Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา - บทที่ 89 พิษ 3 ธาตุ (3)
นั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียว นอกเหนือจากพลังปราณสวรรค์ทั้ง 3 ธาตุแล้วก็ยังมีพลังปราณสวรรค์บริสุทธิ์ของปีศาจน้อยเซินด้วย พลังเหล่านั้นไหลเวียนผ่านร่างกายที่เหือดแห้งของเขาและทำให้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทั้งยังพุ่งผ่านเส้นลมปราณ ทำให้เขาสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
สีผิวของปีศาจน้อยเซินค่อยๆ กลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง และอาการสั่นเทาอย่างรุนแรงก็ดีขึ้นมากเช่นกัน ซ่างกวนหลงหยินที่ยืนอยู่ด้านข้างพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่มีประสบการณ์โชกโชนและเคยพบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างมามากมายในช่วงชีวิตของเขา แน่นอนว่าชายหนุ่มเป็นคนเดียวที่สามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่าการที่โจวเหว่ยชิงลงมือทำเช่นนั้นเพราะสายฟ้าเทพเจ้าอสูรมืดถูกโจมตีเข้าที่หน้าอกของเธอ
หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที ในที่สุดโจวเหว่ยชิงก็ยกมือขึ้น ปีศาจน้อยเซินไม่ได้สั่นสะท้านอีกต่อไปแม้ว่าใบหน้าของเธอจะยังคงซีดเซียว นี่เป็นผลมาจากทักษะกลืนกินของโจวเหว่ยชิง แม้ว่าเขาจะผละออกจากเธอก่อนเวลาแล้วก็ตาม; หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็สามารถสูบพลังออกจนร่างของเธอจนแห้งเหือดได้ เพราะถึงอย่างไรหญิงสาวก็ไม่อาจต้านทานได้อยู่แล้ว
แน่นอนว่าโจวเหว่ยชิงย่อมไม่มีวันทำสิ่งนั้นเพราะเขาเคย “สัมผัส” เธอมาแล้ว ทั้งยังจะไม่ฆ่าหญิงสาวแบบนั้นแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซ่างกวนหลงหยินและเพื่อนร่วมกลุ่มของเธออยู่ที่นี่ด้วย
โจวเหว่ยชิงถอนมือและขาออกพร้อมกับก้าวถอยหลัง เด็กหนุ่มเอื้อมมือเข้าไปในสร้อยมิติของเขา จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาหนึ่งชุดและผลัดเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เวลานี้เห็นได้ชัดว่าเขาเกือบจะเปลือยเปล่าเพราะเสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นในการต่อสู้ครั้งก่อน “ผู้อาวุโสซ่างกวน เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
ซ่างกวนหลงหยินพยักหน้าและสมาชิกของกลุ่มนักรบตันตุ้นก็รีบพยุงปีศาจน้อยเซินขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาจ้องมองไปที่โจวเหว่ยชิงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
หลานเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา “ขุนเขาอาจไม่เคลื่อนไหว แต่สายน้ำย่อมไหลไปไม่สิ้นสุด พวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะอากาศเป็นใจ เจ้าคงจะถูกฆ่าตายในวันนี้แล้ว ขอบคุณขอรับท่านอาวุโส พวกเราไปกันเถอะ”
สมาชิกของกลุ่มนักรบตันตุ้นหันหลังเดินจากไป และโจวเหว่ยชิงก็หันไปทางซ่างกวนหลงหยินด้วยสีหน้าให้ร้าย “ผู้อาวุโสซ่างกวน…ดูพวกเขาสิ…”
ซ่างกวนหลงหยินกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เจ้าทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวล เมื่อตาแก่คนนี้ได้เอ่ยวาจาออกไปแล้ว ข้าย่อมต้องมั่นใจอยู่ก่อนแน่นอน หากหุบเขาอเวจีสีเลือดก่อปัญหาให้พวกเจ้าขึ้นมาจริงๆ ข้าย่อมไม่นั่งดูอยู่เฉยๆ แน่ ข้าเชื่อว่าถึงอย่างไรพวกเขาก็จะไม่ลืมคำพูดของข้า”
โจวเหว่ยชิงกล่าวอย่างสงสัย “ผู้อาวุโสซ่างกวน เกี่ยวกับสภาพอากาศนั้น หลันเฟิงหมายความว่าอย่างไรหรือขอรับ?”
ซ่างกวนหลงหยินหันมาหาเขาด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “ทักษะธาตุมืดและทักษะธาตุปีศาจของเจ้าให้ผลดีในช่วงที่อากาศมืดครึ้ม ในขณะที่ทักษะธาตุแสงและทักษะธาตุไฟของปีศาจน้อยเซินแข็งแกร่งขึ้นในช่วงวันที่อากาศแจ่มใส ในความเป็นจริงวิชาลับบางอย่างของหุบเขาอเวจีสีเลือดต้องอาศัยแสงแดดในการปลดปล่อยพลังออกมา เจ้าไม่รู้เรื่องนั้นรึ?”
ดวงตาของโจวเหว่ยชิงเบิกกว้างในขณะที่เขาอุทาน “ทักษะธาตุจะได้รับผลกระทบแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศงั้นหรือ?! ทั้งยังมีทักษะที่ต้องอาศัยสภาพอากาศในการปลดปล่อย?”
ซ่างกวนหลงหยินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ใครสอนวิธีฝึกปราณให้เจ้า? เจ้าไม่รู้เรื่องพื้นฐานเช่นนี้ได้อย่างไร?”
สมาชิกกลุ่มนักรบเฟยหลี่รีบซ่อนรอยยิ้มขณะยืนอยู่ที่ด้านข้าง ตอนนี้พวกเขาชินกับสถานการณ์ของโจวเหว่ยชิงแล้ว เด็กหนุ่มสามารถวางแผนการที่ไร้ข้อจำกัดและแปลกประหลาดไม่เหมือนใครได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีทักษะธาตุที่น่าอิจฉาอีกด้วย…แต่ในแง่ของความรู้พื้นฐาน เขาก็ย่ำแย่มากจริงๆ นั่นแหละ
โจวเหว่ยชิงเกาหัวด้วยความลำบากใจและพูดว่า “อาจารย์ของข้าเป็นจ้าวมณียุทธ์ไม่ใช่จ้าวมณีสวรรค์ และข้าก็ไม่เคยเรียนโรงเรียนที่สอนเรื่องมณีโดยเฉพาะด้วย ในแง่ของมณีธาตุและปฏิกิริยาต่อสภาพอากาศ โดยธรรมชาติแล้วเขาย่อมไม่สามารถสอนอะไรข้าได้เลย”
ซ่างกวนหลงหยินชะงักไป หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวว่า “โจวเหว่ยชิง ข้าต้องการพูดคุยกับเจ้าตามลำพังสักครู่”
โจวเหว่ยชิงตอบโดยไม่ลังเล “ตกลง”
สมาชิกคนอื่นๆ ของกลุ่มนักรบเฟยหลี่ต่างก็เข้าใจและรีบลุกขึ้นยืนในทันที พวกเขาเดินออกจากเรือนพักเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันตามลำพัง
ซ่างกวนหลงหยินโบกมือและใช้แสงสีขาวจางๆ โอบล้อมเรือนพักทั้งหลังเอาไว้ พลังปราณสวรรค์อันทรงพลังของเขาสามารถแยกเรือนพักออกจากโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย
“เหว่ยชิง …ข้าจะเรียกเจ้าเช่นนั้นต่อจากนี้ดีไหม ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าช่วยเจ้าจากอาการบาดเจ็บ ข้าสังเกตว่าวิธีการฝึกปราณของเจ้านั้นมีความพิเศษมาก มากจนกระทั่งตาแก่คนนี้ไม่เคยพบเห็นมันมาก่อน อาจกล่าวได้ว่าแทบจะเป็นเรื่องอัศจรรย์เลยทีเดียว ข้าค่อนข้างคุ้นเคยกับวิธีฝึกปราณของมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และข้าก็มั่นใจว่าไม่มีใครที่เป็นเช่นนี้เลย!”
“วิธีฝึกปราณของเจ้าไม่เพียงแต่สามารถดูดกลืนพลังปรานสวรรค์มาได้เองอย่างน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังสร้างเกราะป้องกันที่น่าสนใจมาก แน่นอนว่าพวกมันมีพลังเหนือกว่าเกราะพลังปราณสวรรค์ธรรมดาทั่วๆ ไป แค่ประโยชน์ของมันเพียงอย่างเดียวก็เห็นได้ชัดว่าทัดเทียมหรือดีกว่าวิธีฝึกปราณของมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดูเหมือนว่าเมื่อใช้สิ่งนี้ควบคู่ไปกับทักษะธาตุหลายชนิดของเจ้า นั่นทำให้เจ้าสามารถกำราบปีศาจน้อยเซินได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีปัจจัยเรื่องโชคและอาศัยความประหลาดใจเข้าช่วยในชัยชนะครั้งนี้ แต่ทั้งหมดก็ยังเป็นเพราะพื้นฐานของเจ้าถูกบ่มเพาะมาอย่างดี เจ้าบอกได้หรือไม่ว่าวิชาฝึกปราณนี้เรียกว่าอะไร? ข้าไม่มีได้มีเจตนาร้าย ถ้าเจ้าไม่ต้องการพูด ข้าก็จะไม่บังคับเจ้า”
โจวเหว่ยชิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดในที่สุด “วิชานี้เรียกว่าวิชาเทพอมตะ และข้าก็เจอมันโดยบังเอิญ”
“วิชาเทพอมตะ?” ซ่างกวนหลงหยินพึมพำกับตัวเองแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ “เป็นชื่อที่ทรงพลังและโดดเด่นอย่างแท้จริง เหว่ยชิง ข้ามีเรื่องอยากจะถามเจ้า”
หัวใจของโจวเหว่ยชิงเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่งที่เปลือกนนอกและพูดอย่างใจเย็น “เชิญพูดได้ขอ รับ”
ซ่างกวนหลงหยินกล่าวต่อ “เจ้าน่าจะรู้อยู่แล้วว่าอาณาจักรจ้งเทียนของเราได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์ไพศาล และวังสวรรค์ไพศาลของเราก็มีต้นกำเนิดมาจากเกาะมณีสวรรค์ ในแง่ของประวัติความเป็นมา ในบรรดา 5 มหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วังสวรรค์ไพศาลเป็นดินแดนที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาเป็นลำดับล่าสุด แต่พวกเราก็ถูกจัดว่าเป็นอันดับหนึ่ง นั่นไม่ใช่เพราะพวกเราสามารถเอาชนะคนอื่นๆ ในแง่ความสามารถในการต่อสู้ แต่เป็นเพราะความมั่งคั่งที่แท้จริงของเราต่างหาก”
โจวเหว่ยชิงไม่ได้ขัดจังหวะซ่างกวนหลงหยิน เขาฟังอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ เด็กหนุ่มรู้สึกดีใจมากที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความลับของวังสวรรค์ไพศาลเพิ่ม
ซ่างกวนหลงหยินกล่าวต่อ “ความมั่งคั่งนี้มาจากเกาะมณีสวรรค์ และข้าก็ไม่กลัวที่จะบอกเจ้าเรื่องนี้ บนเกาะมณีสวรรค์มีถ้ำมังกรอยู่ 13 แห่ง และและขุมทรัพย์ในถ้ำมังกรทั้ง 13 แห่งนี้ก็เป็นต้นกำเนิดแห่งความรุ่งโรจน์ของวังสวรรค์ไพศาลในปัจจุบัน นั่นทำให้พวกเราร่ำรวยมหาศาล แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือสมบัติหายากต่างๆช่วยให้เราสามารถเกณฑ์ยอดคนจำนวนมากมาเข้าร่วมกับพวกเราได้ นั่นยังรวมถึงรวบรวมอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับสูงสุดมาไว้กับพวกเรา พวกเราเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ และด้วยข้อได้เปรียบเกี่ยวกับศาสตรามณียุทธ์ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม เราจึงกลายเป็นหนึ่งในมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และในที่สุดก็พัฒนากลายเป็นอันดับ 1 อย่างที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน”
ถ้ำมังกร 13 แห่ง! เมื่อโจวเหว่ยชิงได้ยินคำพูดเหล่านั้น ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้น มังกรทุกตัวถือว่าเป็นสัตว์ในตำนานและสมบัติของพวกมันก็มีค่าเช่นเดียวกัน ถึงอย่างไรมนุษย์ก็ได้พบมังกรตัวสุดท้ายในแผ่นดินเมื่อนานมาแล้ว กระนั้น เกาะมณีสวรรค์แห่งนี้ก็มีอยู่ถึง 13 ตัว! ไม่แปลกใจเลยที่วังสวรรค์ไพศาลจะมีสมบัติมากมายขนาดนี้ เช่นเดียวกับที่ซ่างกวนหลงหยินกล่าวไว้ เป็นสมบัติเหล่านี้เองที่ช่วยทำให้วังสวรรค์ไพศาลกลายเป็นอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับเหตุผลที่ซ่างกวนหลงหยินบอกเขาทั้งหมดนั้น เขาก็ยังไม่กระจ่างชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ซ่างกวนหลงหยินกล่าวต่อ “ทว่าหากใช้เพียงสมบัติเหล่านี้สร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ก็ย่อมไม่เพียงพอที่จะธำรงอำนาจของเราไว้ตลอดไปได้ ถึงอย่างไรในที่สุดสมบัติก็ต้องมีวันหมดลงไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม ในแง่ของการออกแบบม้วนคัมภีร์ พวกเราไม่มีปัญหาและยังอยู่ในระดับแนวหน้าของคนอื่นๆ ทว่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าก็เผาผลาญวัตถุดิบมากเกินไป แม้ว่าในปัจจุบันดูเหมือนว่าเวลาของเราจะยังไม่หมดลงในเร็วๆ นี้ แต่นั่นก็ยังไม่เร็วเกินไปที่จะเริ่มวางแผนสำหรับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้…ใครจะรู้ว่าวันใดสมบัติของพวกเราจะหมดลง”
“ในบรรดา 4 มหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นิกายปีศาจสวรรค์มีทักษะธาตุปีศาจ ทักษะธาตุชีวิตและศาสตร์ลับอื่นๆ หุบเขาอเวจีสีเลือดมีทักษะธาตุไฟและทักษะธาตุแสง หุบเขาหลงใหลมีศาสตร์ลับของทักษะธาตุกาลเวลา และภูเขาหิมะสวรรค์ก็มีทักษะธาตุศักดิ์สิทธิ์ 2 ชนิดคือทักษะธาตุเทวาและทักษะธาตุวิญญาณ รวมถึงศาสตร์ลับของพวกเขา หากมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดต่อสู้กันโดยไม่ใช้ศาสตรามณียุทธ์ อาจกล่าวได้ว่าเราจะไม่สามารถชนะพวกเขาได้เลย ด้วยเหตุนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราจึงตามหาศาสตร์ลับและวิธีฝึกปราณที่เหมาะสมสำหรับวังสวรรค์ไพศาลของเราอยู่ตลอด”
“ก่อนหน้านี้ ขณะที่ข้าช่วยรักษาเจ้า ข้าได้สังเกตเห็นความสามารถอันน่าอัศจรรย์ในวิชาฝึกปราณของเจ้า นอกเหนือจากสิ่งที่ข้าพูด ความเร็วในการฟื้นตัวของเจ้ายังเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความเร็วในการฟื้นฟูพลังปราณสวรรค์เช่นนี้ ไม่มีวิธีฝึกปราณอื่นๆ ที่ข้ารู้จักเทียบได้เลย”
“ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อมอีก เหตุผลที่ข้าอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เจ้าฟังก็เพราะข้าอยากจะขอซื้อวิชาฝึกปราณของเจ้า แลกกับสมบัติที่เจ้าอาจต้องการ”
น้ำเสียงของซ่างกวนหลงหยินดูจริงใจมาก ชายหนุ่มสนใจวิชาเทพอมตะอย่างแท้จริง ในฐานะหัวหน้าวังกักเก็บทักษะ เขาไม่เพียงแต่มีตำแหน่งสูงส่งในอาณาจักรจ้งเทียน แต่ยังเป็นในวังสวรรค์ไพศาลด้วย เขารู้ว่าวิธีฝึกปราณเช่นนี้ไม่สามารถบังคับยึดมาครอบครองได้ง่ายๆ เขาจะใช้ไม้แข็งกับโจวเหว่ยชิงได้อย่างไร แม้แต่การกดดันอีกฝ่ายด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคก็อาจสร้างความเสียหายให้กับวังสวรรค์ไพศาลได้แล้ว ด้วยเหตุนี้แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากนัก แต่เขาก็ยังคงพยายามเสี่ยงดวงขอซื้อวิชานี้อยู่ดี
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่างกวนหลงหยิน โจวเหว่ยชิงก็แสดงสีหน้าอึดอัดใจออกมา เขากล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ผู้อาวุโสซ่างกวน ท่านรู้ดีว่าไม่มีใครปรารถนาให้วิธีฝึกปราณของตนเองถูกเผยแพร่ออกไป โดยเฉพาะวิชาระดับสูงเช่นนี้…”
ซ่างกวนหลงหยินถอนหายใจออกมา คำตอบของโจวเหว่ยชิงไม่ได้เกินความคาดหมายของเขา ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องยากที่ให้คนผู้หนึ่งเต็มใจขายวิชาฝึกปราณของตน ทั้งยังอาจเสี่ยงต่อการถูกค้นพบจุดอ่อนของเขาด้วย วิธีฝึกปราณระดับสูงอาจหมายถึงความรุ่งโรจน์หรือการล่มสลายของกลุ่มจ้าวมณีสวรรค์…และโดยปกติแล้วมันถือว่าประเมินค่ามิได้
เขาไม่ได้พยายามต่อรองต่ออีก เพียงแต่หวังว่าถ้าโจวเหว่ยชิงแต่งงานกับซ่างกวนปิงเอ๋อร์ในอนาคต บางทีเขาอาจจะมีโอกาสนำวิชานี้เข้าสู่วังสวรรค์ไพศาลอีกครั้งก็เป็นได้
ในขณะนั้น จู่ๆ เขาก็ได้ยินคำพูดที่จุดประกายความหวังจากโจวเหว่ยชิง
“อย่างไรก็ตาม…”
สีหน้ากลัดกลุ้มของโจวเหว่ยชิงไม่ได้แปรเปลี่ยนไป ทว่าเขาก็ลากเสียงพูดความเป็นไปได้ต่างๆ ออกมา
“อย่างไรก็ตาม?” ซ่างกวนหลงหยินรีบคว้าโอกาสทันที เขากล่าวต่อ “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล หากเจ้ายินดีที่จะขายมัน พวกเราย่อมให้สิ่งที่เจ้าต้องการได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติหรือวัตถุดิบศาสตรามณียุทธ์ ตราบใดที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงเกินไป ข้ามั่นใจว่าพวกเราจะทำให้เจ้าพอใจได้แน่นอน”
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น ซ่างกวนหลงหยินก็รู้สึกมั่นใจอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้วในแง่ของความมั่งคั่ง ใครจะเทียบกับอันดับหนึ่งแห่งมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างวังสวรรค์ไพศาลได้?
เมื่อมองไปที่ใบหน้าของซ่างกวนหลงหยิน โจวเหว่ยชิงก็หัวเราะร่าในใจ ทักษะการแสดงของเขาได้เข้ามามีบทบาทอีกครั้งอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าที่ดูกังวลใจนั้นเป็นสิ่งที่เขาฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ แม้ว่าวังสวรรค์ไพศาลจะเป็นบ้านเกิดของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ แต่เขาก็ไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากซ่างกวนเทียนเยว่นัก ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน…ไม่ถือว่าเป็นการโกง…ใช่หรือไม่?