Hell mode - ตอนที่ 106
บทที่ 106 เข้าสอบ 1
“เดี๋ยวสิ! ทำไมอเลนถึงไม่ผ่านกัน!!”
“อเลนไม่ผ่านงั้นเหรอ?”
อเลนโดนผู้คุมสอบบอกว่าไม่ผ่าน ทำให้เซซิลกับคุเรนะส่งเสียงออกมา โดโกร่าเอาแต่มองดูตัวอักษรที่แสดงอยู่บนป้ายประเมิน
“ทุกคน ดูเหมือนฉันจะไม่ผ่าน ดังนั้นพยายามกับการสอบนะ มาตัดสินกันเถอะว่าจะรวมตัวกันที่ไหนหลังสอบเสร็จ”
“เดี๋ยวสิ!! ทำไมถึงพูดเรื่องข้างหน้าต่อเนี่ย!!!”
เพราะว่าพูดราวกับเป็นเรื่องปกติ ทำให้เซซิลเข้ามารับมุก
(เอาเถอะ ถ้าไม่ให้เข้าเรียนแล้วละก็ ไม่ต้องเรียนก็ได้)
อเลนคิดว่าต่อให้ไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร เดิมทีรู้อยู่แล้วว่าค่าความสามารถทุกอย่างเป็น E เลยไม่คิดว่าจะผ่านได้อยู่แล้ว ในสภาพอย่างนี้ต่อให้เป็นหนังสือรับรองของไวเคานต์ก็คงไม่ช่วยอะไร
(ถึงอย่างงั้น ต่อให้มีพรสวรรค์แต่ถ้าค่าความสามารถต่ำก็ตกงั้นเหรอ ถือเป็นข้อมูลที่ล้ำค่า)
ไม่ใช่แค่อเลนที่มีค่าทุกอย่างเป็น E แต่เห็นอยู่ว่าคนที่เข้าแถวอยู่ ทุก 3 คน จะมี 1 คนที่ผู้คุมสอบบอกว่าไม่ผ่าน
แล้วก็มีคำถามผุดขึ้นมาว่า เพราะอะไรกันนะ? ไม่ใช่ว่าแค่มีพรสวรค์ก็พออย่างนั้นหรือ
ทำให้คิดว่าน่าจะแบ่งค่าความสามารถของแต่ละสเตตัสตามด้านล่างนี้
・ต่อให้มีพรสวรรค์ แต่ค่าความสามารถที่ต่างกันจะทำให้พลังที่แท้จริงหลังเติบโตต่างกัน
・จากค่าความสามารถทำให้รู้ว่าจะแข็งแกร่งขนาดหากเติบโตแล้ว
เกี่ยวกับตัวอย่างแรก เกิดมามีพรสวรรค์เดียวกันแต่ค่าความสามารถต่างกัน ที่นักดาบมีพลังโจมตีต่ำอาจจะเพราะค่าความสามารถส่วนตัวที่แตกต่างกัน ต้องการนักดาบที่มีค่าความสามารถเหมาะกับนักดาบ ต้องการผู้ใช้เวทมนตร์ที่ค่าความสามารถเหมาะกับผู้ใช้เวทมนตร์ ดูเหมือนผู้คุมสอบตอบสนองต่อคุเรนะ เซซิล และโดโกร่าเป็นเพราะค่าความสามารถเข้ากับพรสวรรค์
สำหรับตัวอย่างอันหลัง ทำให้คิดได้ว่าการเจริญเติบโตคงที่จากค่าความสามารถ และแทบจะรู้ความแข็งแกร่งสุดท้ายได้จากตอนนี้โดยไม่ผิดไปมากนัก ทางด้านโรงเรียนยังไงก็ต้องการคนที่แข็งแกร่ง ส่วนเหตุผลของการสอบข้อเขียน ดูแล้วแทบจะไม่มีความหมายต่อการฝึกฝนในโรงเรียน 3 ปีเลย อย่างไรซะก็คงบอกได้ว่าแทบจะไม่มีประโยชน์ในสนาบรบอยู่แล้ว
เพราะอย่างนั้น ทำให้ได้ข้อสรุปว่าในการสอบนี้ไม่จำเป็นต้องทดสอบความสามารถที่แท้จริง
ผู้เข้าสอบตรงนี้มีทั้งผู้ที่เลเวลเพิ่มและไม่เพิ่มอยู่ ถ้าเลเวลเพิ่มถือว่าสอบผ่าน ถ้าไม่เพิ่มถือว่าสอบไม่ผ่าน ไม่สามารถตัดสินผ่านไม่ผ่านจากความสามารถได้เลย
(อย่างนี้นี่เอง ถูกกำหนดให้ผ่านไม่ผ่านด้วยการสอบข้อเขียนกับการประเมินตั้งแต่ตอนอายุ 5 ขวบเหรอ เพราะมีการปลอมแปลงพรสวรรค์ ช่วงนี้เลยให้มีทำการประเมินซ้ำอีกครั้ง อย่างแย่เลยให้สอบข้อเขียนด้วย ก็พอจะสมเหตุสมผลเพื่อป้องกันการปลอมแปลงพรสวรรค์)
“โหวกเหวกอะไรกันอยู่? ไม่ได้นะ ถึงจะตกแต่ก็อย่าโวยวายสิ”
“ปะ เปล่าครับ จริงๆแล้ว……”
ผู้คุมสอบทุกคนสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน แต่ชายหนุ่มผมสีฟ้าอ่อนที่เข้ามาเห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่ผู้คุมสอบ ดูเป็นชายหนุ่มที่ดูสบายๆอย่างไรไม่รู้ โดยข้างๆเขามีเอลฟ์วัยกลางคนผมขาว
ผู้คุมสอบอธิบายสถานการณ์ให้กับ 2 คนที่มาถึง เขาดูผลการประเมินพร้อมกับพูดคุยกับชายหนุ่มว่า “อย่างนั้นเหรอ? ผลการประเมินอย่างนี้เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก”
(โอ๊ะ! เอลฟ์ตัวจริง)
อเลนเพิ่งเคยเห็นเอลฟ์เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาต่างโลก
“เดี๋ยวสิ หมายความว่ายังไงกัน! อเลนตกเนี่ยมันแปลกไม่ใช่เหรอ!!”
เซซิลเข้าไปพูดกับชายผมสีฟ้าอ่อนที่คุยอยู่กับผู้คุมสอบ
“เพราะเป็นอเลนเลยแปลก?”
ชายหนุ่มผมสีฟ้าอ่อนตอบสนองต่อคำพูดของเซซิล
“ใช่แล้ว! อเลนกำจัดมาด้ากัลชูได้ด้วยตัวคนเดียวไง!!!”
ดูเหมือนเซซิลจะเก็บความโกรธไม่ไหว เพราะได้เห็นการต่อสู้เป็นตายอเลนกับมาด้ากัลชูต่อหน้าต่อตา
“สุดยอดเลยนะเนี่ย อายุแค่นี้กำจัดมาด้ากัลชูด้วยตัวคนเดียว ถึงอย่างนั้นมีจริงงั้นเหรอเนี่ยที่ค่าความสามารถทุกอย่างเป็น E”
(มีจริงงั้นเหรอ?)
“อย่างนี้นี่เอง จะว่าไปไม่เคยเห็นผลการประเมินอย่างนี้มาก่อน เด็กหนุ่มที่ทุกอย่างอยู่ระดับ E เหรอ ปีนี้มาจริงๆด้วย ตรงตามที่ท่านโรเซนกล่าวไว้เลย”
“ผู้อำนวยการ โรเซนไม่ได้บอกอย่างอื่นเลยเหรอ? ถ้าแค่นี้ไม่รู้อะไรกันพอดี?”
(โอ๊ะ อะไร อะไรเหรอ?)
“ท่านราชาแห่งภูตไม่ถนัดดูเหตุการณ์ล่วงหน้า เดิมทีไม่ใช่ดินแดนของภูตอยู่แล้ว และถ้าเป็นไปได้อย่าเรียกสิ่งที่พวกข้านับถือห้วนๆจะได้หรือเปล่า”
“อ้อ โทษทีๆ ไม่ถนัดพูดสุภาพเท่าไร”
“ท่านเฮลมิออส ต้องขอโทษด้วยแต่ช่วยยืนยันผลการประเมินนี้ได้หรือเปล่า?”
“รอแป็บนะ จะตรวจสอบให้เดี๋ยวนี้”
เขาเลื่อนสายตาจากเอลฟ์ที่ถูกเรียกว่าผู้อำนวยการมาทางอเลน ชายผมสีฟ้าอ่อนมองอเลน พร้อมกับดวงตาสีทองที่เริ่มส่องแสง
““ผู้อำนวยการ? เฮลมิออส?””
อเลนกับเซซิลตอบสนองต่อคนที่ถูกเรียกว่าเฮลมิออส นั่นเป็นชื่อของผู้กล้าที่เกิดในจักรวรรดิ์ซึ่งอาจารย์สอนเวทมนตร์เคยบอกเอาไว้
แล้วเอลฟ์ที่ยืนอยู่ข้างๆชายหนุ่มถูกเรียกว่าผู้อำนวยการ ถ้ามีฐานะนั้นจริงแล้วละก็เท่ากับว่าเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนที่ปกครองเมืองแห่งการศึกษา
ชายผมสีน้ำเงินอ่อนไม่ใส่ใจต่อเลนเลนที่กำลังประหลาดใจและมองต่อด้วยดวงตาที่ส่องประกาย
(ได้พบกับผู้กล้าเหรอ ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ แล้วตรวจสอบที่ว่าเนี่ย?)
“เอ่อ พลังโจมตี 570 โอ้ว! ความฉลาด 1630 งั้นเหรอ”
(อืม สกิลตรวจสอบสมบูรณ์แบบสินะ หมอนี่อย่ามาพูดค่าสเตตัสของฉันตามใจชอบสิ จะว่าไป ทำไมผู้กล้า 5 ดาวถึงประเมินได้ แต่ฉันทำไม่ได้ อย่างนี้ต้องตั้งใจรายงานกับพระเจ้าซะแล้ว)
ว่าจะบอกให้หยุดแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป สิ่งนั้นเป็นค่าสเตตัสแบบเดียวกับที่ตัวเองรู้เลย
“ความฉลาด 1600 งั้นเหรอ นี่มันค่าความฉลาดระดับ S เลยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงแค่ E?”
ผู้อำนวยการพูดกับเฮลมิออสและมองผลที่แสดงอยู่บนกระดานดำ
“แต่ก็แปลกนะเนี่ย สเตตัสแค่นี้ไม่น่าจะปราบมาด้ากัลชูได้เลย?”
“อย่างนั้นเหรอ?”
“อืมทั้งพลังโจมตี ความเร็ว ความทนทานทางด้านมาด้ากัลชูเหนือกว่า คิดว่าควรจะเป็นฝ่ายโดนจัดการด้วยซ้ำ ถึงความฉลาดจะสูง แต่สกิลไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเวทมนตร์เลย ถ้าค่าสเตตัสอย่างเดียวใกล้เคียงกับยอดนักเวท แต่ว่าใช้เวทมนตร์ไม่ได้นี่สิ”
(นี่ๆ พอได้แล้ว แต่วิเคราะห์ได้ไม่ผิดสมกับที่เป็นผู้กล้า)
“ยอดนักเวทที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้งั้นเหรอ”
“ใช่แล้ว คำตอบอาจจะอยู่ตรงพรสวรรค์ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างนักอัญเชิญหรือเปล่า ชื่อว่าอเลนสินะ ขอบคุณที่ให้ประเมินดูเหมือนจะมีอะไรผิดพลาดผมเลยเป็นคนประเมินแทนน่ะ”
“ถ้างั้นก็ผ่านสินะ! อเลนผ่านสินะ!!”
เซซิลดูดีใจมาก
“อืม อย่างน้อยอยากให้แสดงความสามารถของนักอัญเชิญให้ดูหน่อยได้ไหม? เพราะไม่รู้ความสามารถเลยสักนิด”
“เอ๊ะ แค่นั้นก็พอเหรอ? อเลนเอาหมีตัวใหญ่ๆ อื้อ อื้อ”
อเลนปิดปากเซซิลจากด้านหลัง
(นี่เซซิล พูดเยอะไปแล้ว แถมเหมือนกำลังตามหาฉันอยู่ด้วยนี่สิ อืมๆ)
“ผู้คุมสอบต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ไหนๆก็ไม่ผ่านแล้วขอตัวก่อนนะครับ แถวด้านหลังเองก็ค่อนข้างยาวแล้วด้วย”
“คะ ครับ เอ๊ะ?”
อเลนไม่สนใจคำแนะนำของเฮลมิออส และตอบรับคำบอกไม่ผ่านของผู้คุมสอบ เซซิลส่งเสียงออกมาได้แค่ “ว่าไงนะ!” แต่ก็โดนอเลนปิดปากอีกครั้ง
“แค่บอกว่าถ้าให้ดูความสามารถจะให้ผ่านพิธีประเมินเท่านั้นเอง”
เฮลมิออสเข้ามาแทรกระหว่างการพูดคุยของผู้คุมสอบและอเลน
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ คุณไม่ได้สวมชุดเหมือนกับผู้คุมสอบเป็นใครเหรอครับ? ดูแล้วไม่น่าใช่ผู้คุมสอบนี่ครับ?”
““เอ๊ะ?””
ผู้อำนวยการกับผู้คุมสอบประหลาดใจกับคำพูดของอเลน เป็นการพูดเหมือนรู้จักอีกฝ่าย
“เอ๊ะ? โทษที ผมชื่อเฮลมิออส เป็นผู้กล้าน่ะ”
“ผู้กล้า? ไม่เห็นรู้จักเลยครับ มีเหตุผลอะไรที่ต้องการดูความสามารถเหรอครับ?”
“เอ๊ะ?”
คงไม่นึกว่าจะพูดอย่างนี้ตอนที่บอกออกไปว่าเป็นผู้กล้า ผู้กล้าโผล่มาในเรื่องราวของราชอาณาจักรเหมือนกัน ถึงผู้กล้าจะไม่เคยเกิดที่ราชอาณาจักร แต่ก็เป็นอาชีพในจินตนาการที่รู้จักกันพอตัวอยู่
(เฮ้อ คิดว่าผู้กล้าพูดแล้วต้องฟังเนี่ยคงมีแต่ที่จักรวรรดิเท่านั้นแหละ)
“เอาอย่างนี้ไหม ฉันขอตัดสินใจในฐานะผู้อำนวยการขอดูความสามารถ แค่นี้ก็พอแล้วสินะ?”
“อ้อ ถ้าผู้อำนวยการพูดแล้วละก็ ขอตอบในฐานะผู้เข้าสอบก็แล้วกัน ขอปฏิเสธครับ”
“หา!”
คงไม่คิดว่าจะปฏิเสธถึงขนาดนี้
“ยังไงเดี๋ยวก็ต้องแสดงพรสวรรค์ให้เห็นอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่อยากให้เห็นพรสวรรค์ถึงขนาดนั้นด้วย?”
“คงเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ ผมไม่ได้บอกสักคำว่าไม่อยากให้เห็นพรสวรรค์?”
“เอ๊ะ?”
“แค่ไม่ให้ดูฟรีๆหรอกครับ”
อเลนมีแผนจะไปสนามรบ ที่สนามรบมีคนอยู่มากระหว่างนั้นยังไงก็ต้องมีคนรู้อยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นมันเป็นเรื่องอีก 3 ปีให้หลัง มันแตกต่างกับตอนนี้อย่างมาก
ตอนที่เซซิลโดนลักพาตัวก็เรียกสัตว์อัญเชิญออกมาบนเรือเหาะเวทมนตร์ไปแล้ว ต่อจากนี้ตั้งใจจะเรียกสัตว์อัญเชิญออกมาต่อหน้าคนอื่นเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น การใช้ชีวิตที่ปิดบังพรสวรรค์โดยสมบูรณ์มีแต่จะบีบทางเลือกให้ลดน้อยลง
อเลนคิดว่าความสามารถไม่ใช่สิ่งที่ควรแสดงออกมาพร่ำเพรื่อ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรปิดบัง
“ฟรีที่ว่าเนี่ย?”
“พรสวรรค์ของผม เป็นพรสวรรค์ที่ล้ำค่าขนาดผู้อำนวยการยังไม่รู้จัก อยากจะให้ช่วยจ่ายสิ่งที่สมน้ำสมเนื้อหน่อยครับ”
“เอ๊ะ? ต้องการจะบอกว่าให้จ่ายเงินงั้นเหรอ?”
“เปล่าครับ ไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลย จากที่ผู้อำนวยการพูดกันดูเหมือนอยากจะเห็นความสามารถของผม ดังนั้นอยากให้คุณช่วยแตะคริสตัลเพื่อประเมินได้หรือเปล่าครับ เท่านี้ก็เสมอกันแล้ว”
เฮลมิออสมองผู้อำนวยการ ซึ่งเขาถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า ดูเหมือนจะได้
“……ก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก”
ดูท่าเฮลมิออสจะยอมประเมินก่อน เลยมุ่งหน้าไปที่คริสตัลประเมิน