Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 44.3 ค้อนคู่ระดับเทพเจ้าในตำนาน (3)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 44.3 ค้อนคู่ระดับเทพเจ้าในตำนาน (3)
อย่างไรก็ตาม ความจริงนั้นค่อนข้างแตกต่างออกไปมากทีเดียว ค้อนขนาดยักษ์ได้กวาดผ่านร่างของหมิงฮัวไปเสียเฉยๆ ราวกับว่ามันทำมาจากแสง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทันรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือ หมิงฮัวถูกค้อนทุบจริงๆ แต่เธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
อย่างไรเสียโจวเหว่ยชิงก็ไม่ได้มีเจตนาฆ่าหมิงฮัว เขาไม่ได้โกรธแค้นเธอมากนักและมันเป็นเพียงแค่การต่อสู้เรื่องเช่าบ้าน เรื่องแค่นี้จะทำให้เขาฆ่าคนได้อย่างไร? นอกจากนี้ ที่นี่คือเมืองเฟยหลี่ เขาไม่ได้เป็นพลเมืองของอาณาจักรนี้และไม่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย ในทางกลับกัน หมิงฮัวและพี่ชายของเธอเห็นได้ชัดว่ามีสถานะบางอย่างในเมืองเฟยหลี่ โจวเหว่ยชิงจึงไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับตัวเอง เขาจ่ายค่าเรียนไปแล้ว แน่นอนว่าเขาต้องตั้งใจเรียนให้เต็มที่!
“ลืมตาได้แล้ว รีบๆ กำจัดดอกไม้พวกนี้ไปซะ” โจวเหว่ยชิงยกค้อนในมือขวาขึ้นเคาะหน้าผากหมิงฮัวเบาๆ ทำให้เกิดเสียง *ปั่ก* แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พละกำลังใดๆ เลยแม้แต่น้อย นั่นก็ยังทำให้ศีรษะของเธอถึงกับสั่นคลอน หมิงฮัวลืมตาขึ้นมองโจวเหว่ยชิงด้วยความสับสน “ข้า…ข้ายังไม่ตาย?” สิ่งแรกที่เธอทำคือสัมผัสศีรษะของตนเองอย่างรวดเร็ว ศีรษะที่คิดว่าน่าจะถูกทุบเป็นเศษเล็กน้อยไปแล้ว
นอกจากหน้าผากของเธอซึ่งเพิ่งถูกค้อนสะกิดและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ศีรษะของเธอก็ยังดีอยู่ อีกทั้งยังไม่มีร่องรอยของความเสียหายใดๆ ด้วย
หมิงฮัวกระพริบตาปริบๆ การรอดพ้นความตายมาได้อย่างหวุดหวิดทำให้อารมณ์ของเธอปะทุขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ “เจ้าสารเลว! เจ้าเกือบจะฆ่าข้า!”
โจวเหว่ยชิงตกใจกับเสียงโวยวายของเธอ ก่อนจะตะโกนกลับด้วยความโกรธ “ข้า! บิดาของเจ้า! ไม่ได้ฆ่าเจ้าเสียหน่อย เจ้าไม่ควรมีความสุขหรือตื่นเต้นหน่อยหรือไง? เป็นอะไรไป จะตะโกนทำไมเนี่ย?!”
แสงสีเขียวสว่างวาบขึ้น จากนั้นบาดแผลที่ร้ายแรงส่วนใหญ่ของหมิงฮัวก็หายไปทันที เธอกระโดดถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างจากโจวเหว่ยชิง ในเวลาเดียวกันแสงสีแดงก็ผุดวาบในดวงตาของเธอ โจวเหว่ยชิงรู้สึกราวกับว่าอากาศในพื้นที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ในวินาทีถัดมา ดอกไม้แห่งยมโลกทั้ง 7 ดอกก็ปลดปล่อยแรงดึงดูดขนาดใหญ่ออกมา โจวเหว่ยชิงพลันรู้สึกได้ว่าเลือดและพลังปราณสวรรค์ของเขากำลังจะถูกพวกมันดูดกลืนเข้าไป
ดอกไม้แห่งยมโลกเป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของหมิงฮัว พวกมันจะเรียบง่ายเหมือนกับการโจมตีธรรมดาได้อย่างไร อันที่จริงก่อนหน้านี้แม้แต่เกราะเทพอมตะของโจวเหว่ยชิง พวกมันก็ยังมีพลังไม่เพียงพอจะป้องกันดอกไม้เกล่านี้เอาไว้ได้
ดูดเลือดและดูดซับพลังปราณสวรรค์! โจวเหว่ยชิงผงะ พยายามใช้ค้อนในมือฟาดใส่ดอกไม้แห่งยมโลกเบื้องหน้าเขา แต่เขาก็ค้นพบว่าค้อนทั้ง 2 ของเขาเฉียดผ่านดอกไม้แห่งยมโลกไปอย่างน่าตกใจ ราวกับว่าพวกมันเป็นภาพลวงตาและไม่มี
ร่างจริง! ไม่น่าแปลกใจที่ก่อนหน้านี้พวกมันไม่ได้ถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพราะถูกค้อนของเขาฟาด!
หมิงฮัวพูดอย่างเย็นชา “อย่าเสียแรงเปล่าเลย หากโดนดอกไม้แห่งยมโลกของข้าโจมตีเข้าไปแล้ว แม้จะเพียงดอกเดียว มันก็จะทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเจ้าลดลง นับประสาอะไรกับที่เจ้าโดนพวกมันโจมตีเข้าไปมากมาย ภายใต้การควบคุมของข้า ดอกไม้พวกนี้จะดึงเลือดและพลังปราณสวรรค์ของเจ้าออกมา พลังชีวิตของเจ้าจะถูกนำมาเติมเต็มให้ข้า นี่คือพลังที่แท้จริงของดอกไม้แห่งยมโลก ในบรรดาพืชประจำตัวของจ้าวมณีสวรรค์ธาตุชีวิตนั้น ดอกไม้แห่งยมโลกความแข็งแกร่งติดอันดับ 1 ใน 3!
ขณะที่เธอพูดเช่นนั้น หมิงฮัวก็สังเกตเห็นว่าการแสดงออกบนใบหน้าของโจวเหว่ยชิงนั้นแปลกประหลาดไป ในเวลาเดียวกันศีรษะสีขาวกลมๆ ของสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยก็โผล่ออกมาจากอกของเขา บนศีรษะของมันยังมีคำว่า ‘ราชา’ สีน้ำ เงินสลักอยู่ นั่นคือเจ้าแมวอ้วนสีขาวตัวน้อยไม่ใช่เหรอ?
ดูเหมือนว่าเจ้าแมวอ้วนจะเข้าใจสิ่งที่หมิงฮัวพูด ดวงตาสีม่วงเข้มของมันเผยให้เห็นถึงความดูถูกเหยียดหยาม มันอ้าปากเล็กน้อยราวกับจะส่งเสียงบางอย่าง ก่อนที่มันจะกระโจนกลับเข้าสู่อ้อมอกของโจวเหว่ยชิงและกลับไปนอนตามเดิม
ขณะนี้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าหมิงฮัวไม่เป็นอะไร เธอก็ทั้งโล่งใจและตกใจ ทว่าเธอก็กลับไปอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอีกครั้ง จากมุมมองของเธอ เธอไม่ได้คิดว่าโจวเหว่ยชิงจะถอนหมัดของเขากลับ แต่เป็นหมิงฮัวมีทักษะพิเศษบางอย่างที่ทำให้เธอสามารถหลบการโจมตีได้ในวินาทีสุดท้ายได้ต่างหาก อย่างไรเสียพลังที่หมิงฮัวแสดงออกมาก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ดอกไม้แห่งยมโลกที่กำลังดูดเลือดและพลังปราณสวรรค์ของโจวเหว่ยชิงค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงสดและสว่างขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาหมิงฮัวก็ต้องชะงักด้วยความตื่นตะลึง
ตอนนี้หมิงฮัวเพิ่งฟื้นจากอาการเสียขวัญ เธอรู้ดีว่าสาเหตุที่เธอยังมีชีวิตอยู่เป็นเพราะโจวเหว่ยชิงเมตตาและไม่จัดการกับเธอจนถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ด้วยทิฐิของเธอ เธอไม่อาจยอมรับตอนจบเช่นนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ดอกไม้แห่งยมโลกของเธอก็เปิดการโจมตีไปแล้ว เธอจึงต้องการสอนบทเรียนให้เขาและกู้หน้ากลับคืนมาบ้าง
ขณะที่เธอกำลังลังเลว่าจะหยุดการโจมตีดีหรือไม่ จู่ๆ เธอก็สัมผัสถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวที่ตอนนี้เข้ามามีอิทธิพลอยู่เหนือความรู้สึกหวาดกลัวของเธอเสียอีก
ดวงตาของโจวเหว่ยชิงกลายเป็นสีแดงก่ำ จากสายตาของเขา วงล้อทักษะธาตุได้หมุนไปยังพื้นที่ส่วนสีเทาโดยที่เขาไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย วินาทีต่อมาพลังชีวิตของเขาที่ไหลออกไปอย่างต่อเนื่องก็หยุดชะงักลงและภายในร่างของเขาก็เกิดแรงดึงดูดมหาศาลออกมาแทนที่ ดอกไม้แห่งยมโลกที่เพิ่งดูดเลือดและพลังปราณสวรรค์ของเขาเข้าไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา ตอนนี้ได้สูญเสียพลังไปทั้งหมดแล้ว! สถานการณ์กำลังพลิกผัน ร่างของโจวเหว่ยชิงกำลังดูดกลืนพลังทั้งหมดกลับในอัตราความเร็วที่บ้าคลั่ง แน่นอนว่ามากกว่าการพลังการดูดกลืนของดอกไม้แห่งยมโลกก่อนหน้านี้หลายเท่าตัว ขณะนี้ดอกไม้แห่งยมโลกก็ยังคงเป็นสีแดง แต่ทว่าเป็นสีแดงที่ดูลึกลับชั่วร้ายมากกว่าเดิม
“อ๊าาาาาา!!” หมิงฮัวร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ร่างของเธอร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างอ่อนแรง ดอกไม้แห่งยมโลกเป็นพืชประจำตัวของเธอและเชื่อมโยงกับพลังชีวิตของเธออย่างซับซ้อน เมื่อโจวเหว่ยชิงกลืนกินพลังชีวิตของพวกมัน เขาก็เหมือนกลืนกินพลังชีวิตและพลังปราณสวรรค์ของเธอไปด้วย เดิมทีเธอก็ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว อีกทั้งพลังปราณสวรรค์ส่วนใหญ่ของเธอก็ถูกใช้ไปจนหมด ตอนนี้ความอ่อนแรงกำลังกัดกินไปทั่วร่าง เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรง จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น
ความจริงโจวเหว่ยชิงก็ตกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้เช่นกัน แน่นอนว่าเขาหวาดกลัวตัวเองมาก แต่ทว่าเมื่อเขาฟื้นคืนสติขึ้นมา เขาก็อดจะหัวเราะออกมาอย่างยินดีไม่ได้ “หึๆ คิดจะดูดพลังข้างั้นเรอะ? ดูเหมือนว่ากรรมตามสนองเจ้าแล้ว! ฮ่าๆๆๆๆ!”
ใบหน้าของหมิงฮัวดูซีดเซียวลงทุกวินาทีในขณะที่โจวเหว่ยชิงรู้สึกได้ถึงพลังและจิตวิญญาณที่ดีขึ้น พลังปราณสวรรค์ของเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
หมิงฮัวกัดริมฝีปากอย่างแรงเพื่อบังคับให้ตัวเองปิดปาก แม้ว่าหัวใจของเธอจะเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองร้องขอชีวิตเป็นอันขาด หมิงฮัวไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดอกไม้แห่งยมโลกถูกนำมาใช้กับตัวเธอเองได้ง่ายดายเช่นนี้ เธอนึกไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าดอกไม้แห่งยมโลกของเธอปะทะกับโจวเหว่ยชิงอย่างเต็มที่…เธอจะแห้งเหือดไปในทันทีหรือไม่?
“อ้วนน้อย! หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าเจ้าทำต่อไปนางจะตาย!” จู่ๆ ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็ปรากฏตัวข้างๆโจวเหว่ยชิงและพูดขึ้นมาเบาๆ
“โอ้ แน่นอน ข้าต้องเชื่อฟังภรรยาของข้า!” เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ โจวเหว่ยชิงก็พยักหน้าเห็นด้วย เขามุ่งความสนใจไปที่วงล้อทักษะธาตุ ย้ายมันกลับไปที่พื้นที่ส่วนสีเงินและหยุดทักษะกลืนกิน ดอกไม้แห่งยมโลกที่อยู่บนร่างของเขาร่วงหล่นลงสู่พื้นและหายตัวไปกลางอากาศทันที
หมิงฮัวนอนลงบนพื้น หอบหายใจอย่างแรงและถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอพยายามที่จะลุกขึ้น แต่ก็พบว่าไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ในร่างกายของเธอเลย เธอจึงทำได้เพียงประคองให้ตัวเองสามารถนั่งอยู่ในท่าหอบหายใจได้ถนัด
แสงสีดำทองสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง ค้อนคู่ในมือของโจวเหว่ยชิงก็พลันหายไปเช่นกัน
ในความเป็นจริงความลับของค้อนคู่ก็อยู่ในบรรทัดนั้นเอง ‘ความดีและความชั่วร้าย ภาพลวงตาและภาพจริง’ แม้ว่าพวกมันจะดูเหมือนค้อนคู่กัน แต่จริงๆ แล้วมันคือค้อนจริงหนึ่งอันและค้อนปลอมหนึ่งอัน! ค้อนปลอมสามารถดึงดูดความสนใจและหลอกล่อศัตรูได้ในขณะที่ค้อนจริงมีพลังมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ แน่นอนว่าค้อนปลอมแสดงถึงความ “ดี” ในขณะที่ค้อนจริงแสดงถึงความ “ชั่วร้าย” การผสมผสานระหว่างภาพจริงและภาพลวงตาทำให้ง่ายต่อการหลอกล่อศัตรูและอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงแก่ศัตรูในตอนท้าย ยกตัวอย่างเช่น หากศัตรูฟาดฟันด้วยกำลังทั้งหมดเพื่อสกัดกั้นการโจมตีที่ดูเหมือนทรงพลัง ทว่าสุดท้ายก็พบว่ามันกลายเป็นของปลอม นั่นจะทำให้คนผู้นั้นทั้งเสียศูนย์และเสียพละกำลังมากเกินไปจนอาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญกว่านั้น โจวเหว่ยชิงสามารถสับเปลี่ยนค้อนปลอมและค้อนจริงได้ตามต้องการทุกเมื่อ! ดังนั้นเมื่อรวมกับความจริงที่ว่าเขาสามารถปลดปล่อยทักษะใดๆ ออกมาก็ได้โดยไม่ต้องบรรจุมณีลงหลุมก่อน ในระดับที่สูงขึ้น นี่จะเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมาก แน่นอนว่าเป็นเพราะอาวุธระดับเทพเจ้านี้เองที่ทำให้โจวเหว่ยชิงสามารถเอาชนะหมิงฮัวซึ่งมีระดับพลังปราณสูงกว่าเขาได้
โจวเหว่ยชิงยื่นแขนไปกอดซ่างกวนปิงเอ๋อร์และหันไปทางหมิงฮัวด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มขณะที่เขาพูดว่า “โชคดีที่ภรรยาของข้าใจดีมาก ถ้าเป็นข้า ข้าคงจบชีวิตเจ้าไปแล้ว! ฮึ่ม! เจ้าออกไปเดี๋ยวนี้เลย ข้าไม่ส่ง”
ขณะนี้หมิงฮัวฟื้นคืนพลังกลับมาได้เล็กน้อย ส่วนโจวเหว่ยชิงที่กลืนกินพลังปราณสวรรค์และพลังชีวิตของเธอเข้าไปบางส่วนก็เกือบจะฟื้นคืนสู่สภาพปกติแล้ว ในทางกลับกัน หมิงฮัวยังคงรู้สึกอ่อนแรงมาก ร่างกายมีพลังปราณเหลืออยู่ไม่ถึง 1 ใน 10 ส่วนด้วยซ้ำ หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเธอเป็นจ้าวมณีธาตุชีวิตซึ่งสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองได้ เธออาจบาดเจ็บสาหัสไปแล้วก็เป็นได้
“ไม่” หมิงฮัวส่งเสียงในลำคอและผุดลุกขึ้นนั่ง เธอพูดกับซ่างกวนปิงเอ๋อร์ว่า “ถ้าพวกเจ้าพยายามโยนข้าออกไป ข้าจะตะโกนว่าเจ้าข่มเหงข้า! ยิ่งไปกว่านั้น ข้าจะตามจับผู้ชายของเจ้า! ไม่ว่าจะต้องใช้กลวิธีไหน ข้าก็จะฉุดเขาไปจากเจ้าให้ได้! ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็ลองดูได้!”
โจวเหว่ยชิงจ้องไปที่หมิงฮัว กรามของเขาอ้าค้าง “โอ้โห สาวงามตรงนั้น เจ้าช่างเป็นผลงานชั้นหนึ่งจริงๆ อย่าลืมให้เกียรติการเดิมพันของตัวเองก่อนหน้านี้ด้วย เจ้าบอกว่าใครก็ตามที่ชนะการต่อสู้จะได้บ้านหลังนี้ไป แต่ตอนนี้เจ้าแพ้ ดังนั้นเจ้าควรออกไปได้แล้ว”
หมิงฮัวระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “จะใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าเราวางเดิมพันกันไว้เช่นนั้น? มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่? มีพยานหรือไม่? มีหนังสือเป็นทางการหรือไม่? ไม่มี ใช่ไหม? นอกจากนี้ เจ้าน่ะ เป็นผู้ชายแท้ๆ รังแกผู้หญิงที่อ่อนแอเช่นข้าได้อย่างไร? ไม่ละอายบ้างหรือ?”
“เจ้า…อ่ะนะ…ผู้หญิงอ่อนแอ??!” โจวเหว่ยชิงพูดไม่ออก เขากรอกตาขึ้นฟ้า ก่อนหน้านี้เขาต้องต่อสู้อย่างสุดกำลัง ถูกบังคับให้นำทุกสิ่งที่มีออกมาเพื่อเอาชนะเธอให้ได้ แม้กระทั่งค้อนคู่ระดับเทพเจ้าในตำนานของเขาก็ถูกนำมาใช้ ไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะแพ้ไปนานแล้ว! สำหรับทักษะกักเก็บที่ใหม่กว่านั้นไม่ใช่ว่าเขาพยายามซ่อนมัน แต่เขายังไม่ได้ฝึกฝนการใช้มันเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นพลังของพวกมันจึงเทียบไม่ได้กับทักษะที่เขาเคยใช้มาก่อนทั้งหมด! ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขาเกือบจะพ่ายแพ้ให้กับหมิงฮัวอยู่แล้ว อีกทั้งเขาก็ยังรู้สึกค่อนข้างตึงมือกับการต่อสู้ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก ผู้หญิงคนนี้อันตรายเกินไป! ทว่า…เธอเพิ่งพูดว่า…เธอเป็นผู้หญิงอ่อนแอ?! เขาพูดไม่ออกจริงๆ
หมิงฮัวฟื้นคืนกำลังบางส่วนและยืนขึ้นได้แล้ว เมื่อมองไปรอบๆ บ้าน เธอก็ยกยิ้มน้อยๆ และชี้ไปที่ห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง “ข้าจะใจดีและไม่ไล่เจ้าทั้งสองคนออกไป ข้าจะอยู่ในห้องนั้นและพวกเราจะช่วยกันจ่ายค่าเช่าบ้าน ถอยให้กันคนละก้าวเป็นไง ใครขอให้ข้าแก่กว่าเจ้าทั้งคู่ล่ะ ข้าเลยจะปล่อยให้พวกเจ้าทั้งสองคนได้ประโยชน์มากกว่า”
โจวเหว่ยชิงอยากจะพุ่งไปข้างหน้าและเหวี่ยงเธอออกไปข้างนอกบ้านทันที เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นใครบางคนไร้ยางอายยิ่งกว่าเขา! อย่างไรก็ตาม ซ่างกวนปิงเอ๋อร์กลับคว้าแขนของเขาและพูดว่า “ปล่อยนางอยู่ห้องนั้นไป”
แม้ว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะไม่ต้องการให้หมิงฮัวพักอยู่ที่นี่ แต่เธอก็ไม่กล้าเดิมพันกับหมิงฮัว คำขู่ของหมิงฮัวยังคงดังก้องอยู่ในใจของเธอและเธอก็ไม่กล้าเสี่ยงลองดีกับหมิงฮัว ท้ายที่สุดเธอก็รู้ดีว่าจุดอ่อนของอ้วนน้อยคือหญิงงาม…เขาจะต้านทานเล่ห์เหลี่ยมของผู้หญิงที่มีเสน่ห์เย้ายวนได้อย่างไร!
………………………………