Hell mode - ตอนที่ 130
บทที่ 130 เติบโต
“โปจิ เด็กดีๆ”
‘โฮ่ง! โฮ่ง!’
สุนัขแกว่งหางไปมากับอเลนที่ลูบอย่างเอ็นดู สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์อัญเชิญสัตว์ F
เดิมที่มันมีขนาดพอๆกับสุนัขขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสุนัขตัวเล็กพอๆกับชีวาวา
แล้วบนชั้นวางจานข้าว มีแมวที่มองลงมาราวกับจะบอกว่า “ทำอย่างนั้นนั้นมันสนุกเหรอ?” อยู่ แมวตัวนี้เป็นสัตว์อัญเชิญสัตว์ E เดิมทีมันเป็นเสือเขี้ยวดาบ แต่ตอนนี้เหมือนแมวที่ว่านอนสอนง่าย มันยึดชั้นบนสุดที่ไม่มีอะไรวางและกำลังเลียขนอยู่
สัตว์อัญเชิญ 2 ตัวนี้ เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้จากสกิลปลุกพลัง
สัตว์อัญเชิญสัตว์ F
สกิลปลุกพลัง “สุนัขผู้ซื่อสัตย์”
สัตว์อัญเชิญสัตว์ E
สกิลปลุกพลัง “แมวเชื่อง”
ผลที่ได้ สุนัขผู้ซื่อสัตย์จะทำให้กลายเป็นสุนัขขนาดเล็กน่ากอด ส่วนแมวเชื่องเปลี่ยนให้มันทำตัวเอื่อยเฉื่อยเหมือนแมวบ้าน ถ้าใช้สกิลปลุกพลังไปแล้ว 1 ครั้งจะอยู่ได้ 1 เดือน
ถึงรูปลักษณ์ภายนอกกับผลที่ได้จะดูไร้ความหมาย แต่อเลนไม่คิดเช่นนั้น
ตามปกติสายสัตว์จะใช้แต่ระดับที่สูงที่สุด นั่นก็เพราะว่ารับหน้าที่โจมตี เลยต้องเตรียมระดับสูงสุดที่มีค่าพลังสูงเอาไว้ในที่เก็บการ์ด
ที่ได้มา เป็นการพรางตัวให้เป็นสุนัขน่ารักกับแมวบ้าน ถ้าอย่างนั้นแล้วจะสามารถเอาไว้เฝ้าระวังภายในบ้านได้ ต่อให้มีผู้บุกรุกก็คงจะคลายความระมัดระวังลง อนึ่ง เพราะเสริมพลังไปแล้วทำให้พลังโจมตีและพลังกายสูงกว่า 500
เนื่องจากนีน่าน้องสาวของคีลเอ็นดูสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C เลยว่าจะให้สัตว์อัญเชิญสัตว์ E และ F เป็นสัตว์เลี้ยงของเหล่าคนรับใช้
ถึงการตรวจสอบสกิลปลุกพลังจะคืบหน้า แต่รู้สึกได้เลยว่าระยะความต่อเนื่องของสกิลถูกคิดขึ้นมาให้หลากหลาย
“ถ้างั้น ไปกันเถอะ”
“โอ้ว!”
โดโกร่าตอบมาอย่างร่าเริง เขาที่กังวลมาเกือบ 3 เดือนในที่สุดก็ใช้สกิลได้ ทำให้ความมุ่งมั่นในการไปดันเจี้ยนไม่ใช่เล่นๆ สภาพเหมือนตอนที่คุเรนะจำสกิลได้เลย การที่ได้ยินดีกับการเจริญเติบโตของตัวเองมันเหนือสิ่งอื่นใด
วันนี้เป็นวันหยุด
ผ่านมา 3 เดือนจนเข้าสู่เดือนกรกฏาคมแล้ว ถ้าคิดว่าอีกแค่ 2 ปี 9 เดือนต้องไปสนามรบ ถือว่าเป็นช่วงเวลาเพียงครู่เดียว
วันนี้เป็นวันที่จะไปล่าบอสดันเจี้ยนระดับ B ครั้งแรก จะไม่เข้าไปปราบทันทีที่ไปถึงชั้นล่างสุดเหมือนตอนดันเจี้ยนระดับ C
เข้าไปในตึกเดิมเพื่อไปยังชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ B ถ้าเป็นชั้นอื่นๆจะถูกพามาที่ทางเดิน แต่ชั้นล่างสุดจะถูกพามาที่หน้าประตูขนาดใหญ่
พอเปิดประตูที่มีลวดลายอันน่าเกรงขาม ก็เป็นลานกว้างทรงกลม ตรงใจกลางมีบอสชั้นล่างสุดสถิตอยู่
“โน้นมันตัวอะไรเนี่ย? หรือว่าจะเป็นฮิวจ์บอร์”
“อือ รู้สึกจะเป็นมอนสเตอร์ระดับสูงของเกรซบอร์น่ะ”
ตรงใจกลางลานกว้างของห้องบอสชั้นล่าสุดมีเกรซบอร์มอนสเตอร์ระดับ C ที่เคยล่าตรงหมู่บ้านคุเรนะ 10 ตัว โดยตรงกลางนั้นมีหมูป่าขนาดใหญ่เกือบ 5 เมตรยืนอยู่
คิดว่าสมกับเป็นบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนสายสัตว์ป่าอยู่
(ถอยกลับไปตั้งหลังเพื่อคิดแผนการมาแล้วคิดว่าคงไม่แพ้หรอก? มันมีช่วงเวลาที่ฉันคิดว่ามีแค่นักอัญเชิญเท่านั้นที่ได้รับพรคุ้มครอง)
ถ้าเข้าไปในห้องบอสชั้นล่างสุดแล้วจะออกมาไม่ได้จนกว่าจะปราบสำเร็จ คงไม่อยากให้หยุดหรือหนีกลางคันเพราะว่ามันแข็งแกร่งเกินไป
[ชื่อ] คุเรนะ
[อายุ] 12
[อาชีพ] ยอดนักดาบ
[เลเวล] 37
[พลังกาย] 1520 + 900
[พลังเวท] 586
[พลังโจมตี] 1520 + 900
[ความทนทาน] 1068 + 900
[ความว่องไว] 1027 + 900
[ความฉลาด] 606
[โชค] 735
[สกิล] ยอดนักดาบ <3>, ฟัน <3>, ดาบบิน<3>, กายแกร่ง<1>, วิชาดาบ <5>
[เอ็กซ์ตร้าสกิล] ทะลวงขีดจำกัด
[ค่าประสบการณ์] 46,630 / 100,000
・ เลเวลสกิล
[ยอดนักดาบ] 3
[ฟัน] 3
[ดาบบิน] 3
・ ค่าประสบการณ์สกิล
[ฟัน] 252 / 1,000
[ดาบบิน] 285 / 1,000
[ชื่อ] เซซิล แกรนเวล
[อายุ] 12
[อาชีพ] นักเวท
[เลเวล] 37
[พลังกาย] 637
[พลังเวท] 1069 + 600
[พลังโจมตี] 406
[ความทนทาน] 664
[ความว่องไว] 628 + 600
[ความฉลาด] 1470 + 600
[โชค] 592
[สกิล] เวทมนตร์ <3>, ไฟ <3>, ดิน<3>, ปัญญา<1>, ผสาน <2>
[เอ็กซ์ตร้าสกิล] อุกกาบาตขนาดเล็ก
[ค่าประสบการณ์] 57,430 / 100,000
・ เลเวลสกิล
[เวทมนตร์] 3
[ไฟ] 3
[ดิน] 3
・ ค่าประสบการณ์สกิล
[ไฟ] 690 / 1,000
[ดิน] 690 / 1,000
[ชื่อ] คีล
[อายุ] 13
[อาชีพ] บาทหลวง
[เลเวล] 37
[พลังกาย] 475
[พลังเวท] 899 + 300
[พลังโจมตี] 358
[ความทนทาน] 505
[ความว่องไว] 575
[ความฉลาด] 793 + 300
[โชค] 723
[สกิล] บาทหลวง <3>, ฟื้นฟู <3>, ปกป้อง <3>, ศรัทธา<1>, วิชาดาบ <3>
[เอ็กซ์ตร้าสกิล] หยาดแห่งพระเจ้า
[ค่าประสบการณ์] 12,350 / 100,000
・ เลเวลสกิล
[บาทหลวง] 3
[ฟื้นฟู] 3
[ปกป้อง] 3
・ ค่าประสบการณ์สกิล
[ฟื้นฟู] 380 / 1,000
[ปกป้อง] 310 / 1,000
เมื่อวันก่อนคีลอายุ 13 ปีแล้ว เป็นพวกพ้องคนแรกที่อายุ 13 ปี ซึ่งจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดที่ฐานอย่างเต็มที่ และช่วงนี้รู้สึกว่าคีลเองเริ่มยอมรับอะไรอย่างนี้แล้ว หรือไม่ก็คงจะเลิกคิดไปแล้วก็ได้
ที่ดันเจี้ยนระดับ B มีโอกาสได้ใช้สกิลบ่อยๆ ทำให้สกิลอาชีพของทุกคนมาถึงเลเวล 3 แล้ว
สกิลใหม่ที่ได้มา ของคุเรนะคือกายแกร่ง ของเซซิลคือปัญญา ส่วนของคีลคือศรัทธา
กายแกร่ง เพิ่มค่าสเตตัส 4 อย่างให้ 900
ปัญญา เพิ่มค่าสเตตัส 3 อย่างให้ 600
ศรัทธา เพิ่มค่าสเตตัส 2 อย่างให้ 300
อาชีพนักอัญเชิญของอเลนระดับความแรร์อยู่ที่ 8 ดาวและค่อนข้างพิเศษ ทำให้คิดว่าเลยได้รับเป็นพรคุ้มครองแทน
แต่ดูเหมือนอาชีพอื่นจะได้รับพรคุ้มครองเพิ่มตามค่าสเตตัสที่สมควรได้
ไม่รู้ว่านอร์มอลโหมดจะเติบโตได้ถึงขนาดไหน แต่ทุกคนเติบโตเร็วกว่าอเลนเป็น 100 เท่า
(แต่ไม่นึกเลยว่าการคาดการณ์ของฉันจะถูกต้อง นอร์มอลโหมดไม่ได้อ่อนแอ ถ้าการที่นอร์มอลโหมดซึ่งแข็งแกร่งขนาดนี้แพ้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ บางทีฝั่งกองทัพจอมมารอาจจะแข็งแกร่งเกินไปก็ได้)
หัวหน้ากลุ่มอัศวินและนักฆ่าดรากฮาเองแข็งแกร่งมาก ไม่ชวนให้คิดว่ามันเป็นการเลเวลอัพตามปกติเลย
นอร์มอลโหมดที่ผ่านการฝึกถึงขนาดนั้น เกือบครึ่งเสียชีวิตที่สนามรบภายในระยะเวลา 3 ปี
“ออลโปรเทค”
ตอนที่อเลนกำลังคิด คีลก็ร่ายสเกิลปกป้องเลเวล 3 ปกป้องเลเวล 3 จะเพิ่มความทนทานให้ทุกคนในปาร์ตี้ 10% ทำแค่นี้ความทนทานของคุเรนะก็เพิ่มขึ้นมาเกือบ 200 ถือว่าเป็นสกิลที่ค่อนข้างมีประโยชน์มากๆ เพราะที่เพิ่มได้ตอนนี้มีแค่กายแกร่งกับพรคุ้มครองของนักอัญเชิญเท่านั้น
“ถ้างั้น ไปกันเลย!”
“อือ!”
“โอ้ว!!”
พวกอเลนขึ้นขี่สัตว์อัญเชิญนก C จากสัญญาณของคุเรนะ และมุ่งหน้าไปด้วยรูปแบบที่จัดไว้แล้ว
ถึงคุเรนะกับโดโกร่าจะอยู่แนวหน้า แต่ให้สัตว์อัญเชิญสัตว์ C ที่มีรูปร่างเป็นหมูป่าขนาดใหญ่ ใช้ทักษะพิเศษ “พุ่งชน” วิ่งเคียงข้างไปด้วย
ที่ทำอย่างนี้เพื่อป้องกันมอนสเตอร์ระดับ C ที่ไม่สนใจคุเรนะกับโดโกร่า เอาแต่จะพุ่งเข้าใส่คีลกับเซซิล มอนสเตอร์จะเล็งแนวหลังหรือคนที่อ่อนแอก่อนเสมอ ยิ่งพอมาเป็นระดับ C ยิ่งเห็นแนวโน้มได้อย่างชัดเจน
อนึ่ง ตอนเคลื่อนไหวตามปกติ อเลนจะอยู่ปกป้องหางแถว แต่ถ้าตอนสู้กับบอสชั้นล่างสุด จะมาอยู่หลังคุเรนะกับโดโกร่าเพื่อสั่งการเหล่าสัตว์อัญเชิญ โดยจะให้คีลกับเซซิลเป็นแนวหลัง
“เฟรมแอร์โรว์!”
เซซิลยิงเวทมนตร์กระจายอย่างไฟเลเวล 3 ออกไป มอนสเตอร์ระดับ C โดนเผาไหม้และหายไป ทำอย่างนี้เพื่อลดจำนวนมอนสเตอร์ก่อนที่คุเรนะกับโดโกร่าจะเข้าปะทะ
แผนการต่อสู้คือ อเลนกับเซซิลจะจัดการลูกกระจอกอย่างมอนสเตอร์ระดับ C ส่วนฮิวจ์บอร์ที่เป็นบอสชั้นล่างสุดปล่อยให้คุเรนะกับโดโกร่าจัดการ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
‘บุฮี้!!!’
สกิลฟันของคุเรนะที่มาถึงเลเวล 3 เฉาะใส่ศีรษะของฮิวจ์บอร์ เนื่องจากก่อนหน้านี้โดนโจมตีมาหลายครั้งแล้ว ทำให้ครั้งนี้มันแน่นิ่งไป
“โอ้ว! ปราบมอนสเตอร์ระดับ B ได้แล้ว!! ออลฮิล!!!”
คีลร่ายเวทมนตร์ฟื้นฟูหมู่ ทำให้พลังกายของทุกคนฟื้นฟูกลับมา
(กะแล้วเชียว การร่ายเวทมนตร์ฟื้นฟูใส่ทุกคนได้ในครั้งเดียวนี่มันดีจริงๆ)
“เหนื่อยกันหน่อยนะ เท่านี้ก็ผ่านดันเจี้ยนระดับ B ได้หนึ่งแห่งแล้ว โอ้ววว!!”
รางวัลหีบสมบัติคราวนี้เป็นหีบเงิน
“โอ้ว!! หีบเงินเหรอเนี่ย!! หีบเงินออกมาแล้ว!!!”
คีลดูท่าทางดีใจ แล้วเขาก็มุ่งหน้าไปเปิดหีบสมบัติ ข้างในนั้นมีสนับมือฮิฮิอิโรคาเนะ มันส่องประกายสีแดงเข้มดูเลอค่า อาวุธระดับฮิฮิอิโรคาเนะขายได้มากกว่า 100 เหรียญทอง ถือเป็นของระดับสูง
(ฉันเองก็มีช่วงที่คิดว่าทำไมคีลถึงได้ยึดมั่นในเงินเพื่อครอบครัวเหมือนกัน)
อย่างแรก เพราะมีเงินกู้เลยต้องการเงินมาใช้หนี้
อย่างที่สอง ต้องการเงินเพราะมีครอบครัวต้องดูแล
อย่างที่สาม แค่ชอบเงินมากๆ
ก่อนหน้านี้อเลนคิดเหตุผลว่าทำไมคีลถึงต้องการเงิน ตอนแรกคิดว่าเป็ยอย่างที่สอง แต่พอได้เดินทางร่วมกันอย่างนี้ทำให้เริ่มคิดว่าน่าจะเป็นอย่างที่สามหรือเปล่า
คีลผู้ชื่นชอบเงิน ค่อยๆชูสนับมือฮิฮิอิโรคาเนะขึ้น
“ผู้ลุ่มหลงในเงินตรา ไม่สิในกรณีของคีลต้องบอกว่า พระหลงเงินสิ”
เซซิลทักถ้วงอย่างเอือมๆในสิ่งที่อเลนคิด อาจจะเป็นช่วงเวลาที่คำพูดอันน่าประหลาดอย่างพระหลงเงินเกิดขึ้นบนต่างโลกนี้ก็ได้
ด้วยเหตุนี้ปาร์ตี้ของพวกอเลนผ่านดันเจี้ยนระดับ B แห่งแรกได้แล้ว