CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 120 โดมท้าประลอง (3)

  1. Home
  2. Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
  3. บทที่ 120 โดมท้าประลอง (3)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“แข็งแกร่ง​ดี​นี่​หว่า​! งั้น​ให้​ข้า​ลองดู​บ้าง​” เมื่อ​มาถึงจุด​นี้​ เสียง​หนึ่ง​ก็​พลัน​ดัง​ขึ้น​

ทหาร​นาย​หนึ่ง​พุ่งตัว​ออกมา​โดย​ไม่มีสัญญาณเตือน​ล่วงหน้า​ ก่อน​จะก้าว​เข้ามา​ใน​สนาม​ประลอง​ระดับ​เริ่มต้น​ทันที​

“ใคร​ขอให้​เจ้าขึ้นไป​!” ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​อุทาน​อย่าง​โกรธเกรี้ยว​พร้อมๆ กัน​ อย่างไรก็ตาม​ ในไม่ช้า​เสียง​ของ​พวกเขา​ก็​ต้อง​หยุดชะงัก​และ​แววตา​ก็​แปร​เปลี่ยนเป็น​ประหลาดใจ​

โจว​เหว่​ย​ชิงมอง​ไป​ที่​คู่ต่อสู้​คน​ใหม่​ของ​เขา​และ​พบ​ว่า​เป็น​ทหาร​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​แต่งกาย​ด้วย​ชุด​เครื่องแบบ​ทหารราบ​ ทว่า​ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​กลับ​แตกต่าง​จาก​คนอื่นๆ​ เนื่องจาก​เขา​ไม่ได้​สวม​ชุด​เกราะ​หนัง​ ยิ่งไปกว่านั้น​ แม้กระทั่ง​ชุด​ทหาร​ของ​เขา​ก็​ทั้ง​เก่า​ทั้ง​สกปรก​มอมแมม​ บน​ศีรษะ​ของ​ชายหนุ่ม​ร่าง​โต​มีเส้น​ผม​สีเขียว​ตัด​สั้น​ประดับ​อยู่​ เขา​ดู​ดุร้าย​โหดเหี้ยม​ราวกับ​นักเลงโต​ข้าง​ถนน​ กระทั่ง​ออกจะ​น่าเกลียด​เล็กน้อย​เนื่องจาก​รูปร่าง​ที่​ใหญ่​ปัก​หลั่น​เหมือน​ภูเขา​และ​สูงเกือบ​ 2 เมตร​ เครื่องแบบ​ทหาร​ของ​เขา​แบะ​คอเสื้อ​ออก​กว้าง​ เผย​ให้​เห็น​กล้ามเนื้อ​หน้าอก​ที่​นูน​ออกมา​เป็น​ลูก​ๆ และ​รอยสัก​หัว​หมาป่า​ขนาดใหญ่​ นอกจาก​จะมีกลิ่นอาย​ที่​ดุร้าย​แล้ว​ เขา​ยัง​ดูเหมือน​โจร​ป่า​มาก​อีกด้วย​

ชายหนุ่ม​กำลัง​ขยี้​ผม​สีเขียว​สั้น​ๆ ของ​ตนเอง​ ดวงตา​ของ​เขา​ฉายแวว​อันตราย​ขณะ​จ้องมอง​ไป​ที่​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​ มัน​เป็น​แสงเหยียบ​เย็น​ที่​ทำให้​ฝ่ายตรงข้าม​ต้อง​รีบ​หยุด​พูด​ในทันที​

ประสาทสัมผัส​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงนั้น​ดีมาก​ และ​เขา​ก็​สามารถ​ได้ยิน​เสียง​กระซิบ​ใน​หมู่​ผู้ชม​ว่า​ “นั่น​คือ​กองพัน​นักเลง​นี่​นา​”

กองพัน​นักเลง​? มีกลุ่ม​เช่นนี้​ใน​กองทัพ​อาณาจักร​จ้งเทียน​ด้วย​หรือ​?

โจว​เหว่​ย​ชิงไม่มีเวลา​ให้​หมกมุ่น​อยู่​กับ​ความคิด​ของ​ตนเอง​อีกต่อไป​เนื่องจาก​ขณะนี้​ชาย​ร่าง​กำยำ​คน​นั้น​กำลัง​กวัก​นิ้ว​เรียก​เขา​ “เด็กน้อย​ ดูเหมือนว่า​เจ้าจะมั่นใจ​ใน​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ตัวเอง​มาก​ใช่ไหม​? เข้ามา​! พี่ใหญ่​คน​นี้​จะแข่งขัน​กับ​เจ้าใน​เรื่อง​นั้น​เอง​” ในขณะที่​พูด​เช่นนั้น​ ชายหนุ่ม​ก็​เดิน​ไปหา​โจว​เหว่​ย​ชิง

“หยุด​!” ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​ต่าง​รีบร้อน​วิ่ง​เข้าไป​ใน​สนาม​และ​ยืน​ขวาง​อยู่​ด้านหน้า​โจว​เหว่​ย​ชิงทันที​

คน​ที่อยู่​ทางซ้าย​พูด​กับ​ชาย​ร่าง​กำยำ​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ “หมาป่า​เขียว​ เจ้ากำลัง​พยายาม​จะสร้าง​ปัญหา​ให้​กรม​ทหาร​ที่​ 16 ของ​เรา​หรือ​?”

หมาป่า​เขียว​โค้ง​ริมฝีปาก​ขึ้น​อย่าง​ดูถูก​เหยียดหยาม​และ​พูดว่า​ “อะไร​นะ​? กรม​ทหาร​ที่​ 16 ของ​เจ้าเสียดาย​ 1 เหรียญเงิน​หรือ​อย่างไร​? กระทั่ง​ไม่มีใคร​มีความสามารถ​มาก​พอ​จะจัดการ​กับ​เด็ก​ใหม่​นี่​ได้​ พอดี​กับ​ที่​บิดา​คน​นี้​รู้สึก​คันไม้คันมือ​อยาก​จะต่อสู้​อยู่​พอดี​ ข้า​ก็​แค่​มีเมตตา​อยาก​จะช่วยเหลือ​เจ้า อย่า​มาวางท่า​ต่อหน้า​ข้า​หน่อย​เลย​ ในแง่​ของ​ลำดับ​ยศ​ ข้า​ บิดา​ผู้​นี้​ก็​เสมอกัน​กับ​พวก​เจ้า หาก​ไม่มีใคร​กล้า​พอ​ กรม​ทหาร​ที่​ 6 ก็​ตะโกน​ออกมา​ดัง​ๆ ได้​เลย​ว่า​ พี่ใหญ่​หมาป่า​เขียว​ ข้า​กลัว​แล้ว​ หาก​พวก​เจ้ายอม​ทำ​เช่นนั้น​จริงๆ​ ข้า​ก็​จะจากไป​ทันที​”

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​รู้สึก​โกรธเกรี้ยว​เป็นอย่างมาก​ และ​ในขณะที่​พวกเขา​ก็​กำลังจะ​ตอบ​โต้กลับ​ จู่ๆเสียง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ดัง​ทาง​มาจาก​ด้านหลัง​พวกเขา​ “ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​ โปรด​ให้​ข้า​ลอง​ดูเถิด​”

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​หันมา​มอง​เขา​พลาง​ขมวดคิ้ว​ และ​คน​ทางขวา​ก็​เอ่ย​แทรก​ว่า​ “สมาชิก​ของ​กองพัน​นักเลง​ทุกคน​ย่อม​ไม่เค​ยอ​อมมือ​ให้​ใคร​ ระวังตัว​ไว้​ด้วย​ก็แล้วกัน​” ใน​ตอนนี้​ เพื่อ​รักษา​เกียรติ​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 พวกเขา​จึงไม่อาจ​หยุด​การต่อสู้​นี้​ได้​ นอกจากนี้​ หาก​จะต้อง​พ่ายแพ้​ก็​ไม่มีอะไร​จะน่ากลัว​ แต่​หาก​ไม่ยอม​ต่อสู้​ล่ะ​ก็​ พวกเขา​คงจะ​ต้อง​ถูก​ล้อเลียน​และ​เสียหน้า​อย่าง​ไม่รู้​จบ​แน่นอน​

เมื่อ​เห็น​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​คน​ถอยห่าง​ออก​ไป​ หมาป่า​เขียว​ก็​เบ้​ริมฝีปาก​อย่าง​เยาะเย้ย​และ​พูดว่า​ “หึ​ ทำเป็น​วางท่า​อยู่​ได้​ พวก​เจ้าเป็น​คน​แบบ​ไหน​กัน​แน่​ ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​พ่ายแพ้​ให้​แก่​บิดา​คน​นี้​อยู่แล้ว​ เอาล่ะ​ เจ้าเข้ามา​ได้​แล้ว​เด็กน้อย​”

ขณะ​พูด​เช่นนั้น​ เขา​ก็​กวัก​นิ้ว​ไป​ทาง​โจว​เหว่​ย​ชิงอีกครั้ง​

โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ได้​ขุ่นเคือง​เลย​แม้แต่น้อย​ รอยยิ้ม​ที่​ซื่อสัตย์​ตามแบบฉบับ​ของ​เขา​พลัน​ปรากฏ​บน​ใบหน้า​ ดูเหมือน​คน​ธร​รร​มดา​ๆ ขณะที่​ก้าวเดิน​ไปหา​หมาป่า​เขียว​อย่าง​เชื่องช้า​ “ระวังตัว​ด้วย​ ข้า​จะลงมือ​แล้ว​”

พวกเขา​สอง​คน​อยู่​ห่าง​กัน​ไม่มาก​นัก​ เดิน​เพียง​ไม่กี่​ก้าว​จึงสามารถ​พา​เขา​มาอยู่​ตรงหน้า​หมาป่า​เขียว​ได้​แล้ว​ โจว​เหว่​ย​ชิงทำ​เพียงแค่​ชก​ไป​ยัง​ใบหน้า​ของ​หมาป่า​เขียว​โดยตรง​ ปราศจาก​เล่ห์เหลี่ยม​หรือ​การกระทำ​ที่​ไร้ประโยชน์​ใดๆ​

หมาป่า​เขียว​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ แม้เขา​จะบอ​กว่า​ต้องการ​ประลอง​ความ​แข็งแกร่ง​กับ​โจว​เหว่​ย​ชิง แต่​เมื่อ​เขา​ลงมือ​จริงๆ​ ชายหนุ่ม​กลับ​ไม่ได้​มีท่าที​ว่า​จะทำ​เช่นนั้น​แม้แต่น้อย​ ในทางตรงกันข้าม​ ร่างกาย​ของ​หมาป่า​เขียว​กลับ​ขยับ​ไป​ด้าน​ข้าง​ เสหลบ​หมัด​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงในขณะที่​มือซ้าย​ฟาด​ออก​ไป​ยัง​ข้อต่อ​แขนขวา​ของ​เด็กหนุ่ม​ราวกับ​ใช้แส้หวด​ ในเวลาเดียวกัน​ ขา​ขวา​ของ​เขา​ก็​เหวี่ยง​เข้าไป​ยัง​ช่องว่าง​ระหว่าง​ขา​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​ ส่วน​ข้อศอก​ขวา​ก็​พุ่ง​เข้าที่​ใบหน้า​ของ​เด็กหนุ่ม​อย่าง​รุนแรง​

ด้วย​การ​ลงมือ​ของ​หมาป่า​เขียว​ กลิ่นอาย​แสน​ดุร้าย​ป่าเถื่อน​ใน​บรรยากาศ​ก็​พลัน​ถูกจุด​ขึ้น​ จาก​การกระทำ​ของ​เขา​ เห็นได้ชัด​ว่า​ชายหนุ่ม​มีทักษะ​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ที่​ดี​

เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​การเคลื่อนไหว​ของ​หมาป่า​เขียว​ ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงกลับ​ง่ายดาย​มาก​ กล่าว​ได้​ว่า​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​เป็น​ปรมาจารย์​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ของ​เขา​ และ​เธอ​ก็ได้​สอน​โจว​เหว่​ย​ชิงว่า​ทุก​ช่วง​วินาที​สั้น​ๆ ใน​ขณะ​ต่อสู้​ระยะ​ประชิด​นั้น​มีความสำคัญ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ทุก​วินาที​อาจ​นำไปสู่​ผลลัพธ์​ที่​แตก​ต่างกัน​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​ ด้วยเหตุนี้​ บ่อยครั้ง​การเคลื่อนไหว​ที่​เรียบง่าย​ไม่ซับซ้อน​จึงเป็น​สิ่งที่​ดี​ที่สุด​ พุ่ง​เข้าไป​เล่นงาน​จุดอ่อน​ของ​ศัตรู​เพื่อให้​ได้มา​ซึ่งชัยชนะ​ด้วย​การ​โจมตี​เพียง​ครั้ง​เดียว​

แน่นอน​ว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​แล้ว​ ทักษะ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ยังมี​ช่องว่าง​ขนาดใหญ่​คั่น​กลาง​อยู่​ระหว่าง​ตัว​เขา​กับ​หญิงสาว​ ทว่า​ช่วงเวลา​สอง​สามวัน​ที่ผ่านมา​นี้​ เขา​ก็​ไม่ได้​ถูก​ทุบตี​ไป​อย่างไร​ประโยชน์​ โจว​เหว่​ย​ชิงย่อม​ก็ได้​เรียนรู้​มากมาย​จาก​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​

หมัด​ที่​เขา​เหวี่ยง​ออก​ไป​ถูก​ดึง​กลับ​ทันที​ด้วย​ความเร็ว​ดุจ​สายฟ้า​ก่อน​จะพุ่ง​ออก​ไป​อีกครั้ง​ ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงนั้น​รวดเร็ว​ ทว่า​กลับ​แสน​เรียบง่าย​โดยที่​ไม่มีการกระทำ​อื่น​แอบแฝง​อยู่​อีก​

มือขวา​ของ​เด็กหนุ่ม​กระแทก​เข้าที่​มือซ้าย​ของ​หมาป่า​เขียว​ซึ่งกำลัง​พุ่ง​เข้ามา​อย่าง​รุนแรง​ และ​ผู้ชม​ก็​ได้ยิน​เพียงแค่​เสียง​ *ตูม​* ดัง​ขณะที่​แขน​ของ​พวกเขา​ปะทะ​กัน​ การกระทำ​ทั้งหมด​ของ​หมาป่า​เขียว​พลัน​ไร้ประโยชน์​ใน​ทันทีที่​แขน​ของ​พวกเขา​ปะทะ​กัน​ ชายหนุ่ม​ถูก​กระแทก​จน​เซถอยหลัง​ไป​ 3-4 หลา​ก่อน​จะกลับมา​ทรงตัว​ได้​ในที่สุด​ การ​โจมตี​ที่​วางแผน​ไว้​อย่าง​ดี​ทั้งหมด​ของ​ชายหนุ่ม​พลัน​ถูก​ทำลาย​ลง​ไป​ด้วย​การ​โจมตี​เพียง​ครั้ง​เดียว​

หมาป่า​เขียว​เป็นที่​เลื่องลือ​ใน​เรื่อง​ความดุร้าย​และ​เหี้ยมโหด​ ก่อนที่​การต่อสู้​จะเริ่ม​ขึ้น​ ไม่มีใคร​คาดคิด​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะจบ​ลง​ด้วย​สภาพ​ดี​ๆ เหมือน​ตอนแรก​ด้วยซ้ำ​ นอกจากนี้​ยัง​ไม่เคย​มีใคร​เคย​จินตนาการ​ว่า​ทันทีที่​เริ่ม​เปิดฉาก​การต่อสู้​ ผู้​ที่​ขึ้น​เป็น​ฝ่าย​เหนือกว่า​จะเป็น​ทหาร​ใหม่​ที่​ดู​ซื่อๆ​ คน​นี้​

เมื่อ​ถูก​จู่โจมจน​เซกลับ​ไป​ด้านหลัง​ด้วย​การ​โจมตี​เพียง​ครั้ง​เดียว​ หมาป่า​เขียว​ก็​พลัน​ตกตะลึง​ไป​ ชายหนุ่ม​ไม่คิดฝัน​เช่นกัน​ว่าด้วย​พลัง​ของ​เขา​ ตน​จะถูก​เด็กหนุ่ม​คน​นี้​ล้ม​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

ประกาย​ดุร้าย​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ค่อยๆ​ เข้มข้น​ขึ้น​ และ​ที่​บริเวณ​รอบ​ๆ ข้อ​มือขวา​ มณียุทธ์​ 4 ดวง​ซึ่งประกอบ​ไป​ด้วย​หยก​น้ำแข็ง​และ​หยก​เหลือง​ก็​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​มาอย่าง​เจิดจ้า​ แท้จริง​แล้ว​เขา​เป็น​จ้าว​มณียุทธ์​ระดับ​มณี 4 ดวง​ซึ่งมีทักษะ​ยุทธ์​ด้าน​ความ​แข็งแกร่ง​และ​การป้องกัน​

จ้าว​มณียุทธ์​ระดับ​ 4 มณีถูก​พิจารณา​ว่า​เป็นยอด​ฝีมือ​ใน​กองทัพ​อยู่แล้ว​ และ​นั่น​ก็​คือ​สาเหตุ​หลัก​ที่​ทำให้​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​คน​เกรงกลัว​หมาป่า​เขียว​ก่อนหน้านี้​

เมื่อ​เห็น​ว่า​หมาป่า​เขียว​ได้​ปลดปล่อย​มณียุทธ์​ของ​ตน​ออกมา​แล้ว​ ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​ก็​อุทาน​ด้วย​ความ​กรุ่น​โกรธ​ ตาม​กฎ​ของ​สนาม​ประลอง​ที่นี่​ หาก​ฝ่ายตรงข้าม​ไม่ใช่จ้าว​มณี พวกเขา​ก็​จะไม่ได้รับอนุญาต​ให้​ใช้มณียุทธ์​หรือ​มณีธาตุ​ของ​ตนเอง​

การกระทำ​ของ​หมาป่า​เขียว​นั้น​รวดเร็ว​มาก​ และ​ใน​ทันทีที่​ปลดปล่อย​มณียุทธ์​ทั้ง​ 4 ออกมา​ เขา​ก็​พุ่ง​เข้าหา​ตัว​โจว​เหว่​ย​ชิงแล้ว​ ด้วย​พลัง​ที่​เพิ่มขึ้น​เพราะ​มณียุทธ์​ แม้ว่า​ชายหนุ่ม​จะไม่ได้​ใช้ศาสตรา​มณียุทธ์​ใดๆ​ แต่​ความ​แข็งแกร่ง​และ​การป้องกัน​ก็​ย่อม​จะต้อง​เพิ่มขึ้น​สูงกว่า​เดิม​มาก​

การ​ถูก​เด็ก​ใหม่​ล้ม​อย่าง​ง่ายดาย​เช่นนี้​ถือ​เป็นความ​อัปยศอดสู​สำหรับ​เขา​ และ​หมาป่า​เขียว​ก็​อยาก​จะรักษาหน้า​ตนเอง​ด้วย​การตอบโต้​เอาคืน​

นอกจาก​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​แล้ว​ เกือบ​ทุกคน​ตะโกน​บอก​โจว​เหว่​ย​ชิงให้​ระวังตัว​ ใน​สายตา​ของ​เหล่า​ผู้ชม​ หมาป่า​เขียว​ที่มา​พร้อม​มณียุทธ์​ของ​เขา​นั้น​น่ากลัว​เกินไป​ ทว่า​ ผลลัพธ์​ที่​ตามมา​กลับกลาย​เป็นเรื่อง​ที่​ทุกคน​คาดไม่ถึง​

*ตูม​* เกิด​การปะทะ​กัน​ดัง​ขึ้น​ และ​ทุกคน​ต่าง​ก็​จับตาดู​ขณะที่​การ​โจมตี​อัน​แสน​รวดเร็ว​และ​ทรงพลัง​ของ​หมาป่า​เขียว​ถูก​หยุด​ลง​กลางทาง​ จากนั้น​ไม่นาน​ ชายหนุ่ม​ก็​ถูก​ส่งตัว​กระเด็น​กลับ​ออก​ไป​ไกล​กว่า​ 10 หลา​ ร่อน​ลง​สู่พื้นที่​นอก​เขต​สนาม​และ​กระแทก​พื้น​อย่าง​รุนแรง​

กลาง​สนาม​ต่อสู้​ โจว​เหว่​ย​ชิงเพียงแค่​วาง​ขา​ลง​แตะ​พื้น​ เห็นได้ชัด​ว่า​หมาป่า​เขียว​ถูก​ส่งให้​บิน​ถลา​ออก​ไป​โดย​การ​เตะ​เพียง​ครั้ง​เดียว​

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​คน​ที่​กำลังจะ​พุ่งตัว​ไป​ข้างหน้า​พลัน​หยุดกึก​อย่าง​กะทันหัน​และ​จ้องมอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​ไม่รู้​จะทำ​อย่างไร​ดี​ ทั้งคู่​เริ่ม​เห็น​เหงื่อ​ที่​หยด​ลง​บน​หน้าผาก​ของ​กันและกัน​อย่าง​เงียบๆ​

การ​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงสามารถ​เอาชนะ​หมาป่า​เขียว​ได้​ด้วย​การ​เตะ​เพียง​ครั้ง​เดียว​ไม่ใช่สิ่งที่​ทำให้​พวกเขา​ประหลาดใจ​ ถึงอย่างไร​ด้วย​ระดับ​พลัง​ของ​หมาป่า​เขียว​ก็​มีหลาย​คนใน​กองทัพ​ที่​มีพลัง​มากกว่า​เขา​ สิ่งสำคัญ​กว่า​นั้น​คือ​ขณะที่​โจว​เหว่​ย​ชิงปลดปล่อย​ลูก​เตะ​ออก​ไป​ก่อนหน้านี้​ พวกเขา​ไม่ได้​รู้สึก​ถึงพลัง​ปราณ​สวรรค์​เลย​ กล่าวคือ​เขา​ใช้ความ​แข็งแกร่ง​ทางกาย​ ภาพ​เพียง​อย่าง​เดียว​ส่งหมาป่า​เขียว​กระเด็น​ออก​ไป​ด้วย​การ​เตะ​ นั่น​ต่างหาก​คือ​สิ่งที่​น่าหวาดกลัว​ที่สุด​ ความ​แข็งแกร่ง​ทางกายภาพ​แบบ​ใด​กันที่​ทำให้​เขา​สามารถ​เอาชนะ​จ้าว​มณียุทธ์​ประเภท​ความ​แข็งแกร่ง​ระดับ​ 4 ดวง​ได้​!

หมาป่า​เขียว​นอนแผ่​อยู่​กับ​พื้น​ และ​เขา​กระหืดกระหอบ​อยู่​พัก​หนึ่ง​ก่อน​จะลุกขึ้น​ในที่สุด​ เวลานี้​เมื่อ​ชายหนุ่ม​มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิง แววตา​พลัน​ก็​เปลี่ยนไป​โดยสิ้นเชิง​ แต่​ถึงกระนั้น​เขา​ก็​เป็น​คน​ที่​สามารถ​ปรับตัว​กับ​สถานการณ์​และ​รับมือ​กับ​ความพ่ายแพ้​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ ชายหนุ่ม​จึงเดิน​ออกจาก​พื้น​ที่เกิดเหตุ​โดย​ไม่ลังเล​เลย​และ​ไม่เอ่ย​อะไร​อีก​

ในขณะนั้น​ ผู้คน​รอบข้าง​สนาม​ต่าง​ก็​ส่งเสียง​โห่ร้อง​อย่าง​ตื่นเต้น​ ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​คนอื่นๆ​ จาก​อีก​ 9 สนาม​ประลอง​ระดับ​เริ่มต้น​ทันที​

สำหรับ​ทหาร​คนอื่นๆ​ โจว​เหว่​ย​ชิงถือเป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 ของ​ตน​ และ​การ​ที่​เด็กหนุ่ม​สามารถ​เอาชนะ​หมาป่า​เขียว​ได้​ เขา​จึงกำลัง​สร้าง​ความภาคภูมิใจ​ให้​กับ​ทุกคน​ในนามของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​เดิน​ไปหา​โจว​เหว่​ย​ชิงพร้อมกับ​ยกนิ้วให้​เขา​ “หนุ่มน้อย​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เจ้าน่าประทับใจ​จริงๆ​! ทำได้​ดีมาก​ คราวนี้​เจ้าช่วย​ให้​กรม​ทหาร​ที่​ 16 ของ​เรา​ได้หน้า​แล้ว​”

โจว​เหว่​ย​ชิงคิด​กับ​ตัวเอง​ใน​ใจ ข้า​ไม่ได้​ต่อสู้​ใน​โดม​ท้า​ประลอง​แห่ง​นี้​เพื่อให้​กรม​ทหาร​ของ​เจ้าได้หน้า​! อย่างไรก็ตาม​ เด็กหนุ่ม​กลับ​ยังคง​รอยยิ้ม​ที่​ซื่อๆ​ ไว้​บน​ริมฝีปาก​ก่อน​จะกล่าวว่า​ “ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ ไป​ต่อ​ที่​รอบ​ถัดไป​เถอะ​ ท่าน​ไม่ได้​บอก​หรือว่า​ข้า​สามารถ​เลื่อน​ขึ้น​เป็น​นาย​หมู่​ได้​หาก​ชนะ​ 10 รอบ​ติดต่อกัน​?”

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​แลกเปลี่ยนความคิดเห็น​กัน​อีก​ครั้งก่อน​จะพยักหน้า​พร้อมๆ กัน​ ชาย​ทางซ้าย​กล่าว​ขึ้น​มาว่า​ “ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เจ้ามีมาก​เกิน​พอ​จะเป็น​นาย​หมู่​แล้ว​ เอา​เช่นนี้​เป็น​อย่างไร​ หาก​เจ้ามาสังกัด​ที่​กองร้อย​ของ​ข้า​โดยตรง​ ข้า​ก็​สามารถ​มอบ​ตำแหน่ง​นาย​หมู่​ให้​เจ้าได้​ทันที​ เจ้าไม่จำเป็นต้อง​ต่อสู้​ที่นี่​ต่อไป​อีก​”

“เฮ้ย​ๆๆ น้องชาย​คน​นี้​ควร​เข้าร่วม​กองร้อย​ของ​ข้า​ต่างหาก​ ตอนนี้​ข้า​ขาด​นาย​หมู่​ไป​หนึ่ง​คน​นะ​เฟ้ย​”

ก่อนที่​โจว​เหว่​ย​ชิงจะได้​ทัน​เปิดปาก​ ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​ก็​เริ่ม​โต้เถียง​กัน​โดย​หวัง​ว่า​จะได้​นาย​หมู่​ที่​ทรงพลัง​เช่นนี้​มาไว้​ใต้​อาณัติ​

โจว​เหว่​ย​ชิงหัวเราะ​อย่าง​เต็มเสียง​และ​กล่าวว่า​ “ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​โปรด​อย่า​ทะเลาะ​กัน​เลย​ เนื่องจาก​ท่าน​ทั้งสอง​ได้​ตกลง​ที่จะ​ให้​ข้า​ผ่าน​การต่อสู้​ของ​สนาม​ระดับ​เริ่มต้น​ทั้ง​ 10 ครั้ง​แล้ว​ ดังนั้น​ข้า​จึงอยาก​จะลอง​ต่อสู้​กับ​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​ ได้​หรือไม่​?”

“เอ๊ะ​? เจ้าต้องการ​ท้า​หนึ่ง​ใน​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​หรือ​?” ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​หยุด​โต้เถียง​กัน​ในทันที​ จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงด้วย​แววตา​แปลกประหลาด​

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทาง​ด้าน​ซ้าย​กล่าวว่า​ “เด็กน้อย​ เจ้าต้อง​พิจารณา​ทางเลือก​ของ​ตัวเอง​ให้​ดี​ ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​ทั้งหมด​เป็น​จ้าว​มณี บางคน​เป็น​ถึงจ้าว​มณีสวรรค์​ แม้ว่าความ​แข็งแกร่ง​ของ​เจ้าจะน่าประทับใจ​มาก​ แต่​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​เหล่านี้​ก็​ไม่ใช่คน​ที่จะ​ไป​ล้อเล่น​ด้วย​ได้​ง่ายๆ​ เจ้าก็ได้​เห็น​แล้ว​ว่าความ​แข็งแกร่ง​ของ​หมาป่า​เขียว​เป็น​เช่นไร​ แต่​เขา​กลับ​สามารถ​อยู่​ได้​เพียง​ระดับ​เริ่มต้น​เท่านั้น​ ใน​ระดับ​กลาง​ ความ​แข็งแกร่ง​ทางกายภาพ​เพียง​อย่าง​เดียว​ย่อม​ไม่อาจ​นำพา​เจ้าไป​สู่ชัยชนะ​ได้​หรอก​นะ​”

โจว​เหว่​ย​ชิงเกา​หัว​และ​พูดว่า​ “ข้า​อยาก​จะลองดู​ขอรับ​”

“เอาล่ะ​ หาก​เป็น​เช่นนั้น​ เจ้าก็​รอ​อยู่​ที่นี่​ ข้า​จำเป็นต้อง​รายงาน​ผู้บังคับบัญชา​ของ​พวกเรา​ก่อน​ อีก​ทั้ง​ผู้คุม​สังเวียน​ก็​ต้อง​จับฉลาก​ด้วย​ นาน​มาก​แล้ว​ที่​ไม่มีใคร​กล้า​ท้า​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​ ดังนั้น​เรา​จึงต้อง​ดู​ว่า​วันนี้​มีใคร​อยู่​ที่นี่​บ้าง​ และ​พวกเขา​จึงจะจับฉลาก​เพื่อ​ตัดสิน​กัน​ว่า​ใคร​จะได้​สู้กับ​เจ้า น้องชาย​ ความกล้าหาญ​ของ​เจ้าน่ายกย่อง​มาก​ แต่​ก็​ข้า​หวัง​ว่า​เจ้าจะผ่าน​เรื่อง​นี้​ไป​ได้​ด้วยดี​”

หลังจาก​พูด​แบบ​นั้น​ ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้งสอง​ก็​รีบ​ไป​สะสางเกี่ยวกับ​ลำดับ​การต่อสู้​ครั้ง​ถัดไป​ของ​คนอื่นๆ​ ใน​สนาม​ประ​ลองของ​ระดับ​เริ่มต้น​ จากนั้น​จึงเดิน​ออก​ไป​อย่าง​เร่งรีบ​

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 120 โดมท้าประลอง (3)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์