Hell mode - ตอนที่ 100
บทที่ 100 การต่อสู้ของขุนนาง
วันถัดมาหลังจากจัดการดรากฮา ในที่สุดอเลนก็กลับมาถึงเมืองแกรนเวล
มองคฤหาสน์ในขณะที่แบกเซซิลไว้บนหลัง คนเฝ้าประตูคฤหาสน์พอเห็นอย่างนั้นแล้วก็รีบไปแจ้งให้ทราบถึงการกลับมาของเซซิล
(ในที่สุดก็กลับมาถึงสักที คฤหาสน์ที่ไม่ได้กลับมาซะนาน ที่ได้มาคือหินเวทกับเรเปียเหรอ)
อเลนกับเซซิลไม่ได้กลับมาคฤหาสน์หลายวัน
สิ่งของที่ได้มาในช่วงหลายวันนี้
・หินเวทระดับ B ของมาด้ากัลชู
・ดาบเรเปียของดรากฮา (ทำจากมิธริล)
หินเวทของมาด้ากัลชูต้องได้มาอยู่แล้ว ส่วนดาบเรเปียหัวหน้ากลุ่มอัศวินบอกยกให้เจ้า อาจจะเพราะแสดงสีหน้าอยากได้หรือเปล่านะ
“คุณหนูเซซิล เตรียมลงพื้นด้วยนะครับ”
“เข้าใจแล้ว”
ถึงจะกลับมาที่เมืองแกรนเวลพร้อมกับหัวหน้ากลุ่มอัศวิน แต่เซซิลยังขี่หลังของอเลนไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มอัศวิน ก่อนจะปล่อยลงตรงทางประตูหน้า
พอเข้าไปในคฤหาสน์ ครอบครัวของบารอนก็รออยู่พร้อมหน้าตรงประตูทางเข้าแล้ว
“เซซิล…”
“ท่านพ่อ กลับมาแล้วค่ะ”
ถึงจะเป็นการพบกันที่น่าตื้นตันใจ แต่สายตาของทุกคนกลับมองไปที่อเลนไม่ใช่เซซิล
“ระ รีบไปเรียกหมอมาที!!”
“ครับ!!!”
พอบารอนเห็นสภาพของอเลนสีหน้าที่โล่งใจก็เปลี่ยนไปในทันที พร้อมกับออกคำสั่งพ่อบ้าน
สภาพทั้งตัวของอเลนดูยับเยินมาก ไหนจะโดนมาด้ากัลชูกิน แล้วโดนนักฆ่าอย่างดรากฮาอัดเละ ทำให้เสื้อผ้าขาดวิ่นแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลย เสื้อผ้ามีแต่รอยขาดและเปรอะเลือดเต็มไปหมด ใครเห็นก็ต้องคิดว่าอาการสาหัส
“อ้อ ผมไม่เป็นไรครับ ใช้ยารักษาไปแล้วครับ”
เพราะเป็นเรื่องของตัวเองเลยรู้ดี พร้อมกับขยับแขนไปมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่เป็นอะไร
(อืม คิดว่าควรจะเอาเสื้อผ้าไว้ในที่เก็บเผื่อเรื่องอย่างนี้ด้วยสินะ แล้วต่อไปก็วิธีการรับมือกับพิษ ควรเตรียมยาแก้พิษไว้ด้วย มันจะมีของที่ใช้ป้องกันยานอนหลับที่ส่งผลทันทีอย่างในครั้งนี้หรือเปล่านะ? ใช่แล้ว ได้เรียนรู้เยอะเลยจากเรื่องในครั้งนี้)
อเลนรู้สึกถึงประสบการณ์ที่ได้มากมายในความวุ่นวายครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยรู้มาก่อนต่อให้ไปล่าที่เทือกเขามังกรขาว
เรื่องสำคัญคือการต่อสู้กับดรากฮา ทำให้รู้วิเคราะห์สกิลได้คืบหน้า
(ต่อให้ฆ่าคนก็ไม่ได้ค่าประสบการณ์)
ตอนที่หัวหน้ากลุ่มอัศวินฆ่าดรากฮา ได้ตรวจสอบข้อความบนสมุดเวทมนตร์ แต่ดูเหมือนการฆ่าคนจะไม่ได้ค่าประสบการณ์
เขาบอกว่าให้ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องราวกับที่ห้องรับประทานอาหาร ก่อนจะแยกย้ายกันตรงหน้าประตู มีการเตรียมอ่างอาบน้ำให้อเลนด้วย ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้อ่างอาบน้ำในคฤหาสน์นี้
เมื่อสวมชุดคนรับใช้ตัวใหม่เสร็จและเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร ก็โดนบอกให้นั่งลง
ตรงกลางของโต๊ะยาว ตามปกติบารอนจะนั่งตรงหัวโต๊ะแต่ตอนนี้นั่งตรงข้ามอเลน
เซซิลเข้ามาช้ากว่าหน่อย
“ถึงจะเพิ่งกลับมาเหนื่อย แต่พวกฉันต้องลงมือต่อ พอจะอธิบายได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ครับ”
พอทุกคนมารวมตัวกันอเลนเลยรายงานสถานการณ์
เรื่องที่โดนลักพาตัวไปบนเรือเหาะเวทมนตร์
บทสนทนาที่ราชทูตกับไวเคานต์คาร์เนลคุยกันบนเรือเหาะเวทมนตร์
กระโดดลงมาจากเรือเหาะเวทมนตร์แล้ววิ่งกลับมาที่เมืองแกรนเวล
ปราบมาด้ากัลชูที่พบระหว่างทาง
สุดท้ายเจอกับนักฆ่าดรากฮา และได้หัวหน้ากลุ่มอัศวินช่วยจัดการ
“งั้นเหรอ คนร้ายคือไวเคานต์คาร์เนลไม่ผิดสินะ”
“ครับ สมรู้ร่วมคิดกับราชทูตที่มาในครั้งนี้เพื่อเอาสิทธิ์ในการขุดเหมืองครับ”
ราชทูตบอกว่าจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อให้ขุนนางฝ่ายตัวเองที่เป็นรองรัฐตรีได้ตำแหน่งรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เลยสมรู้ร่วมคิดกับไวเคานต์คาร์เนลที่มีปัญหาด้านการเงินเพราะขุดมิธริลไม่ได้ จนทำให้เกิดเรื่องในครั้งนี้ขึ้น
“งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว เซบาสเอ๋ย ไปที่พระราชวังแล้วรายงานเรื่องนี้ให้ราชวงศ์รู้ที!”
“เข้าใจแล้วครับ”
บารอนกำมือทั้งสองข้างแน่น คงโกรธเอาเรื่องอยู่ บารอนตั้งใจจะไปหาราชวงศ์เพื่อจัดการเรื่องที่ลูกสาวสุดที่รักโดนลักพาตัวในครั้งนี้
(รายงานเหรอ? เอ๊ะ? เดี๋ยวสิ)
“จะทำอะไรหรือครับ?”
ลองถามดูว่าไปทำอะไรที่พระราชวัง
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ไปรายงานเรื่องในครั้งนี้ให้ราชวงศ์รับทราบไง ถ้าเป็นราชวงศ์จะต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน”
(คงไม่ได้เรื่องแน่ๆ คาร์เนลมีหนังสือสัญญาที่เซ็นต์แล้วด้วย ถ้าแค่คาร์เนลยังพอได้อยู่หรอก แต่ครั้งนี้ศัตรูไม่ได้มีแค่คาร์เนล อาจจะยอสสลัดหางทิ้งให้คาร์เนลรับโทษอยู่คนเดียวก็ได้)
“จะดีแน่หรือครับ? ผมมีคำแนะนำหนึ่งอย่างที่จะแก้ปัญหาในครั้งนี้ครับ”
บารอนกับอเลนคุยกันตลอด ตระกูลบารอนเองก็นั่งอยู่ทุกคน หัวหน้ากลุ่มอัศวินเองก็อยู่ด้วย แต่ครั้งนี้คนที่เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเซซิลคืออเลน ทุกคนเลยมุ่งความสนใจไปที่อเลน
“อะไรหรือ ลองบอกมาสิ”
“ผมจะยอมสละสิทธิ์ขุดเหมือง 30% ของตัวเองครับ”
“““เอ๊ะ!?”””
เพราะอเลนบอกว่าจะยอมปล่อยทรัพย์สิทขนาดใหญ่ ทำให้ห้องรับประทานอาหารอยู่ในความวุ่นวาย
“ให้ใช้สิทธิ์นั้น ให้ทำการสืบหาสาเหตุความจริงกับราชวงศ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างละเอียด เพื่อทำให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้นจะได้หรือเปล่าครับ?”
“จะ จะบอกว่าให้ฉันใช้สิทธิ์ในการขุดเมืองเพื่อใช้ประโยชน์จากราชวงศ์ เหมือนอย่างเจ้าคาร์เนลเหรอ”
บารอนค่อนข้างหวั่นไหวมาก จนถึงกับแข็งทื่อและพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง
“อย่างนั้นแหละครับ”
(คงจะยอมขายสิทธิ์ในการขุดเหมืองเพื่อเซซิลสินะ ถึงมันจะต่างไปหน่อยก็เถอะ)
“ดะ เดี๋ยวสิ แต่ว่า”
“อัศวินก็มีวิธีการต่อสู้ในแบบของอัศวิน แต่ท่านเจ้าเมืองไม่ใช่อัศวินแต่เป็นขุนนางครับ คิดว่าขุนนางเองก็มีวิธีการต่อสู้ในแบบของขุนนางอยู่ครับ”
“วิธีการต่อสู้ของขุนนาง?”
“ใช่แล้วครับ วางมือทั้งสองไว้บนโต๊ะแล้วขอดูหน่อยได้ไหมครับ?”
“หือ? พูดเรื่องอะไรกัน?”
ถึงจะไม่รู้ความหมาย แต่บรรยากาศในสถานที่นี้เป็นของอเลนแล้ว บารอนยื่นฝ่ามือทั้งสองข้างให้อเลนดูโดยไม่คิดอะไร ทุกคนก็ไม่รู้เรื่องเลยมองมาที่ฝ่ามือของบารอน
“ท่านเจ้าเมือง ตอนนี้ถึงเวลาที่จะทำให้มือทั้งสองข้างสกปรกแล้วครับ ขอดูวิธีการต่อสู้ที่สมกับเป็นขุนนางด้วยครับ”
“อะ อเลนเอ๋ย พอแค่นั้นแหละ!”
พ่อบ้านเตือนออกมาเพราะทำเกินไปในฐานะคนรับใช้ฝึกหัด
“ไม่หรอก ดีแล้วแหละเซบาสเอ๋ย”
“ท่านเจ้าเมือง แต่ว่า”
พ่อบ้านที่พูดถึงขนาดนั้นพอมองบารอนแล้วก็หยุดพูดไป บารอนดูมือทั้งสองข้างของตัวเองพร้อมกับเริ่มคิด แล้วน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม
“อเลนเอ๋ย ข้าเนี่ยนะตอนที่อายุเท่ากับเจ้า ท่านพ่อได้ด่วนจากไปก่อน ตอนนั้นท่านได้บอกว่า ‘ฝากเจ้ากับพี่ของเจ้าช่วยปกป้องแคว้นนี้ด้วย’ อยู่”
“ครับ”
บารอนมองดูมือทั้งสองข้างพร้อมกับเรื่องในความทรงจำออกมา เป็นเรื่องตอนบารอนอายุ 10 ต้นๆ
“ท่านพี่เองพอบรรลุนิติภาวะก็ขึ้นเป็นเจ้าเมือง และพยายามช่วยท่านพี่อย่างเต็มที่อยู่ แต่ท่านพี่ก็จากไปก่อนที่จะอายุได้ 20 ปี เซบาสเอ๋ย จนถึงตอนนี้เจ้าก็ลำบากเหนื่อยยากมากสินะ”
“……”
พ่อบ้านโค้งศีรษะแสดงความขอบคุณ อเลนนิ่งเงียบฟังบารอนพูด
“ท่านพี่ได้สอนชีวิตของขุนนางที่ถูกต้องให้และทำเนื่องมาจนถึงตอนนี้ แต่ว่าดูเหมือนมันจะผิดไปสินะ นี่เหรอวิธีการต่อสู้ของขุนนาง การที่ต้องให้เด็กที่อายุเท่ากับตอนโน้นมาสอนให้เนี่ย……”
บารอนกำมือทั้งสองข้างและยืนขึ้นมา
“ฉันจะต่อสู้ในฐานะขุนนาง อเลนเอ๋ยต้องขอโทษด้วยนะ ขอใช้สิทธิในการขุดเหมืองนี้ก็แล้วกัน เซบาสเอ๋ยเตรียมออกเดินทาง”
“จะรีบเดี๋ยวนี้เลยครับ”
(เท่านี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว บางทีคาร์เนลคงติดกับเหยื่อเรื่องสิทธิ์ในการขุดเหมืองนี้ก็ได้ ต่อไปมีเรื่องที่อยากจะขอร้องก่อนจะไปเมืองหลวงอยู่ด้วยสิ)
“เอ่อ ท่านเจ้าเมือง เกี่ยวกับเรื่องสิทธิ์ในการขุดเหมืองครับ”
อเลนพูดกับบารอนที่ยืนขึ้นและเริ่มลงมือเคลื่อนไหว
“หือ? ว่าไงเหรอ?”
“ถ้าเป็นไปได้ อยากจะให้บอกเกี่ยวกับหน้าที่ของตระกูลแกรนเวลได้หรือเปล่าครับ?”
(คิดว่าน่าจะถึงเวลาฟังแล้ว)
“……นั่นสินะ มันก็ใช่อยู่ เกี่ยวกับเรื่องนั้นเดี๋ยวจะไปเรียกอาจารย์มาให้”
ถึงจะหยุดพูดไปครู่หนึ่ง แต่ดูเหมือนจะยอมรับและจะบอกให้รู้
(หือ? แค่บอกหน้าที่ต้องเรียกอาจารย์มาเลยเหรอ เหมือนคาบเรียนเกี่ยวกับหน้าที่ของขุนนางเลย?)
เพราะอย่างนี้ บารอน เลยพาพ่อบ้านและรองหัวหน้ากลุ่มอัศวินไปยังราชวงศ์
สิ้นปีนั้นในหมู่ขุนนางก็มีข่าวลือเกี่ยวกับ “การเปลี่ยนไปของตระกูลแกรนเวล”
ขุนนางหลายคนรวมไปถึงไวเคานต์คาร์เนลโดนลงโทษข้อหาปลอมแปลงเอกสารและติดสินบน
พอพูดถึงการปลอมแปลงของไวเคานต์คาร์เนลแล้ว เขาไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบจากราชวงศ์เลยก่อจราจล ทางอาณาจักรเลยส่งทหารองค์รักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด 1000 คนมายังแคว้นของไวเคานต์
ผลสรุปนั้น ได้พบความผิดหลายกระทงจนถูกยึดแคว้นให้กลับไปรวมการปกครองของพระราชา
เกี่ยวกับตัวการอย่างราชทูตและขุนนางที่รับตำแหน่งระดับรองรัฐมนตร๊เองก็พลอยติดร่างแหไปด้วย ซึ่งก็มีการลือกนว่าทำไมถึงเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น
คนจำนวนมากถูกจับเข้าตาราง หลายตระกูลถึงยึด และมีการกวาดล้างขุนนางที่หลอกหลวงพรสวรรค์ ราวกับมีพายุเข้าซัดกระหน่ำราชอาณาจักร
ดูเหมือนทุกอย่างจะเกิดจากความโกรธแค้นของบารอนที่ไวเคานต์คาร์เนลลักพาตัวลูกสาวของบารอน เพื่อสิทธิ์ในการขุดเหมืองมิธริล บารอนเพื่อที่จะล้างแค้นเลยมอบกรรมสิทธ์การขุดเหมืองที่ค้นพบใหม่ และขอให้ทำการตรวจสอบราชวงศ์และขุนนางองค์กรต่างๆเพื่อเอามาลงโทษอย่างเต็มที่
ถึงจะมีถามออกไปว่าต้องทำขนาดนั้นเพื่อลูกสาวเพียงคนเดียวเลยหรือ แต่ไม่มีขุนนางคนไหนถามบารอนถึงข้อเท็จจริงนี้ ต่อให้เป็นราชวงศ์กับองค์กรต่างที่เป็นมิตรกับตระกูลแกรนเวล ก็ไม่มีใครกล้าถามถึงข้อเท็จจริงของข่าวลือนั้นเลย