The Legendary Mechanic - ตอนที่ 980 ยอมจำนน
“ฉันให้พวกเขาออกไปแล้วไม่ใช่หรือไง?ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่?ใครบอกให้พวกเขากลับมา?!”
ผู้นำเผ่าดีดตัวขึ้นด้วยความโกรธ
เบื้องบนคนอื่นเองก็ไม่สามารถนั่งเฉยได้และเต็มไปด้วยความกังวลใจ สถานการณ์หลุดออกจากการควบคุมของพวกเขาไปแล้ว
กองยานพลเรือนคือความหวังสุดท้ายของเผ่าคุนเด้พวกเขาและเป็นจุดอ่อนพวกเขาด้วย พวกเขากล้าทำสงครามในบ้านเกิดพวกเขาเพราะพวกเขาส่งสมาชิกทั้งหมดในเผ่าออกไปแล้ว เมื่อเห็นสมาชิกเผ่าหวกลับมา เบื้องบนจึงลุกลี้ลุกลน
บูซ!
ตอนนี้เอง หน้าจอโฮโลแกรมได้ปรากฏตรงกลางโต๊ะประชุม และมีชายสวมชุดทหารปรากฏตรงหน้าพวกเขา
สายตาของทุกคนมองไปที่ร่างนั้นและตกใจ
ร่างนี้กระแอมลำคอ”ขอให้ฉันได้แนะนำตัวเอง ฉันคือทาราคอฟ แม่ทัพแห่งจักรวรรดิคริมสัน ฉันคือคนที่ต่อสู้กับพวกแก”
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เดิมพวกเขาคิดว่าศัตรูได้เจาะเข้าช่องทางสื่อสารพวกเขา แต่มันดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างนั้น ศัตรูสามารถโทรหาพวกเขาและอาจควบคุมเครือข่ายทั้งหมดของพวกเขาไว้แล้ว
นี่เป็นสถานที่เลวร้ายสุดและทุกคนก็เลื่อนลอย
ทาราคอฟกวาดตามองทุกคน”ข้อมูลของพวกแกถูกทางฝั่งฉันยึดไว้หมดแล้ว เราได้ตัดการสื่อสารของพวกแกกับโลกภายนอกจนหมด รายงานข้อมูลทั้งหมดที่พวกแกได้รับถูกปลอมแปลงโดยเราทั้งสิ้น ในความเป็นจริงกองทัพพวกแกเหลือรอดแค่ไม่ถึง 10 %”“อย่าเพ้อฝันอีกต่อไป แผ่นผืนดินมอดไหม้ของแกถูกเรามองออกนานแล้ว และเราก็ได้ทำการโจมตีไปหลายวันแล้ว แกไม่มีพลังพอจะสู้กลับอีก”
คำพูดเหล่านี้ได้บดขยี้ความเชื่อมั่นของพวกเบื้องบนและพวกเขาก็ทรุดลงบนเก้าอี้ด้วยความสับสน
“แก แก….”ผู้นำเผ่าคุนเด้เริ่มตัวสั่น
ทาราคอฟไม่แม้แต่จะกะพริบา”ในนามของจักรวรรดิคริมสัน ฉันกำลังเริ่มการเจรจาขั้นสุดท้ายกับพวกแก อาวุธไซโอนิคระยะไกลของเราได้เล็งกองยานพลเรือนของพวกแกไว้แล้ว ฉันให้เวลาพวกแกพิจารณาห้านาที หากแกเลือกสู้กลับ เผ่าแกจะถูกกวาดล้าง หากพยายามติดต่อกองยานพลเรือน เผ่าแกจะถูกกวาดล้าง หากแกตัดขาดจากเครือข่ายควอนตัม เผ่าแกจะถูกกวาดล้าง หากแกไม่ให้คำตอบเราในห้านาที เผ่าแกจะถูกกวาดล้าง ฉันให้สัญญาว่าเราจะไม่เปิดฉากยิงหากแกเลือกยอมจำนนและปลดอาวุธตัวเอง”
เขาพูดราวกับเขากำลังออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ การกวาดล้างทั้งเผ่าพันธุ์คือสิ่งที่ผู้บัญชาการมากความสามารถแบบเขาไม่ลังเลที่จะกระทำเลย
คำพูดที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดดังในหูเหล่าผู้นำเผ่าคุนเด้
จักรวรรดิได้ลอบเรียกกองยานพลเรือนเหล่านี้กลับมาเพื่อสลายความตั้งใจต่อสู้ของศัตรู เมื่อการอยู่รอดของทั้งเผ่าพันธุ์ตกอยู่ในอันตราย ศัตรูย่อมไม่คิดสู้
เมื่อเทียบกับยุคสำรวจ สามอารยธรรมจักรวาลจะไม่สังหารพลเรือนเล่นอีก หากไม่ พวกเขาคงไม่ให้ทางเลือกกับอีกฝ่ยา
หลังพูดคำเหล่านั้น ทาราคอฟก็หายไป เวลานับถอยหลังปรากฏบนจอ
“เราจบสิ้นแล้ว!”“เราไม่ควรเริ่มสงครามเลย!ดูสิ่งที่เราทำลงไปสิ!”
เมื่อเห็นเวลานับถอยหลัง หลายคนก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
หลายคนได้พิจารณาถึงสถานการ์ดังกล่าวไว้แล้วแต่ก็ยังยึดติดกับความหวังในใจก่อนหน้านี้
เบื้องบนในห้องประชุมได้สูญเสียความสงบไปแล้ว มันตกอยู่ในความวุ่นวาย จากนั้นผู้นำถึงพูดขึ้น”เราไม่มีความหวังอีกแล้ว ยอมจำนนเสียเถอะ”
“ตอนนี้แกเริ่มรู้วิธียอมจำนนแล้ว?ก่อนหน้านี้แกทำอะไรลงไป!?”ผู้คนเริ่มก่นด่า”หากมันไม่ใช่เพราะความโง่เขลาและหน้าด้านของแก เราจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้งั้นหรอ?!”
“ถูกต้อง!หากเราไม่เลือกสู้แต่หลบหนีแทน เราคงไม่อยู่ในสภาพเช่นนี้!”“ถูกต้อง มันเป็นเพราะความผิดพลาดของแก!แกคือคนบาปของเผ่าพันธุ์เรา!”
เมื่อเห็นพวกระดับสูงเหล่านี้ที่ปกติมักเคารพกลับระบายความโกรธใส่เขา ผู้นำเผ่าคุนเด้ก็หัวเราะเยาะตัวเอง
คนที่เลือกหลบหนีมักจะเป็นคนที่ฉลาดสุด
ไม่เพียงพวกเขาต้องยอมละทิ้งบ้านเกิดตัวเองให้ผู้รุกราน พวกเขายังต้องหนีไปให้ไกลสุดจักรวาล
ทั้งเผ่าของพวกเขาถูกบังคับให้ทิ้งบ้านเกิด และทุกคนก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความกลัว หากพวกเขาเลือกหลบหนีโดยไม่สู้ ความภาคภูมิใจของเผ่าคงถูกทำลาย และมันก็ยากที่จะสร้างขึ้นใหม่ หากพวกเขาฆ่าศัตรูได้มากพอ เผ่าพันธุ์พวกเขาอาจหลุดออกจากบ่อโคลนเหล่านั้นได้บ้าง แบบนี้ ยังพอมีความเป็นไปได้ในการต้อนรับยุคทอง น่าเสียดาย…
ท้ายที่สุด เขาก็เลือกไม่พูดอะไร
…
สงครามสิ้นสุดลงด้วยการยอมจำนนของเผ่าคุนเด้ ตั้งแต่ต้นจนจบ มันกินเวลาแค่สามถึงสี่เดือน
เทียบกับชีวิตก่อนหน้าเขา จักรวรรดิคริมสันได้ยุติสงครามนี้ในเวลาไม่ถึงครึ่งของเดิม
เหตุผลนั่นเพราะตัวเขาเอง พิกัดที่เขามอบให้สามารถลดความพยายามที่จักรวรรดิต้องใช้ไปได้มาก การยึดเครือข่ายควอนตัมศัตรูก็เป็นผลให้ศัตรูพ่ายแพ้ย่อยยับ ปัจจัยทั้งสองนี้ได้เร่งกระบวนการของสงคราม
ในชีวิตก่อนหน้าเขา เผ่าคุนเด้สามารถสร้างปัญหาให้จักรวรรดิได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของหานเซี่ยว เผ่าคุนเด้จึงไม่ได้สร้างปัญหาใดๆ พวกเขาถูกบดขยี้ภายในอำนาจจักรวรรดิและไม่มีความสามารถจะสู้กลับเลย
จากนั้นจักรวรรดิก็เข้ายึดกองยานที่เหลือของเผ่าคุนเด้
ช่างหานซึ่งหลบอยู่ห่างๆได้รับการแจ้งเตือนบนหน้าต่างสถานะ
[โลกริบหรี่-สงครามเผ่าคุนเด้]สำเร็จ!
คะแนนภารกิจ : สมบูรณ์แบบ
ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 4500 ล้าน x4รางวัลสุ่ม +7500แต้มสะสมจักรวรรดิและ1แต้มตำนาน
แต้มตำนานกลุ่มดาว(กลุ่มดาวแสงธุลี) : ผู้มีส่วนร่วมสงครามเผ่าคุนเด้ ท่านเข้าร่วมในสงครามกับเผ่าคุนเด้และทำผลงานไว้มาก
ฉายา[ผู้ทำลายอารยธรรม]เปิดใช้งาน
ข้อกำหนดการเปิดใช้งานฉายา : เข้าร่วมภารกิจสงครามกาแล็กซี่ขนาดใหญ่สามแห่งที่เกี่ยวกับความเป็นความตายของทั้งอารยธรรม(ระดับระบบดาวและเหนือกว่านั้น)และช่วกองกำลังท่านให้เอาชนะศัตรูได้ คะแนนภารกิจต้องไม่น้อยไปกว่า’ยอดเยี่ยม’ ความคืบหน้าปัจจุบัน : 1/3
+30ความโปรดปรานของทาราคอฟ +5ความโปรดปรานของเออแรนเรล +10ความโปรดปรานของเทนนี่ อเมนอส
การสร้างดันเจี้ยน : [สงครามเผ่าคุนเด้]
“ในที่สุดสงครามก็จบ ประสิทธิภาพสูงเลยทีเดียว”ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
แม้เขาจะไม่ได้เข้าร่วมสงครามเอง ข้อมูลที่เขาจัดให้ก็ทำให้เขาได้รับคะแนนภารกิจ’สมบูรณ์’
รางวัลไม่เลวเช่นกัน แม้มันจะไม่สามารถเทียบได้กับภารกิจบอสผู้อยู่เหนือ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ผู้เล่นจะทำภารกิจท้าทายผู้อยู่เหนือได้สำเร็จ ค่าประสบการณ์4500ล้านนับว่ามากโขสำหรับผู้เล่น หานเซี่ยวไม่พิถีพิถันกับอาหารเขานัก ไม่ว่ายังไง เขาก็แค่นอนเล่นอยู่ที่ศูนย์ใหญ่
การได้รับรางวัลสุ่มสี่อย่างถือเป็นเรื่องดีเช่นกัน
แต้มสะสมจักรวรรดิ 7500 คือรางวัลที่มากมหาศาลเช่นกัน เผ่าคุนเด้คืออารยธรรมพื้นเมืองและไม่ได้คุกคามจักรวรรดินัก หานเซี่ยวรู้สึกว่ามันอาจเป็นเพราะการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีประกบมิติถึงทำให้เขาได้รับรางวัลมากขนาดนี้
แม้เขาจะเรียนความรู้ขั้นสูงสุดจนหมดแล้ว แต้มสะสมก็ยังเป็นประโยชน์ เขาสามารถใช้พวกมันเพื่อรับเอาทรัพยากรล้ำค่าหรือการสนับสนุนทางทหาร นอกจากนี้ หากเขามีผู้อยู่เหนือที่เต็มใจอยู่ในกองทัพเขา เขาอาจต้องแลกความรู้ขั้นสูงสุดของสายอื่นมา
ความรู้ขั้นสูงสุดได้รับการปกป้องโดยอารยธรรมขั้นสูง และพวกเขาก็ไม่มีทางยอมให้ผู้อยู่เหนือคนใดได้ความรู้ขั้นสูงสุดของสายอาชีพไปโดยไม่มีเหตุผลดีๆ การใช้ความรู้มาดึงดูดก็คล้ายกับการแย่งชิงธุรกิจจากจักรวรรดิ เช่นนั้น จักรวรรดิย่อมไม่เห็นด้วยและพันธมิตรผู้อยู่เหนือต่างๆก็จะไม่แบ่งปันความรู้ขั้นสูงสุดกัน
ข้อยกเว้นเดียวคือพวกเขามีเจ้าหน้าที่ผู้อยู่เหนือในองค์กรตน แน่นอน นี่หาได้ยากมาก เหนือสิ่งอื่นใด ผู้อยู่เหนือส่วนใหญ่ไม่เต็มใจจะรับใช้ภายใต้คนอื่น
หานเซี่ยวมีความทรงจำบางอย่างถึงฉายา[ผู้ทำลายอารยธรรม] อารยธรรมที่เหนือกว่าระดับระบบดาวต่างได้รับการปกป้องโดยสนธิสัญยาสันติภาพ เป็นเรื่องยากที่อารยธรรมจะถูกกวาดล้าง มีเพียงผู้เล่นที่อยู่ในฝ่ายชั่วร้ายถึงมีโอกาสกระตุ้นฉายาเช่นนี้
ผลของมันไม่เลว การติดตั้งฉายานี้จะเพิ่มความเสียหายเขา 6 %และ ระยะโจมตี 25%
แต่ทว่า ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อให้ได้มาก็สูงเช่นกัน เขาต้องเข้าร่วมหรือปลุกระดมการต่อสู้ระหว่างชีวิตและความตายของอารยธรรมระบบดาว และก็หาได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่เขาจะกลายเป็นอาชญากรหลังทำเช่นนั้น
ในฐานะส่วนหนึ่งของฝ่ายถูกต้องตามกฏ มันยากสำหรับเขาที่จะได้รับฉายาดังกล่าว แต่ทว่า ผลประโยชน์คือเขาไม่ต้องเป็นอาชญากร
หานเซี่ยวไม่แปลกใจที่ไม่มีรางวัลสินทรัพย์ทางการเมือง เผ่าคุนเด้ยังอ่อนแอและการทำลายก็ไม่ได้สำคัญต่อจักรวรรดิ แต่ทว่า เขาสามารถได้รับความโปรดปรานจากหลายคน
นอกจากทาราคอฟ ผู้ปกครอง ผู้บัญชาการต่างๆรวมถึงเทนนี่ก็ด้วย
ดันเจี้ยนที่สร้างขึ้นนั้นคล้ายกับดันเจี้ยนสงครามลับและองค์กรต้นกำเนิด เขาสามารถสร้างดันเจี้ยนได้
เพราะเผ่าคุนเด้ไม่ได้ทรงพลังนัก การสร้างดันเจี้ยนจึงไม่ยากเกิน แต่รางวัลนั้นไม่ถือว่าต่ำ
หลังดูรางวัลเขา หานเซี่ยวก็ปิดหน้าต่างสถานะและสูดหายใจ
เทคโนโลยีประกบมิติเวลา สัมผัสจักรกลสมบูรณ์ และรางวัลภารกิจ ..รางวัลครั้งนี้ของฉันมากมายนัก เผ่าคุนเด้คืออุปสรรคเดียวและการสำรวจระยะสองก็จะกลับเป็นปกติ… ไอลีนโนเวล
เพราะหน้าต่างสถานะเขา ผลลัพธ์ของเผ่าคุนเด้จึงเปลี่ยนไป
ในชีวิตก่อนหน้าเขา จักรวรรดิต้องใช้เวลานานเพื่อหาอาณาเขตเผ่าคุนเด้ ซึ่งทำให้เผ่าคุนเด้มีเวลาพออพยพคน ในเวลาเดียวกัน กองยานเผ่าคุนเด้ยังมีเวลาเตรียมการพอและไม่ประมาทเหมือนครั้งนี้
การทำความเข้าใจแผนที่ทำให้เผ่าคุนเด้มีความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์และโอกาสวิเคราะห์กลยุทธ์ต่อสู้ของจักรวรรดิ เช่นนั้น เผ่าคุนเด้จึงไม่อยู่ในที่มืดตอนจักรวรรดิแทรกซึมระบบหลักพวกเขา แต่สามารถต่อสู้ได้
เช่นนั้น จักรวรรดิคริมสันจึงไม่เลือกเจรจา แต่เป็นการกวาดล้างเผ่าคุนเด้แทน
แต่ทว่า กองยานพลเรือนส่วนหนึ่งของพวกเขาก็หลบหนีไปได้
สิ่งที่หานเซี่ยวไม่รู้คือบ้านใหม่ของเผ่าคุนเด้ในชีวิตก่อนหน้าเขานั้นยังอยู่ภายในโลกริบหรี่ เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาไม่เข้าใจว่าทุ่งดาวคืออะไร จักรวรรดิสามารถพบบ้านใหม่ของเผ่าคุนเด้ได้ในช่วงสำรวจ จักรวรรดิได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับเทคโนโลยีประกบมิติเวลา เช่นนั้น บ้านใหม่ของเผ่าคุนเด้จึงถูกทำลาย พวกเขาลอบถูกกวาดล้าง
ครั้งนี้ โชคชะตานำไปคนละทาง
หานเซี่ยวลูบคางและเข้าเครือข่ายควอนตัม เขาเตรียมจะไปดูว่าจักรวรรดิมีแผนจัดการกับเผ่าคุนเด้ยังไง
…
ในห้องทำงานดาวประภาคาร มีคนสองคน คนที่กำลังยืนคือทาราคอฟ และคนที่นั่งก็คือภาพฉายระยะไกลของเออแรนเรล
ตอนนี้จักรวรรดิกังวลถึงวิธีจัดการกับเผ่าคุนเด้ พวกเขาควรฆ่าหรือเก็บไว้?ผู้ปกครองและเบื้องบนต้องตัดสินใจเช่นนั้น
ทาราคอฟกำลังรายงานต่อเออแรนแรล พวกเขากำลังคุยถึงปัญหาเรื่องเชลย
“..อีกเจ็ดวันพวกเชลยถึงจะมาถึง ท่านครับ เราควรจัดการกับพวกเขายังไง?”จากนั้นเออแรนเรลก็ลูบคาง”เบื้องบนได้คุยเรื่องนี้กันแล้ว บางคนสนับสนุนแนวคิดถอนรากถอนโคน ขณะบางคนรู้สึกว่าเราควรให้ความรู้แก่พวกเขา เรายังไม่ได้ผลสรุป คุณมีข้อเสนอแนะอย่างไร?”“การต่อสู้ราบรื่น และในเมื่อศัตรูเลือกจำนน ผมจึงไม่รู้สึกว่าต้องฆ่าพวกเขา”ทาราคอฟกล่าว”เราสามารถเลือกปล่อยให้พวกเขาอยู่บนดาวสองสามดวงภายในอาณาเขตจักรวรรดิและคอยจับตาดูพวกเ เราไม่ควรปล่อยให้พวกเขาเข้าสังคมกาแล็กซี่ชั่วคราวและให้ความรู้แก่คนรุ่นหลัง”“หากผลลัพธ์ออกมาดี เราก็สามารถทำให้พวกเขากลายเป็นอารยธรรมบริวาร ตอนนั้น เราสามารถปล่อยให้พวกเขาเข้าร่วมสังคมกาแล็กซี่ได้”ในช่วงสงคราม เขาฆ่าฟันโดยไม่ลังเลและฆ่าโดยตาไม่กะพริบ แต่นอกสงคราม เขาไม่ใช่คนเลือดเย็น
“ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็จะต้องแยกพวกเขาออก และเราก็ต้องให้ผู้นำพวกเขาช่วยเรา”เออแรนเรลกล่าว
“ครับ ผมกำลังเตรียมเจรจากับอีกฝ่าย ตอนนี้ เราได้ทำการทดสอบพวกระดับสูงของเผ่าคุนเด้และตรวจพบความแปลกประหลาดภายในสภาพจิตพวกเขา พวกเขาดูเหมือนจะได้รับผลกระทบโดยกระแสพลังจิตเพื่อขยายขอบเขตสมอง ทำให้พวกเขาบุ่มบ่ามและโกรธเคืองง่าย”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ประกายเย็นชาก็ส่องผ่านตาของเออแรนเรล
“มันคงเป็นการกระทำของอารยธรรมกลุ่มดาวเหล่านั้นอีกแล้ว พวกมันไม่เพียงจะโยนความรู้ให้แต่ยังใช้กระแสพลังจิต ถ้าไม่ อีกฝ่ายคงไม่ก้าวร้าวเช่นนี้ ใครคือคนที่ได้รับผลกระทบมากสุด?มันควรเป็นผู้นำใช่ไหม?”“ไม่ใช่ครับ ผู้นำเผ่าคุนเด้ได้รับผลกระทบน้อยสุด”เออแรนเรลส่ายหัว”น่าสนใจ นี่คือลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์พวกเขาสินะ?”
ปี้บ ปี้บ
ตอนนี้เอง อุปกรณ์สื่อสารบนโต๊ะดังขึ้น ทาราคอฟกดปุ่มและเสียงของเลขาเขาก็ดังขึ้น
“ท่านผู้บัญชาการสูงสุด แบล็คสตาร์อยู่ในสายค่ะ ฉันควรเชื่อมต่อภาพฉายระยะไกลของเขาไหมคะ?”“ทำไมเขาถึงมาที่นี่?”ทาราคอฟพึมพำก่อนส่ายหัว”ฉันกำลังรายงานต่อท่านผู้ปกครอง บอกให้เขารอไปก่อน”ตอนนี้เอง เออแรนเรลกลับโบกมือ”ไม่เป็นไร ให้เขาเข้ามา เขาไม่ใช่คนนอก”“..งั้นก็ได้ครับ”
ในเมื่อผู้ปกครองเต็มใจ ทาราคอฟจึงไม่ว่าอะไร
อย่างรวดเร็ว ภาพฉายของหานเซี่ยวปรากฏในห้อง และเขาก็เห็นเออแรนเรลทันที
“ท่านผู้ปกครอง ท่านเองก็อยู่ด้วย”“แบล็คสตาร์ ฉันได้ยินถึงผลงานของคุณในสงครามนี้ ทำได้ดีมาก”เออแรนเรลพยักหน้า
“ผลงานของผมมีน้อยมาก”หานเซี่ยวถ่อมตัว”พวกคุณกำลังคุยเรื่องอะไรกัน?”“ไม่มีอะไรมาก เรากำลังคุยว่าควรจัดการกับเผ่าคุนเด้ยังไง และยังไม่ได้ตัดสินใจ..”จากนั้นเออแรนเรลก็อธิบายก่อนถาม”แบล็คสตาร์ คุณมีข้อเสนอแนะไหม?”“ผมไม่มีความเห็นใด ผมมาที่นี่เพื่อถามจักรวรรดิว่ามีแผนจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
“การไม่มีความเห็นก็เป็นความเห็นประเภทหนึ่ง”จากนั้นเออแรนเรลก็ไม่พูดอะไรอีก
เธอมองทาราคอฟ ให้เขารายงานต่อ
หลังฟังรายงาน เออเรนเรลก็ชมทั้งคู่ก่อนออฟไลน์ไป
หลังส่งผู้ปกครองออกไป ทาราคอฟก็มองหานเซี่ยวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันกำลังจะไปเจรจากับเผ่าคุนเด้ อยากไปด้วยไหม?”“เอ่อ ฉันยุ่งมากจริงๆ”หานเซี่ยวลูบคาง พูดด้วยเสียงติดตลก”แต่ในเมื่อนายชวนฉัน ฉันก็ควรไปกับนาย”
บางทีเขาอาจกระตุ้นภารกิจพิเศษได้เช่นเดียวกับผู้นำดาราทมิฬ