The Legendary Mechanic - ตอนที่ 981 สอบปากคำและความปรารถนา
หน่วยทั้งหมดได้รวมกันเพื่อจัดตั้งกองยานขนาดมหึมา ขนย้ายยานอวกาศเผ่าคุนเด้ทั้งหมดไปดาวประภาคาร
กองยานจักรวรรดิอยู่รอบนอก ล้อมยานเผ่าคุนเด้นับพันไว้
อาวุธพวกเขาถูกปลดแล้วและแกนพลังงานก็ถูกจำกัดให้บินได้เท่านั้น กองยานเสียความสามารถสู้กลับและอยู่ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดิ ยานอวกาศของเผ่าคุนเด้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นคุก
ยานหลักของกองยานเผ่าคุนเด้ได้รับการดัดแปลงหนักสุด ห้องโดยสารยานถูกเปลี่ยนเป็นห้องขัง
ห้องบัญชาการถูกยึดโดยทหารจักรวรรดิและมีภาพฉายสองภาพปรากฏในห้องบัญชาการ พวกเขาก็คือทาราคอฟกับหานเซี่ยว
“ทำความเคารพ ท่านผู้บัญชาการสูงสุด”
วินาทีที่ทั้งสองปรากฏ เสียงของทหารก็ดังขึ้น
ทาราคอฟได้แจ้งการมาของเขาไว้แล้วและทหารจึงกำลังรอเขา
ผู้บัญชาการหน่วยต่างๆเองก็อยู่พร้อมเหล่าผู้ช่วยในรูปแบบของภาพฉายทางไกล
“เหนื่อยหน่อยนะทุกคน”ทาราคอฟยิ้มด้วยท่าทีเป็นมิตร
ผู้บัญชาการหัวกะทิรุ่นเยาว์เหล่านี้จะเป็นดาวดวงใหม่ของจักรวรรดิและทาราคอฟก็รู้สึกยินดีมากที่ได้เห็นคนหนุ่มสาวมีพรสวรรค์ตรงหน้า
ขณะที่หานเซี่ยวมองเหล่าผู้บัญชาการ เขาก็อดตกใจไม่ได้
ว้าว พวกเขาล้วนเป็นคนใหญ่คนโต!
กลุ่มผู้บัญชาการในอนาคตและยักษ์ใหญ่ยืนตรงหน้าเขาราวกบเป็นขบวนพาเหรด
เพราะเขารู้ตัวตนในอนาคตของผู้บัญชาการเหล่านี้ หานเซี่ยวจึงพบว่าฉากนี้น่าจดจำและแทบอยากถ่ายภาพไว้
“ท่านแบล็คสตาร์ ท่านก็มาด้วย”เทนนี่อยู่ในกลุ่มและทักทายหานเซี่ยวด้วยรอยยิ้มบนหน้า
“เราเจอกันอีกแล้ว”หานเซี่ยวพยักหน้า และเมื่อเห็นผู้บัญชาการคนอื่นมองมา เขาก็กล่าวขึ้น”ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ชนะสงคราม การมีผู้บัญชาการมากความสามารถเช่นนี้นับเป็นเกียรติของจักรวรรดิยิ่ง”ผลของการเยินยอแบบหมู่ไม่เลวเลย!
ถึงแม้เขาจะเป็นแค่พันธมิตรของจักรวรรดิ สถานะเขาก็เกินกว่าคนเหล่านี้ที่ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของอาชีพพวกเขา
ทุกคนชอบฟังคำพูดชมเชยและทุกคนก็เผยรอยยิ้มหลังได้ยินคำชมของแบล็คสตาร์
‘ท่านแบล็คสตาร์คือรากฐานที่แท้จริงของชัยชนะเรา”
“เราแค่ออกแรงเพียงเล็กน้อย ผลงานของท่านแบล็คสตาร์คือเหตุผลหลักที่ทำให้เราชนะสงคราม”
ผู้บัญชาการบางคนตอบกลับอย่างสุภาพทันที แน่นอน มีบางคนที่ไม่พูดอะไรแต่แค่พยักหน้าด้วยความเคารพ
หานเซี่ยวตอบด้วยรอยยิ้ม แต่สายตากลับสะดุดที่กอดด์
“เอ๊ะ..คุณคือ..”
หานเซี่ยวเหล่ตา ตระหนักว่าพบคนไม่รู้จักตรงหน้า
เมื่อเห็นแบบนี้ กอดด์ก็ยิ้ม”ผมได้ยินชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของท่านมานานแล้ว ท่านแบล็คสตาร์”“นี่คือกอดด์ หนึ่งในผู้ใช้พลังที่จักรวรรดิกำลังเลี้ยงดู ฉันได้ยินว่าเขารอดชีวิตจากระเบิดพลังงานไซโอนิคและก็โดดเด่นมาก”ทาราคอฟหัวเราะ
“สวัสดี กอดด์”
จากนั้นหานเซี่ยวก็ทักทายผู้บัญชาการคนอื่นขณะลอบเข้าเครือข่ายควอนตัมเพื่อตรวจสอบประวัติของกอดด์
การตรวจสอบภูมิหลังของคนคือสิ่งที่เขาคุ้นเคย
ด้วยสถานะปัจจุบันเขา การตรวจสอบข้อมูลของผู้บัญชาการบางคนไม่ใช่ปัญหา
วินาทีต่อมา ประวัติย่อของกอดด์ก็ปรากฏตรงหน้าเขา มันดูเรียบง่ายมาก
แต่ทว่า เมื่อเขาอยากดูข้อมูลเพิ่มเติม การแจ้งเตือนก็เด้งขึ้น เตือนเขา
“ดูไม่ได้?มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญกับเขามาก”
หานเซี่ยวไม่คิดเจาะไฟร์วอลล์ของจักรวรรดิโดยไม่มีเหตุผลดีๆ
ทาราคอฟพูดว่ากอดด์คือผู้ใช้พลังที่จักรวรรดิกำลังเลี้ยงดู จักรวรรดิจะเลี้ยงดูผู้ใช้พลังแค่สองประเภท พวกมีความสามารถพิเศษหรือมีศักยภาพสูง คนๆนี้เป็นแค่ภัยพิบัติ และในเมื่อเขาสามารถรอดในระเบิดพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มได้ เขาก็ควรเป็นคนกลุ่มแรก
ในชีวิตก่อนหน้าเขา สุดยอดช่างกลหานอยู่ฝ่ายจักรวรรดิและคุ้นเคยดีกับพวกคนใหญ่คนโต ถ้ากอดด์คือผู้ใช้พลังที่จักรวรรดิดูแลจริงๆ เขาก็ควรทิ้งความประทับใจให้อีกฝ่ายบ้าง
แต่ทว่า เขาสามารถมั่นใจได้ว่าเขาไม่เคยได้ยินชื่อตัวละครนี้มาก่อน และก็ไม่มีความทรงจำใดเกี่ยวกับกอดด์ ไม่มีตัวละครเช่นนี้ในชีวิตก่อนหน้าเขา
เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว?หานเซี่ยวคิดกับตัวเอง ฉันสงสัยว่าชายคนนี้มาจากไหน
แม้เขาจะสงสัย เขาก็ไม่พบว่าเรื่องนี้นั้นแปลกเกินไป
หลังทำหลายสิ่งหลายอย่าง เขาควรทำให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง และมันคงไม่แปลกที่ตัวละครใหม่จะเผยตัว
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แม้แต่ผู้จัดการกลุ่มการเงินต้นกำเนิดคนปัจจุบัน เลพตัสก็คือกระเทียมที่เขาขุดขึ้นมา
เมื่อเห็นท่าทางของหานเซี่ยว ริมฝีปากของกอดด์ก็โค้งขึ้นเล็กน้อย
“ท่านแบล็คสตาร์ บางทีเราอาจกลายเป็นมิตรสหายกันในอนาคต”
หานเซี่ยวได้สติ’แล้วตอนนี้ไม่ใช่งั้นหรอ?”“อ่า ท่านคงเข้าใจความหมายผมสินะ”อดด์พูดด้วยรอยยิ้มสงบ
“…ทะเยอทะยานมาก งั้นฉันจะรอ”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
เขาหมายความว่าเขาจะกลายเป็นผู้อยู่เหนืออย่างฉัน?เพื่อนคนนี้มั่นใจมาก
จากนั้นเขาก็เก็บกอดด์ไว้ในความทรงจำก่อนละสายตา
หลังคุยกับคนอื่นสักพัก เขาก็ปิดด้วยคำพูดสากล’ผมจะเลี้ยงอาหารมื้อหน้าเอง’ และผู้บัญชาการต่างๆก็หายไปทีละคน
มีเพียงหานเซี่ยวกับทาราคอฟที่เหลืออยู่ พวกเขาเดินรอบยานภายใต้การนำของทหาร
พลเมืองเผ่าคุนเด้ถูกขังไว้ในสถานที่เดียวกัน ขณะที่เบื้องบนถูกขังแยก หานเซี่ยวไปลาดตระเวนพื้นที่พลเรือนก่อน
มันเหมือนกับค่ายผู้ลี้ภัย
พลเมืองเผ่าคุนเด้นนับไม่ถ้วนรวมกันด้วยความกลัวและความไม่สบายใจในดวงตา
ก่อนเริ่มสงคราม หลายคนไม่เต็มใจจากไปและรู้สึกว่าศัตรูเป็นแค่จินตนาการเท่านั้น
แต่ตอนนี้ พวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว พวกเขาเหมือนเหยื่อที่รอให้มีดสับลงมา
ก่อนหน้านี้ พวกเขาคือเผ่าที่ปกครองทั้งกลุ่มดาว แต่ทว่า ตอนนี้พวกเขาเป็นได้แค่เชลย
หลังเดินตรวจตราเขตพลเรือน ทั้งคู่ก็ตรงไปเขตที่ขังเบื้องบน ยืนอยู่นอกห้องสอบสวนของผู้นำเผ่าคุนเด้ มองอีกฝ่ายผ่านหน้าต่าง
แม้เขาจะเป็นเชลย ผู้นำเผ่าก็ยังยืนตัวตรง รักษาความเยือกเย็น ดวงตาเขาปิดอยู่
“ฉันจะฟังอยู่ข้างๆตอนนายสอบปากคำเขา”หานเซี่ยวพูดกับทาราคอฟ
ผู้สอบสวนหลักคือทาราคอฟ เขาแค่มาดู นอกจากนี้ ผู้นำเผ่าคุนเด้อาจจะจำเขาไม่ได้
จากนั้นทาราคอฟก็พยักหน้า พูดกับทหารข้างๆ”เปิดประตู”
..
ในห้องสอบสวน ผู้นำเผ่าคุนเด้นั่งลงและพยายามอย่างดีสุดเพื่อนั่งตัวตรง
เขาไม่ได้สงบอย่างที่ตาเห็น แต่เขาต้องรักษาความเยือกเย็นไว้ ในสายตาเขา เขาคือตัวแทนคนสุดท้ายของเผ่า
หวือ!
ประตูเปิดออกและผู้นำเผ่าคุนเด้ก็ลืมตามองคนที่เข้ามา
หนึ่งในนั้นคือผู้บัญชาการ ทาราคอฟที่เขาเห็นก่อนหน้าและอีกคนเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขา เขาสวมชุดกันลมสีดำ ดูเหมือนคนใหญ่คนโต
“นี่เป็นครั้งที่สองที่เราได้พบกัน”ทาราคอฟพูดขึ้น”ฝ่ายเราได้ทำตามสัญญาและไม่เข่นฆ่าเผ่าคุณ ตอนนี้คุณต้องบอกผมทุกอย่างที่รู้ รวมถึงความคิดและตรรกะตอนตัดสินใจโจมตีเรา เหตุผลที่คุณโจมตีและทุกอย่างที่เกี่ยวกับการโจมตีนี้ จำไว้ว่าคำตอบคุณจะกำหนดทัศนคติเราว่าจะจัดการกับคุณยังไง คุณไม่ควรปิดบังอะไร ไม่งั้น คนที่เสียใจย่อมไม่ใช่ผม”
เทคโนโลยีเสมือนสามารถขโมยข้อมูลพวกเขาได้ แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจกระบวนการคิดของอีกฝ่าย นี่คือประเด็นหลักของการสอบปากคำวันนี้
ผู้นำเผ่าคุนเด้รู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนเขาจะถูกสอบสวนและไม่กล้าปิดบังอะไร ในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่มีเจตนาจะปิดบังอะไรและพูดทุกอย่างที่เขารู้
เมือ่ได้ยินอีกฝ่ายเล่าเรื่อง ทาราคอฟก็เขียนรายงนา เป็นบางครั้ง หานเซี่ยวจะมองมาและเห็นคำพูดเชิงลบเช่น ‘ลัทธิต่างดาว’ ‘ความเย่อหยิ่งแต่กำเนิด’ ‘วัฒนธรรมการแก้แค้น’ และ’ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ร่วมกัน’
นี่ไม่ใช่คำที่ดี..หานเซี่ยวกะพริบตา
รายงานสอบปากคำต้องส่งผลต่อการตัดสินใจของจักรวรรดิและคำพูดเหล่านี้ก็อันตราย
หลังจากนั้น เผ่าคุนเด้ก็พูดหมด
“การมีอยู่ของพวกคุณได้ริบเอาศักยภาพเราไป และเราก็เต็มใจจะหาบ้านใหม่ เราไม่เต็มใจจะใช้ชีวิตร่วมอยู่กับพวกคุณเพราะมันจะจำกัดการพัฒนาของเรา”
เมื่อได้ยิน ทาราคอฟก็พยักหน้า พูดโดยไม่ปิดบังอะไร”คุณพูดถูก เราไม่มีทางยอมให้เผ่าของคุณพัฒนา”
ไม่มีใครเป็นนักบุญ และจักรวรรดิคริมสันก็ไม่ได้สำรวจโลกริบหรี่เพื่อให้ใช้ชีวิตร่วมกับชาวพื้นเมืองได้อย่างกลมกลืน พวกเขาไม่คิดปล่อยให้ชาวพื้นเมืองพัฒนา
สำหรับชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องแย่ สามอารยธรรมจักรวาลได้ให้ความรู้แก่พวกเขาและพวกเขาก็ได้รับความรู้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่ทว่า สำหรับเผ่าคุนเด้ มันคือหายนะ ไอรีนโนเวล
อารยธรรมจักรวาลไม่สนใจอารยธรรมอื่นที่จ้องมองตำแหน่งพวกเขาและพวกเขาจะจำกัดการเติบโตของอารยธรรมอื่น
จักรวรรดิคริมสันไม่เกลียดการกระทำของเผ่าคุนเด้ เหนือสิ่งอื่นใด นั่นจะช่วยให้พวกเขามีข้ออ้างที่ดีในการปราบปรามอีกฝ่ายด้วยกำลังทหาร
“แต่ทว่า”ทาราคอฟกล่าวเสริม”ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจว่าซากยานที่คุณได้รับนั้นมาจากหนึ่งในคู่แข่งเรา พวกเขาแค่จะใช้ประโยชน์จากคุณเพื่อจัดการกับเราเท่านั้นเอง”“พวกเขาให้อาวุธคุณเพื่อเสริมกำลังทหาร แต่ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับจักรวรรดิ พวกเขาไม่บอกคุณถึงพลังของจักรวรรดิ ซึ่งทำให้คุณคิดว่าตัวเองมีพลังพอจะโต้ตอบ”“ซากยานเหมือนกับผลไม้พิษ ทักษะเทคโนโลยีคือผลไม้หวานที่มีพิษร้ายซ่อนไว้”
“เช่นนั้น พวกคุณจึงคิดว่าเทคโนโลยีพลังงานไซโอนิค ไฮเปอร์ไดรฟ์ ประตูดาวที่พวกคุณได้รับจะช่วยอุดช่องว่างได้ คุณคิดว่าคุณได้รับอาวุธที่เรามี แต่จริงๆแล้ว อาวุธของเราล้ำหน้ากว่านั้นมาก”“คุณได้เห็นผลลัพธ์แล้ว เรามีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกัน แม้คุณจะเสียโอกาสพัฒนา คุณก็ยังรักษาความเป็นอิสระไว้ได้ บางครั้ง การสูญเสียบางสิ่งอาจไม่ใช่ทางเลือกที่แย่”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้นำเผ่าคุนเด้ก็ส่ายหัว”การไม่ทำอะไรขณะเฝ้าดูเส้นทางพัฒนาเราถูกขวางไม่ใช่วิถีของเผ่าเรา เราอยากเดิมพันกว่า”
“พูดได้ดี อารยธรรมที่ไร้ความทะเยอทะยานย่อมไร้อนาคต ผมเข้าใจการกระทำของคุณ”ทาราคอฟพยักหน้า”แต่ ความผิดพลาดเดียวของคุณคือคุณเลือกศัตรูผิด”
จากนั้นผู้นำเผ่าคุนเด้ก็ลดหัวลง
เขาไม่เสียใจกับทางเลือกเขา แต่เขายังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
แต่ทว่า เขาไม่ได้เกลียดจักรวรรดิคริมสันมากสุด แต่เป็นผู้บงการที่ใช้พวกเขา!
พวกเขาคือคนที่ทำให้พวกเขาถูกทำลาย!
“เอาละ เราควรหยุดกันแค่นี้ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ”จากนั้นทาราคอฟก็ยืนขึ้น เตรียมออกห้องไป
“รอเดี๋ยว!”ผู้นำเผ่าคุนเด้ตะโกนขึ้น”พวกคุณจะไม่กวาดล้างพวกเรา แต่วางแผนสนับสนุนพวกเราใช่ไหม?”“นั่นเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ทำตามการกระทำคุณและจำกัดสติปัญญา เราแค่ให้ความรู้แก่เผ่าคุณด้วยวัฒนธรรมเราเท่านั้น”
ผู้นำเผ่าคุนเด้พยักหน้าเข้าใจและสูดหายใจลึก”งั้น..ผมก็ต้องตายสินะ?”ทาราคอฟหยุดและเลือกไม่ปิดบัง”คุณจะกลายเป็นเป้าหมายของเผ่าเพื่อระบายความโกรธและถูกเขียนลงบทเรียนในประวัติศาสตร์ คุณจะเป็นเครื่องมือที่ดีสุด”
หานเซี่ยวส่ายหัวหลังได้ยิน
คนเหล่านี้ชอบพูดให้เป็นปริศนา โชคดี เขาเข้าใจ
ถ้าจักรวรรดิอยากให้ความรู้เผ่าคุนเด้ พวกเขาต้องเลือกใช้ผู้นำหุ่นเชิด แต่ผู้นำหุ่นเชิดต้องไม่ใช่ผู้นำคนปัจจุบัน
ผู้นำเผ่าคุนเด้คนีน้จะถูกปฏิบัติเป็นเหมือนหุ่นเชิดเพื่อแสดง
จุดจบของการแสดงนี้จะจบลงด้วยการประหารชีวิตเขา
“ผมเข้าใจ ต้องมีใครสักคนรับโทษและผมก็ไม่คิดทิ้งชื่อแห่งความอัปยศไว้”ผู้นำเผ่าคุนเด้เตรียมใจตายไว้แล้ว”ผมสามารถทำงานร่วมกับพวกคุณเพื่อแสดงได้ แต่ผมมีสองคำขอ..อย่ามองผมอย่างนั้น ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ต่อรอง แต่ผมทำได้แค่พูดคำเหล่านี้ ถือซะว่าเป็นความปรารถนาของผม”“..เชิญ”
“อย่างแรก เราได้ยอมจำนนแล้วและมันก็ไม่สำคัญว่าคุณจะฆ่าผม ผมหวังว่าคุณจะดูแลเผ่าผมและไม่ฆ่าใครอีก สอง….”ร่างของผู้นำเผ่าคุนเด้สั่นสะท้านและกล่าวด้วยน้ำเสียงอาฆาตแค้น”ผมอยากให้คนที่ใช้เราต้องชดใช้!”
จากนั้นทาราคอฟก็เดินออกไปราวกับเขาไม่ได้ยินอะไร
เมื่อเห็นแบบนั้น ผู้นำคุนเด้ก็ลดหัวลงเงียบๆ
เขารู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบรับคำขอเขาแต่นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พูดคำนั้น
ตอนนี้เอง เงาร่างสีดำปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ผู้นำเผ่าคุนเด้แหงนมอง และมันก็คือเงาร่างดำที่ไม่พูดอะไรตั้งแต่เข้ามา
จากนั้นคำพูดต่อไปก็ทำให้เขาตกใจ
“ฉันยอมรับคำขอของนาย”
ผู้นำเผ่าตกใจ
ทาราคอฟหยุดชะงัก มองย้อนกลับมาด้วยความสับสน
หานเซี่ยวพูดต่อด้วยสีหน้าเฉยเมย
“ฉันจะเขียนคำร้องถึงจักรวรรดิให้สมาชิกเผ่านายมาอยู่ในดินแดนฉัน สำหรับการทำให้ผู้บงการชดใช้ มันไม่ใช่เรื่องยาก”
เขาจะไม่ทำเช่นนี้หากไม่มีประโยชน์ เมื่อผู้นำเผ่าคุนเด้พูดความปรารถสุดท้าย ภารกิจใหม่ก็ได้ผุดขึ้น
เมื่อเห็นข้อกำหนดภารกิจและรางวัล เขาก็ตัดสินใจทำภารกิจ!
“นายเป็นใคร?!”
เมื่อได้ยิน ผู้นำเผ่าคุนเด้ก็อดถามไม่ได้
“นายสามารถเรียกฉันว่าแบล็คสตาร์ สำหรับว่าฉันเป็นใคร…นายแค่ต้องรู้อยู่เรื่องเดียว”
หานเซี่ยวยิ้ม
“ฉันเป็นคนที่สามารถกำจัดทั้งเผ่าพันธุ์ของนายได้ด้วยตัวคนเดียว”