Hell mode - ตอนที่ 140
บทที่ 140 แนะนำ
หลังฝึกปฏิบัติช่วงบ่ายเสร็จ อาจารย์ประจำชั้นบอกว่าผู้อำนวยการเรียกพบ
เนื่องจากอาจารย์ประจำชั้นไปฟังด้วย เลยมุ่งหน้าไปห้องผู้อำนวยการด้วยกัน
เขาบอกว่าให้สมาชิกทุกคนของปาร์ตี้อเลนไปด้วย
ในระหว่างที่พวกอเลนมุ่งหน้าไปห้องผู้อำนวยการพร้อมกับอาจารย์ประจำชั้น ก็นึกถึงกำหนดการของวันนี้
(อืม วันนี้เป็นวันที่มีงานประมูลนี่สิ)
วันนี้เป็นวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันเริ่มเรียนวันแรกหลังจากหมดวันหยุดฤดูร้อน
และเป็นวันที่กิลด์นักผจญภัยเปิดงานประมูล
ตั้งแต่ได้ยินเรื่องงานประมูลตอนเดือนสิงหาคม ยังไม่เคยได้เข้าร่วมเลย
ถึงยังสะสมเงินได้ไม่มากพอเลยไม่ได้อยากรีบเข้าร่วมสักเท่าไร แต่ถ้าเป็นไปได้วันนี้อยากจะลองไปดูอยู่
(เอาเถอะ ถ้าเข้าร่วมการประมูลจะเสียเวลาลงดันเจี้ยนไป 1 วันเต็มๆ ถ้าอย่างนั้นสู้จ้างนักผจญภัยที่เป็นคนกลางมืออาชีพเข้าร่วมดีกว่า คิดว่าแบบนั้นน่าจะเพิ่มโอกาสดรอปกล่องทองได้มากกว่า หากวันที่ 25 มีของที่น่าสนใจเข้าร่วมประมูลคงต้องยอมจ่ายค่าคนกลางให้เข้าร่วม)
รางวัลดันเจี้ยนมีกล่องไม้, กล่องเงิน และกล่องทอง ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นดันเจี้ยนระดับไหนยังไม่เคยดรอปกล่องทองเลย บางทีอาจจะมีกำหนดจำนวนสูงสุดในการดรอปกล่องทองไว้วันละ 1 กล่องก็เป็นได้
ของที่ถูกเอาออกมาประมูลจะรู้ในวันที่ 25 ของทุกเดือน ซึ่งวันที่ 25 เป็นวันหยุดของโรงเรียน เลยคิดว่าจะไปตรวจของที่ออกประมูลพร้อมกับออกคำขอทั้งอย่างนั้นเลย
ถ้าคุยกับผู้อำนวยการเสร็จแล้ว ว่าจะไปปรึกษากับทุกคนที่ฐาน
อาจารย์ประจำชั้นบอกว่าที่นี่ เลยเข้าไปในห้องของผู้อำนวยการที่อยู่คนละตึกกับที่พวกอเลนเรียนช่วงเช้า
ผู้อำนวยการไม่อยู่ในห้อง
“ชิ ช่วยไม่ได้ รอแป็บนะ”
ผู้อำนวยการเป็นเชื้อพระวงศ์ของประเทศเอลฟ์อย่างโรเซนเฮม แต่อาจารย์ประจำชั้นกลับเดาะลิ้นใส่เชื้อพระวงศ์ของประเทศอื่นอย่างนี้ คิดว่าคงไม่ใช่ความสัมพันธ์แนวบนล่างสักเท่าไร ดูเหมือนอาจารย์ประจำชั้นจะไปเรียกผู้อำนวยการ ตอนที่กำลังจะนั่งรอบนโซฟากว้างอาจารย์ประจำชั้นก็กลับมาแล้วบอกเดี๋ยวก็มา
“ผ่านดันเจี้ยนระดับ A แล้วรู้สึกไงบ้าง?”
ในระหว่างที่รอผู้อำนวยการ อาจารย์ประจำชั้นก็นั่งตรงหน้าและถามเกี่ยวกับดันเจี้ยน
“ดันเจี้ยนค่อนข้างกว้างมาก ดีแล้วที่ผ่านได้ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ที่แย่กว่ามอนสเตอร์ก็พวกกับดักต่างๆนี่แหละครับ”
อเลนตอบออกไปตามที่คิด
“งั้นเหรอๆ แล้วจะเอาไงกับสิ่งนั้นเหรอ? ได้รับมาแล้วนี่ใบรับรองการผ่านเนี่ย?”
เขาพูดตัดบทออกมา คิดว่าคงอยากจะรู้ว่าหลังจากนี้พวกเราจะทำอะไรต่อ
“ก่อนอื่นว่าจะผ่านดันเจี้ยนระดับ A อีก 3 แห่งที่เมืองแห่งการศึกษาภายใน 1 ปี แล้วค่อยไปผ่านดันเจี้ยนระดับ A แห่งอื่นภายในราชอาณาจักรครับ”
“โอ๊ะ! ตั้งเป้าจะไปดันเจี้ยนระดับ S ระหว่างที่ยังเรียนอยู่งั้นเหรอ!?”
อาจารย์ประจำชั้นพูดเสียงดังตอบสนองต่อคำพูดของอเลน สีหน้าอย่างนั้นดูเหมือนจะค่อนข้างดีใจ
(หือ? ไม่ได้สงสัยการกระทำของพวกฉันหรอกเหรอ คงคิดว่าการผ่านดันเจี้ยนมันเป็นความโรมานซ์สินะ อาจารย์คาลโรว่าเองเป็นอดีตนักผจญภัยด้วยนี่สิ)
พวกอเลนคุยกันเสร็จแล้วว่าตั้งเป้าหมายในการผ่านดันเจี้ยนระดับ S
โดยตั้งเป้าว่าจะผ่านดันเจี้ยนระดับ S ให้ได้ในช่วงที่อยู่โรงเรียน
อาจจะได้รับไอเทมที่ล้ำค่ากว่านี้ก็ได้
แต่ดันเจี้ยนระดับ A 1 แห่งถ้าต้องไปโรงเรียนด้วยกว่าจะผ่านได้ต้องใช้เวลาราวๆ 4 เดือน ถ้าจะผ่าน 3 แห่งก็ต้องใช้เวลา 12 เดือน ถ้าคิดถึงว่าปีหน้าตอนเดือนมีนาคมมีวันหยุดฤดูใบไม้ผลิน่าจะตั้งเป้าผ่านได้ภายในระยะเวลา 10 เดือน เท่านี้ก็สามารถผ่านดันเจี้ยนระดับ A 4 แห่งในเมืองแห่งการศึกษาได้แล้ว
แล้วปีหน้าพอถึงวันหยุดฤดูร้อน 2 เดือน ตั้งเป้าหมายจะไปผ่านดันเจี้ยนระดับ A แห่งอื่นภายในราชอาณาจักร
“อาจารย์คาลโรว่าเคยไปดันเจี้ยนระดับ S ไหมครับ?”
“ยังเลย ฉันผ่านระดับ A แค่ 3 แห่ง เมื่อก่อนไปลุยดันเจี้ยนกับทุกคนที่มีพรสวรรค์น่ะ”
อาจารย์ประจำชั้นผ่านดันเจี้ยนระดับ A 3 แห่ง
เขาถอนหายใจพูดออกมา
ดูเหมือนเมื่อก่อนเหล่านักผจญภัยจะเสี่ยงชีวิตเพื่อผ่านดันเจี้ยน อาจารย์ประจำชั้นเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังว่าที่มาเป็นนักผจญภัยก็เพราะเหตุผลนั้น
(งั้นเหรอ ก่อนจอมมารจะมาบุกผู้มีพรสวรรค์ผ่านดันเจี้ยนได้เยอะอยู่สินะ ทำให้เมื่อก่อนมีนักผจญภัยจำนวนมากตั้งเป้าสู่ดันเจี้ยนระดับ S)
ไอเทมที่ได้จากดันเจี้ยนเมื่อก่อนน่าจะมีเยอะกว่านี้
“ขอโทษที่ให้รอ”
ทันใดนั้นผู้อำนวยการก็เข้ามา ก่อนจะขอโทษที่ให้รอและนั่งบนโซฟา
“วันนี้มีธุระอะไรอย่างนั้นหรือครับ?”
“ได้ยินมาว่าพวกเธอผ่านดันเจี้ยนระดับ A กันแล้ว เลยว่าจะให้เข้าร่วมงานประลองโรงเรียนน่ะ”
เขาบอกเหตุผลที่เรียกมาในทันที
“งานประลองโรงเรียน?”
(อ้าว? ไม่เห็นรู้เรื่องเลย มีอะไรอย่างนั้นด้วยเหรอ?)
“อือ ตามปกตินักเรียนปี 1 ไม่ได้เข้าร่วมไง อาจารย์คาลโรว่าเลยไม่ได้บอกไปน่ะ”
พวกอเลนทำหน้าตาสงสัยออกมาว่ามีอะไรอย่างนั้นด้วยหรือ ทำให้ผู้อำนวยการอธิบายเกี่ยวกับงานประลองโรงเรียนคร่าวๆให้ฟัง
จัดขึ้นเดือนตุลาคมของทุกปี ผู้เข้าร่วมหลักๆจะเป็นนักเรียนปี 2 และปี 3
จัดตรงสนามประลองของโรงเรียน
เนื่องจากเป็นงานประลอง ทำให้นักเรียนที่เข้าร่วมเป็นผู้ที่มีพรสวรค์ทางด้านการโจมตีกายภาพอย่างเช่นดาบ, ขวาน, หอก หรือศิลปะการต่อสู้
เป็นการแข่งแบบทัวร์นาเมนต์ ที่มีผู้เข้าร่วมราวๆ 100 คน โดยจะคัดให้เหลือ 16 คน แล้วค่อยเข้าสู่รอบชิงและจะมีผู้ชนะเลิศแค่คนเดียว โดยจัดรอบคัดเลือก 1 วัน และรอบชิง 1 วัน
(นักเรียน 1 ปีมีราวๆ 3000 คน แต่มีผู้เข้าร่วมแค่ 100 คนเองเหรอ)
อเลนคิดว่าจำนวนมันค่อนข้างน้อย
“มีแขกผู้ทรงเกียรติของแต่ละประเทศมาร่วมงานด้วย ทางราชอาณาจักรเองก็ส่งเชื้อพระวงศ์มา”
งานประลองมีแขกผู้ทรงเกียรติจากแต่ละประเทศมา
“อย่างนั้นหรือครับ”
พูดออกมาได้แค่นั้น
“อยากจะให้อเลนกับคุเรนะเข้าร่วมงานประลองด้วยน่ะ”
“ว้าว!”
“หา?”
(ทำไมฉันต้องเข้าร่วมงานนี้ด้วยเนี่ย?)
คุเรนะพอได้ยินว่าจะได้เข้าร่วมงานประลองก็ดีใจ ส่วนอเลนกลับส่งเสียงออกมาด้วยความสงสัยว่าพูดเรื่องอะไรกัน
“มีอะไรเหรอ?”
“เปล่าครับ ทำไมถึงบอกให้ผมเข้าร่วมการประลองด้วยครับ? ไม่ใช่ว่าต้องเป็นโดโกร่าหรือครับ?”
“ไม่หรอก โดโกร่ายังไม่เหมาะสม การจะเข้าร่วมงานประลองนี้จำต้องได้รับการแนะนำจากโรงเรียนด้วย ซึ่งตอนนี้มันยากเกินไปสำหรับโดโกร่า”
ผู้อำนวยการพูดออกมาอย่างชัดเจนว่าสำหรับโดโกร่ามันยังเป็นไปไม่ได้
(หือ มีการตัดเกณฑ์ที่ค่อนข้างเข้มงวดเหรอ หรือว่ามันยากตรงที่เป็นนักเรียนปี 1 และมีพรสวรรค์ 1 ดาว?)
“……”
โดโกร่าไม่พูดอะไร คงเพราะคิดอย่างนั้นอยู่แล้ว
“ค่าความสามารถด้านพลังโจมตีของผมอยู่ที่ระดับ E ถ้าจะให้เข้าร่วมงานประลองคิดว่าโดโกร่าน่าจะเหมาะสมกว่าไม่ใช่หรือครับ?”
ถึงจะเป็นงานประลอง แต่บอกไปว่าค่าความสามารถของอเลนอยู่แนวหลังไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้เลย
“การประลองนี้อนุญาตให้ใช้สกิลได้ ใช้พรสวรรค์ของนักอัญเชิญได้ไม่มีปัญหา”
(ชวนเพราะอยากเห็นพรสวรรค์ของนักอัญเชิญเหรอ? ตอนสอบเข้าก็บอกแสดงให้ดูด้วย เลยเอาโชโรสุเกะออกมาให้ดูอยู่หรอก)
ผู้อำนวยการกัดไม่ปล่อยเลย
ตามปกติอเลนจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่สนใจหรือไร้ความหมาย แต่ถ้ามีเหตุผลเพื่อครอบครัวหรือพวกพ้องหรือเพื่อขอบคุณ ต่อให้เป็นอะไรก็จะทำ นอกเหนือจากนั้นจะไม่ทำ
และสิ่งที่เปล่าประโยชน์ที่สุดในโลกนี้คือการ PVP หรือพวกงานประลอง อเลนเชื่อเช่นนั้น
PVP คือการต่อสู้ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองไม่ใช่กับมอนสเตอร์ ถ้ามีเป้าหมายเพื่อเพิ่มเลเวลสกิลยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้าไม่ใช่แทบจะไม่มีความหมายเลย
คติของอเลนคือ ‘PVP ไม่ก่อให้เกิดอะไร’
“ไม่หรอกครับ วิชาอัญเชิญของผมต่อไม่ใช่สิ่งที่ควรจะแสดงให้เหล่ารุ่นพี่ที่โรงเรียนแห่งนี้ดูหรอกครับ”
“อย่างนั้นเหรอ? ถ้าชนะเลิศจะได้ประลองกับยอดนักดาบโดเบิร์กด้วยนะ?”
ถ้าชนะเลิศการประลองจะได้รับสิทธิพิเศษ สิ่งนั้นคือสิทธิ์ในการประลองกับยอดนักดาบโดเบิร์ก ดูเหมือนโดเบิร์กมาที่นี่เพื่องานประลองนี้
(โอ๊ะ? อย่างนี้ก็ดีนะเนี่ย อยากรู้เหมือนกันว่าคุเรนะที่ผ่านดันเจี้ยนระดับ A แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้กับโดเบิร์กได้ถึงขนาดไหน สิ่งนี้อาจจะทำให้คุเรนะรู้ถึงการเติบโตของตัวเองก็ได้)
“อย่างนี้นี่เอง สิ่งนั้นถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมนะครับเนี่ย ชักสงสัยแล้วสิว่าคุเรนะจะต่อสู้กับยอดนักดาบคนปัจจุบันได้ถึงขนาดไหน”
“คุเรนะงั้นเหรอ แต่ยังไงก็ต้องเข้าร่วมด้วยกันนะ”
“เข้าร่วมก็ได้ครับ แต่คิดว่าคงแพ้ตั้งแต่นัดแรกเลย? เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเข้าร่วมไงครับ”
ต่อให้เข้าร่วมแต่ก็ประกาศออกไปว่า “จะแพ้ตั้งแต่นัดแรกเพราะไม่มีอารมณ์แข่ง” พวกพ้องและอาจารย์ประจำชั้นได้ยินการพูดคุยระหว่างผู้อำนวยการกับอเลน อาจารย์ประจำชั้นไม่พูดอะไรแถมมองมาด้วยความประทับใจอย่างไรไม่รู้ บางทีอาจจะคิดว่าเป็นท่าทางที่นักผจญภัยสมควรทำก็ได้
ส่วนเซซิลถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้เหมือนทุกที คงนึกถึงสีหน้าของอเลนตอนอยู่เมืองแกรนเวลแล้วใช้ให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำออก
“ผลประโยชน์เหรอ อ้อ มีเชื้อพระวงศ์จากราชอาณาจักรมาด้วย ถ้าชนะเลิศจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเลยนะ”
“ราชวงศ์เหรอครับ”
“ใช่แล้ว ทีนี้อยากเข้าร่วมหรือยัง?”
“ไม่สักนิดเลยครับ”
“…….”
ใช่แล้ว ยอมล้มเลิกไปเถอะ ถึงจะเป็นงานประลองที่ต้องมีคนแนะนำถึงจะเข้าร่วมได้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้บังคับให้เข้าร่วม
“แล้วราชวงศ์ที่มาเนี่ยท่านไหนเหรอครับ?”
“หือ? ได้ยินมาว่าเป็นมกุฎราชกุมารน่ะ”
ดูท่าผู้อำนวยการที่อายุ 1000 ปีจะไม่พูดสุภาพกับราชวงศ์ของประเทศอื่น
(หือ? มกุฎราชกุมารมางั้นเหรอ อย่างนี้คงต้องจำหน้าไว้สักหน่อยแล้ว)
งานประลองโรงเรียนจะจัดขึ้นในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม อเลนปฏิเสธการแนะนำอย่างสุดความสามารถ และให้คุเรนะเข้าร่วมเพื่อชนะเลิศ และมกุฎราชกุมารที่มีชะตาร่วมกันจะมาด้วย