Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป - ตอนที่ 74
ตอนที่ 74 ต้นเหตุ
พูดตามตรงมู่อี้เป็นคนที่กลัวปัญหาที่คนอื่นนำมาให้เสมอแต่เขาก็ทราบดีว่าชีวิตของตนเองนั้นคงต้องเผชิญเรื่องที่ลำบากใจเช่นนี้อีกมากมายหลายครั้ง เขาได้รับสิ่งล้ำค่าและสมุนไพรต่างๆมากมายจากตระกูลซูและเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเขาก็ต้องตอบแทนอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน
นี่ไม่ใช่เรื่องของการได้เปรียบหรือเสียเปรียบแต่มันคือการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
สำหรับปัญหาของกูเหยาเซินนั้น มู่อี้รู้สึกหนักใจอยู่เล็กน้อย ในตอนแรกเขาวางแผนเอาไว้ว่าจะรีบถอยลงจากภูเขาทันทีเมื่อเขาสามารถช่วยเหลือซูจินหลุนได้แล้ว จากนั้นเขาจะกลับไปที่ภูเขาฟุเนียวและไม่ลงมาจากที่นั่นจนกว่าจะสามารถไปถึงระดับความยากขั้นที่ 2 ของการฝึกฝนจิตใจได้
ไปไหนตอนนี้กูเหยาเซินได้ร้องขอเขาอย่างจริงจังและข้อตกลงที่อีกฝ่ายให้ไว้นั้นก็ถือว่าเหมาะสมมาก
กูเหยาเซินได้แต่งงานกับบุตรสาวของตระกูลเผิงมานานหลายปีแต่แม้ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ภรรยาของเขานั้นก็ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรขึ้นมาได้ ไม่ว่าเขาจะพยายามตามหมอที่มีชื่อเสียงมากแค่ไหนมารักษาแต่ก็ไม่ได้ผลเลย
ความกตัญญูนั้นสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น
ในยุคนี้ถ้าหากหญิงสาวผู้ใดไม่สามารถให้กำเนิดบุตรแก่สามีได้ นางจะโดนตระกูลของสามีนั้นขับไล่และสามีของนางก็สามารถรับภรรยาน้อยเข้ามาเพิ่มได้
กูเหยาเซินย่อมรักภรรยาของเขาสุดหัวใจ เขาไม่ได้แต่งงานกับหญิงสาวที่ทางตระกูลของตนเองหามาให้นั่นแสดงให้เห็นว่าเขารักภรรยาของตนเองมากแค่ไหน แต่เขาก็ทราบดีว่าในตอนนี้ภรรยาของตนเองนั้นกำลังจะถูกพรากจากไปและเขาจะต้องทุกข์ทรมานเพราะตระกูลของตนเอง
เดิมทีปัญหาเช่นนี้มู่อี้ไม่อาจช่วยอะไรได้แน่นอน เพราะมู่อี้ก็ไม่ใช่หมอและไม่สามารถรักษาคนได้ แต่อย่างไรก็ตามภรรยาของเขานั้นได้ยินมาว่ามีเทพธิดาองค์หนึ่งซึ่งสามารถประทานบุตรให้กับผู้คนที่ไปร้องขอได้
กูเหยาเซินย่อมรู้สึกสงสัยในเรื่องนี้ด้วยเช่นกันแต่เขาก็ไม่อาจช่วยอะไรภรรยาของตัวเองได้ เมื่อมู่อี้มาอยู่ต่อหน้าตนเองในตอนนี้เขาก็ใช้โอกาสนี้ยื่นข้อเสนอให้กับอีกฝ่ายทันทีและเขาต้องการให้มู่อี้ช่วยตรวจสอบดูว่าเรื่องของเทพธิดาองค์นี้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ตามที่กูเหยาเซินได้ทราบมา งานและหน้าที่ของมู่อี้นั้นก็เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ลึกลับและแปลกประหลาดในโลกใบนี้อยู่แล้ว เขาน่าจะตัดสินเรื่องนี้ได้ดีกว่าคนอื่นๆและเรื่องเช่นนี้ให้เขาทำถือว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว
แต่มู่อี้ไม่อยากรับทำเรื่องอะไรแบบนี้เลย ในอดีตนั้นมู่อี้เดินทางไปที่ต่างๆพร้อมกับท่านปู่ มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่ผู้คนจะกราบไหว้ขอบุตรและธิดากับองค์เจ้าแม่กวนอิม แต่ก็มีหญิงสาวมากมายที่ไม่อาจประสบความสำเร็จจนสูญสิ้นศรัทธา บางคนยังถึงขั้นทุบทำลายองค์เจ้าแม่กวนอิม แต่หญิงสาวเหล่านั้นย่อมไม่กล้าบอกเรื่องเช่นนี้ต่อคนอื่นๆอย่างแน่นอนเพราะมันจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของพวกนางรวมถึงวงศ์ตระกูล
แต่เมื่อภรรยาของกูเหยาเซินร้องขออยู่หลายครั้งและกูเหยาเซินก็สัญญาว่าจะช่วยเหลือมู่อี้หลังจากนี้ ดังนั้นหลังจากรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่งมู่อี้ก็รับปากเรื่องนี้ต่อกูเหยาเซิน ตราบใดที่กูเหยาเซินหาคนที่สามารถซ่อมแซมอาวุธวิญญาณให้กับเขาได้เขาก็ยอมทำเรื่องนี้ให้
นี่คือข้อเสนอของมู่อี้ เพราะการหาคนที่สามารถซ่อมแซมอาวุธวิญญาณได้นั้นง่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ? แน่นอนว่าถ้าหากกูเหยาเซินสามารถหาพบได้จริงๆเช่นนั้นมู่อี้ก็ย่อมไม่คิดมากที่จะช่วยเหลือเขาในเรื่องที่เขาร้องขอด้วยเช่นกัน
แต่ในตอนนี้มู่อี้ต้องช่วยเหลือซูจินหลุนเป็นอย่างแรก ฉีต้าพามู่อี้ไปตามเส้นทางที่เขาใช้เดินทางก่อนหน้านี้และขึ้นไปบนภูเขาเสี่ยวหานอย่างเงียบๆ
ตามที่ฉีต้าได้บอกเอาไว้ กลุ่มโจรภูเขานั้นถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่เป็นบิดาของชิวเยวี่ยถง ในตอนแรกราชสำนักก็ส่งคนมาจัดการเรื่องนี้อยู่หลายครั้งแต่การปราบโจรภูเขาทุกครั้งก็เป็นไปได้อย่างยากลำบากและในที่สุดทางราชสำนักก็ปล่อยให้กลุ่มโจรภูเขาได้เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ
โชคดีที่หัวหน้ากลุ่มโจรภูเขาคนก่อนนั้นไม่ใช่คนที่มีความทะเยอทะยานแต่อย่างใดและเขายังเป็นคนที่สุภาพมาก เหตุการณ์ที่รุนแรงจึงไม่ได้เกิดขึ้นเลย
ความจริงแล้วหลังจากเหตุการณ์กบฏลัทธิเหมาที่วุ่นวายในปีนั้นจำนวนโจรในทุกๆพื้นที่นั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมันย่อมเป็นเรื่องปกติที่จะทำให้โจรภูเขากลุ่มนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเหตุการณ์นั้น
ราชวงศ์ชิงกำลังสั่นคลอนอย่างยิ่งในตอนนี้
จากคำพูดของท่านปู่นั้นดูเหมือนว่าโลกนี้กำลังจะตกอยู่ในความวุ่นวาย โดยปกติแล้วในยุคจบสิ้นราชวงศ์นั้นหมายความว่ามังกรได้ลาลับกลับไปยังท้องฟ้าและงูใหญ่จะกลายเป็นผู้ปกครองพื้นพิภพแทน โลกใบนี้จะตกอยู่ในความวุ่นวายและผู้คนจะต้องล้มตายนับไม่ถ้วน
จริงๆแล้วหลีหู่ไม่ได้เป็นลูกของหัวหน้าคนเก่าแต่ในตอนนั้นมีชายคนหนึ่งที่ได้เสียสละชีวิตเพื่อช่วยหัวหน้าคนเก่าเอาไว้ดังนั้นเขาจึงรับลูกชายของชายคนนั้นซึ่งก็คือหลีหู่มาเลี้ยงดูเป็นลูกชายของตนเองแต่เขาก็ไม่ได้คิดวางแผนที่จะส่งมอบตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มโจรภูเขาให้กับหลีหู่ในอนาคต
แต่ใครจะคิดกันว่าเขาจะได้พบกับลูกสาวที่ตนเองทิ้งเอาไว้ตั้งแต่เด็ก นางไม่เพียงสามารถเอาชนะหลีหู่ได้ในการดวลเท่านั้นแต่ยังสามารถเอาชนะผู้ชายทุกๆคนในกลุ่มโจรภูเขาได้อีกด้วย และนางยังสามารถทำให้ผู้อาวุโสในกลุ่มโจรภูเขารู้สึกเชื่อในตัวนางได้
ครึ่งปีต่อจากนั้นหัวหน้าคนเก่าก็จากไปอย่างกะทันหันและไม่มีใครรู้ว่าเขาตายเพราะอะไร แต่ก่อนที่เขาจะตายไปนั้นเขาได้ส่งมอบตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มโจรภูเขาให้กับลูกสาวของตนเองและยังแต่งตั้งให้หลีหู่เป็นหัวหน้าคนที่ 2 เพื่อคอยช่วยเหลืออีกด้วย
ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าคนเก่าทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่หลังจากที่เขาตายไปชิวเยวี่ยถงก็ได้เข้ามาปกครองกลุ่มตัวภูเขาอย่างรวดเร็วส่วนหลีหู่นั้นไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้นและใช้ชีวิตอยู่กับสุรานารีเท่านั้น
ตามที่ฉีต้าเล่ามานั้นก่อนหน้านี้อยู่ๆหลีหู่ก็พูดขึ้นว่าเขาอยากจะแต่งงานกับชิวเยวี่ยถงและเรื่องนี้ก็ได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสเป็นจำนวนมาก ผู้อาวุโสเหล่านั้นต่างก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของหญิงสาวคนหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นหลีหู่ยังเป็นลูกชายที่ถูกต้องของท่านหัวหน้าคนเก่า ถ้าหากเขาได้แต่งงานกับชิวเยวี่ยถงย่อมเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน
แต่ชิวเยวี่ยถงก็ยื่นข้อเสนอของนางออกมา นั่นก็คือตราบใดที่หลีหู่สามารถนำเงินหนึ่งล้านเหรียญทองมากองต่อหน้านางได้นางจะยอมรับการแต่งงานครั้งนี้และจะยอมให้เขาขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรภูเขาอีกด้วย
ในปีนั้นด้วยการดูแลของหัวหน้าคนเก่าแม้ว่ากลุ่มโจรภูเขาแห่งนี้จะไม่ได้ขาดแคลนเสื้อผ้าและอาหาร แต่ก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นอย่าว่าแต่หนึ่งล้านเหรียญทองเลยแค่หนึ่งแสนเหรียญทองก็ไม่มีทางหาได้อย่างแน่นอน
กลุ่มโจรภูเขาที่อยู่บนภูเขาเสี่ยวหานไม่เคยออกไปก่อเรื่องใหญ่โตใดๆ พวกเขาเพียงแค่เก็บค่าผ่านทางเพื่อทำมาหากินเท่านั้นแต่ทุกๆคนก็รู้ดีว่าการทำเรื่องเหนื่อยยากแบบนี้ย่อมไม่มีทางทำให้พวกเขาสุขสบายได้แน่นอนเห็นได้ชัดว่ารายได้จากการเก็บค่าผ่านทางเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกพอใจได้
เมื่อได้ยินข้อเสนอเช่นนี้ไม่มีใครคิดว่าหลีหู่จะสามารถทำสำเร็จได้และผู้คนมากมายต่างก็คิดว่าชิวเยวี่ยถงแค่หาทางปฏิเสธหลีหู่ก็เท่านั้น
แต่ใครจะคิดกันว่าหลีหู่ได้พบกับเรื่องลึกลับอย่างกะทันหัน ตามข่าวที่ได้รับมาจากลูกน้องคนสนิทนั้นหลีหู่กำลังจะได้เป็นหัวหน้าคนใหม่ของกลุ่มโจรภูเขาแห่งนี้
เขาต้องการเป็นหัวหน้าของกลุ่มโจรภูเขาแห่งนี้ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เพียงพลังอำนาจของเขาในการแย่งชิงตำแหน่งนี้ แต่มีเรื่องหนึ่งที่สามารถเป็นไปได้นั่นคือถ้าหากเขาสามารถหาเงินหนึ่งล้านเหรียญทองมาได้ตามที่ชิวเยวี่ยถงได้พูดเอาไว้
หลังจากนั้นไม่นานภายในเมืองก็เกิดคดีตระกูลมั่งคั่งทั้ง 7 ตระกูลโดนขโมยทรัพย์สินออกไปภายในคืนเดียวซึ่งมันต้องเป็นฝีมือของเขาอย่างแน่นอน
ถ้าพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือไม่นานหลังจากที่คดีได้เกิดขึ้นมากูเหยาเซินก็ทราบดีอยู่แล้วว่าใครคือผู้ที่ลงมือในคดีนี้ แต่เขาก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รับรู้และให้เซี่ยเหมี่ยวเข้ามาดูแลคดีนี้แทน
เหตุผลและแรงจูงใจของผู้ที่ลงมือในคดีนี้เขาก็ทราบดีอยู่แล้ว
แม้ว่าหลังจากนั้นจะไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกแต่เขาก็ไม่อยากให้มู่อี้ปรากฏตัวออกมาก่อน ในท้ายที่สุดนั้นกูเหยาเซินสามารถจบคดีนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและงดงาม บางทีเขาอาจจะสามารถกำจัดภัยร้ายอย่างกลุ่มโจรภูเขาให้หมดไปได้ในครั้งเดียว
น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกินความสามารถที่กูเหยาเซินจะรับมือได้แล้ว ทั่วทั้งเมืองนี้เขามีลูกน้องที่ไว้ใจได้เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแต่คนเหล่านั้นต่างก็ได้รับบาดเจ็บเป็นส่วนใหญ่ ถ้าหากเขาจะไปใช้ลูกน้องคนอื่นๆก็ต้องมีเรื่องวุ่นวายอีก
มู่อี้ไม่มีความเห็นใดๆเรื่องของกูเหยาเซินแต่เขาก็รู้สึกชื่นชมชายคนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอยากรู้เรื่องราวของกลุ่มโจรภูเขาเสี่ยวหานนี้ยิ่งขึ้นไปอีก
เป็นข่าวดีที่เขาได้ทราบว่าความสัมพันธ์ของหัวหน้าทั้งสองคนของกลุ่มโจรภูเขานั้นไม่ได้ลงรอยกันนัก ซึ่งทำให้แรงกดดันที่มู่อี้ได้รับนั้นลดลงไปมาก
แม้ว่าเขาจะเขียนยันต์ขึ้นมามากมายในเช้าวันนี้แต่ยันต์สายฟ้านั้นก็สำเร็จเพียงแค่ 1 แผ่นเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพียงแค่ยันต์ปราบปีศาจ ถ้าหากศัตรูของเขาเป็นแค่คนธรรมดามันก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
แต่เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายเป็นถึงกลุ่มโจรภูเขามันก็ย่อมทำให้เขารู้สึกหนักใจขึ้นมาทันที โชคดีที่มู่อี้ก็นำธงราชันย์แห่งวิญญาณและเนี่ยนหนิวเอ้อร์ติดตัวไปด้วยในครั้งนี้ ตอนนี้สิ่งที่เขากำลังทำก็คือรอคอยอย่างเงียบๆให้เวลากลางคืนมาถึงและเขาจะได้เริ่มเข้าไปในภูเขาเพื่อช่วยเหลือคนออกมา