The Legendary Mechanic - ตอนที่ 964 ธีมของยุค

ด้วยกลุ่มการเงินจำนวนมากที่มาพร้อมทรัพยากรก่อสร้างโลกริบหรี่ที่เงียบจึงเริ่มคึกคัก
สามกลุ่มดาวที่ได้รับการสำรวจอยู่ในช่วงการก่อสร้างและในที่สุดโลกริบหรี่ก็ดูเหมือนส่วนหนึ่งของจักรวาลมากขึ้น
กองยานหานเซี่ยวเข้าสู่โลกริบหรี่ผ่านประตูดาวของจักรวรรดิเจ้าหน้าที่หลายคนคุ้นเคยกับเขาดีและเขาก็ไม่ได้เผชิญกับอุปสรรคอะไรระหว่างทาง
เมื่อมาถึงดาวประภาคารหานเซี่ยวก็ทักทายทาราคอฟและรีดไถทาราคอฟถึงผลผลิตท้องถิ่นก่อนออกเดินทางไปกลุ่มดาวการู
ระบบดาวแม่น้ำม่วงตั้งอยู่ชายแดนของกลุ่มดาวการูใกล้กับที่ประตูดาวตั้ง ตอนนี้มันเป็นอาณาเขตของหานเซี่ยว ดังนั้น จักรวรรดิจึงสร้างประตูดาวใหม่เพิ่มเติมให้กองทัพแบล็คสตาร์ได้ใช้
หลังเข้าระบบดาวแม่น้ำม่วงพวกเขาก็แล่นตามแผนที่ดาวและมาถึงดาว
“ผู้บัญชาการกองทัพนั่นคือดาวประตูดำ ดาวที่ใกล้กับประตูดาวสุด ตามแบบแผนการก่อสร้าง ดาวนี้จะถูกพัฒนาเป็นสถานีขนส่งขนาดใหญ่และกลายเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของกลุ่มดาวการู นี่ยังเป็นดาวที่อยู่ชายแดนของกองทัพอีกด้วยค่ะ”
หานเซี่ยวยืนอยู่ข้างหน้าต่างมองไปที่ดาวเคราะห์ ข้างๆมีเลขาสาวสวยกำลังให้คำแนะนำ
ซิลเวียยุ่งดังนั้นเธอจึงส่งเลขาของเธอมาดูแลหานเซี่ยว หานเซี่ยวมีความประทับใจต่อเลขาคนนี้ เขาจำได้ว่าประวัติย่อของเธอค่อนข้างโดดเด่นและเธอยังเป็นผู้ช่วยมากความสามารถของซิลเวีย
“การก่อสร้างเป็นอย่างไรบ้าง”หานเวี่ยวพยักหน้า
“ดาวนี้ใช้ประโยชน์จากชุดปรับปรุงดาวของจักรวรรดิและแผนกโลจิสเราก็ได้ร่างพิมพ์เขียวไว้แล้วทิศทางการก่อสร้างจะมุ่งไปที่ตลาดกาแล็กซี่ ป้อมทหาร และศูนย์ขนส่ง เพราะจุดสนใจหลักของการก่อสร้างคือดาวมากทรัพยากร การก่อสร้างจึงสำเร็จไปแค่4.9%ค่ะ พลังงานจะมาจากสถานีพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นและสถานีพลังงานมืดที่ตั้งอยู่ใต้ดิน แต่ทว่า แถวนี้ไม่มีดาวฤกษ์ธรรมชาติอย่างใกล้เคียง ดังนั้นเราอาจต้องการแหล่งพลังงานเพิ่มเติมและดวงอาทิตย์เทียม…”
เมื่อได้ยินรายงานของเลขาหานเซี่ยวก็พลันมีความคิดถึงพิมพ์เขียวดาวฤกษ์เคลื่อนย้ายได้ในมรดกไทราเคิล
ยิ่งทักษะเทคโนโลยีพวกเขาก้าวหน้าข้อจำกัดด้านสภาพแวดล้อมก็ยิ่งลด พวกเขาไม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอีก แต่สามารถทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปตามความต้องการได้
แม้เผ่าไทราเคิลจะไม่ใช่ผู้ชนะในยุคสำรวจพวกเขาก็ยังเป็นอารยธรรมกึ่งจักรวาลและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม
ฉันสามารถใช้อุปกรณ์ดาวฤกษ์เคลื่อนที่และย้ายดาวฤกษ์มายังตำแหน่งที่เหมาะสมได้
เขามักคิดเสมอว่าพิมพ์เขียวนี้มีความสัมพันธ์กับ[การจำลองจักรวาล]ของช่างกลบัลลังก์เทพ
หลังสายอาชีพเขาก้าวหน้าหานเซี่ยวก็ได้วิจัยความสามารถใหม่เขาทั้งหมดแต่ก็ยังไร้เบาะแสต่อการใช้[การจำลองจักรวาล] ทักษะนี้ช่วยให้เขาจำลองธรรมชาติทั้งหมดได้ผ่านทักษะช่างกลเขาและควรมีศักยภาพมหาศาล
บางทีสามอารยธรรมจักรวาลอาจใช้สิ่งนี้เพื่อดัดแปลงดาวแม่ตน
เมื่อเห็นหานเซี่ยวเงียบเลขาสาวก็หยุดสักพักก่อนพูดต่อ”มีคนไม่มากบนดาวประตูดำ แต่ดาวประตุดำจะกลายเป็นหนึ่งในดาวที่ได้รับความนิยมสุดในกลุ่มดาวการูเมื่อโลกริบหรี่เปิดขึ้น ผู้เยี่ยมชมรายวันจำนวนมากจะนำมาซึ่งผลกำไรมหาศาล ตามการคำนวณของแผนกการเงิน เราต้องใช้เวลาแค่6-7ปีเพื่อคืนทุน”
“ดีมาก”หานเซี่ยวยิ้ม
กองยานค่อยๆเคลื่อนเข้าหาดาวประตูดำและประตูดาวหลายแห่งก็แสดงบนแผนที่ มีบางส่วนที่มุ่งไปทางระบบดาวอื่นและบางส่วนมุ่งไปภูมิภาคอื่นของระบบดาวแม่น้ำม่วง
เพราะการจัดสรรดินแดนภารกิจแรกของกองทัพแบล็คสตาร์จึงเป็นการเชื่อมดินแดนทั้งเจ็ดของพวกเขา
ในช่วงสำรวจทั้งกลุ่มดาวได้มีเครือข่ายขนส่งของตนแล้ว แต่ทว่า ประตูดาวทางไกลเหล่านั้นจะมักใช้เชื่อมกลุ่มดาวต่างๆ ภารกิจของกองทัพแบล้คสตาร์คือการเชื่อมต่อกับเขตแดนตน
เครือข่ายขนส่งภายในอาณาเขตได้เริ่มเป็นรูปร่างบ้างแล้วและระบบดาวมากมายก็สามารถมาถึงดาวประตูดำได้ ประสิทธิภาพพวกเขาสูงกว่าการสำรวจระยะแรก
ด้วยเครือข่ายขนส่งหยาบๆพวกเขาสามารถประหยัดเวลาเดินทางได้มาก หานเซี่ยวนำกองยานเขาท่องผ่านเจ็ดระบบดาวและชมการก่อสร้างทั้งหมด
นี่คือครั้งแรกที่เขาได้เห็นอาณาเขตของตนกับตา
”แม่น้ำม่วงรุ่งอรุณ ซิกม่า โอโดราน พอนซาเล่ เฟนริล เอ็ดเนีย…นี่คือรากฐานของกองทัพ”
เมื่อได้ยินเห็นขนาดของเจ็ดระบบดาวหานเซี่ยวก็พอใจมาก
เขาวางแผนทำให้เจ็ดระบบดาวเป็นภูมิภาคหลักของกลุ่มดาวการูแต่นี่ต้องใช้เวลาหลายสิบปีเพื่อทำให้สำเร็จ แต่ทว่า ภารกิจช่วงสองของ[โลกริบหรี่]แค่ต้องการให้เขาทำการก่อสร้างพื้นฐานเท่านั้น เพื่อให้การก่อสร้างพื้นฐานของเจ็ดระบบดาวลุล่วง เวลาไม่กี่ปีก็พอแล้ว ด้วยการลงทุนของกลุ่มการเงินจำนวนมาก ความสามารถการผลิตของกองทัพจึงทรงพลัง
หลังตรวจสอบเสร็จหานเซี่ยวจึงกลับไประบบดาวซิกม่า ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกลุ่มดาวการูเพื่อตรวจสอบการพัฒนาของอารยธรรมจักรกล
กองยานของหานเซี่ยวออกจากไฮเปอร์ไดรฟ์และดาวสีเงินก็ปรากฏตรงหน้าเขา เครื่องจักรหลอมรวมเข้ากับผิวดาว มันดูสวยงามมาก
นี่เป็นเมืองแรกของอารยธรรมจักรกลมันถูกเรียกว่าเมืองไซโอนิค ไพรม์!
ผิวดาวถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นเครื่องจักรภายใต้ผิวดินมีเหมืองใต้ดินมากมายคอยสกัดทรัพยากร
ภายใต้การนำของไซโอนิคไพรม์และอาวุธอัครฑูตอื่นๆโรงงานทหาร โรงงานซ่อม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆถูกสร้าง ในเวลาเดียวกัน ยังมีสิ่งมีชีวิตจักรกลรุ่นสองนับล้านกำลังรอการถือกำเนิด
ใจกลางเมืองมีรูปปั้นขนาดมหึมาของเขา
เมื่อเห็นแบบนั้นหานเซี่ยวก็ทำอะไรไม่ถูก
ด้วยเหตุผลบางอย่างคนมักชอบสร้างรูปปั้น อะไรคือจุดประสงค์ของการสร้างรูปปั้นฉัน?ทำไมไม่สร้างรูปปั้นเฟย์ดินแทน?รูปปั้นนั้นอาจให้โชคกับนาย
สำหรับสิ่งมีชีวิตจักรกลเพื่อสร้างลูกหลานมันต้องใช้พลังงานเชื้อไฟตัวเองจนหมดและการสืบพันธุ์ก็มี
คูลดาวน์ดังนั้น ยิ่งขนาดอารยธรรมจักรกลใหญ่ มันยิ่งโตเร็ว
พรสวรรค์[การแพร่กระจายของจักรกล]และ[การเสริมอารยธรรมจักรกล]จากช่างกลบัลลังก์เทพสามารถเสริมความสามารถการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตจักรกลได้หานเวี่ยววางแผนใช้เวลาบนดาวนี้เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตจักรกลรุ่นแรกเพิ่ม
อารยธรรมจักรกลที่นำโดยไซโอนิคไพรม์เพิ่งเริ่มและประชากรก็ขาดแคลน แต่ทว่า พวกเขามีสิ่งมีชีวิตจักรกลหลากหลายที่ทำงานในสายของตน
ไม่ไกลจากเมืองคิงคองยักษ์กำลังนำกลุ่มทหารยักษ์ไปทำให้ภูเขาสูงแบนราบ
โดยไม่รบกวนใครอื่นหานเซี่ยวติดต่อไซโอนิคไพรม์
อย่างรวดเร็วแสงสีฟ้ายิงออกจากดาวและมาถึงตรงหน้ากองยาน
“ทำความเคารพนายท่าน”ไซโอนิคไพรม์ก้มหัว
ประตูเปิดหานเซี่ยวบินออกมา สำรวจไซโอนิคไพรม์ขึ้นลง และเลิกคิ้วเล็กน้อย
เทียบกับครั้งก่อนที่พวกเขาพบกันไซโอนิคไพรม์มีอะไหล่ใหม่ อะไหล่เหล่านี้เลือกโดยตัวไซโอนิคไพรม์เองเพื่อกลบจุดอ่อนบางอย่าง
นี่คือข้อดีของสิ่งมีชีวิตจักรกลพวกเขารู้ว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวเองจะเสริมพลังให้
“ทำได้ดีมาก”
หานเซี่ยวชมและปล่อยพลังจักรกลสีฟ้าทองออกจากฝ่ามือ
“ถือซะว่านี่เป็นรางวัล”
จากนั้นหานเซี่ยวก็ตบพลังจักรกลเข้าตัวไซโอนิคไพรม์นี่คือทักษะ[การวิวัฒนาการอัครฑูต]จากสายช่างกลบัลลังก์เทพ
ทันใดนั้นตัวของไซโอนิคไพรม์ก็เปล่งแสง และพลังงานเชื้อไฟในร่างกายก็แกร่งขึ้น
หานเซี่ยวมองดูข้างๆและกระบวนการวิวัฒนาการของไซโอนิคไพรม์ก็จบลง
เมื่อพบความเปลี่ยนแปลงไซโอนิคไพรม์ก็พยักหน้าให้หานเซี่ยว
“ต้องขอบคุณนายท่านสำหรับพรพลังของผมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันนี่คือสิ่งที่นายสมควรได้รับ นายต้องทำงานให้ดี”
หานเซี่ยวโบกมือและเปิดหน้าต่างสถานะเขาค่าสถานะของไซโอนิคก็เพิ่มขึ้นหมด
อาวุธอัครฑูตเขาเป็นกึ่งผู้อยู่เหนือและหลังวิวัฒนาการพวกมันก็สามารถสู้กับผู้อยู่เหนือธรรมดาได้
ตามการคำนวณของหานเซี่ยวไซโอนิคไพรม์ควรสามารถเอาชนะร่างแยกทั่วไปของเทพเอสได้ก่อนวิวัฒนาการ แต่ต้องมีเงื่อนว่าร่างแยกต้องไม่มีความสามารถเอสเปอร์พิศดาร
เมื่อส่งไซโอนิคไพรม์กลับหานเซี่ยวก็เดินทางไปยังดินแดนของเผ่าแบล็คสปิริต
เทียบกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอารยธรรมจักรกลเผ่าแบล็คสปิริตดูเหมือนจะธรรมดากว่ามาก
แม้พวกเขาจะมีวิธีสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากพวกเขาก็ยังต้องใช้เวลาเรียนรู้และย่อยความรู้พื้นฐานทางเทคโนโลยีที่กองทัพจัดหาให้
ความรู้เทคโนโลยีนี้ซับซ้อนเกินไปสำหรับพวกเขาและพวกเขาต้องเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่ต้น
ระบบเครือข่ายจิตพวกเขาจะแสดงประสิทธิผลก็ต่อเมื่อมีรากฐานแข็งแกร่ง
ตราบเท่าที่พวกเขาก้าวแรกความเร็วการพัฒนาของเผ่าแบล็คสปิริตจะเพิ่มขึ้น พวกเขาสามารถผ่ายุคหิน ยุคอาวุธเย็น ยุคตรัสรู้ ยุคเครื่องจักรไอน้ำ ยุคไฟฟ้าและอื่นๆจนมาถึงยุคดวงดาวได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากความอยู่รอดอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ของอารยธรรมคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการผลิต พวกเขาต้องใช้เวลาอย่างมากในการคลำหาท่ามกลางความมืด แต่ด้วยการแทรกแซงของกองทัพแบล็คสตาร์ ทั้งหมดไม่ใช่ปัญหา ปัญหาใหญ่ถูกแก้และการพัฒนาย่อมไม่ช้า
หานเซี่ยวจัดหาต้นไม้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องให้เผ่าแบล็คสปิริตและวิธีขยายพลังจิต
เผ่าแบล็คสปิริตซึ่งมีเครือข่ายจิตย่อมมีศักยภาพสูง พวกเขาเหมาะกับการเป็นผู้ใช้พลังจิตหรือจอมเวทย์มาก และมันอาจมีมากกว่า90%ที่กลายเป็นผู้ใช้พลัง
แน่นอนเขาจะไม่ปฏิเสธหากคนใดอยากกลายเป็นช่างกล
มันไม่ใช่ไร้เหตุผลที่อารยธรรมจักรวาลออกกฏห้ามอารยธรรมขั้นสูงแทรกแซงการพัฒนาของอารยธรรมระดับต่ำหากพวกเขาเดินตามเส้นทางที่ใครบางคนเดินไว้แล้ว พวกเขาก็จะกลายเป็นได้แค่หุ่นเชิดของอารยธรรมอื่นและความคิดสร้างสรรค์ก็จะถูกจำกัด
เกี่ยวกับเรื่องนี้หานเซี่ยวไม่มีแผนจริงๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่จ่ายราคาหากต้องการพัฒนาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม โทเท็มวิวัฒนาการสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในระดับหนึ่ง
โทเท็มวิวัฒนาการสามารถค่อยๆวิวัฒนาการยีนของเผ่าและเพิ่มศักยภาพเผ่ารวมถึงสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยผลของโทเท็มวิวัฒนาการ มันอาจเป็นไปได้ที่บุคคลจะสามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์
แม้อารยธรรมจะคือทุกสิ่งเหตุการณ์ทางประวัติมากมายก็มักถูกสร้างโดยบุคคล การมีอยู่ของโทเท็มวิวัฒนาการจะเพิ่มโอกาสให้บุคคลดังกล่าวปรากฏตัว
การอนุญาตให้สายพันธุ์มีความโดดเด่นมากขึ้นคือความหมายของโทเท็มวิวัฒนาการนี่ไม่ใช่ทางออกที่ดีสุดและยังมีความสิ้นหวังแฝงอยู่ลึกๆ
ตัวอย่างเช่นจะเกิดอะไรขึ้นหากสายพันธุ์ใหม่ไม่สอดคล้องกับบรรทัดฐานของสังคมดันปรากฏบนดาวที่ปกครองโดยมนุษย์?จินตนาการว่าหากอสูรตัวนี้ไม่เพียงะจแข็งแกร่ง แต่ยังมีสติปัญญาและเหนือกว่าเผ่ามนุษย์ในทุกด้าน ตอนนั้น มนุษย์จะไม่ใช่ผู้ปกครองดาวอีก และเทคโนโลยีที่พวกเขาพึ่งพามานานหลายปีจะถูกยึดไปในท้ายที่สุด…
ตอนนั้นการเลือกอยู่ร่วมกับสายพันธุ์ใหม่หรือฆ่าพวกมันจะเป็นทางเลือกที่ยากลำบาก
การยับยั้งสายพันธุ์ใหม่เช่นนั้นมักเต็มไปด้วยเลือด
นี่เป็นส่วนที่น่ากลัวสุดของโทเท็มวิวัฒนาการและยังเป็นเหตุให้สหพันธ์แห่งแสงและศาสนจักรอาร์เคนไม่สามารถเฝ้าดูจักรวรรดิคริมสันกลืนผลประโยชน์ทั้งหมดของโทเท็มวิวัฒนาการคนเดียวได้แต่ทว่า อารยธรรมจักรวาลมีการดัดแปลงยีนของคนและดังนั้นจึงควบคุมความปรารถนาในการต่อสู้ได้
…
หานเซี่ยวยืมผลจากการต่อสู้กับแมนิสันเพื่อเก็บตัวและไม่สร้างปัญหาจากนั้นเขาก็ทำตามแผนเพื่อขยายกองทัพจักรกลเขาและเสริมสร้างรากฐาน
นี่คือเส้นทางที่ช่างกลทั้งหมดต้องดำเนิน
หลังแมนิสันประสบความสำเร็จเขาก็ไม่ได้ทำอะไรอื่นอีก เขากลับมาแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่มและไม่ยั่วยุกองทัพแบล็คสตาร์อีก
ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในความเงียบองค์กรกาแล็กซี่ต่างๆจึงไม่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและละสายตาจากหานเซี่ยว
การสำรวจระยะแรกจบลงแล้วและโลกริบหรี่ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างหลายองค์กรเฝ้าดูจากด้านข้างเงียบๆและจักรวาลก็เข้าสู่ช่วงสงบ
แม้จะยังมีการปะทะกันบ้างแต่ก็ไม่มีความขัดแย้งใหญ่ระหว่างอารยธรรมระดับกลุ่มดาวหรือเหนือกว่านั้น มันราวกับพวกเขามีข้อตกลงกันและเลือกพักผ่อน.Aileen-novel.
สหพันธ์แห่งแสงและศาสนจักรอาร์เคนได้กดดันจักรวรรดิคริมสันในด้านเศรษฐกินและการเมืองต่อแม้พวกเขาจะมีความขัดแย้งมากมาย
จักรวรรดิคริมสันอยู่ภายใต้แรงกดดันและยังยึดมั่นยังมีเสียงในจักรวรรดิที่เรียกร้องให้เปิดขายโทเท็ม แต่เสียงนั้นก็เบาบางมาก
หากธีมใหม่ถูกสร้างสำหรับยุคนี้มันจะถูกเรียกว่า’การสำรวจและขยาย’
นี่ไม่ใช่การพัฒนาของอารยธรรมเดียวแต่เป็นทั้งทุ่งดาวมันคล้ายกับการพบทวีปใหม่ และมันก็พอจะเปลี่ยนสถานการณ์ของจักรวาล
ภายใต้อิทธิพลของบรรยากาศเช่นนี้แม้กระทั่งผู้อยู่เหนือก็ยังเลือกเงียบ การต่อสู้ระหว่างหานเซี่ยวกับแมนิสันกลายเป็นศึกสุดท้ายระหว่างผู้อยู่เหนือ
เวลาค่อยๆผ่านไปท่ามกลางความสงบ
…
ปฏิทินกาแล็กซี่: ปี716 วันที่17 เดือน1
ประตูดาวสีฟ้าที่ดาวประตูดำเริ่มเปล่งแสงและยานอวกาศขนาดกลางก็พุ่งออกมา
ในยานกลุ่มคนหนุ่มสาวยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่างและมองดาวประตูดำด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นี่คือดินแดนของกองทัพแบล็คสตาร์หรือ?ในที่สุดเราก็มาถึงกันแล้ว!”
“ฉันได้ยินมาว่าแบล็คสตาร์อยู่ในโลกริบหรี่มาหลายปีแล้วมันก็ห้าปีแล้วตั้งแต่ที่เราได้ยินข่าวสุดท้ายเกี่ยวกับเขา”
“ถูกต้องคิดว่าเราจะได้เห็นแบล็คสตาร์ไหม?”
“ฉันสงสัยว่าเขาจะเป็นเหมือนอาจารย์ใหญ่ลากีไหม..”
“หุบปาก!อย่าเอ่ยชื่อต้องห้ามนั้น!”
มีใครบางคนจับหัวเขาไว้
“อ้าก!มาช่วยฉันเร็ว!โรคPTSDของเขากลับมาอีกแล้ว!”
คนรอบๆมองพี่น้องพวกเขาที่ป่วยเป็นโรค’ลากีPTSD’
“เห้ออีกคนแล้ว”
หนึ่งในเด็กที่สูงประมาณ1.7เมตรอดหัวเราะขมขื่นไม่ได้
“นี่พูดเกินไปฉันไม่คิดว่าอาจารย์ใหญ่จะน่ากลัวขนาดนั้น..”
หญิงสาวที่สูงกว่าเขากลอกตา”แน่ใจนะว่านายปกติดี?”
ชายหนุ่มลูบหัว”จริงหรอ?ฉันคิดว่าทุกคนชอบอาจารย์ใหญ่กันมากซะอีก…”
ชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณ6-17ปีแต่ดูเหมือนเด็กมาก เขาดูเหมือนเด็กประถมที่ยังไม่โตและแต่งตัวในชุดกองทัพแบล็คสตาร์
หญิงสาวสวยข้างเขามีรูปร่างร้อนแรงและสวมชุดนักสู้รัดแน่นเธอดูสนิทกับชายหนุ่มมาก
ตอนนี้เองกัปตันเดินมาตบไหล่ชายหนุ่ม
“กองกำลังป้องกันส่งคำขอสื่อสารมานายสามารถรับสายเพื่อช่วยเราให้ไม่ต้องลำบากได้”
ชายหนุ่มพยักหน้าและกดปุ่มบนกำแพงยานจากนั้นภาพฉายก็ปรากฏ และผู้บัญชาการของกองทัพแบล็คสตาร์สาขานี้พลันปรากฏ
“พวกนายมาจากแผนกไหน?ทำไมฉันถึงไม่ได้รับใบสมัครจากกองทัพ?”
หากไม่ใช่ตราแบล็คสตาร์บนยานผู้บัญชาการอาจออกคำสั่งให้ยึดยานไปแล้ว
“เราคือผู้สำเร็จการศึกษาชุดแรกจากสถาบันแบล็คสตาร์ตามกฏของสถาบัน คนที่จบการศึกษาสามารถเลือกเข้าร่วมค่ายฝึกและรับใช้กองทัพแบล็คสตาร์ได้2-3ปี เรามาที่นี่เพื่อหางานกับกองทัพ คุณอาจลืมตรวจสอบ”
“รอเดี๋ยวขอฉันตรวจสอบก่อน”ผู้บัญชาการขมวดคิ้วและค้นหาบันทึกสักพัก”อืม มีคำขอพิเศษจริงๆ แต่พวกนายมาช้าไป มันเกินเวลาที่กำหนดไว้นานมาก”
“ผมขอโทษนี่คือครั้งแรกที่เรามาโลกริบหรี่และเราต้องสำรวจหลายสถานที่ก่อน ดังนั้น การเดินทางเราจึงล่าช้า คุณสามารถตรวจสอบบันทึกของยานได้”
จากนั้นผู้บัญชาการก็ทำการตรวจสอบ”อืมมันปกติดี เข้ามาได้”
“ขอบคุณครับ…เอ่อช่วยบอกผู้บัญชาการกองทัพได้ไหมครับว่าผมมาหา?”
เมื่อได้ยินผู้บัญชาการก็มีสีหน้าแปลกๆ　　เด็กนี่มีภูมิหลังอะไรกัน?
จากนั้นเขาก็สำรวจชายหนุ่มและรู้สึกว่าเขาคุ้นๆ
“นายเป็นใคร?มีความสัมพันธ์อะไรกับผู้บัญชาการกองทัพ?”
“ผมชื่อเนโร่แบล็คสตาร์คือพ่อบุญธรรมผม “เนโร่หัวเราะและฉีกยิ้มสดใส”ผมมาที่นี่เพื่อเซอร์ไพรส์เขา!”