The Legendary Mechanic - ตอนที่ 978 ไร้ซึ่งหนทาง
ข้อมูลของหานเซี่ยวได้ทำลายหมอกสงครามให้จักรวรรดิและพวกเขาก็ข้ามผ่านทั้งอาณาเขตเผ่าคุนเด้ในเวลาแค่เดือนเดียว
กองทัพแบ่งหน้าที่กันขัดขวางกองยานหลักเผ่าคุนเด้จากทิศต่างๆ เปิดฉากสงครามในจักรวาล
ภายใต้พลังยิงของจักรวรรดิเผ่าคุนเด้จึงเสียยานรบจำนวนมากไป
ในระบบดาวหนึ่งกองยานจักรวรรดิกำลังสู้กับหนึ่งในกองยานเผ่าคุนเด้ ศัตรูอยู่ในสภาพแพ้พ่าย ถูกเข่นฆ่าอย่างไร้ปราณี ยานเผ่าคุนเด้เปลี่ยนเป็นพลุไฟไปทีละลำ
ยานหลักของศัตรูถูกล้อมด้วยอาวุธของยานรบจักรวรรดินับไม่ถ้วนที่เล็งใส่มัน เมื่อพวกเขาทำการเคลื่อนไหวใดๆ จักรวรรดิจะยิงทันที เหตุผลที่พวกเขาไม่ทำเช่นนั้นเพราะพวกเขาอยากจับเป็น
ยานอวกาศลำเล็กบินออกจากกองยานจักรวรรดิบรรทุกเจ้าหน้าที่จักรวรรดิที่รับผิดชอบการยึดยานหลัก
ศัตรูลบม่านพลังราวกับยอมจำนน ยานอวกาศลำเล็กจึงเข้าใกล้อย่างราบรื่นและเทียบท่ากับยานหลัก
หวือ!
ประตูหลักของยานหลักยกขึ้นเผยให้เห็นชาวจักรวรรดิคริมสันผิวซีด มันคือกอดด์
เหล่าผู้ช่วยของเจ้าหน้าที่จักรวรรดิต่างๆก็มีงานสำคัญบางคนเป็นมากกว่าเลขา บางคนร่วมสงครามด้วย และกอดด์ก็คืออย่างหลัง
ด้านหน้าพวกเขาคือทหารเผ่าคุนเด้จำนวนมากล้อมพวกเขาไว้ขณะจับอาวุธแน่น ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
กอดด์กวาดตามองอย่างไม่แยแสเอื้อมมือไปปรับตัวแปลภาษาในหูก่อนพูด
“ใครคือผู้บัญชาการ?ก้าวออกมา”
ทหารคุนเด้ตกอยู่ในความวุ่นวายและหนึ่งในนั้นที่แต่งตัวหรูหราสุดก็ก้าวออกมา”ผู้รุกรานทำไมแกถึงเข้าใจภาษาเรา?”
ทั้งสองฝ่ายสู้กันมาตั้งแต่ต้นและไม่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันเลยสำหรับเจ้าหน้าที่เผ่าคุนเด้ นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาได้สื่อสารกับอีกฝ่าย พวกเขาจึงแปลกใจที่อีกฝ่ายรู้ภาษาพวกเขา
“มันก็แค่เทคโนโลยีที่ไม่สำคัญ”กอดด์พูดอย่างสงบ
ข้อมูลที่หานเซี่ยวส่งให้จักรวรรดินั้นครบชุดยังรวมถึงภาษา ดังนั้น จักรวรรดิจึงไม่ต้องนั่งถอดรหัสภาษาพวกเขา
ผู้บัญชาการเผ่าคุนเด้ไม่ถามต่อ“โปรดหยุดการฆ่าพรรคพวกเรา เรายอมจำนนแล้ว”
“ได้ขอแค่พวกแกยอมจำนนและส่งมอบการบัญชาการกองยานมา เราจะหยุดโจมตี”
“ดีงั้นก็ตามฉันมา”
ผู้บัญชาการเผ่าคุนเด้หันหลังและคนของเขาก็แหวกทางให้เขาเดินผ่าน กอดด์มองตาม รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนมุมปากเขาขณะเดินตามไป
ตลอดทางเดินบรรยากาศตึงเครียดมาก และไม่มีใครส่งเสียงอะไร
หลังเดินไปสักพักกอดด์ก็พูดขึ้น”หลังพาเราไปถึงที่ พวกแกก็คงเตรียมการซุ่มโจมตีพร้อมแล้วสินะ?อย่าให้ฉันต้องรอนานละ”
เมื่อประโยคนี้ดังขึ้นปู้บัญชาการก็ชะงักฝีเท้า หันหัวกลับมามองด้วยความตกใจ
รู้ตัวแล้ว?!
แต่ในเมื่อเขารู้แล้วทำไมเขาถึงยังสงบอยู่ได้อีก?!
ในเมื่อรู้แล้วแต่พวกเขาก็มาไกลเกินกว่าจะถอย น้ำเสียงของผู้บัญชาการแข็งกร้าวขึ้น”หลังสังการกองทัพฉัน แกยังอยากให้ฉันยอมจำนนอีก?ฝันไปเถอะ!มาตายไปด้วยกัน!”
สิ้นเสียงเขาการสั่นสะเทือนอย่างแรงก็มาจากด้านล่างพวกเขา เมื่อกอดด์ก้มอง เขาก็เห็นแผ่นโลหะผสมพองขึ้น และแสงสีฟ้าพราวก็ส่องผ่านรอยแตก
“วางพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มไว้บนยานตัวเองมันดูเหมือนพวกแกจะคิดพลีชีพ..”
ก่อนที่กอดด์จะพูดจบทั่วยานหลักก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
บูม!
วินาทีต่อมาพลังงานไซโอนิคก็ระเบิด กลืนกินร่างของทุกคน รวมถึงกอดด์และผู้บัญชาการเผ่าคุนเด้!
ในเวลาเดียวกันกองยานจักรวรรดิที่ประจำการอยู่ด้านนอกก็ค้นพบความผิดปกติและเห็นยานหลักศัตรูที่พวกเขาล้อมระเบิด เปลี่ยนเป็นบอลพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มที่ขยายตัว มวลพลังงานพุ่งเข้าหากองยานจักรวรรดิและนี่ก็คือแผนของผู้บัญชาการเผ่าคุนเด้ จุดระเบิดและฝังกองยานจักรวรรดิไปกับเขา!
ภายในยานหลักผู้บัญชาการทางฝั่งจักรวรรดิแค่นเสียงเย็น
“พวกมันตัดสินใจพลีชีพจริงๆหน่วยรับมือไซโอนิค ลงมือได้!”
เมื่อออกคำสั่งหนึง่ในยานก็แยกตัวจากกองยานพวกเขา จากส่วนหัวของยาน มีอุปกรณ์ทรงกลมยื่นออกมา ซึ่งสั่นสะเทือนเล็กน้อย สร้างเป็นฟองน้ำที่มองไม่เห็น ปกคลุมบอลพลังงานไซโอนิคไว้ สามารถมองเห็นความผันผวนได้ในนั้น
จักรวรรดิได้เตรียมการมานานแล้วสำหรับกลยุทธ์เช่นนี้อุปกรณ์นี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับมลพิษที่เกิดจากพลังงานไซโอนิค มันจะห่อหุ้มบอลพลังงานไซโอนิคไว้ และมวลพลังงานที่เพิ่งก่อตัวขึ้นก็ยังถือว่าเล็กและสามารถจัดการได้ง่าย
การขยายของกลุ่มพลังงานชะลอตัวลงและค่อยๆหดเข้าด้านในแทนจะขยาย
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลานานกว่าสิบนาทีและกลุ่มพลังงานไซโอนิคก็หดจากขนาดเท่ายานรบเป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสอองเมตรและยังคงหดลงเรื่อยๆ
วิธีที่ใช้กันทั่วไปเพื่อควบคุมมลพิษพลังงานไซโอนิคคือการใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อบีบอัดปริมาตรมันเพิ่มความหนาแน่นพลังงานมันจนกระทั่วมันเปลี่ยนเป็นเมล็ดพลังงาน ก่อนจะทำให้พลังงานนี้เสถียร วิธีนี้ถือว่าค่อนข้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีผลข้างเคียงน้อยมาก แต่ปัญหาเดียวคือมันใช้เวลานานและไม่สามารถใช้ได้หากพลังงานขยายตัวไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว
ตอนนี้เองเงาร่างหนึ่งก้าวออกจากกลุ่มพลังงานไซโอนิค ซึ่งเป็นกอดด์ ไม่เพียงเขาจะไร้บาดแผล แต่ทรงผมเขาก็ยังเหมือนเดิม เขายังแบกผู้บัญชาการเผ่าคุนเด้ออกมาด้วย
ทั้งยานหลักถูกกลืนกินด้วยพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มและมีเพียงสองคนที่ยังรอด
“แก…แก”ผู้บัญชาการเผ่าคุนเด้จ้องกอดด์ด้วยความกลัว
เขาเตรียมใจที่จะตายไปพร้อมศัตรูแล้วแต่ตอนนี้ เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตาเขาเห็น
กอดด์มองเขาก่อนจะทำให้เขาหมดสติ ยื่นมือไปทางกลุ่มพลังงาน
หวือ
ร่องรอยพลังงานไซโอนิคที่เคลื่อนไหวสามารถมองเห็นได้รอบๆขณะที่กลุ่มพลังงานได้เปลี่ยนเป็นขนาดเท่าเมล็ดข้าว
นี่คือเมล็ดพลังงานไซโอนิคคล้ายกับอัญมณีสีฟ้าสด มันลอยอยู่บนนิ้วของกอดด์ ย้อมนิ้วและใบหน้าเขาด้วยแสงสีฟ้า
แม้จะถือแหล่งพลังงานไม่เสถียรไว้ในมือกอดด์ก็ยังสวมสีหน้าสงบนิ่ง เขาพลิกมือเขา นำอุปกรณ์กักกันออกมาก่อนยัดเมล็ดพลังงานลงไป
จากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณให้กองยานขอให้เพื่อนเขามานำอุปกรณ์ที่กักเก็บพลังงานไซโอนิคไปก่อนกลับไปยานหลักพร้อมผู้บัญชาการเผ่าคุนเด้
“ทำได้ดีมากผมจะบันทึกความดีความชอบครั้งนี้ไว้” ไอรีนโนเวล
ผู้บัญชาการจักรวรรดิต้อนรับกอดด์กลับเป็นการส่วนตัวและตบบ่าเขามันเป็นเพราะความสามารถนี้ของกอดด์ที่ทำให้หลายคนกล้าส่งเขาขึ้นยานศัตรู
พลังงานไซโอนิคแรกเริ่มคือพลังงานที่อันตรายมากแม้แต่ผู้อยู่เหนือก็ยังขยาด แต่ความสามารถเอสเปอร์มีความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัด และความสามารถหายากบางอันก็ช่วยให้ผู้ใช้เอาชีวิตรอดภายในพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มได้
ความสามารถของกอดด์คือหนึ่งในนั้นและความหมายเบื้องหลังมันก็พิเศษมาก
ก่อนกอดด์จะปรากฏทั้งจักรวาลต่างคาดเดาถึงการดำรงอยู่ของความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูงเช่นนั้นไว้ แต่ก็ไม่เคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น กอดด์อาจเป็นคนเดียวที่ถูกพบตั้งแต่ยุคโบราณ หรืออย่างน้อยความสามารถเขาก็คล้ายกับความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูงนี้สุด
บนผิวเผินเขาก็แค่ผู้ใช้พลังจากจักรวรรดิที่เพิ่งเป็นภัยพิบัติ แต่เนื่องจากพลังแสนพิเศษของเขา เขาจึงได้รับความสนใจมากมายและกลายเป็นผู้ใช้พลังคนสำคัญ จักรวรรดิตั้งเขาให้เป็นเมล็ดพันธุ์ผู้อยู่เหนือและหวังเขาไว้สูงมาก
เมื่อได้ยินคำชมกอดด์ก็ยิ้มเล็กน้อย ดวงตาเขาลึกล้ำอย่างยิ่ง ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
…
จักรวรดิเริ่มทำสงครามในหลายแนวรบเข้าสู่การต่อสู้เต็มที่
กองทัพเผ่าคุนเด้แพ้เรื่อยๆการรุกเต็มรูปแบบของจักรวรรดิทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า
“ทุกคนเรากำลังแพ้สงครามนี้”
ในห้องประชุมของยานหลักเผ่าคุนเด้ผู้นำเผ่าวางฝ่ามือไว้บนโต๊ะ เขาเหลือบมองทุกคนอย่าเย็นชา
“เป็นไปตามคาดแต่แค่ว่ามันหลุดออกจากแผนเรา”หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าว”กองยานเรา ซึ่งซ่อนในตำแหน่งต่างๆล้วนถูกโจมตีโดยศัตรู นี่แปลกมาก ราวกับศัตรูดูเหมือนจะรู้พิกัดเรา”
กลยุทธ์การต่อสู้ของเผ่าคุนเด้คือการล่อศัตรูให้เข้าลึกในดินแดนพวกเขาอย่างช้าๆนำพวกเขาเข้าไปก่อนใช้กองยานหลักเพื่อโจมตีประตูดาว ตัดเส้นทางหนี พร้อมกับใช้แผนผืนดินมอดไหม้เพื่อกำจัดศัตรูให้ได้มากที่สุด
แต่ทว่าการโจมตีที่แม่นยำของจักรวรรดิคริมสันก็ได้ขัดขวางกลยุทธ์พวกเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้พวกเขาสงสัยว่าข้อมูลพวกเขาอาจรั่วไหลออกไป
“ไม่มีทางที่เราจะรู้ว่าศัตรูใช้วิธีตรวจจับพิเศษเพื่อระบุตำแหน่งกองยานหลักลับเราหรือขโมยข้อมูลภายในเราไปหากมันเป็นอย่างแรก มันยังไม่เป็นไร แต่หากเป็นอย่างหลัง สถานการณ์เราก็ไม่ดี ศัตรูน่าจะรู้ถึงแผนผืนดินมอดไหม้เรา และพวกมันก็อาจมีพิกัดของกองทัพเราทั้งหมด รวมถึงตำแหน่งเราด้วย”หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
ผู้นำเผ่าคุนเด้กล่าว’ไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด เรายังไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีเครือข่ายควอนตัมดี และเทคโนโลยีของศัตรูก็เหนือกว่าเรา เราควรล้มเลิกใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่สะดวกสบายนี้ชั่วคราว”
“แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะยิ่ง…”
“ลืมมันซะตอนนี้ภาพรวมได้หายไปแล้ว มันถึงเวลาที่เราต้องอพยพและภาวนาให้แผนผืนดินมอดไหม้ได้ผล”ผู้นำพูดขึ้น”ปัญหายังอยู่ ศัตรูมีข้อมูลเกี่ยวกับแผนผืนดินมอดไหม้เราไหม?หากมี เราก็ต้องมีแผนรับมือ”
“เราจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร?”
“กองทัพได้ดำเนินการตามแผนผืนดินมอดไหม้ไปนานแล้วต่อให้ศัตรูจะรู้พิกัด มันก็ต้องใช้เวลา ดังนั้น ตราบเท่าที่เราตัดการเชื่อมต่อระหว่างพวกมันกับศูนย์ใหญ่ได้ ปิดเครือข่ายควอนตัม เราก็จะตัดช่องทางข้อมูลทั้งหมดได้ ดังนั้นศัตรูก็จะเสียพิกัดเราไป”
เมื่อได้ยินแบบนี้ทุกคนก็พยักหน้า
นี่คือวิธีที่จะเปลี่ยนกองทหารให้เป็นกองยานที่ตาบอดหูหนวก
“ในเมื่อศัตรูรู้แผนเราพวกมันก็ต้องเตรียมการรับมือ”บางคนพูดขึ้น”ต่อให้พวกมันไม่ณู้ตำแหน่งของระเบิด พวกมันก็สามารถระบุได้ด้วยการสังเกตและจะจัดการได้อย่างรวดเร็ว แบบนี้ ผลกระทบจะลดลงมาก”
“ถูกต้องกลยุทธ์เราจะถือว่าล้มเหลว”น้ำเสียงผู้นำดูเด็ดขาด’แต่เราต้องทิ้งทรัพยากรไว้ให้ศัตรูน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ไม่มีใครคัดค้าน
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครค้านผู้นำจึงเปิดหน้าจอเสมือนของห้องประชุม ป้อนสิทธิ์ตัวเองก่อนเข้าถึงหน้าต่างลับซึ่งจำบ่งชี้ตำแหน่งและสถานะของแผนผืนดินมอดไหม้ทั้งหมดตามเวลาจริง
เมื่อมาถึงจุดนี้หน้าต่างสถานะแสดงให้เห็นว่ากองกำลังทั้งหมดกำลังเร่งไปยังจุดหมายปลายทาง การดำเนินการดูปกติ
เมื่อยืนยันได้ว่าแผนยังดำเนินตามปกติและไม่ถูกทำลายทุกคนก็โล่งใจ นี่คือความหวังสุดท้ายของพวกเขา
ทุกคนรีบติดต่อตัวแทนของแผนผืนดินมอดไหม้และในไม่ช้าร่างเขาก็ปรากฏบนจอเสมือน
“มีคำสั่งใหม่เปลี่ยนตำแหน่งระเบิดพลังงานไซโอนิคทั้งหมดและตัดเครือข่ายควอนตัม ปิดช่องทางข้อมูลทั้งหมด และเชื่อมต่อใหม่เพื่อรายงานผลลัพธ์ต้องเปลี่ยนตำแหน่งเสร็จแล้ว”
“รับทราบ”
ด้วยคำสั่งเล็กน้อยผู้นำก็ตัดสาย
ในเวลาไม่ถึงนาทีหน้าจอก็ค่อยๆดับไป
เมื่อเห็นแบบนี้หนึ่งในเจ้าหน้าที่ก็ถอนหายใจ”แม้นี่จะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีสุด อย่างน้อยมันก็รัดกุมกว่า”
ผู้นำเผ่าพยักหน้าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ในเมื่อมันถูกปรับใช้แล้วเราก็สามารถเริ่มการอพยพได้ จำไว้ว่าให้นำเชลยผู้ใช้พลังทั้งหมดไปกับเราด้วย”
เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้เผ่าคุนเด้ก็ตัดสินใจเรียกกองทัพพวกเขากลับและดำเนินการอพยพ
พวกเขาจับผุ้ใช้พลังได้หลายคนและวางแผนทำการทดลองกับพวกเขา
…
ในเวลาเดียวกันภายในหนึ่งในพรมแดนของเผ่าคุนเด้ หนึ่งในกองยานของแผนผืนดินมอดไหม้ถูกโจมตีโดยกองยานจักรวรรดิ
ยานรบเผ่าคุนเด้ถูกบุกและผู้ใช้พลังของจักรวรรดิก็กวาดล้างทหารภายในยานจนหมด
ห้องบัญชาการส่งคำขอสื่อสารไปยังศูนย์ใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ทว่า การเชื่อมต่อทั้งหมดก็ล้มเหลว
“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมเบื้องบนถึงไม่รับสายฉุกเฉิน?!’กัปตันคำราม
ตอนนี้เองลำแสงเย็นก็เจาะผ่านประตูเหล็กของห้องบัญชาการ ทะลุร่างกัปตัน
หวืด!
“อึก!”กัปตันร้องและล้มลงเลือดสีฟ้าไหลออกมา
เจ้าหน้าที่จักรวรรดิที่ถือมีดเดินเข้ามาเหลือบมองสายสื่อสารบนจอเสมือน ยิ้ม ปิดมันก่อนหันมามองกัปตัน
“อย่าเสียแรงเลยแกไม่สามารถติดต่อใครได้หรอก”
เมื่อได้ยินแบบนั้นดวงตาของกัปตันก็เบิกกว้าง”อย่าบอกนะว่า…”
ซวบ!
มีดถูกสะบัดและหัวกุ้งก็ลอยขึ้นอากาศเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว
เขาเก็บดาบหมุนตัวเดินออกไปโดยไม่คิดอธิบายแผนให้ศัตรูฟัง นี่คือหนึ่งในบทเรียนที่ทหารทุกคนต้องผ่าน
ในความเป็นจริงหานเซี่ยวไม่ได้แค่ส่งข่าวให้ยังช่วยเหลือ ในเมื่อเขาตัดสินในช่วยแล้ว เขาจึงส่งมอบโปรแกรมช่องโหว่ที่เขาทิ้งไว้ในเครือข่ายควอนตัมของเผ่าคุนเด้ไปด้วย
ระบบควบคุมทั้งหมดของเผ่าคุนเด้ถูกลดทอนให้เห็นแค่ของเล่นต่อจักรวรรดิที่สามารถจัดการได้ตามใจชอบ
ภาพรวมทั้งหมดที่เห็นโดยศูนย์ใหญ่เผ่าคุนเด้รวมถึงเป้าหมายสื่อสารพวกเขาล้วนเป็นภาพปลอมที่จักรวรรดิสร้างขึ้น
เบื้องบนเผ่าคุนเด้คิดว่าทัพพวกเขาได้รับคำสั่งพวกเขาแล้วแต่จริงๆแล้ว ไม่มีใครได้รับคำสั่ง
เผ่าคุนเด้กลายเป็นคนหูหนวกและตาบอดไปแล้วเข้าใจผิดคิดว่าสถานการณ์กำลังเป็นไปตามแผน นี่แค่ภาพลวงตาที่จักรวรรดิสร้างขึ้น ในเมื่อระบบพวกเขาเป็นอัมพาต กองทัพจึงไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้เลยและก็ค่อยๆถูกจักรวรรดิกัดกิน
โดยปราศจากกำลังสนับสนุนเผ่าคุนเด้ก็คล้ายกับอารยธรรมกลุ่มดาวที่พิการ เทคโนโลยีเครือข่ายควอนตัมของพวกเขาไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าหานเซี่ยว หากพวกเขาคืออารยธรรมกลุ่มดาวจริงๆในจักรวาลที่ได้รับการสำรวจ หานเซี่ยวคงไม่สามารถควบคุมเครือข่ายควอนตัมได้ง่ายขนาดนี้
ช่างกลเสมือนถือเป็นอาวุธเชิงกลยุทธ์ในแผนกข่าวกรองอยู่แล้วและหานเซี่ยวก็ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอาณาจักรผู้อยู่เหนือ นอกจากนี้ ด้วยสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ บทบาทเขาในสงครามจึงแซงล้ำหน้าสายอาชีพอื่น
มันมากพอจะปล่อยให้ศัตรูตายโดยไม่รู้ว่าพวกเขาตายได้ยังไง
…
ภายในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวกองยานอพยพบรรทุกพลเรือนทั้งหมดของเผ่าคุนเด้ได้กลับลำโดยไม่มีใครรู้ตัว กลับไปตามเส้นทางเดิม
ไม่มีการแสดงบนแผนที่ดาวดังนั้นทุกคนบนยานจึงไม่รู้
จักรวรรดิไม่คิดปล่อยศัตรูไปและอยากจับทั้งหมด
เผ่าคุนเด้ไม่มีทางรอดพ้นหายนะไปได้เลย