The Legendary Mechanic - ตอนที่ 975 บีบบังคับ
เมื่อการปูพรมหยุดฐานทหารร้างก็กลายเป็นเศษซาก ด้วยกรวดที่ถล่มปิดกั้นถนนนับไม่ถ้วน ภูมิประเทศมีความซับซ้อนมากขึ้นและกรวดก็ตกลงมาเป็นครั้งคราว
ด้านล่างฐานเต็มไปด้วยฝุ่นควันเศษซากที่ตกลงมากองรวมกันเป็นเนินเขา ซึ่งฝังเนโร่ไว้
ทันใดนั้นเสียงคล้ายของเหลวลื่นไหลก็ดังในความมืด
หวือ!
พื้นที่สองตารางเมตรภายใต้เศษซากด้านล่างค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ ลำแสงพุ่งผ่าน หลอมเหล็กและหินกัน เผยให้เห็นช่องว่าง
เนโร่คลานออกจากหลุมมือเขาปล่อยรังสีความร้อนอย่างต่อเนื่องขณะเดินกะเผลก อุณหภูมิสูงรอบตัวเขาทำให้อากาศแปรปรวน
“แค่กแค่ก แค่ก..”
เสียงกระแอมดังออกจากชุดจักรกลจากนั้นเขาก็จดจ่อ เปิดใช้งานชุดเพื่อทำการสแกนร่างกาย
“กระดูกขาซ้ายบิดเล็กน้อยกำลังรออนุญาตให้ชุดจักรกลจัดกระดูกโดยอัตโนมัติ”
“เอาเลย”
เกราะเขาบนขาซ้ายกระชับขึ้นและกระดูกก็ถูกจัดเข้าที่ เนโร่ร้องเสียงหลงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหน้านี้ เศษซากได้ทับร่างเขาและแม้ชุดจักรกลเขาจะไม่เป็นไร แรงกระแทกก็ทำให้เขาบาดเจ็บเล็กน้อย เหนือสิ่งอื่นใด แค่ช่างกลแสนบอบบาง
เรดาห์แสดงให้เห็นว่าศัตรูอยู่เหนือเขาเนโร่รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลามาพัก และก็รีบเปิดใช้อุปกรณ์สื่อสาร ติดต่อเพื่อนๆเขา
“หัวหน้านี่เนโร่ พวกคุณอยู่ไหน สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
เสียงหึ่งดังขึ้นตามด้วยเสียงกรีดร้องเจ็บปวด เนโร่ตะโกนอยู่สักพักก่อนได้รับข่าว
“เรากำลังลำบาก!”ใบหน้าของเพื่อนร่วมทีมเขาปรากฏบนจอเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล น้ำเสียงเขาก็ดูเร่งรีบ”ฉันอยู่ข้างหัวหน้าและเมื่อฐานถล่ม หัวหน้าก็ตกตะลึง กระสุนปืนใหญ่ทะลุพื้นมาโดนเรา เราหลายคนบาดเจ็บและกระจัดกระจายกัน ไม่ว่าใครจะได้ยินข่าวนี้ ช่วยพวกเขาด้วย และนำทุกคนมารวมกัน เราต้องหลบหนีกันเดี๋ยวนี้!”
เนโร่เปิดโปรแกรมย่อยตรวจสอบสุขภาพของทีมและตกใจเมื่อเห็นสีแดงบนจอ
บาดแผลของทุกคนเลวร้ายกว่าเขาและคนที่บาดเจ็บสาหัส รวมถึงหัวหน้านั้นใกล้จะตายแล้ว เพราะเขาตกลงไปด้านล่างฐานและถูกฝัง เขาจึงสามารถหนีการปูพรมของยานได้ ดังนั้นเขาจึงบาดเจ็บน้อยสุด
มันเป็นเพราะโชคของเขา
“สภาพของฉันดีสุด…”เนโร่รู้สึกถึงแรงกดบนไหล่
เขากัดฟันเปิดตัวระบุตำแหน่งสำหรับทีมเขา ตำแหน่งของเพื่อนแต่ละคนถูกทำเครื่องหมายไว้บนหน้าจอยุทธวิธีของชุด ปัญญาประดิษฐ์ก็ทำงานด้วยความเร็วสูงเพื่อกำหนดเส้นทางช่วยเหลือ
ด้านหลังเขาไอพ่นทำงานและเนโร่ก็บินออกจากหลุมใหญ่ด้านล่างฐานเพื่อช่วยสมาชิกที่กระจัดกระจาย
ภูมิประเทศซับซ้อนแต่ไม่มีเวลาให้เขาอ้อม ฝ่ามือเขายิงรังสีความร้อนไม่หยุด หลอมละลายผ่านอุปสรรคทั้งหมดตรงหน้า ช่วยสมาชิกทีละคนก่อนมาถึงกองทัพภาคพื้นเผ่าคุนเด้ ในที่สุด เขาก็มาถึงตำแหน่งหัวหน้า
เนโร่ระเบิดแผ่นโลหะที่ขวางทางบินเข้าไปในห้องยุ่งเหยิงและลงพื้น เขาเห็นหัวหน้าและกลุ่มสมาชิกที่นั่น ทุกคนต่างบาดเจ็บต่างๆ
หัวหน้านอนเป็นอัมพาตอยู่บนพื้นร่างส่วนบนเขาเอนพิงกำแพง เกราะเขาไหม้เกรียม เผยให้เห็นรูขนาดใหญ่ เขาแหงนมองเนโร่ ฝืนยิ้ม พูดด้วยเสียงอ่อนแรง
“เนโร่มาแล้วงั้นหรอ นาย..แค่ก…แค่ก ทำได้ดีมาก”
“หัวหน้าไม่ต้องพูดอีกแล้ว”
เมื่อเห็นแบบนี้เข็มฉีดก็โผล่ออกจากนิ้วเนโร่ เขาเจาะมันใส่หน้าอกของหัวหน้า
ยาชีวิตพิเศษของออโรร่าถูกฉีดเข้าตัวหัวหน้าผ่านเข้มและบาดแผลสาหัสเขาก็หายไปทันที
สภาพของหัวหน้าฟื้นตัวด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ทำให้เขาส่งเสียงสบายออกมา เขาลุกขึ้น เต็มไปด้วยพลังงาน เดาะลิ้น”นี่เป็นยาชีวิตพิเศษของท่านออโรร่าสินะ?ของดีมาก!”
ออโรร่าจะใช้ความสามารถเธอเพื่อผลิตยาชีวิตดังกล่าวเป็นบางครั้งแต่ปริมาณก็มีจำกัด แถมยาก็ยังมีอายุการเก็บรักษา ดังนั้นจึงไม่ใช่นักรบทุกคนจากกองทัพแบล็คสตาร์ถึงมีมันได้ สมาชิกทั่วไปจะใช้ได้แค่ยาทั่วไป แต่ด้วยภูมิหลังของเนโร่ เขาย่อมมียาของออโรร่า
“เอาคนที่บาดเจ็บสาหัสมาผมยังมียาอีก มันจะช่วยพื้นความสามารถต่อสู้”
หนึ่งในนั้นอดพูดไม่ได้”เก็บไว้ให้ตัวนายเองเถอะจะมีการต่อสู้รออยู่ข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้นหากนายบาดเจ็บ?”
“ไม่เป็นไรผมยังมียาอื่น”เนโร่ไม่สนใจ
ทุกคนเหลือบมองหน้ากันก่อนยักไหล่การมีลูกหลานทรงอำนาจในทีมไม่ใช่เรื่องแย่ ผู้สนับสนุนเสนอตัวเอง ทำไมพวกเขาต้องลังเลอีก?
เนโร่รักษาเพื่อนร่วมทีมทั้งหมดและคุยกันถึงทางเลือก
“ทุกคนเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย เราถูกจับได้ในการซุ่มโมตีและกองยานก็ถูกศัตรูโจมตี”หัวหน้าอธิบายด้วยเสียงจริงจัง”คนอื่นยุ่งเกินจะตอบสนองต่อเรา เราทำได้แค่พึ่งพาตัวเอง มียานรบคุนเด้สามลำเหนือเรา แต่เราไม่มียานพาหนะ มันจึงอันตรายมาก…”
“หากศัตรูยังปูพรมต่อมันคงไม่ดีต่อเรา แต่ตอนนี้ศัตรูหยุดโจมตีและส่งกำลังภาคพื้นมาใกล้เราแทน”ดวงตารองหัวหน้าเป็นประกาย”นี่หมายความว่าพวกมันอยากจับเรา นี่อาจเป็นโอกาสรอดของเรา”
“ถูกต้อง!”หัวหน้าพยักหน้า”หากเราอยากหนีเราต้องควบคุมน่านฟ้าให้ได้ กองยานไม่สามารถพบกับเราได้ ดังนั้นเราจึงต้องยึดยานพวกมัน โอกาสนั้นน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้”
“เศษซากนี่เป็นที่กำบังเราหากเราพุ่งออกไป ยานศัตรูจะถล่มใส่เราแน่ ดังนั้น เราทำได้แรอให้ทหารศัตรูเข้าฐานมาและสู้กับพวกมันตรงๆ เพื่อป้องกันการยิงกันเอง ยานอวกาศจะไม่เปิดฉากยิงแบบสุ่ม เราต้องใช้กลยุทธ์สองง่าม ทีมหนึ่งจะจัดการกับทหารศัตรู อีกทีมจะไปขโมยยาน…”
หัวหน้าหยุดชั่วคราวทุกคนมองหน้ากัน
นี่คือสิ่งที่จะส่งผลต่อการอยู่รอดของพวกเขาจากสิบเส้นทาง มีทางเดียวที่จะทำให้พวกเขารอด
ดังนั้นคำถามคือใครควรยึดยาน?คนที่แข็งแกร่งสุดควรรับงานนี้ และคนที่แข็งแกร่งสุดในทีมก็คือเนโร่ที่มีภูมิหลังยิ่งใหญ่สุด
แต่ถ้าจะขอให้คนเช่นเขายอมรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่นี้และเป็นแค่เด็กหนุ่ม..ทุกคนจึงลังเล
เมื่อเห็นแบบนี้เนโร่ก็กัดฟันและตั้งปณิธาน
“ให้ผมไปไม่มีใครเหมาะไปมากกว่าผมแล้ว”
หัวหน้ามองเขาแต่สุดท้ายก็ไม่พยายามห้ามเขา”เราต้องพึ่งพานายแล้ว เราจะสู้กับศัตรู หาเวลาให้นาย…จำไว้ ชีวิตของทุกคนอยู่ในมือนาย”
“ผมเข้าใจ”
เนโร่สูดหายใจลึกฟื้นความสงบ เขาควบคุมชุดจักรกลเขาเพื่อเข้าสู่โหมดซ่อนตัว เหลือบมองสมาชิกทีมเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็แยกย้าย หายไปในความมืด
หัวหน้าถอนหายใจและมองคนอื่น”พวกนายคงไม่ต้องให้ฉันบอกสินะว่าควรทำอะไรไม่ว่ายังไง ล่อศัตรูทุกคนลงมาให้ได้”
“เข้าใจแล้วครับ”รองหัวหน้ามีสีหน้าซับซ้อนและพยักหน้า
นอกจากเนโร่ทุกคนเข้าใจว่าหัวหน้าพยายามสื่อถึงอะไร ในความเป็นจริง พวกเขามีกันสองแผน หนึ่งคือช่วยให้เนโร่ยึดยานและหนีไปกับเขา
แต่หากมันล้มเหลวพวกเขาก็ต้องใช้อีกแผน..ซึ่งคือการเปลี่ยนตัวเองเป็นนักรบพลีชีพ ให้เนโร่ทิ้งพวกเขาไปและหนีไปลำพัง
มันไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของเนโร่กับผู้บัญชาการกองทัพแต่ทุกคนรู้ว่าอนาคตของเขายากจะเดาได้ มีเพียงการปล่อยให้คนมากความสามารถหลบหนีไปเท่านั้นถึงจะล้างแค้นให้พวกเขาได้ในอนาคต
…
หลังแอบอยู่ในความมืดสักพักความวุ่นวายของเพื่อนร่วมทีมที่สู้กับทหารคุนเด้ก็ดังผ่านอุปกรณ์สื่อสารของเนโร่
ตอนนี้เองเขาไม่ได้อยู่บนสนามรบอีกแต่มาถึงตรงหน้าพื้นที่ถล่ม นำไปสู่พื้นข้างบน เขายังซ่อนตัว ใช้เรดาห์เพื่อจับตำแหน่งยานที่อยู่ใกล้กับเขาสุด
ฝ่ามือเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อขณะที่ลอบปล่อยผู้คุ้มกันลอยมันถูกย้อมด้วยสีดำทอง ดูแตกต่างจากอุปกรณ์อื่นทั้งหมดของเนโร่ หลังปล่อยออกมา มันก็วนรอบหัวเนโร่อย่างฉลาด
“ต้องพึ่งพานายแล้วพี่ชาย”เนโร่ตบผู้คุ้มกันลอย หัวใจเขาสงบลง
“ผ่อนคลายเจ้าหนู พี่ใหญ่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครสามารถรังแกนายได้ทั้งนั้น!’ผู้คุ้มกันลอยตอบ
นี่คือไพ่ตายของเนโร่ผู้คุ้มกันลอยนี้คือของขวัญจากหานเซี่ยวตอนพวกเขาพบกัน
มันคืออุปกรณ์ระดับสูงที่สร้างโดยผู้อยู่เหนือขับเคลื่อนด้วยพลังงานมืด นอกจากนี้ มันยังมีพรของ[พรสวรรค์จักรพรรดิ]และ[การผสานจักรกล]หลังหานเซี่ยวได้รับทักษะ[ประกายไฟชีวิตจักรกล] เขาก็เปลี่ยนมันเป็นสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ ด้วยจิตสำนึกที่เป็นอิสระและมีโอกาสเติบโต เขาจึงตั้งชื่อมันว่า’ผู้พิทักษ์นภา’
ตอนเนโร่ยังเด็กผู้พิทักษ์นภาที่ไม่มีพลังจักรกลก็ยังสามารถสู้กับผู้ใช้พลังระดับCได้
ตอนนี้ด้วยพลังระดับC+ของเนโร่ร่วมกับสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ ผู้พิทักษ์นภาจึงสามารถปล่อยพลังได้มากกว่านั้น ต่อให้เทียบกับผู้ใช้พลังระดับ B เนโร่ก็ไม่มีทางแพ้
เนโร่ไม่เคยนำไพ่ตายเขาออกมาโดยเฉพาะตอนอยู่ในโรงเรียน ต่อให้นักสู้จะชกหน้าเขาจนช้ำ เขาก็ไม่เคยนำเครื่องจักรสังหารนี้ออกมา
ความสามารถต่อสู้จริงเขาไม่เป็นที่รับรู้แม้แต่มีอาที่สนิทกับเขาสุด
ภายในโรงเรียนมีอามักต่อยตีกับเขา แต่เธอไม่รู้ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนหากเขาทุ่มสุดตัว
เมื่อจ้องเรดาห์เนโร่ก็หายใจเข้าออกเพื่อปรับอารมณ์ ช่วยให้พลังงานเขาเติมเต็มทุกเซลล์
“หู่ฉันทำได้…”
เนโร่ไม่ลังเลอีกต่อไปและเปิดใช้งานตัวขับ
ตูม!
ทั้งร่างเขาพุ่งไปข้างหน้าระเบิดผ่านหินตรงทางเข้า ทะยานขึ้นฟ้า!
ยานรบสามลำตั้งปืนและยิงเนโร่
พลังของปืนใหญ่ยานรบร้ายแรงถึงระดับC แต่ผู้พิทักษ์นภาก็สั่น ปล่อยรังสีแสงออกมา ก่อตัวเป็นม่านพลังสีทองรอบเนโร่
บูมบูม บูม!
ปืนใหญั่ท้งหมดระดมยิงไปทั่วบริเวณแต่ม่านพลังแค่แสดงให้เห็นถึงรอยแตกเล็กน้อย ซึ่งสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ มันต้องทนกับการยิงรอบด้าน
ในเวลาเดียวกันยานรบคุนเด้ก็เข้าใจเจตนาของเนโร่ และเปิดใช้ม่านพลัง ป้องกันการเข้าจากด้านนอก
“เปิดทางให้ฉัน!”
ผู้พิทักษ์นภาปล่อยรังสีพลังจักรกลซึ่งก่อตัวเป็นปากกระบอกปืนหกเหลี่ยมอย่างรวดเร็ว ลำแสงสีดำระเบิดออกมา เต็มไปด้วยพลังทะลุทะลวงอันยิ่งใหญ่
ซวบ!
อัตราการยิงน่าเหลือเชื่อและคล้ายกับการกระทำของใครบางคนที่กำลังรีบเข้าห้องน้ำ
ม่านพลังของยานเป้าหมายแตกกระจายและเนโร่ก็คว้าโอกาสดังกล่าวพุ่งเข้าไปในช่องโหว่ที่สร้างขึ้น
ปึกปึก…
บอลบีบอัดถูกโยนออกจากมือเขาและเปลี่ยนเป็นสว่านตัดเลเวอร์ที่มีฐานแม่เหล็กไฟฟ้าพวกมันยึดติดกับยาน ตัดผ่านตัวถังอย่างรวดเร็ว สร้างช่องทางเข้า
เนโร่กระแทกกับยานโดยไม่พูดอะไร เขาโยนทหารจักรกลจำนวนมากออกไป ใช้อาวุธเขา ตัดผ่านสมาชิกยานราวกับกำลังหั่นผัก
เพราะยานนี้คือยานที่ส่งทหารลงไปจับทีมเนโร่พังบนยานจึงไม่พอและนี่ก็ทำให้เนโร่สบายขึ้น
เขายิงไม่ยั้งเนโร่ใช้เวลาไม่นาน ฆ่าจนไปถึงห้องควบคุมหลักและก็นำชิปบุกรุกเสมือนที่ผลิตโดยกองทัพออกมา เขาสอดมันเข้าแกนปัญญาประดิษฐ์ของยาน เขายังไม่ใช่ช่างกลเสมือน แต่กองทัพก็มีการผลิตของเช่นนี้ออกมา
ตอนนี้เองเนโร่พลันเสียหลักเพราะยานเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ครื่น!
ด้านนอกเนโร่เห็นยานอีกสองลำหันมาระดมยิงโดยไม่สนใจชีวิตของพรรคพวกตัวเอง
“อำมหิตมาก”เนโร่เดาะลินแต่ไม่ได้ช้าลงเขาฆ่าไปจนถึงห้องบัญชาการและยึดอำนาจยาน
เขาเทพลังงานส่วนใหญ่ลงม่านพลังของยานควบคุมมันให้พุ่งชนยานที่อยู่ใกล้
ปัง!
ม่านพลังของยานทั้งสองลำชนกันทำให้เกิดประกายไฟเหมือนพลุ ยานอีกลำเสียโมเมนตัม
ไม่ว่ามันจะบังเอิญหรือไม่แต่ทิศทางที่มันกระเด็นไปกลับเป็นทิศที่ยานอีกลำอยู่ ศัตรูทั้งสองชนกันเองและเสียการควบคุมไปชั่วขณะ
เนโร่คว้าโอกาสนี้ขับยานลอดไปด้านล่างยานสองลำ ขนานกับพื้น
“ออกมากันเร็ว!ผมยึดยานได้แล้ว!มาพบกันที่พิกัดที่ผมส่งไปผมจะคุ้มกันให้!”เนโร่ตะโกน
“สวย!”
เพื่อนร่วมทีมเขาอุทานด้วยความดีใจจากนั้นก็ใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งเพื่อต้านทานแรงกดดัน ทำลายวงล้อมของทหารเผ่าคุนเด้ออกไป
ปัง!
วินาทีต่อมาเศษหินก็ระเบิดและสมาชิกทีมก็วิ่งออกมา ด้วยทหารคุนเด้ที่ไล่ตาม
ดวงตาของเนโร่สว่างวาบเขาตะโกน”หัวหน้า อย่าหยุด!”
นี่เป็นการแข่งกับเวลาดังนั้นเนโร่จึงไม่มีเวลาควบคุมยานศัตรูสองลำที่หันปืนมาทางเขา เขาใช้ลำแสงดึงดูดเพื่อดึงสมาชิกทีมเขามา ในเวลาเดียวกันก็ปล่อยป้อมปืนจำนวนมากเพื่อยิงใส่ทหารที่ไล่ตามมา
เนโร่ไม่กล้าชักช้าหลังช่วยทีม เขาก็พุ่งขึ้นฟ้า หนีไปในจักรวาล
ในไม่ช้าสมาชิกที่เหลือก็เข้ามาสมทบกับเขาในห้องบัญชาการ ขยี้หัวเนโร่กันอย่างเมามัน
“เจ้าหนูทำได้ดีมาก!”
“ฮ่าๆเรารอดแล้ว ฉันคิดว่าเราจะตายกันแล้วซะอีก!”
“ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเรา!”
ทุกคนสวมสีหน้ายินดีและชมเนโร่กันไม่หยุด
“อย่าเพิ่งดีใจกันเรายังไม่พ้นอันตราย”แม้หัวหน้าจะพูดแบบนั้น แต่ปากเขาก็ฉีกยิ้มจนถึงหูแล้ว
ยังมียานไล่ตามพวกเขามาก็จริงแต่สถานการณ์ก็ดีขึ้นมาก
หลังเฉลิมฉลองกันสักพักพวกเขาก็ระลึกถึงสหายที่ยังติดกับ และความยินดีก็หายไป
“เรารอดมาได้แต่คนในหน่วยเราที่ถูกล้อมละ?”บางคนถาม
“ไม่มีทางเราไม่สามารถช่วยพวกเขาได้เพราะศัตรูมีเยอะเกินไป หากเราพยายามช่วย เราจะถูกล้อมอีกครั้ง”
หัวหน้าส่ายหัวตอบกลับเขาเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันดี การไปช่วยเหลือนั้นไม่ต่างอะไรกับการส่งตัวเองไปตาย
นี่ควรเป็นเวลาที่ดีสุดสำหรับพวกเขาในการแยกตัวและหนีพวกเขาไม่ควรต่อสู้อีก
ครั้งนี้เนโร่นึกถึงบางสิ่งและหัวใจก็เริ่มเต้นกระหน่ำ
ใช่ฉันไม่รู้ว่าทีมของมีอาเป็นยังไง…
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้เนโร่ก็ไม่สามารถนั่งเฉยได้อีก เขาส่งผ่านการควบคุมยานให้เพื่อนเขาขณะหยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา
เวลาที่เขารอให้สายเชื่อมต่อช่างทรมาน
หัวใจของเนโร่เต็มไปด้วยความกังวลแต่สายก็ยังไม่ถูกรับ เขาโทรหาเพื่อนร่วมทีมมีอาทุกคนแต่ก็ยังไม่มีใครรับ
สายถูกเชื่อมต่อเมื่อมันเป็นคราวของหัวหน้าทีมมีอา
“แค่กแค่ก..เนโร่?พวกนายหนีได้งั้นหรอ?” Aileen-novel
“ใช่แล้วพวกคุณเองก็ถูกซุ่มโจมตีเหมือนกัน?สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?เรามียานอวกาศที่สามารถช่วยพวกคุณได้!”เนโร่พูดรัวเหมือนกระสุน
“อย่า..อย่ามาพวกนายมีโอกาสหนีแล้ว ทั้งทีมฉันถูกจับกันหมดแล้ว และฉันคือคนเดียวที่ยังต่อต้าน ฉันเองก็คงรั้งไว้ได้ไม่นาน พวกนายไม่สามารถช่วยเราได้หรอก รีบหนีไป แค่ก แค่ก…”
ขณะพูดอุปกรณ์สื่อสารก็ถูกตัด
สีหน้าเนโร่ดำมืดเขาเดินไปทางประตูยาน
เมื่อเห็นฉากตรงหน้านี้เพื่อนร่วมเขาก็กระโจนขึ้นมา กดเขาไว้
“เนโร่อย่า”หัวหน้าตะโกน
“ผมต้องช่วยเธอ!”
เนโร่ถูกคน7-8คนกดไว้และก็ไม่สามารถขยับได้เลย แต่ทว่า ดวงตาเขาก็ยังเด็ดเดี่ยว
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยฉันบอกนายแล้ว การไปช่วยพวกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย!”หัวหน้าคำราม
“ผมรู้และผมก็ไม่คิดขอให้พวกคุณมาช่วย!”เนโร่กัดฟัน”นี่คือทางเลือกของผม ผมจะไม่เอาพวกคุณมายุ่งด้วย คุณสามารถขับยานนี้ไปได้และผมจะลงไปคนเดียว อย่าหยุดผม!”
“การลุยเดี่ยวจะยิ่งทำให้มันเป็นไปไม่ได้!”หัวหน้ากดเนโร่ลง
เนโร่ดิ้นรนอยู่สักพักก่อนจะสงบสติลงได้เขานั่งลงกับพื้น เอามือปิดหน้าขณะนิ่งเงียบไป
เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของเนโร่หัวหน้าก็อดถอนหายใจไม่ได้ เขาตบไหล่เนโร่ ไม่ณู้ว่าจะพูดอะไร ทำได้แค่พึมพำด้วยน้ำเสียงหดหู่”เธอแค่ถูกจับ ยังไม่ตาย ยังมีโอกาสที่พวกเธอจะรอด เราสามารถหลบหนีไปได้ก่อนและค่อยคิดหาทางช่วยเธอ”
วินาทีที่เขาพูดเนโร่ก็เงยหน้าขึ้น พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ
“คุณพูดถูกผมใจร้อนเกินไป ขอบคุณที่หยุดผม…ผมไม่สามารถยอมให้มีอาตกอยู่ในมือศัตรูได้ ไม่รู้ว่าพวกมันจะทำอะไรกับเธอ ผมยังมีความหวังสุดท้ายอยู่”
ขณะพูดเนโร่ก็ยืนขึ้น หยิบอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมา สูดหายใจ รวบรวมความกล้าก่อนกดโทรหาหานเซี่ยว
ตอนแรกเขาตัดสินใจจะไม่พึ่งพาหานเซี่ยวเพราะไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก
อุปกรณ์สื่อสารดังสามครั้งช่วงเวลาแต่ละครั้งดูยาวนานมากสำหรับเนโร่ หลังผ่านไปสามครั้ง เนโร่ก็ได้ยินเสียงคุ้นเคย
“โอ้เนโร่ โทรหาฉันทำไม?”ใบหน้าของหานเซี่ยวมีรอยยิ้มเล็กน้อย
“พ่อบุญธรรมผมทำให้คุณผิดหวัง”เนโร่ขยี้ตา”ผมพบกับเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ และหวังให้คุณช่วยผม”
“ว่ามา”หานเซี่ยวตอบกลับ
เนโร่รีบอธิบายสถานการณ์พร้อมลดหัวลงรอคำตอบ
เมื่อเห็นสีหน้าเขาหานเซี่ยวก็ลูบคางด้วยรอยยิ้ม”ฉันปฏิเสธ”
เนโร่แหงนหน้าขึ้นด้วยความตกใจ
“แปลกใจมาก?”หานเซี่ยวยังสวมรอยยิ้ม”ตัวตนของนายนั้นแตกต่างนายไม่ใช่ลูกบุญธรรมฉันอีกต่อไปแล้วแต่เป็นทหารทั่วไป แม้ฉันจะให้การดูแลเป็นพิเศษกับนาย แต่ฉันก็ไม่สามารถดูแลไปได้ตลอด”
“แต่…แต่..”ดวงตาของเนโร่เปลี่ยนเป็นสีแดง
“มันช่วยไม่ได้เมื่อละทิ้งความสัมพันธ์เรา แล้วดูสิ่งนี้จากมุมมองทางธุรกิจ นายจะให้อะไรฉันได้บ้าง?”หานเซี่ยวพูดต่ออย่างไม่แยแส
“ผม..ผมไม่รู้”
“แล้วนายจะคาดหวังให้ฉันช่วยอะไร?”หานเซี่ยวกะพริบตา”ความสัมพันธ์ของฉันกับนายไม่ใช่ของปลอมแต๋ฉันไม่สามารถช่วยนายได้โดยไร้เหตุผล กฏคือกฏ นายต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน หลังละทิ้งตัวตนนายไป นายมีอะไรให้ฉันบ้าง?”
อารมณ์ของเนโร่ยุ่งเหยิง“ผม..ผมไม่มีอะไรให้..”
หานเซี่ยวมองใบหน้าสิ้นหวังของเนโร่”อะไรนะ?นายรู้สึกสิ้นหวังแล้ว?ลองคิดดูสินายไม่ได้แสดงความขอบคุณต่อฉันมานานแค่ไหนแล้ว?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ร่างของเนโร่ก็สั่นสะท้าน เขาลดหัวลง
“ผมขอโทษ..ผมขอร้องคุณ..”
“ขอฉันถามนายอีกครั้งนายรู้สึกสิ้นหวังแล้วหรือยัง?”หานเซี่ยวหรี่ตา ย้ำคำพูด
เนโร่เงียบไปนานก่อนยกหัวขึ้นปากเขามีเลือดไหลเพราะกัดปากตัวเอง และดวงตาเขาก็แดงก่ำ จ้องหานเซี่ยวพร้อมพยักหน้า
“ดีจำความรู้สึกนี้ไว้และอย่าได้สัมผัสกับมันอีก”หานเซี่ยวยืดตัวก่อนหัวเราะ”ใจเย็นๆ ฉันจะยอมรับคำขอนายในครั้งนี้และช่วยแฟนตัวน้อยของนายเอง”
อารมณ์ของเนโร่ดูเหมือนจะดีขึ้นเขาจ้องมองด้วยความตกตะลึงสักพักก่อนฟื้นคืนจิตวิญญาณ จับอุปกรณ์สื่อสารแน่นด้วยมือสองข้าง
“ขอบคุณ..ขอบคุณครับ..”
“อย่ารีบดีใจไปฉันไม่เคยทำฟรีๆ”หานเซี่ยวกล่าวต่อ”นายไม่ณู้ว่านายสามารถให้อะไรฉันได้ แต่ในความเป็นจริง นายไม่ได้ไร้ค่า อย่างน้อย นายก็มีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่ง”
“นี่หมายความว่ายังไงครับ?”เนโร่ไม่เข้าใจ
“นายไม่ต้องเข้าใจมันตอนนี้และแค่ต้องพูดว่านายจะยอมรับหรือปฏิเสธมัน”หานเซี่ยวพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม
เนโร่ยังงุนงงแต่เขาไม่มีทางเลือก เขาทำได้เพียงกัดฟันและพยักหน้า
“ผมตกลงได้โปรดช่วยผมด้วย!”
ในเวลาเดียวกันหานเซี่ยวก็ได้รับการแจ้งเตือนบนหน้าต่างสถานะขณะนั่งอยู่ในวังแบล็คสตาร์
ท่านได้กระต้นภารกิจตัวละครพิเศษ: คำขอของเนโร่!
คำแนะนำภารกิจ: เนโร่ตกลงทำธุรกรรมกับท่านและเต็มใจใช้พรสวรรค์กับความสามารถเขาเพื่อแลกกับความช่วยเหลือของท่าน
ข้อกำหนดภารกิจ: ช่วยมีอา โมเร็ตโต้
รางวัล: เลือกหนึ่งในความสามารถหรือพรสวรรค์ของเนโร่