Hell mode - ตอนที่ 136
บทที่ 136 เมเทโอ (ชั่วคราว)
ปลายเดือนกันยายน อีกไม่นานจะหมดวันหยุดฤดูร้อน
ถึงระหว่างลุยดันเจี้ยนเซซิลกับโดโกร่าจะโดนวาปไปที่อื่น แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีก โดยพยายามให้ทุกคนอยู่ในระยะถูกส่งด้วยกัน หรือไม่ก็ให้สัตว์อัญเชิญวิ่งนำหน้าเพื่อตรวจสอบกับดัก
ถึงจะยังไม่มีแผนรับสายสำรวจเข้าปาร์ตี้ แต่พูดอีกแผนหนึ่งที่ฐาน
เรื่องที่จะเพิ่มสมาชิกในปาร์ตี้
ตอนนี้ทำกิจกรรมด้วยกันแค่ 5 คน ถึงจะบอกว่าหลังจากนี้จะเพิ่มจำนวนคน แต่โดยพื้นฐานจะไปด้วยกันแค่ 5 คนก่อน ถ้าเจอเพื่อนดีๆค่อยช่วย
อเลนบอกว่าจากโครงสร้างในตอนนี้ ถ้าได้อาชีพสายสนับสนุนมาจะดีมาก ถึงอเลนกับคีลจะมีสกิลสายสนับสนุน แต่ไม่ใช่อาชีพสายสนับสนุนโดยตรง ถ้าหากมีเพื่อนที่มีใช้สกิลสายสนับสนุนได้ยาวๆ ปาร์ตี้จะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
หรือจะเป็นสายแท้งก็ดี คุเรนะกับโดโกร่าใช้อาวุธขนาดใหญ่ที่ต้องถือสองมือ ถ้าได้อาชีพสายโล่มาช่วยปกป้องจะดีมาก
พอเข้าวันหยุดฤดูร้อน ทำให้ทุกคนจับกลุ่มปาร์ตี้ลุยดันเจี้ยนกันไปแล้ว เลยไม่อยากจะฝืนชวนคนอื่น ถ้าเจอนักเรียนที่ตรงเงื่อนไขอยากจะให้ลองเรียกมาดูอยู่
จากเรื่องเล่าของไวเคานต์แกรนเวล ดูเหมือนจมีบ่อยที่ทั้งห้องเรียนจะถูกส่งไปยังสนามรบเดียวกัน ถึงสถานการณ์ในสนามรบจะเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา แต่เขาบอกว่ามีบ่อยที่คนเรียนปีเดียวกัน ห้องเดียวกันจะถูกส่งไปประจำป้อมปราการเดียวกัน
ป้อมปราการที่ราชอาณาจักรดูแลมีเพียง 3 แห่งเท่านั้น ป้อมปราการส่วนใหญ่ทางจักรวรรดิ์จะเป็นคนปกป้อง ทวีปกลางเองไม่ได้มีแค่ราชอาณาจักรราตาชูกับจักรวรรดิเกียมูท เลยให้ประเทศอื่นช่วยปกป้องป้อมปราการด้วย
โดยพื้นฐานป้อมปราการจะให้ประเทศหนึ่งปกป้องไปเลย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งจากการบังคับบัญชา ถ้าให้นายพลของจักรวรรดิ์มาสั่งทหารของราชอาณาจักรมีแต่จะทำให้ขวัญและกำลังใจลดลงจนเคลื่อนไหวได้ไม่ดี แล้วถ้าเอาทหารมาปนจะไม่สามารถเปล่งพลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ในอดีตมีหลายป้อมปราการที่ล่มสลายเพราะการกระทำแบบนั้น
ตั้งแต่ไปปรึกษาเรื่องของคีลที่คฤหาสน์ของไวเคานต์แกรนเวล ก็ให้สัตว์อัญเชิญนก F รออยู่เท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้ามีอะไรจะได้ติดต่อได้ทันที
เกี่ยวกับเรื่องของคีลก็ยังไม่ได้พูดอะไร และไม่คิดจะเร่งเร้าด้วย เพราะไวเคานต์บอกว่า “ให้ฉันจัดการเอง” เลยรอสถานการณ์อย่างเดียวไปก่อน และไปเมืองหลวงหลายครั้ง แสดงว่าน่าจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่
พวกอเลนคีบหน้าในการผ่านดันเจี้ยนเรื่อยๆ และมาถึงชั้นล่างสุดก่อนหน้านี้แล้วสักพัก แต่เพื่อความสมบูรณ์ในการต่อสู้กับบอส เลยบอกให้เก็บเลเวลกับเลเวลสกิลเพิ่มก่อน
ถึงเหมือนเป็นการเพิ่มเลเวลอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่อยากให้ทุกคนเลเวลสกิลเป็น 5 ก่อนแล้วค่อยไปสู้ ถ้าอย่างนี้น่าจะลองสู้ได้ภายในวันหยุดฤดูร้อน
แล้ววันนี้เป็นวันที่จะไปลองสู้กับบอสชั้นล่างสุดที่เป็นมอนสเตอร์ระดับ A
กินอาหารที่ฐาน ก่อนจะพูดคุยกับเหล่าคนรับใช้ที่เริ่มชินแล้วเล็กน้อยก่อนจะมุ่งหน้าไปดันเจี้ยน ถ้าปราบบอสชั้นล่างสุดของดันเจี้ยนระดับ A ได้แล้วละก็ ความฝันที่จะได้แหวนฟื้นพลังเวทคงใกล้ความจริงขึ้นไปอีก
เข้าไปในอาคารดันเจี้ยน ก่อนจะวาปไปชั้นล่างสุด
เปิดประตูที่ดูน่าเกรงและเข้าไปในห้องบอสชั้นล่างสุด
(โอ๊ะ! สำเร็จสายเกราะ ที่จริงถ้าเป็นสายสัตว์น่าจะดีกว่า)
บอสชั้นล่างสุดมีหลายรูปแบบ ซึ่งตรวจสอบจากเอกสารของกิลด์นักผจญภัยแล้วว่ามอนสเตอร์ที่เป็นบอสชั้นล่างสุดมีแบบไหนบ้าง
・สายมังกรระดับความยากสูง แข็งแกร่งที่สุดในบอสชั้นล่างสุดทั้งหมด มีท่าโจมตีกระจายอย่างการพ่นเบรธ
・สายวิญญาณสามารถใช้เวทมนตร์ที่ทรงพลังได้ มีบ่อยครั้งที่การโจมตีทางกายภาพจะทำอะไรไม่ได้
・สายเกราะ พลังป้องกันกายภาพสูง พลังกายเองก็ค่อนข้างมาก
・สายสัตว์แทบไม่มีความต้านทาน แต่มีพลังโจมตีที่สูง
・สายแมลงจะโจมตีด้วยสถานะผิดปกติ
มอนสเตอร์ระดับเดียวกันแต่ถ้าต่างชนิดความแข็งแกร่งก็จะแตกต่างกัน ออร์คคิงกับมาด้ากัลชูเป็นระดับ B เหมือนกัน แต่ความแข็งแกร่งต่างกันเกือบเท่าตัว
บอสชั้นล่างสุดจะออกแบบสุ่ม ถ้าเจอสายมังกรคงเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก แต่บอสที่อยู่ตรงกลางห้องเป็นเกราะฟลูเพลทขนาดเกือบ 10 เมตร กับออร์คคิง 10 ตัว อนึ่ง ดูเหมือนสายมังกรจะไม่ค่อยโผล่ออกมาสักเท่าไร
ถ้าได้สายสัตว์ที่ปราบง่ายสุดก็คงดีอยู่หรอก แต่คิดว่าสายเกราะที่เด่นด้านพลังป้องกันก็ไม่แย่เท่าไร
“รอก่อนนะ ขอเปลี่ยนการ์ดแป็บ”
(เกราะเหรอ สายแมลงคงไม่ได้ผล น่าจะอย่างนี้สินะ ป็อบโปะที่อยู่คฤหาสน์เองใกล้หมดเวลาแล้วด้วยเอากลับมาก่อนก็แล้วกัน)
เปลี่ยนการ์ดเนื่องจากศัตรูเป็นสายเกราะ ถ้าหากไม่เข้าใกล้ศัตรูที่อยู่กลางห้องจะยังไม่เข้าสู่สภาพต่อสู้ เลยเปิดสมุดเวทมนตร์และเปลี่ยนการ์ดอยู่ตรงแถวทางเข้า
[ชื่อ] อเลน
[อายุ] 12
[อาชีพ] นักอัญเชิญ
[เลเวล] 49
[พลังกาย] 1240 + 1300
[พลังเวท] 1940 + 70
[พลังโจมตี] 682 + 1000
[ความทนทาน] 682 + 1250
[ความว่องไว] 1273 + 250
[ความฉลาด] 1950 + 1270
[โชค] 1273
[สกิล] อัญเชิญ <6>, สร้าง <6>, ผสม <6>, เสริมความแข็งแกร่ง <6>, ปลุกพลัง <6>, ขยาย <5>, จัดเก็บ, แชร์, ลบล้าง, วิชาดาบ <3>, ขว้าง <3>
[ค่าประสบการณ์] 41,121,254 / 4 ร้อยล้าน
・เลเวลสกิล
[อัญเชิญ] 6
[สร้าง] 6
[ผสม] 6
[เสริมความแข็งแกร่ง] 6
[ปลุกพลัง] 6
・ค่าประสบการณ์สกิล
[สร้าง] 1,200,626 / 100,000,000
[ผสม] 5,100,545 / 100,000,000
[เสริมความแข็งแกร่ง] 30,916,320 / 100,000,000
[ปลุกพลัง] 6,282,500 / 100,000,000
・สัตว์ที่สามารถอัญเชิญได้
[แมลง] CDEFGH
[สัตว์] CDEFGH
[นก] CDEFG
[พืช] CDEF
[หิน] CDE
[ปลา] CD
[วิญญาณ] C
・ถือครอง
[แมลง]
[สัตว์] C 20 ใบ
[นก] C 5 ใบ
[พืช]
[หิน] E 10 ใบ, C 4 ใบ
[ปลา] C 1 ใบ, D 1 ใบ
[วิญญาณ] C 19 ใบ
อเลนลุยดันเจี้ยนกับเพื่อนตั้งแต่เดือนเมษายน จนในที่สุดก็เลเวล 49
ค่าประสบการณ์ส่วนใหญ่ที่ได้ มาจากการลุยดันเจี้ยนระดับ A
มอนสเตอร์ระดับ B 1 ตัวให้ค่าประสบการณ์ราวๆ 4 หมื่น โดยทุกวันจะให้สัตว์อัญเชิญ 3 หน่วยลงล่าดันเจี้ยนระดับ A ชั้นล่างๆ
อนึ่ง ถ้าโดนกับดักเคลื่อนย้ายพาไปที่ไหนไม่รู้ หรือว่าเหยียบกับดักอัญเชิญจนโดนมอนสเตอร์ระดับ B หลาย 10 ตัวล้อมจนโดนกำจัดหมด มันแตกต่างกับดันเจี้ยนระดับ B ที่ไม่สามารถใช้จำนวนเข้าว่าได้
ถ้าล่า 1 วัน สัตว์อัญเชิญราวๆ 30% จะโดนเล่นงาน
แล้วดันเจี้ยนระดับ A จะไม่มีมอนสเตอร์ที่ปลอมตัวเป็นกล่องไม้อย่างมิมิค แต่จะเป็นมอนสเตอร์ระดับ A อบิสบ็อก
อบิสบ็อกมันแข็งแกร่งมาก ถึงจะเจอบ้างบางครั้ง แต่มีโอกาส 50% ที่หน่วยสัตว์อัญเชิญจะโดนเล่นงานจนตายหมด
ถ้าจัดการได้ มีโอกาสหนึ่งในสองครั้งที่จะได้ไอเทมราคามากกว่า 100 เหรียญทอง
เขาว่ากันว่าอบิสบ็อกนี้อยู่กลางๆของระดับ A
พวกอเลนถ้าเจอระหว่างลุยดันเจี้ยน จะให้เพื่อนๆและสัตว์อัญเชิญร่วมมือกำจัดมัน
ที่มาต่อสู้วันนี้ เพราะต่อให้เป็นมอนสเตอร์ระดับ A แต่ถ้าเตรียมตัวให้ดีก็มีโอกาสชนะ
เพราะเข้ามาในห้องบอสชั้นล่างสุดแล้ว เลยให้ทุกคนขึ้นชี่สัตว์อัญเชิญนก C ตั้งใจให้จบภายใน 1 ชั่วโมง เลยเริ่มใช้งานสกิลปลุกพลัง “วิ่งทะยาน” คุเรนะกับโดโกร่าเองก็เริ่มชินกับการโจมตีระหว่างใช้วิ่งทะยานแล้วด้วย
ทั้ง 5 คนเดินเข้าไปใกล้
“หยุดก่อน ถ้าเข้าไปใกล้กว่านี้บอสจะเริ่มขยับแล้ว”
สัตว์อัญเชิญนก C 5 ตัวหยุดลงตามเสียงของอเลน แล้วเรียกสัตว์อัญเชิญหิน C ออกมา 4 ตัว โดยมันสวมฟลูเพลทเหล็กกล้า ในมือถือโล่ขนาดใหญ่กับหอก ถึงสัตว์อัญเชิญหิน C จะโจมตีได้ แต่หน้าที่หลักคือการป้องกัน
เริ่มใช้งานทักษะ “ตัวตายตัวแทน” โดยให้ป้องกันเซซิลกับคีลเป็นพิเศษ
“ถ้างั้นลุยตามแผนเลย ฉันจะโจมตีก่อน พอการโจมตีนั้นเสร็จ ให้คุเรนะกับโดโกร่าพุ่งเข้าใส่เลย”
“อ้า”
“อืม เข้าใจแล้ว
โดโกร่าและคุเรนะกำอาวุธด้วยสองมือ และรอการโจมตีของอเลน
“เซซิล”
“หือ? อะไรเหรอ?”
ตามแผนไม่มีที่ต้องพูดกับเซซิล ทำให้เธอตอบสนองว่ามีอะไรกันแน่
“โทษทีนะ แต่ขอยืมชื่อเวทมนตร์หน่อยนะ”
“หา? บอกไปก่อนหน้านี้แล้วนี่ ว่าไม่ต้องถามก็ได้?”
บทสนทนาของอเลนกับเซซิลไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ตอนที่จัดการอบิสบ็อกเองก็ขอยืมชื่อเวทมนตร์อยู่
เซซิลถอนหายใจแล้วคิดว่าเรื่องนั้นจะเป็นไงก็ช่างเถอะ
เซซิลที่เป็นเช่นนั้นยืนอยู่ด้านหลังอเลนชูมือทั้งสองข้างไปด้านหน้าด้วยความตื่นเต้น
ตามปกติจะให้เซซิลใช้เวทมนตร์เพื่อเปิดฉากต่อสู้กับบอสชั้นล่างสุด แต่วันนี้อเลนจะเป็นคนเปิดฉากโจมตี
นั่นก็เพราะว่าการโจมตีต่อจากนี้ มันรุนแรงกว่าเวทมนตร์ของเซซิล
(ถ้างั้นไปกันเลย!!!)
“เมเทโอ (ชั่วคราว) !!!”
ตอนที่อเลนตะโกนว่า “เมเทโอ (ชั่วคราว)” บนท้องฟ้าเหนือบอสชั้นล่างสุดและมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆอีก 10 ตัวก็มีสัตว์อัญเชิญหิน E 10 ร่วงลงมา
เหล่ามอนสเตอร์ตอบสนองต่อการเข้ามาใกล้ของสัตว์อัญเชิญหิน E ในทันที แต่ก็เคลื่อนไหวได้เพียงแค่นั้น
“เอาละ คาเบโอะระเบิดตัวเอง!!”
ร่างกายของสัตว์อัญเชิญหิน E ที่เหมือนกับกำแพงหินกลายเป็นสีแดงพร้อมกับคำพูดของอเลน ถึงจะแค่พริบตาเดียวแต่รู้ได้เลยว่าอยู่ในสภาพความร้อนสูง
แล้วหลังจากที่เหล่าบอสชั้นล่างสุดเคลื่อนที่ได้ไม่นาน
ตู้มมมมมมมมมม!!!
เศษซากของหิน E ที่แดงฉ่ากับแรงระเบิด โถมเข้าใส่เหล่ามอนสเตอร์พร้อมกับเสียงระเบิด
คลื่นกระแทกเข้าปะทะใบหน้าของพวกอเลนครู่หนึ่ง
“โอ้ว! สำเร็จเหรอ!?”
เพราะมันรุนแรงมาก ทำให้คีลค่อนข้างเชื่อมั่นว่าชนะแล้ว
“ยังหรอก บอสยังรอดอยู่ และกำลังมาทางนี้ด้วย!!”
ถึงบอสชั้นล่างสุดจะได้รับบาดเจ็บแต่ยังไม่ถึงตาย ทั่วร่างของมันมีควันลอยออกมา
คุเรนะกับโดโกร่าพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเสียงตะโกนนั้น แล้วการต่อสู้กับบอสชั้นล่างสุดก็ยังดำเนินต่อไป