Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 60.3 ใคร ‘น่ารังเกียจ’ มากกว่ากัน (3)
- Home
- Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา
- บทที่ 60.3 ใคร ‘น่ารังเกียจ’ มากกว่ากัน (3)
ตามที่คาด เขามีท่าไม้ตายซ่อนอยู่ โจวเหว่ยชิงซึ่งยังอยู่กลางอากาศยิ้มออกมา
ก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะยิงทักษะหน่วงเวลาสมบูรณ์ออกไป เขาได้ใช้เท้าซ้ายถือคันธนูและยิงลูกศรด้วยมือซ้ายของเขา ขณะหลินเทียนอ้าวหันไปปิดกั้นการโจมตีของหยุนลี่ แสงสีทองเข้มข้นปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างของโจวเหว่ยชิง ฉับพลันนั้นค้อนคู่ในตำนานก็ปรากฏในมือของเขา
จากมุมมองของหลินเทียนอ้าว การทำงานประสานระหว่างโจวเหว่ยชิงและหยุนลี่คือการใช้ทักษะควบคุมที่ทรงพลังของโจวเหว่ยชิง และการโจมตีครั้งสุดท้ายของหยุนลี่เพื่อให้เขาขยับเท้าหนี
หลังจากสกัดกั้นการโจมตีของหยุนลี่ได้ แม้ว่าหลินเทียนอ้าวจะได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็มีความสุขมาก ในใจคล้ายกับว่าตนชนะการเดิมพันครั้งนี้แล้ว โจวเหว่ยชิงใช้ทักษะหลายอย่างติดต่อกัน ตอนนี้เขาก็น่าจะไม่มีแผนอื่นเหลืออยู่แล้ว แต่เนื่องจากโล่ของเขาปิดกั้นการมองเห็นของเขา อีกทั้งหยุนลี่ยังทำให้เขาเสียสมาธิ ดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตเห็นค้อนคู่ที่ปรากฏขึ้นในมือโจวเหว่ยชิง
ภายหลังเมื่อหลินเทียนอ้าวตระหนักได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาไม่อาจตอบสนองได้ทันเวลา ทักษะสายฟ้าเขย่าสวรรค์ยังคงทำงานอยู่ในวินาทีสุดท้าย เขาจึงไม่สามารถใช้ทักษะกักเก็บได้ ส่วนทักษะคำสาปพิพากษายังคงเปิดใช้งานอยู่ ทักษะเกราะลวงตาก็ถูกใช้ไปแล้ว ยิ่งไปหว่านั้นคือทักษะหน่วงเวลาสมบูรณ์ก็เพิ่งอยู่ในวินาทีที่ 2 ของเวลาใช้งาน นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่หลินเทียนอ้าวอ่อนกำลังที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งหมดนี่เป็นผลมาจากแผนการซับซ้อนและทักษะมากมายของโจวเหว่ยชิง
อันที่จริงหยุนลี่ถือเป็นการโจมตีหลักของแผนในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม โจวเหว่ยชิงคาดไว้แล้วว่าหลินเทียนอ้าวจะต้องมีไพ่ลับซุกซ่อนเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ การโจมตีของหยุนลี่จึงเป็นการดึงให้หลินเทียนอ้าวใช้ท่าไม้ตายสุดท้ายออกมามากกว่า ในแผนของเขาการโจมตีปิดฉากย่อมต้องเป็นตัวเขาเอง นั่นคือการโจมตีที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างความเสียหายให้กับจ้าวมณีสวรรค์ระดับเทวะมาก่อน
แสงจากทักษะพายุสลาตันโชติช่วงขึ้นรอบๆ ตัวของโจวเหว่ยชิง พลังของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค้อนคู่ถูกนำออกมาแล้ว ทักษะกระชากมิติสีเงิน (ทักษะที่ผสมผสานระหว่างทักษะคู่ของจักรพรรดิสีเงิน) ก็ถูกใช้ไปกับค้อนด้วย ขณะนี้ทักษะสนับสนุนของโจวเหว่ยชิง และประสิทธิภาพในการโจมตีนั้นเหนือกว่าหยุนลี่ด้วยซ้ำ
*ตู้มมมมมมม*
พื้นที่สนามประลองใต้ดินทั้งหมดพลันสั่นสะเทือน ในความเป็นจริงก็คือพื้นดินของศูนย์การค้าได้สั่นสะเทือนขณะที่ค้อนทั้ง 2 กระแทกลงมา
การโจมตีของโจวเหว่ยชิงไม่ได้เล็งเป้าไปที่หลินเทียนอ้าว แม้อีกฝ่ายจะถูกลดพลังลงและเขาก็ยังมีทักษะสนับสนุนอยู่มากมาย แต่โจวเหว่ยชิงก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำลายโล่ยักษ์ของหลินเทียนอ้าวได้ อย่างไรโล่นั้นก็เป็นชุดประสานศาสตรามณียุทธ์ 5 ชิ้นและทรงพลังมากเกินไป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำลายโล่ได้ แต่เขาก็สามารถทำลายพื้นได้! พื้นนี้ทำจากโลหะผสมไทเทเนียมแล้วยังไงล่ะ! ด้วยเหตุนี้ทักษะกระชากมิติสีเงินในค้อนคู่ที่ได้รับแรงหนุนจากทักษะพายุสลาตันจึงกระแทกลงบนพื้นอย่างโหดเหี้ยม ครั้งนี้ผู้ที่ถูกต้อนจนมุมครั้งนี้ไม่ใช่กลุ่มของโจวเหว่ยชิง แต่เป็นหลินเทียนอ้าวต่างหาก อีกฝ่ายมีพลังและทักษะมากมาย แต่ไม่อาจนำออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพียงเพราะข้อจำกัดของการเดิมพัน แต่ยังรวมถึงทักษะควบคุมและทักษะลดพลังจำนวนมากที่โจวเหว่ยชิงมีด้วย
เกิดเสียงปริร้าวของโลหะดังขึ้นกึกก้อง แรงสั่นสะเทือนบนพื้นทำให้หลินเทียนอ้าวไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ ฉับพลันนั้นเขาก็ถูกคลื่นกระแทกขนาดใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวซัดใส่จนลอยออกจากที่มั่นและกระเด็นออกไปอย่างหมดสภาพ เสียงระเบิดดังมากจนเหมือนมีผึ้งนับแสนตัวกำลังบินวนส่งเสียงหึ่งๆ ผลที่ตามมาคือห้องที่เกิดเหตุกลายเป็นซากปรักหักพังไปทั้งหมด
โดยธรรมชาติแล้วพื้นทั้งหมดย่อมไม่อาจทำมาจากโลหะผสมไททาเนียมได้ทั้งหมด แรงระเบิดของโจวเหว่ยชิงได้กระแทกผ่านชั้นโลหะผสมไททาเนียมหนา 1 ฉื่อลึกลงไปยังพื้นหินด้านล่าง พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวของทักษะกระชากมิติสีเงินที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพกระแทกลึกลงไปเป็นระยะทางกว่า 15 หลา ทำลายพื้นโลหะผสมไทเทเนียมและพื้นหินที่อยู่ลึกลงไปด้านล่างจนกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย แม้จะมีโลหะผสมไทเทเนียมช่วยดูดซับความเสียหายเอาไว้เป็นจำนวนมาก ใจกลางสนามประลองก็ยังยุบเป็นหลุมลึกลงไปถึง 3 เมตร
แม้แต่โจวเหว่ยชิงเองก็ยังต้องสั่นไหวเพราะแรงสะท้อนของพลังโจมตีลูกนั้น แต่เพราะเขาเป็นเจ้าของค้อนคู่ในตำนาน พวกมันจึงช่วยสกัดกั้นแรงดีดสะท้อนกลับและกระจายคลื่นกระแทกได้มาก ทว่าหลังจากที่ทุกอย่างสงบลง โจว เหว่ยชิงก็ต้องตกอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นท่า
หลินเทียนอ้าวไถลตัวลงจากกำแพง ร่างกายสั่นเทาและมึนงง คิดในใจได้เพียงอย่างเดียว การโจมตีเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะใช้เปิดใช้พลังป้องกันอย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ เขาก็ยังสงสัยว่าตนจะสามารถรับการโจมตีนี้โดยไม่เคลื่อนไหวได้หรือ?
หยุนลี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างริมฝีปากกระตุก เสียงที่ดังวิ้งอยู่ในแก้วหูทำให้เขารู้สึกอยากตาย เขาแค่อยากถามโจว เหว่ยชิงคำถามเดียว เจ้าเป็นมนุษย์จริงๆ หรือ?
นี่เป็นการโจมตีจากจ้าวมณีสวรรค์ระดับมณี 3 ดวงจริงๆ? อย่างไรก็ตาม แม้จะตกใจ ทว่าหยุนลี่ก็ยังเต็มไปด้วยความสุขสมเพราะเขาสามารถจดจำค้อนคู่ในมือของโจวเหว่ยชิงได้ นั่นคือชิ้นส่วนแรกจากแบบร่างระดับเทพเจ้าที่เขาเห็นในการเดิมพันครั้งก่อนหน้านี้! โจวเหว่ยชิงสามารถหลอมรวมชุดศาสตรามณียุทธ์ในตำนานได้จริงๆ! นั่นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก!
ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ไม่ใช่แค่หยุนลี่ หลินเทียนอ้าวเองก็มีความคิดแบบเดียวกันเกิดขึ้น ‘ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่พ่ายแพ้ให้กับบุคคลเช่นนี้!’ พวกเขาประเมินโจวเหว่ยชิงต่ำไปอย่างแท้จริง…ความสามารถของเขาจะเทียบกับจ้าวมณีสวรรค์ระดับมณี 3 ดวงทั่วๆ ไปได้อย่างไร?
ตอนนี้ชายชุดแดงเพิ่งตื่นขึ้นจากสภาพมึนงง เมื่อเขาสังเกตเห็นหลุมขนาดใหญ่ที่พื้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ขณะนี้ธูปในมือของเขาก็หายไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่ามันหล่นหายไปที่ใด เนื่องจากสภาวะมึนงงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาจึงไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่เป็นอย่างไรบ้าง แต่เขาก็สามารถบอกผลลัพธ์ได้เพราะเห็นได้ชัดว่าโจวเหว่ยชิงและหยุนลี่ชนะการเดิมพันในครั้งนี้
โจวเหว่ยชิงทรุดฮวบลงที่พื้นทันที เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ตอนนี้ศาสตรามณียุทธ์ทั้งหมดของเขาได้หายไปแล้ว
แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เขาก็ใช้พลังปรานและจิตวิญญาณทั้งหมดไปกับการโจมตีต่อเนื่องในครั้งนี้แล้ว สมาธิของเขาจดจ่อไปกับการทำตามแผนแต่ละขั้น โจวเหว่ยชิงแน่ใจว่าถ้าหลินเทียนอ้าวสามารถเคลื่อนไหวหรือใช้มือทั้งสองข้างได้ เขาและหยุนลี่อาจต้องพ่ายแพ้ในที่สุด ตัวเขาเองอาจมีพลังเหนือกว่าจ้าวมณีสวรรค์ระดับมณี 3 ดวง แต่หลินเทียนอ้าวคนนี้ก็มีพลังเหนือกว่าจ้าวมณีสวรรค์ระดับ 5 ดวงเช่นกัน
เมื่อคนที่เก่งจน ‘น่ารังเกียจ’ พบเจอกับอีกคนที่ทรงพลังจน ‘น่ารังเกียจ’ ผลสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะ ‘น่ารังเกียจ’ มากกว่ากัน อย่างไรก็ตาม โจวเหว่ยชิงที่รักของเรากับไพฑูรย์ตาแมวสองสีของเขาก็สามารถเอาชนะอีกฝ่ายไปได้อย่างหืดขึ้นคอ ไม่ว่าจะยากลำบากขนาดไหน พวกเขาก็ยังชนะการเดิมพันในครั้งนี้มาได้!
ในขณะนั้น จู่ๆก็มีเสียงดังจากด้านนอกพร้อมกับเสียงฝีเท้าจำนวนมากวิ่งเข้าหาพวกเขา ประตูสนามประลองถูกเปิดออกดังโครม จากนั้นชายชุดแดงประมาณ 7-8 คนก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาเหล่านั้นเข้ามาในห้อง หัวคิ้วของโจวเหว่ยชิง หลินเทียนอ้าว และหยุนลี่ก็ตั้งขึ้นด้วยความประหลาดใจ คนเหล่านี้ล้วนมีรัศมีทรงพลัง ผู้ที่อ่อนแอที่สุดยังมีพลังเทียบเท่าหลินเทียนอ้าวด้วยซ้ำ
กล่าวคือพวกเขาทั้งหมดเป็นจ้าวมณีสวรรค์ระดับ 5 ชุดขึ้นไป!
แม้แต่อาณาจักรขนาดใหญ่อย่างอาณาจักรเฟยหลี่ก็มีจ้าวมณีสวรรค์ไม่เกิน 500 คนและสำหรับผู้ที่มีมณีมาก กว่า 5 ชุดขึ้นไปก็ไม่อาจมีมากกว่า 100 คนได้ การที่มีพวกเขาจำนวนมากถึง 7-8 คนมาปรากฏตัวที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางคนยังอยู่ในระดับที่สูงกว่านั้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าสนามประลองใต้ดินที่นี่มีอำนาจสูงส่งเพียงใด
ชายชุดแดงทุกคนล้วนสวมหน้ากากปกปิดตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ ในบรรดากลุ่มคนที่พุ่งพรวดเข้ามาในห้อง คนที่ดูเหมือนผู้นำนั้นมีแถบสีทอง 3 เส้นที่แขนเสื้อบ่งบอกถึงยศและอำนาจท่ามกลางชายชุดแดงคนอื่นๆ ทันทีที่พวกเขาเข้ามาข้างใน ทั้งหมดก็เห็นหลุมขนาดใหญ่ที่พื้น ใบหน้าของทุกคนจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ชายที่เป็นหัวหน้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
“เรียนนายท่าน นี่เป็นผลมาจากการต่อสู้ของพวกเขา” ชายชุดแดงที่ดูแลห้องหมายเลข 7 รีบก้าวไปข้างหน้าและกล่าวด้วยความเคารพ
สายตาของนายท่านผู้นั้นกวาดมองทั้ง 3 คน ขณะจ้องมองไปที่โจวเหว่ยชิง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ทว่าในตอนนั้นโจวเหว่ยชิงเพิ่งลุกขึ้นยืนจึงไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีของเขา
นายท่านเจ้าของสนามประลองกล่าวอย่างเคร่งขรึม “การต่อสู้และการเดิมพันจบลงหรือยัง?”
“ขอรับ การเดิมพันสิ้นสุดลงแล้ว”
นายท่านเจ้าของสนามเอ่ยต่ออย่างเย็นชา “ให้พวกเขาจ่ายค่าเสียหาย 100,000 เหรียญทอง มิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปจากที่นี่”
“ขอรับ” หลังจากพูดจบ นายท่านเจ้าของสนามประลองก็จากไปพร้อมกับชายชุดแดงคนอื่นๆ ด้านโจวเหว่ยชิงและ 2 คนที่เหลือ พวกเขาฟื้นพลังคืนมาได้เล็กน้อยแล้ว ตอนนี้ทั้งหมดจึงเดินไปที่ประตู
ชายชุดคลุมสีแดงคนเดิมเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้อง การแสดงออกบนใบหน้าของเขาจึงดูน่าเกลียดมาก นี่เป็นห้องที่เขาดูแลอยู่ ด้วยสภาพความเสียหายที่ร้ายแรงขนาดนี้ ต้องใช้เวลาซ่อมแซมอีกนานแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ความเจ็บปวดและความมึนงงที่เขาเป็นก่อนหน้านี้ก็ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีจริงๆ แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็รู้ว่ามันต้องมีความเกี่ยวข้องกับทั้ง 3 คนที่อยู่ตรงหน้าเขาแน่นอน น่าเสียดายที่เขาพลาดชมการต่อสู้ 3 วินาทีสุดท้ายที่น่าตื่นเต้นที่สุด
“ข้าจะจ่าย ข้าจะจ่ายเอง” โจวเหว่ยชิงยิ้มแย้มพลางหยิบบัตรสมาชิกออกมา ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ แค่สามารถนำหยุนลี่ซึ่งเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับสูงมาเป็นผู้ติดตามของเขาได้ก็ทำให้เขามีความสุขมากอยู่แล้ว ทว่าตอนนี้หลินเทียนอ้าวกลับเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ด้วยพลังป้องกันของหลินเทียนอ้าว หากมีเขาเป็นผู้คุ้มกัน แม้ว่าเขาจะเจอหมิงอู๋อีกครั้ง พวกเขาก็จะสามารถป้องกันตัวเองได้ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ โจวเหว่ยชิงก็รู้สึกพึงพอใจมาก
เขาจ้องมองไปยังหลินเทียนอ้าว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาทำให้แผ่นหลังหลินเทียนอ้าวสั่นสะท้าน ฉับพลันนั้นหลินเทียนอ้าวก็เริ่มสงสัยในรสนิยมทางเพศของโจวเหว่ยชิง…
หลังจากจ่ายเงิน 100,000 เหรียญทองเสร็จเรียบร้อยแล้ว โจวเหว่ยชิงก็หันกลับไปมองหลินเทียนอ้าวด้วยรอยยิ้มกว้าง แม้ว่าหลังจากนั้นจะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาก็ตาม
หลินเทียนอ้าวจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเพื่อนคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่…โดยธรรมชาติแล้วโจวเหว่ยชิงย่อมกลัวว่าหลินเทียนอ้าวจะกลับคำจึงคิดใช้กฏของสนามประลองกดดันให้เขายอมรับความพ่ายแพ้
“ข้าแพ้แล้ว อย่างไรข้าก็รักษาคำพูดเสมอ เอาสิ” หลินเทียนอ้าวถอนหายใจเหยียดยาวขณะที่เขายอมรับความพ่ายแพ้ของตนเอง เขาไม่ได้รู้สึกสูญเสียหรือขัดแย้งกับตนเองเช่นเดียวกับหยุนลี่ ไม่ว่าเขาจะเสียใจแค่ไหน เขาก็เป็นคนท้าประลองอีกฝ่ายเอง พ่ายแพ้ก็คือพ่ายแพ้ มันเป็นความผิดของเขาเองที่โลภมาก! หลินเทียนอ้าวคิดในใจ เขารู้ว่าโจวเหว่ยชิงมีทักษะธาตุมืดและน่าจะมีตราประทับธาตุมืดของตัวเอง
………………………………