน์เขาฝ่ามือสั่นระริกของฮีเบอร์เอื้อมไปเกาะขอบหลุม ดึงตัวเขาออกมา ไม่มีส่วนไหนของร่างเขาที่ไม่เจ็บปวด เลือดของเขาไหลริน เขาไม่รู้ว่ากระดูกและเส้นเอ็นเขาหักหรือขาดไปมากแค่ไหน และเขาก็สามารถรู้สึกได้ว่าอวัยวะภายในเขากลายเป็นเศษเนื้อ ทั่วทั้งร่างกาย เซลล์เขาเหนื่อยล้าจนไม่อาจฟื้นฟูตัวเองได้
เพลิงนักสู้บนตัวฮีเบอร์ริบหรี่ประดุจเทียนราวกับมันสามารถดับได้ทุกชั่วขณะ
เขากัดฟันอยากหมุนเวียนพลังอีกครั้ง แต่เขากลับไม่หลงเหลือพลังเลย
เขาแหงนหน้าขึ้นเห็นเทพจักรกลที่ไม่ไล่ตามมาแต่กลับมองเขาเหยียดๆ
“มาสู้ต่อ!”ฮีเบอร์อยากคำรามแต่เสียงเขาไม่มีที่ให้ไปในสูญญากาศ
ตอนนี้เองเทพจักรกลคลายตัว และกายสถิตที่รองรับจิตสำนึกของหานเซี่ยวก็ดีดออกมา ลอยตรงหน้าฮีเบอร์ มองชายร่างใหญ่โตสภาพน่าสมเพช หานเซี่ยวปล่อยอากาศปกคลุมทั้งคู่ก่อนเปิดช่องทางสื่อสารกว้าง
“มันจบแล้วแกไม่มีพลังพอจะสู้ต่อแล้ว”เสียงของหานเซี่ยวดังผ่านช่องทาง ส่งไปยังหูของทุกคน
“บาดแผลแค่นี้ไม่พอทำให้ฉันรู้สึกคันได้ด้วยซ้ำฉันยังสามารถสู้กับแกได้ทั้งวัน!”
ดวงตาของฮีเบอร์แดงก่ำและไม่ว่าร่างเขาจะประท้วงแค่ไหน เขาก็ยังลากกล้ามเนื้อฉีกขาด โยนหมัดใส่หานเซี่ยว
ปึก!
หมัดถูกคว้าจับง่ายๆพลังภายในหมัดยังไม่ถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ
หานเซี่ยวถอนหายใจ”ยอมรับความพ่ายแพ้ซะแกแพ้แล้ว”
ภายในข้อมูลต่อสู้เขาพลังชีวิตของฮีเบอร์ใกล้ถึงศูนย์แล้ว เต็มไปด้วยสถานะด้านลบมากมาย หากเขาสู้ต่อ เขาต้องตายแน่
หานเซี่ยวได้บรรลุวัตถุประสงค์เขาแล้วทุกอย่างควรมีเส้นที่ไม่ควรข้าม เหตุผลที่จักรวรรดิไม่แทรกแซงก็เพราะพวกเขารู้ว่าเขาเข้าใจขีดจำกัดดี ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่สนใจว่าพันธมิตรจะตกตาย
เมื่อลงมือสิ่งที่สำคัญสุดคือควบคุมการกระทำของคน ไม่มีอะไรจะได้รับจากการล้ำเส้น ไม่มีประเด็นอะไรที่เขาต้องเอาอนาคตไปทิ้งเพียงเพราะฮีเบอร์
ฮีเบอร์ในวันนี้ไม่มีคุณสมบัติมาท้าทายหานเซี่ยวอีก
“ยอมรับความพ่ายแพ้?คำพูดนี้ไม่มีในพจนานุกรมของฉัน!ฉันไม่ต้องการความเห็นใจจากแก!”ฮีเบอร์คำราม
วินาทีต่อมาอุปกรณ์จับนับไม่ถ้วนก็บินมา ตรึงร่างฮีเบอร์ไว้ทั้งหมด เหลือไว้แค่ส่วนหัวเขา
กึก!
ฮีเบอร์ดิ้นรนสุดแรงแต่ก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้นไปได้
“อย่าหลอกตัวเองแกแพ้แล้ว”น้ำเสียงหานเซี่ยวลดเบาลง”แกควรเข้าใจสภาพร่างกายและอาการบาดเจ็บแกดีกว่าฉัน”
ฮีเบอร์ไม่ตอบเพียงจ้งอหานเซี่ยวอย่างไม่เต็มใจ
หลังจ้องเขาเขม็งหานเซี่ยวก็กล่าวต่ออย่างไม่แยแส
“ใจเย็นเรายังเป็นพันธมิตรของจักรวรรดิ ฉันจะใช้ชีวิตแก”
เมื่อได้ยินแบบนี้มันก็ราวกับมีระเบิดในหัวของฮีเบอร์ มันเต็มไปด้วยความอับอาย!
การได้รับละเว้นเพราะตนนี้เป็นการดูถูกและทรมานเขาอย่างมาก
เขารู้สึกราวกับศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจทั้งหมดของเขาถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าของหานเซี่ยวแทบทำให้เขาคลั่ง
หานเซี่ยวสังเกตเห็นบางอย่างและถอยห่างออกไป
หวือ..
ฟอสเตอร์และเหล่าขุนพลพุ่งเข้ามายืนอยู่ด้านหน้าฮีเบอร์
“เราแพ้แล้ว..”ฟอสเตอร์พ่นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก”แต่หากแกยังคิดว่าสามารถดูถูกท่านฮีเบอร์ได้งั้นแกก็ต้องข้ามศพเราไปก่อน!”
เหล่าขุนพลประสานเสียงกันสีหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“พวกแกกำลังทำอะไร?ไสหัวไป!”ฮีเบอร์โกรธเขามักเป็นคนที่ปกป้องคนอื่นมาตลอด แต่ตอนนี้เขากำลังถูกลูกน้องตัวเองปกป้อง มันทำให้เขาอับอายยิ่งกว่าเดิม
หากฉันแพ้งั้นก็ช่างมัน ยังไงฉันก็เป็นผู้อยู่เหนือ แต่ตอนนี้ฉันกลับต้องมาหลบหลังภัยพิบัติ?
“ไม่!’เป็นครั้งแรกที่ฟอสเตอร์ขัดคำสั่งฮีเบอร์
เมื่อมองแผ่นหลังของขุนพลทั้งหมดฮีเบอร์ก็รู้สึกตกตะลึง
เขามักมองคนของเขาเป็นเครื่องมือใช้แล้วทิ้งมาตลอดและเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ความรู้สึกเขาก็กลายเป็นสับสน
ในระยะไกลจอร์ดเม้มปากและสำรวจสภาพแวดล้อม สมาชิกแดนหลั่งเลือดหลายคนกำลังแสดงอารมณ์ต่างๆนาๆ เขารู้ดีว่าความพ่ายแพ้ของฮีเบอร์จะต้องสั่นคลอนความเชื่อของคนจำนวนมาก
“ไม่รู้ว่าจะมีกี่คนที่เลือกออกไป…”จอร์ดถอนหายใจ.ไอลีนโนเวล.
พวกเขาอาจไม่เข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์ซึ่งเป็นศัตรูกัน แต่ย่อมมีคนออกจากแดนหลั่งเลือดแน่
ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของผู้ชมด้วยอารมณ์ซับซ้อนทุกประเภท ปัจจุบันแดนหลั่งเลือดเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและกำลังฉายแสง ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะถูกโจมตีอย่างหนักเช่นนี้
หานเซี่ยวไม่สนใจกลุ่มขุนพลและจ้องฮีเบอร์ตรงๆ
“บัญชีเก่าระหว่างเราถูกสะสางแล้ว”
วินาทีที่เขาพูดจบหานเซี่ยวก็ไม่สนใจการตอบสนองของฮีเบอร์อีก บินไปทางวังคาถาลับ
การเคลื่อนไหวนี้ยังเป็นสัญญาณประกาศยุติการสู้รบ
ในฐานะผู้ชนะหานเซี่ยวไม่จำเป็นต้องแถลงเพิ่มเติมและไม่จำเป็นต้องไล่ตามฮีเบอร์
เป้าหมายของเขาบรรลุแล้วส่วนที่เหลือจะเกิดขึ้นเองโดยที่เขาไม่ต้องไปผลักดัน
เมื่อเห็นการกระทำเขายานอวกาศรอบเขาก็เปิดทางให้เขาเข้าวังคาถาลับ
ทุกคนรู้ว่านับจากนี้ไปวงแหวนดาวกระจายได้มีผู้ที่แข็งแกร่งสุดคนใหม่แล้ว!
…
เห้อเขาแพ้จริงๆ
ภายในกองยานแดนหลั่งเลือดร่างแยกโซโรคินถอนหายใจ
หลังศึกนี้แบล็คสตาร์ได้สร้างความเป็นเผด็จการให้กองทัพแบล็คสตาร์แล้ว แม้แดนหลั่งเลือดจะยังแข่งขันได้ สุดท้ายก็มีแต่ความพ่ายแพ้
ความยากของงานเพิ่มขึ้นอีก…โซโรคินหมดหนทาง
นายจ้างเขาจากจักรวรรดิไม่สามารถหยุดการต่อสู้ได้ซึ่งทำให้โซโรคินหดหู่เล็กน้อย
แต่เขาไม่ได้มีค่ามากในสายตาคนอื่นเพราะเขาเป็นแค่กลุ่มการเงิน และมันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะไปโน้มน้าวการตัดสินใจของอารยธรรมจักรวาล
เขาเหม่อมองฮีเบอร์ที่ถูกเหล่าขุนพลพยุงกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เขาไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจิตใจที่แหลกสลายของฮีเบอร์จะกลับเป็นปกติซึ่งอาจส่งผลต่อความร่วมมือของพวกเขา
สถานการณ์ยากลำบากขึ้นมาก
ดวงตาของโซโรคินไหววูบ
การแบกศักดิ์ศรีในฐานะผู้อยู่เหนือมักมีความเสี่ยงศักดิ์ศรีเป็นทั้งอิทธิพลและโซ่ล่ามผู้อยู่เหนือ โชคดี ฉันไม่โง่เหมือนฮีเบอร์ มีเพียงการทิ้งขวางชื่อเสียงของผู้อยู่เหนือถึงจะปลดพันธนาการได้ จากนั้นถึงใช้ชีวิตได้เหมือนปลาในน้ำ เป็นอิสระ
ถ้าเขาเลือกได้เขาจะไม่คิดสู้ด้วยซ้ำ
น่าเสียดายที่ฮีเบอร์ยังถูกรั้งด้วยชื่อเสียงและทำเรื่องโง่เขลา…
…
ในที่สุดผู้ชมนับไม่ถ้วนก็เริ่มแยกย้ายในเวลาเดียวกัน กายสถิตของหานเซี่ยวก็ก้าวไปบนวังคาถาลับ พบกับออสติน
หานเซี่ยวเรียกบัลลังก์จักรกลออกมาสำรวจรอบๆ
“ฉันเห็นว่านายยังชอบเข้าร่วมงานแบบนี้วังคาถาลับนายซ่อมเสร็จแล้วหรอ?”
“นานแล้ว”
หลังคุยกันสบายๆออสตินก็เปิดปากแซว”ฮี่ๆ จากวันนี้ไป นายเป็นหัวหน้าผู้อยู่เหนือคนใหม่ของวงแหวนดาวกระจายแล้วนะ นายคิดว่าไง?”
“ไม่คิด”หานเซี่ยวโบกมือ”ฉันว่าฉันเป็นหัวหน้ามานานแล้วนะ”
“นายมันหน้าด้านจริงๆ!”ออสตินหัวเราะแต่ไม่ปฏิเสธความจริง
เขารู้ว่าเขาไม่ใช่คู่มือของหานเซี่ยวไซเคอร์ทนทุกข์อยู่ภายใต้มือเขามาก่อน เอเมสสนิทกับเขา และตอนนี้ฮีเบอร์ยังแพ้ แบล็คสตาร์จึงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งสุดในทุ่งดาวนี้อย่างเป็นทางการ
หลังคุยสักพักหานเซี่ยวก็อำลาและควบคุมกายสถิตกับกองทัพจักรกลเขากลับไปยานรบ กำหนดเส้นทางกลับก่อนยกเลิก[การจุติของผู้ปกครอง]
วิสัยทัศน์ของกายสถิตหายไปและหานเซี่ยวก็ลืมตาในห้องของเขา
เขานั่งเงียบสักพักก่อนพ่นลมหายใจยาว
ตอนนี้ฉันได้ทำลายสภาพจิตใจของฮีเบอร์ไปชั่วคราวและส่งผลต่ออิทธิพลของแดนหลั่งเลือด ลดแรงกดดันบนตัวเขา
แต่ทว่าสภาพจิตของผู้อยู่เหนือไม่มีทางสั่นคลอนง่ายๆ และฮีเบอร์ก็จะยอมรับความเป็นจริงได้ไม่ช้าก็เร็ว
แต่ในเวลาอันสั้นฮีเบอร์นับว่าหมดสภาพ
เขาบิดเอวเปิดประตูและเดินออกไป
ตอนนี้ภารกิจต่อสู้กับฮีเบอร์เสร็จสิ้นแล้วมีรางวัลให้และก็จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้า
มันคือการลูบคลำเฟย์ดินนั่นเอง!