The Legendary Mechanic - ตอนที่ 961 แมนิสันคือของจริง
หลังหลุดพ้นจากอาณาเขตเสมือนของแมนิสันวิญญาณเสมือนของหานเซี่ยวก็กลับไประบบหลักของศูนย์ใหญ่เขา และเขาก็ถอนหายใจโล่งอก
เขาไม่ใช่คู่มือของแมนิสันในแง่ทักษะเทคโนโลยีเสมือนแต่แมนิสันไม่อาจคุกคามเขาได้ในแง่ความเสียหายทางจิต
มันไม่ใช่แค่เพราะเขาอึดแต่ยังเพราะสายช่างกลไม่ได้มีความเสียหายทางจิตสูงมาก ไม่ว่าจ้าวแห่งเสมือนจะทรงพลังแค่ไหน มันก็ยากที่จะเอาชนะช่างกลระดับเดียวกันได้ นอกจากนี้ สติปัญญาสูงยังมอบความต้านทานทางจิตให้สูง
[จ้าวแห่งเสมือน]เก่งการใช้ทักษะควบคุมฉันต้องการเวลาประมาณห้าถึงหกวินาทีเพื่อออกอาณาเขตเสมือนของแมนิสันและสถานการณ์ก็ยังปกติดี
หานเซี่ยวมองดูสถานการณ์และพยักหน้า
เมื่อเขาถูกลากเข้าอาณาเขตเสมือนของแมนิสันฟิลลิปก็เสียผู้ช่วยและความหนาของไฟร์วอลล์ก็ลดลงมากจนเสียข้อมูลไป
โชคดีเขากลับมาทัน แต่ทว่า เขาก็นับว่าเสียเปรียบเล็กน้อย
เนื่องจากแมนิสันสามารถทำลายอาณาเขตเสมือนของหานเซี่ยวได้เร็วกว่าหานเซี่ยวจึงไม่มีข้อได้เปรียบอะไร จ้าวแห่งเสมือนไม่เหมาะจะนำมาใช้จัดการช่างกลคนอื่น และความเข้าใจเทคโนโลยีเสมือนก็ช่วยให้ช่างกลลดเวลาที่ถูกควบคุมได้มาก
ตอนนี้เองแมนิสันกล่าวจากด้านนอกไฟร์วอลล์”ร่างกายที่น่าเหลือเชื่อและศักยภาพที่ยากจะหยั่งถึง แบล็คสตาร์ แกโผล่มาจากไหน?”
“มีเรื่องน่าอัศจรรย์มากมายในจักรวาล”หานเซี่ยวหัวเราะ”มีอะไรให้แกต้องแปลกใจขนาดนั้น?”
แมนิสันส่ายหัว”ฉันได้ทำการคาดเดาไว้แล้วในช่วงการต่อสู้ครั้งก่อนของเร่าและฉันก็ยิ่งมั่นใจหลังการปะทะครั้งนี้ แบล็คสตาร์แกคืออวกาศอัศจรรย์สินะ?”
“อาจจะใช่”หานเซี่ยวตอบ
ตอนนี้เองในที่สุดริสด้าก็หลุดพ้นจากผนึกและมาช่วยหานเซี่ยวป้องกันการรุกรานของแมนิสัน
ไฟน์เน็ตยังโจมตีไฟร์วอลล์ไม่หยุดทุกการโจมตีจะเปิดรูเล็กๆบนไฟร์วอลล์และดึงข้อมูลออกไป
ด้วยหนึ่งโจมตีหนึ่งตั้งรับ มันเป็นการแข่งขันกันด้วยทักษะเทคโนโลยีเสมือน โมดูลถูกทำลายทีละตัวก่อนถูกสร้างขึ้นใหม่ และวัฏจักรแบบนี้ก็ดำเนินต่อไป
แม้มันจะดูเหมือนกระแสข้อมูลกำลังโจมตีไฟร์วอลล์แต่หากเพ่งมองดีๆ คนจะสามารถเห็นสนามรบขนาดเล็กมากมายบนทุกตารางนิ้ว ข้อมูลนับไม่ถ้วนกำลังกระโดดไปรอบๆเหมือนทหารของสนามรบนี้
แม้ทั้งสองฝ่ายจะดูสงบมากพวกเขาก็กำลังคำนวณด้วยความเร็วสูงในหัว
…
ในแผนกโลจิสติกส์ของกองทัพแบล็คสตาร์เรย์โนลได้รวมช่างกลทั้งหมดมา
เขามองช่างกลทั้งหมดในแผนก”ทุกคนกองทัพแบล็คสตาร์กำลังประสบกับการบุกรุกเสมือน ท่านแบล็คสตาร์กำลังสู้อยู่ด้านหลัง เราไม่สามารถนิ่งดูดายได้ ผู้บัญชาการกองทัพต้องการความช่วยเหลือของเรา!”
ทุกคนมองอย่างขมขื่นสถานการณ์ต้องเลวร้ายมากหากแม้แต่แบล็คสตาร์ก็ยังไม่สามารถสู้ได้
ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมแบล็คสตาร์ถึงไปตอแยจักรพรรดิช่างกล
ในโลกช่างกลชื่อของจักรพรรดิช่างกลโด่งดังอย่างมาก เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นช่างกลที่แข็งแกร่งที่สุด สมาชิกทุกคนของแผนกโลจิสติกส์รู้สึกไม่สบายใจกันอย่างมากที่ต้องเผชิญหน้ากับคนระดับนั้น
ชื่อเสียงของช่างกลที่แข็งแกร่งสุดไม่ได้มีไว้แค่อวดมันยังมีรัศมีแห่งช่างกล ที่ทำให้ช่างกลส่วนใหญ่เสียความมั่นใจ
จากนั้นบางคนก็อดถามไม่ได้”ทำไมจักรพรรดิช่างกลถึงรุกรานเรา?ความสัมพันธ์เขากับแบล็คสตาร์ยังดีๆกันอยู่ไม่ใช่หรอ?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”เรย์โนลจ้องคนๆนั้น”อย่าคิดฟุ้งซ่านตอนนี้กองทัพตกอยู่ในอันตราย เราต้องช่วยเหลือกองทัพ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะสถานะยังไง ตอนนี้เขาก็ถือเป็นศัตรูเรา!”
แม้เรย์โนลจะพูดแบบนั้นแต่จักรพรรดิช่างกลเองก็เป็นแบบอย่างของเรย์โนลเช่นกัน มันแค่ว่าหลังเขาเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์และได้เห็นการเติบโตของหานเซี่ยว หานเซี่ยวจึงค่อยๆเข้ามายึดตำแหน่งของจักรพรรดิช่างกลในหัวใจเขา
ตอนนี้ที่เขาต้องสู้กับบุคคลแบบอย่างในอดีตเรย์โนลจึงยังยอมรับเรื่องนี้ได้
ในเวลาเดียวกันเฮอลัสผู้กำลังเล่นไพ่บนเครือข่ายก็ยังลงมือ
เขารวมกองกำลังของกองทัพในสาขาต่างๆเพื่อค้นหาดาวทุกดวงใกล้ๆทั้งหมดพยายามหาตำแหน่งของแมนิสัน แต่ทว่า นี่คือปฏิบัติการขนาดใหญ่และคล้ายกับการงมเข็มในกองหญ้า
อีกด้านซิลเวียติดต่อเบื้องบนของระบบดาวกาตอน และโกโดร่าก็ล้มเลิกการควบคุมฐานเครือข่ายระบบดาวมากมายชั่วคราวเพื่อให้กองทัพแบล็คสตาร์สามารถใช้เครือข่ายควอนตัมของระบบดาวได้
หลังดำเนินแผนการศึกษาสาธารณะความสัมพันธ์ระหว่างโกโดร่ากับกองทัพแบล็คสตาร์ก็ยิ่งเป็นปึกแผ่น หลังรู้ว่ากองทัพแบล็คสตาร์กำลังลำบาก ผู้นำก็ไม่สนใจคำคัดค้านทั้งหมดและช่วยเหลือกองทัพแบล็คสตาร์ ไม่ว่าในกรณีใด หากกองทัพแบล็คสตาร์ต้องการ ความปลอดภัยเครือข่ายควอนตัมพวกเขาไม่นับเป็นอะไรในสายตาแบล็คสตาร์อยู่แล้ว พวกเขาจึงใช้จุดนี้เป็นโอกาสหยิบยื่มและกระชับความสัมพันธ์
โกโดร่ารู้วิธีจัดการกับยอดฝีมือดีนี่คือวิชาที่ทุกอารยธรรมระบบดาวต้องสอน
แม้พวกเขาจะเดาได้ว่าแมนิสันย่อมนำฐานพกพามาซิลเวียก็ชอบเตรียมการในหลายๆด้าน และการควบคุมเครือข่ายควอนตัมในภูมิภาคนี้ก็เป็นวิธีตัดเส้นทางหนีของแมนิสัน
ลากีไม่เข้าใจเทคโนโลยีเสมือนเลยแต่ก็มีความคิดของเขาเขาไปหากลุ่มคนจากแผนกจอมเวทย์และไปรุมเสริมพลังให้หานเซี่ยว
คาถาต่างๆได้เสริมพลังของหานเซี่ยวในหลายๆด้านและสถานะเขาก็เต็มไปด้วยบัฟ
แต่ทว่าผลของบัฟเหล่านี้มีจำกัด ยิ่งเป้าหมายทรงพลัง ผลของมันยิ่งอ่อนแอ
นอกจากนี้บัฟมากมายจะเสียผลของมันหลังผ่านไประยะหนึ่ง
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของแมนิสันแผนกต่างๆของกองทัพแบล็คสตาร์ก็ลงมือ พยายามช่วยหานเซี่ยวกันสุดความสามารถ
….
มันผ่านมากว่าสองเดือนแล้วตั้งแต่ฮีเบอร์เก็บตัวนอกจากสมาชิกบางคนที่หวั่นใจ พวกระดับสูงส่วนใหญ่ต่างกังวลถึงฮีเบอร์
วันนี้ในที่สุดฮีเบอร์ก็เรียกตัวจอร์ดและถามเขาถึงสถานการณ์ของแดนหลั่งเลือด
จอร์ดยืนด้านนอกห้องด้วยความประหม่าสูดหายใจลึกก่อนเดินเข้าไป
ภาพที่เขาเห็นไม่เหมือนกับสิ่งที่เขาคิด
ฮีเบอร์นั่งบนบัลลังก์หลังตรงสวมชุดเรียบร้อย ความแตกต่างเดียวคือเขาไม่ได้ปล่อยแรงกดดันมากเหมือนเดิม
“ท่าน..ไม่เป็นไรนะครับ?”จอร์ดถาม
“ทำไมต้องเป็น?”ฮีเบอร์อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ท่านไม่ปรากฏตัวเป็นเวลานานและไม่สนใจเรื่องขององค์กรเลยเราต่างก็คิดว่า..”
“คิดว่าฉันจะไม่สามารถลุกขึ้นยืนใหม่ได้หลังล้มลง?”ฮีเบอร์ไม่พอใจ”แพ้ก็คือแพ้และฉันจะยังมีโอกาสเอาคืนในอนาคต ฉันดูอ่อนแอในสายตาพวกนายมากขนาดนั้นเลย?”
“ไม่แต่การกระทำท่านทำให้เราเข้าใจผิด..”จอร์ดรีบอธิบาย
“ฮึ่ม”ฮีเบอร์ส่ายหัวเมื่อเขาแพ้ เขาล้มลงอย่างหนักจริงๆ แต่ทว่า เขาคือผู้อยู่เหนือและเคยล้มมามากในอดีต
การที่ชื่อเสียงถูกทำลายทำให้เขาปวดใจก็จริงแต่ฮีเบอร์ก็ปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว
หากเขามองดูจากมุมต่างๆเขาไม่ได้อยู่ในสภาพเลวร้ายเท่าไซเคอร์
ต่อให้ชื่อเสียงเขาจะถูกทำลายแดนหลั่งเลือดก็ยังต้องพัฒนา ฮ๊เบอร์ไม่มีทางหยุดแข่งขันกับกองทัพแบล็คสตาร์
การใช้ข้ออ้างเรื่องการล้างแค้นมาทุบตีฉันครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว!แกอยากทุบตีฉันทุกวันหรือไง?
แกคิดว่าฉันโง่หรือไง?!
ต่อให้แกจะส่งแค่ทหารจักรกลมาฉันจะไม่มีวันยอมรับคำท้าอีก!
แม้ฮีเบอร์จะลุกขึ้นได้อย่างรวดเร็วเขาก็ตระหนักดีถึงช่องว่างระหว่างเขากับแบล็คสตาร์ ต่อให้เขาไม่เต็มใจ เขาก็ทำได้แค่ยอมรับว่าแบล็คสตาร์เหนือกว่าเขาไปแล้ว
เช่นนั้นฮีเบอร์จึงไม่มีความคิดที่จะแข่งขันกับแบล็คสตาร์อีก อย่างน้อย เขาก็ไม่คิดท้าทายแบล็คสตาร์ด้วยกำลังอีกเว้นแต่เขาจะมีความมั่นใจ
หลังยอมรับว่าหานเซี่ยวเหนือกว่าเขาฮีเบอร์ก็รู้สึกผ่อนคลายมาก บางทีมันอาจเพราะเขาไม่ต้องแข่งกับคนอย่างแบล็คสตาร์อีก
เขาขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบายความคิดเขาต่อจอร์ด”รีบรายงานสถานการณ์มาอย่ารบกวนการฝึกฉันหากไม่มีอะไรสำคัญ”
“คะ-ครับ”
เมื่อเห็นฮีเบอร์ฟื้นสภาพจิตได้แล้วจอร์ดก็ถอนหายใจโล่งอก และรีบรายงานสถานการณ์ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ย้ำถึงสมาชิกที่ออกองค์กรไป
“ไม่ต้องสนใจพวกนั้น”ฮีเบอร์ไม่สนใจ.ไอรีนโนเวล.
“พวกมันแค่พวกสวะมีคนเช่นนั้นอีกมากในจักรวาล”
จอร์ดพยักหน้าและถอนหายใจฮีเบอร์ยังเหมือนเดิมและไม่สนใจลูกน้องเขาเลย
ตอนนี้เองฮีเบอร์ลังเลก่อนพูดว่า”แจ้งนักสู้ระดับภัยพิบัติทั้งหมดให้มารวมตัวกัน ฉันจะสอนบางสิ่งให้พวกเขา ฮึ่ม พวกเขารับใช้ฉันมานานแต่ไม่พัฒนากันเลย ช่างน่าอายเสียจริง”
จอร์ดตกใจ
“ผมเข้าใจแล้วครับพวกเขาต้องดีใจกันมากแน่ๆที่ได้รับการสอนจากท่าน.
“ฮึ่มฉันไม่ต้องการให้นายมาประจบฉัน”
จากนั้นจอร์ดก็รายงานออกไป”ใช่แล้วครับมีอีกเรื่อง สัญญาณฉุกเฉินได้ส่งมาจากกองทัพแบล็คสตาร์ ด้วยเหตุผลบางอย่าง แมนิสันกำลังโจมตีระบบหลักของศูนย์ใหญ่กองทัพแบล็คสตาร์ การต่อสู้ของพวกเขายังไม่จบ”
“จักรพรรดิช่างกล?เขามีความเป็นปฏิปักษ์กับแบล็คสตาร์ด้วย?”
ฮีเบอร์สับสน
“ผมไม่แน่ใจโลกภายนอกบอกว่าการเติบโตของแบล็คสตาร์เร็วเกินไปและความทะเยอทะยานเขาก็หลุดการควบคุม เขาได้ท้าทายจักรพรรดิช่างกล และดังนั้น จักรพรรดิช่างกลจึงมาสั่งสอนแบล็คสตาร์ว่าใครคือของจริง”
“มันฟังเกือบเหมือนเรื่องจริง’ฮีเบอร์ขมวดคิ้วเขาไม่รู้ความลับของช่างกลบัลลังก์เทพ นี่คือความลับของเหล่าช่างกลและคนนอกก็ไม่รู้อะไรมาก จักรพวรรดิย่อมไม่บอกความลับเช่นนี้กับเขาเหมือนกัน
หลังขบคิดสักพักฮีเบอร์ก็ถอนหายใจและส่ายหัว
แบล็คสตาร์นั่งเฉยๆไม่ได้เลยจริงๆเขาท้าทายฉันสองเดือนก่อน และตอนนี้ก็ยั่วยุจักรพรรดิช่างกล
“ไม่ต้องสนใจฉันไม่รู้เกี่ยวกับโลกช่างกลนัก และมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย”
ฮีเบอร์โบกมือ
..
ในโลกเสมือนของระบบหลักกองทัพแบล็คสตาร์การต่อสู้ระหว่างสองช่างกลบัลลังก์เทพได้ดำเนินมาสักพักแล้ว
ด้วยการเสริมของสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ช่องว่างระหว่างหานเซี่ยวกับแมนิสันจึงแคบลง แต่ร่วมกับข้อได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านและความช่วยเหลือของแผนกโลจิส หานเซี่ยวจึงป้องกันแมนิสันและชะลอความเร็วการไหลของข้อมูลได้
แมนิสันไม่สามารถเจาระบบหลักได้ด้วยการสู้กลับของหานเซี่ยวแต่เขาสามารถดูงข้อมูลผ่านช่องโหว่ของไฟร์วอลล์ได้
แม้บัตรอัญเชิญตัวละครสัมผัสจักรกลสมบูรณ์จะมีผลน่าทึ่งมันก็มีเวลาจำกัด มันสามารถใช้ได้มากสุดแค่16ชั่วโมง ตราบเท่าที่แมนิสันเต็มใจ เขาสามารถสู้ได้หลายวัน
โชคดีฉันขอความช่วยเหลือไป
จากนั้นหานเวี่ยวก็ถ่วงเวลารอให้แม็กซิมิเลอร์มาถึง
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาช่างกลผู้อยู่เหนือคนใหม่ก็เข้าสนามรบ!
ด้านนอกไฟร์วอลล์วิญญาณเสมือนปรากฏตรงหน้าทั้งสอง
หานเซี่ยวตกตะลึงเล็กน้อยตอนเห็นผู้มาใหม่
คนที่มาถึงไม่ใช่แม็กซิมิลเอร์แต่เป็นพันธมิตรผู้อยู่เหนืออีกคน
จากนั้นแมนิสันก็ขมวดคิ้ว”กันต์ทำไมมันถึงเป็นแก?”
“เห้ยฉันมาไม่ได้หรือไง?”วิญญาณเสมือนยิ้ม หน้าตาเขาดูแปลกมาก เขาดูเหมือนกระบอกสูบสีขาวที่ด้านบนหนาแต่ด้านล่างแคบ ยังมีใบไม้สีเขียวบนหัวเขาพร้อมตาสามตาตรงกลางตัว เขาดูเหมือนไดกอน
คนๆนี้…แค่กไดกอนตัวนี้คือหนึ่งในสามเสาหลักของจักรวรรดิคริมสัน ‘เทพมายา’กันต์
ฉายาเขาฟังเหมือนผู้ใช้พลังจิตหรือจอมเวทย์แต่เขาคือช่างกล เขาเป็นเผ่าอสูร พรสวรรค์เผ่าเขาคือการแปลงร่างเพื่อเลียนแบบสิ่งมีชีวิตอื่น
หลังเลื่อนเป็นผู้อยู่เหนือพรสวรรค์เผ่าของไดกอนก็วิวัวฒนาการ เขาสามาถรแปลงเป็นสิ่งมีชีวิตใดก็ได้ นอกจากนี้ การแปลงของเขายังสมจริงกว่าคาถาของจอมเวทย์หรือการจำลองของช่างกล
เพราะพรสวรรค์นี้เขาจึงมีความสามารถปลอมตัวที่สูงสุดและสามารถกลมกลืนกับเผ่าต่างๆได้ง่ายๆ ไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาจริงๆของเขามาก่อน
เขายังชอบแปลงเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆในความเป็นจริง ความสามารถแปลงร่างเขายังบดบังความสามารถช่างกลเขา และดังนั้น เขาจึงได้รับฉายา เทพมายา
แมนิสันรู้จักกันต์และถามอย่างสงสัย”วันนี้แกแปลงเป็นอะไร?มีสายพันธุ์เช่นนี้ในจักรวาลด้วยหรือ?ทำไมแกถึงดูเหมือนไดกอน?”
“เพราะสายพันธุ์ที่ฉันแปลงเป็นคือไดกอน”กันต์กะพริบตา
“..”
แมนิสันพูดไม่ออกหลังเงียบไปสักพัก เขาก็หยุดโจมตี
หากมันเป็นแม็กซิมิเลอร์ที่มาแมนิสันคงไม่กลัว แต่ทว่า คนที่มาคือกันต์ แม้เขาจะพอรับมือกับทั้งคู่พร้อมกันได้ นี่ก็ไม่ใช่อาณาเขตเขา
นอกจากนี้กันต์ต้องมาที่นี่ภายใต้คำสั่งจักรวรรดิแน่ หากแมนิสันสามารถสู้กับสองผู้อยู่เหนือได้ลำพัง ชื่อเสียงของแมนิสันต้องพุ่งทะยาน ดังนั้น พวเขาจึงส่งคนที่ทรงพลังมาเพื่อทำให้แมนิสันถอย
เขารู้ว่าจักรวรรดิกำลังเตือนเขาแมนิสันจึงดึงไฟน์เน็ตกลับมาและกล่าวกับหานเซี่ยว”บางทีเราอาจเป็นเพื่อนกันได้หากแกไม่ใช่ช่างกล”
จากนั้นวิญญาณเสมือนของเขาก็หายไป
เขาไปและมาเหมือนสายลม
ข่าวการต่อสู้กระจายออกไปแล้วและเป้าหมายเขาก็ลุล่วง เขาได้รับข้อมูลจำนวนมากจากกองทัพแบล็คสตาร์
มันไม่สำคัญว่าคนธรรมดาจะชมการต่อสู้ไหมแต่ การที่เขาจัดการแบล็คสตาร์ได้ย่อมทำให้ตำแหน่งเขามั่นคงในหมู่ผู้ศรัทธาจักรกล
เมื่อเห็นแมนิสันไปแล้วหานเซี่ยวก็ขมวดคิ้วและส่ายหัว
ตอนนี้เองกันต์เดินมา
จักรวรรดิไม่ได้แค่ส่งกันต์มาเพื่อหยุดการต่อสู้แต่ยังมาเพื่อปลอบแบล็คสตาร์ จักรวรรดิให้ความสำคัญกับศักยภาพของหานเซี่ยวมาก พวกเขากลัวว่าความมั่นใจเขาจะพังทลาย
หลังคิดสักพักกันต์ก็ปลอบเขา”อย่าหมดกำลังใจไป นายยังเด็ก มันเป็นปกติที่นายจะแพ้ต่อเขา มันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร แถมเขาก็ไม่ได้เหนือกว่านายนัก นายยังมีเส้นทางอีกไกลให้เดิน”
หานเซี่ยวมองอีกฝ่ายไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นแบบนั้นมือก็ปรากฏบนตัวกันต์และเขาก็ลูบใบไม้สีเขียวพร้อมถอนหายใจ”ฉันเองก็เคยตกเป็นเป้าของเขามาก่อน ตอนนั้นฉันย่ำแย่กว่านายซะอีก ในความเป็นจริง มันไม่ใช่เรื่องแย่อะไรที่แพ้ตอนยังเด็ก”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหานเซี่ยวก็มีสีหน้าแปลกๆ
หลังเห็นการแจ้งเตือนภารกิจสำเร็จหานเซี่ยวก็อดพยักหน้าเห็นด้วยไม่ได้
“ใช่มันคงดีหากฉันสามารถ’แพ้’แบบนี้ได้อีกสักสองสามครั้ง”