The Legendary Mechanic - ตอนที่ 985 อพยพและเบาะแส
ประมาณสิบวันต่อมา กองยานจักรวรรดิและกองทัพแบล็คสตาร์ได้นำพลเรือนเผ่าคุนเด้ไประบบดาวโอโดรานในการู นี่คือหนึ่งในดินแดนของแบล็คสตาร์ หานเซี่ยวเลือกให้เผ่าคุนเด้อยู่ในระบบดาวนี้
ด้วยดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ในมือ เขาจึงปล่อยดาวนับร้อยให้เผ่าคุนเด้อย่างใจกว้าง หลังแยกพวกเขา ทุกดาวจะมีประชากรประมาณหมื่นล้าน
ด้วยความสามารถการสืบพันธุ์ของสังคมกาแล็กซี่ การสร้างที่อยู่อาศัยให้คนหมื่นล้านคนเป็นงานง่ายมากและสภาพความเป็นอยู่ก็มใช่เลวร้าย แต่ทว่า เทียบกับสภาพความเป็นอยู่เดิม ประชากรพวกเขาถือว่าลดน้อยลง
ก่อนพวกเขาจะได้รับเทคโนโลยีประตูดาว ความคล่องตัวของเผ่าคุนเด้ในจักรวาลต่ำมาก เช่นนั้น ประสิทธิภาพการขนส่งจึงต่ำ แม้เผ่าคุนเด้จะมีระบบดาวและดาวอาณานิคมนับพัน แต่ก็ยังมีผู้อพยพ และผู้อพยพที่ย้ายไปดาวใหม่ก็มักอยู่ที่นั่นถาวร
กองยานกองทัพแบล็คสตาร์สร้างเมืองง่ายๆบนดาวด้วยชุดปรับเปลี่ยนดาวเคราะห์ของจักรวรรดิก่อนส่งสมาชิกเผ่าคุนเด้ไป
จากนั้นผู้อพยพเผ่าคุนเด้ก็ออกจากยานอย่างเชื่อฟังและก้าวไปบนบ้านใหม่
หลายคนมองรอบๆด้วยความสงสัยขณะสำรวจบ้านใหม่ตนเอง
ในเวลาเดียวกัน ในวังแบล็คสตาร์ มีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบหลายคนกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์บนดาวทุกดวง
หานเซี่ยวยืนตรงกลางโถงและมอง
“การอพยพกลุ่มดาวทั้งหมดถือเป็นโครงการใหญ่จริงๆ”ออโรร่าคร่ำครวญข้างๆ
เฮอลัสพยักหน้า”หลังความตายของผู้นำ พวกเขาถึงฟังคำสั่งของจักรวรรดิ ดังนั้น การอพยพถึงราบรื่นมาก”
เขายังติดตามกองยานมาด้วย หลังไม่เห็นหานเซี่ยวเป็นเวลานาน เขาก็คิดถึงเจ้านายเขาและแอบมองข้างหลังหานเซี่ยวเป็นครั้งคราว
“มีอุบัติเหตุไม่มาก ทำได้ดีมาก”หานเซี่ยวตอบ
“เราจะใช้ประโยชน์จากจำนวนประชากรที่เพิ่มอย่างกะทันหันนี้ได้ยังไง?”ภาพฉายระยะไกลของซิลเวียถาม
จากนั้นหานเซี่ยวก็ลูบคางเขาและค่อยๆพูด”เราไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที จักรวรรดิมีแผนให้ความรู้และปฏิรูปพวกเขา ในช่วงนี้ พวกเขาจะไม่ยอมให้พวกเขาได้ติดต่อสังคมกาแล็กซี่หรือพัฒนาเทคโนโลยี จักรวรรดิจะให้เฉพาะความรู้ผู้ใช้พลังเพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างช้าๆ”
“มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะใช้ประโยชน์จากมัน เราต้องสำรองพวกมันไว้จนกระทั่งจักรวรรดิยอมคลายผนึก ตอนนั้น พวกเขาจะเป็นแหล่งทหารที่สำคัญ”
“เช่นนั้น พวกนายทุกคนต้องรวมบางอย่างเพิ่มเติมในกระบวนการปฏิรูปของจักรวรรดิเพื่อล้างสมองพวกเขาให้เข้าร่วมกับกองทัพเรา..”
ขนาดของเผ่าคุนเด้ยังใหญ่ยิ่งกว่ากองทัพแบล็คสตาร์ ถ้าเขาอยากเก็บเกี่ยวพืชผลดีๆ เขาต้องใส่ปุ๋ยลงดิน ดังนั้น เขาต้องเน้นความสำคัญของกองทัพแบล็คสตาร์ให้เผ่าคุนเด้รับรู้
แม้รางวัลภารกิจจะมอบความโปรดปรานจำนวนมากให้ มันก็ยังหล่อหลอมความคิดพวกเขาจากนั้นหานเซี่ยวก็หยุดไปสักพักก่อนพูดต่อ
“นอกจานกี้ เผยแพร่ความเชื่อจักรกลในเผ่าคุนเด้และพยายามให้พวกเขาศรัทธาในจักรกลมากขึ้น”
ในช่วงการปฏิรูป เผ่าคุนเด้จะไม่สามารถเข้าสังคมได้ และมันก็คล้ายกับการแยกพวกเขาจากโลกภายนอก นี่คือสภาพแวดล้อมที่ดีสุดในการเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นผู้ศรัทธาจักรกล
โดยไม่มีการรบกวนจากโลกภายนอก เป้าหมายเดียวของการบูชาย่อมเป็นตัวเขา เช่นนั้น เผ่าคุนเด้จะกลายเป็นหีบสมบัติสำหรับ[กุญแจแห่งเทพจักรกล]
สำหรับช่างกลคนอื่น การพัฒนากลุ่มผู้ศรัทธาจะเป็นตัวเลือกดีสุดสำหรับพวกเขาในการกระตุ้น[กุญแจแห่งเทพจักรกล] แม้ประสิทธิภาพจะต่ำมาก มันก็ดีกว่าไม่ได้อะไร
แมนิสันอยากให้ผู้ศรัทธากลุ่มปัจจุบันบูชาเขาเพื่อให้เขาได้ชิ้นเนื้อใหญ่สุด นอกจากนั้น เขายังดีใจมากที่เห็นคนอื่นกระจายความเชื่อ ด้วยชิ้นเนื้อที่ใหญ่ขึ้น เขาก็จะได้รับผลประโยชน์มากขึ้น แน่นอนว่าต้องมีผู้ศรัทธาหลั่งไหลมาหาเขาแน่
สำหรับแมนิสัน เมื่อช่างกลคนอื่นพยายามเผยแพร่ความเชื่อ มันคล้ายกับการปลูกพืชให้เขา ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือเก็บเกี่ยวเมื่อถึงเวลา
เช่นนั้น แมนิสันจะไม่ปรกาฏตัวตราบเท่าที่ไม่มีใครท้าทายตำแหน่งเขา
จากนั้นทุกคนก็คุยก็สักพักก่อนคนหนึ่งจะพูดขึ้น”ผู้บัญชาการกองทัพ การอพยพเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ”
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองหน้าจอ พลเรือนเผ่าคุนเด้ทั้งหมดอยู่บนดาวเคราะห์แล้ว
“เอาละ แสดงหน้าจอท้องฟ้าเสมือนจริง”
ยานอวกาศบินวนอยู่รอบดาวต่างๆ จากนั้นก็ฉายภาพหน้าจอ พลเรือนเผ่าคุนเด้ทั้งหมดต่างแหงนหน้ามอง
ร่างของหานเซี่ยวปรากฏบนจอ เขาพูดด้วยรอยยิ้ม”เพื่อนเผ่าคุนเด้ ผมแบล็คสตาร์ และผมจะรับผิดชอบพวกคุณทั้งหมด ดังนั้น พวกคุณอาจเห็นหน้าผมบ่อยครั้”
“วันนี้ พวกคุณย้ายมาบ้านใหม่ และดาวเหล่านี้ก็คือดินแดนของผม พวกคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากสมาชิกกองทัพแบล็คสตาร์ที่ตั้งอยู่บนดาวทุกดวงได้ตลอดเวลา และไม่ต้องกังวลถึงความปลอดภัย”“ผมทำได้แค่เห็นอกเห็นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ และจักรวรรดิก็กำลังหาผู้บงการเบื้องหลังเรื่องนี้ เราจะหาตัวพวกมัน ลงโทษพวกมัน ขอความยุติธรรมให้พวกคุณ”
“ไม่ว่ายังไง ผมหวังว่าพวกคุณจะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดและยอมรับชีวิตใหม่กันได้”
หานเซี่ยวไม่พูดมาก เขายังไม่มีอิทธิพลให้เผ่าคุนเด้รู้สึกขอบคุณเขา เช่นนั้น เขาจึงทำได้แค่พูดง่ายๆ
จากนั้นหน้าจอบนฟ้าก็หายไป
เทียบกับจักรวรดริ ส่วนใหญ่ยังประทับใจต่อแบล็คสตาร์ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นมิตรกับเขา
ทวงคืนความยุติธรรมให้เรา?
หลังจากทุกอย่าง มันยากสำหรับเผ่าคุนเด้ที่จะเชื่อคำสัญญาของคนนอก
หลังพูดจบ หานเซี่ยวก็พยักหน้าให้เฮอลัสและเฮอลัสก็ออกไป
หลังจากนั้น เสียงเท้าก็ดังขึ้นด้านนอกโถง เฮอลัสพาเนโร่กับนักเรียนคนอื่นมา พวกเขามาพร้อมกองยานและมีกำหนดการพบกับหานเซี่ยว
“มากันแล้วสินะ”
หานเซี่ยวกวาดตามอง ไอรีนโนเวล
หลังผ่านไปสี่เดือนของการฝึกบนสนามรบ กลิ่นอายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปมาก
หลังเนโร่ติด’กับ’ศัตรู เขาก็เรียนรู้จากความผิดพลาดและไตร่ตรองมัน ตอนนี้เขามีกลิ่นอายแข็งแกร่งรอบตัวและมีอาก็เช่นกัน
จากนั้นหานเซี่ยวก็สังเกตเห็นทั้งสองคนจับมือกันอยู่
“แค่ก แค่ก”เมื่อสังเกตเห็นสายตาของหานเซี่ยว มีอากก็ปล่อยมืออย่างเขินอาย
ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทที่มีความโรแมนติกเล็กน้อย หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้า ความโรแมนติกก็ยิ่งเพิ่ม แม้พวกเขาจะไม่ยอมรับความสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการ พวกเขาก็สนิทกันกว่าเดิมและทำตัวเหมือนคู่รักจริงๆ
ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนเป็นแม่สื่อ?
ปากของหานเซี่ยวบิดเบี้ยวเล็กน้อย เขาผลักดันความคิดเหล่านั้นทิ้งและพูดกับเหล่าบัณฑิต
“ฉันดีใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเธอ ตอนนี้พวกเธอถือเป็นนักรบของกองทัพแล้ว”
เมื่อได้ยิน เหล่านักเรียนก็อดเชิดหน้าอย่างภาคภูมิไม่ได้
หลังให้กำลังใจพวกเขา หานเซี่ยวก็มองมีอาด้วยรอยยิ้ม”ฉันสัญญาว่าจะหาอาจารย์ระดับภัยพิบัติให้เธอ และเฮอลัสจะเป็นอาจารย์ของเธอตั้งแต่วันนี้ไป เขาจะพยายามสอนเธอสุดความสามารถ”
เฮอลัสได้รับแจ้งล่วงหน้าแล้ว เขาภักดีต่อกองทัพมากสุดและไม่มีข้อขัดแย้งอะไร
“ถึงแม้ฉันจะยุ่งมาก ฉันก็จะหาเวลามาสอนเธอ ไม่ต้องห่วง ฉันแตกต่างจากเรย์โนล และฉันก็ชอบการสอนแบบสบายๆ”
“ขอบคุณค่ะ ท่านแบล็คสตาร์!”มีอาขอบคุณหานเซี่ยวก่อนทักทายเฮอลัส”ศิษย์ขอเคารพ ท่านอาจารย์!’
เมื่อเห็นอย่างนั้น นักเรียนทุกคนก็อิจฉา
เฮอลัสคือใคร?เขาคือระดับบนของกองทัพและเป็นตัวละครชั้นนำที่ติดตามแบล็คสตาร์มาตั้งแต่ต้น!
การเป็นศิษยืเขาหมายความว่ามีอาย่อมเป็นเสาหลักของกองทัพในอนาคต
แต่ทว่า ทั้งหมดไม่ได้อิจฉามาก คนที่น่าอิจฉาสุดคือเนโร่
ฉันอยากเป็นอาจารย์ธรรมดา!ทำไมต้องเป็นเรย์โนล?!จากนั้นหานเซี่ยวก็มองเรย์โนลและกล่าว’เป็นอะไร?”“..ไม่มีอะไรครับ”
เนโร่รู้สึกขมขื่นในใจแต่ไม่อยากพูด
จากนั้นเขาก็นึกอะไรได้”พ่อบุญธรรม ผมได้รับอาวุธจากศัตรูตอนสู้ และผมรู้สึกว่ามันแปลก ช่วยดูหน่อยได้ไหมครับ?”“มีอะไรแปลก?”“นี่คืออาวุธที่ผมได้รับจากเจ้าหน้าที่เผ่าคุนเด้ตอนต่อสู้ ผมให้เพื่อนร่วมทีมช่วยระบุ..”เนโร่ลูบหัว”มันดูเหมือนจะเป็นอาวุธเวทย์ระดับสูง”
หานเซี่ยวตกตะลึง
อาวุธเวทย์?
ของชิ้นนี้พบได้ทั่วไปในกาแล็กซี่ แต่เผ่าคุนเด้ไม่มีผู้ใช้พลังและเป็นอารยธรรมเทคโนโลยีล้วนๆ พวกเขาไม่รู้จักเวทมนตร์เลย
อาวุธนี้มาจากไหน?
“ให้ฉันดู”หานเซี่ยวสนใจ
“มันอยู่ในห้องผม ผมไม่ได้เอามาด้วย ผมจะเอามันมาทีหลัง”
เพียงเมื่อหานเซี่ยวกำลังจะตอบ อุปกรณ์สื่อสารเขาก็ดัง
คนที่ติดต่อเขามาคืออีซอป
ทำไมตาแก่นี่ถึงโทรหาฉัน?
“อีซอป คุณโทรหาผมทำไม?”
“ก็นายต้องการไม่ใช่หรอไง?”อีซอปพูดอย่างหมดความอดทน”ฉันเห็นว่านายจะติดต่อฉัน ฉันจึงเริ่มติดต่อเอง”
ปากของหานเซี่ยวบิดเล็กน้อย
ความสามารถของคุณอย่างมีประโยชน์จริงๆ…
“ถูกต้อง ผมต้องการความช่วยเหลือ ผมอยากให้คุณช่วยผมหาคน..”หานเซี่ยวอธิบายสถานการณ์
อีซอปตรงไปตรงมา”ส่งข้อมูลให้ฉันทีหลัง ยิ่งมีข้อมูลเยอะ การทำนายก็ยิ่งแม่นยำ”
“ได้”หานเซี่ยวพยักหน้าและถาม”เอเมสกับฮีล่าเป็นยังไงบ้าง?”“รับความเสี่ยงไปทั่ว จะเป็นอย่างอื่นได้อีกหรือไง?”อีซอปกลอกตา”มันไม่ใช่ว่านายจะติดต่อเธอไม่ได ทำไมต้องถามฉัน?เอาละ ฉันจะวางสายละถ้าไม่มีอะไรแล้ว”
อีซอปตัดสายทันที
จากนั้นหานเซี่ยวก็เก็บอุปกรณ์สื่อสารเขาไป
เขาไม่วางแผนจะพึ่งพาแค่อีซอป จากนั้นก็ออกโถงและเดินไปท่าจอดแห่งหนึ่ง
ยานอวกาศที่เสียหายจอดอยู่ นี่คือยานที่พวกลักลอบจงใจทิ้งไว้ในเผ่าคุนเด้ จักรวรรดิได้ยึดมันมา
หานเซี่ยวขอให้ทาราคอฟส่งมันให้เขา
จักรวรรดิใช้ทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ไม่พบเบาะแส ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ว่าอะไรที่จะให้หานเซี่ยวลองหาเบาะแส
การทำนายของอีซอปมองเห็นได้แค่อนาคต แต่ทักษะพิเศษ[นักสำรวจผู้กล้าหาญ]ของหานเซี่ยวจะทำให้เขาเห็นอดีตของสิ่งของ
เขารู้สึกว่าเขาพอทำอะไรได้บ้าง
จากนั้นเขาก็วางฝ่ามือลงบนด้านนอกของยาน
มาดูกันว่าฉันจะเจออะไรบ้าง
หานเซี่ยวสูดหายใจลึกและเปิดใช้งานทักษะ
ฮู่!
วิสัยทัศน์เขาหมุน และฉากตรงหน้าเขาก็ดูเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนแก้ว
ทันใดนั้น เศษแก้วเหล่านี้ก็รวมกันและโลกทั้งใบของเขาก็เปลี่ยนไป
ฉากของโรงงานสามารถเห็นได้จากโครงของยานที่ลอยกลางอากาศและแขนจักรกลที่ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ
หานเซี่ยวสังเกตรอบๆและจดจำทุกอยางที่เห็น
วินาทีต่อมา วิสัยทัศน์เขาก็แตกอีกครั้ง เขาสามารถเห็นยานพุ่งชนดาวเคราะห์เหมือนดาวตก
จากนั้นภาพก็หยุด
เขาฟื้นคืนการมองเห็นและก็ยังอยู่ในโรงจอด
[นักสำรวจผู้กล้าหาญ]จบลง
-60%โชค
ระยะเวลา : 14วัน
หานเซี่ยวไม่สนใจผลข้างเคียง
จากนั้นเขาก็นึกถึงฉากที่เขาเห็น
“ฉากของโรงงานและยานที่พุ่งชนดูเหมือนจะเป็นเบาะแสที่ดี..”
จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าคนงานในโรงงานล้วนมีสัญลักษณ์เหมือนกันบนชุด
เมื่อเข้าฐานข้อมูลของจักรวรรดเพื่อดู เขาก็หาเป้าหมายได้ นี่คือโรงงานผลิตยานที่ตั้งอยู่ในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม
“พบผู้ผลิตยาน..”ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
โรงงานมักจะเก็บบันทึกยานทั้งหมดที่ผลิตไว้และแม้พวกเขาจะไม่รู้เลขรหัสของยานนี้ มันก็ยังเป็นเบาะแส
“ดูเหมือนว่าฉันต้องส่งกองทัพจักรกลฉันไปแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม”
ตอนนี้ หานเซี่ยวนึกอะไรได้
“ใช่ แม่น้ำดวงดาวแรกเริ่มเป็นดินแดนของแมนิสัน”