Hell mode - ตอนที่ 61
บทที่ 61 นายพราน
“เอ้า ต่อไปก็ยกตรงนี้”
“ครับหัวหน้าพ่อครัว”
อเลนช่วยชำแหละไวท์เดียร์ตรงสวน
เอาไวท์เดียร์กลับมาจนทำให้คนที่คฤหาสน์วุ่นวายยกใหญ่ แต่สิ่งนี้ทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงอาหารเย็นรู้ว่าเป็นคำสั่งของโทมัสลูกชายคนรองของตระกูลบารอนแกรนเวล เลยไม่มีใครคิดจะตำหนิเลย
ถึงเมื่อคืนจะช่วยชำแหละจนถึงดึกดื่น เนื่องจากร่างกายที่ใหญ่โตเลยทำได้แค่ควักเครื่องในและถอนขนเท่านั้น วันนี้ยังต้องทำการชำแหละให้คืบหน้าต่อ
หัวหน้าพ่อครัวขอร้องพ่อบ้านว่าอเลนเรี่ยวแรงดี วันนี้เลยขอให้ช่วยชำแหละไวท์เดียร์แทนที่จะอยู่ดูแลเซซิล ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงว่าขอยืมไปหน่อยนะ แต่โน้นเป็นการขอร้องในแบบของหัวหน้าพ่อครัว
“แรงดีนะเนี่ย แทนที่จะเป็นคนรับใช้ของคุณหนูมาเป็นพ่อครัวไหม เดี๋ยวไปพูดกับเซบาสให้?”
หัวหน้าพ่อครัวเรียกพ่อบ้านแบบห้วนๆ
“ขะ ขอบคุณมากครับ แต่อยู่กับคุณหนูเซซิลดีกว่าครับ”
อเลนปฏิเสธอย่างอ่อนโยน หัวหน้าพ่อครัวบอกว่าอยู่กับคุณหนูคนนั้นมันดีจริงเหรอ
ถึงจะไม่ชอบเป็นคนรับใช้ของเซซิล แต่ก็ไม่อยากเป็นพ่อครัวด้วย คนรับใช้ของเซซิลได้วิ่งไปซื้อของในเมือง แถมเซซิลมีคาบเรียนเยอะทำให้มีเวลาส่วนตัวค่อนข้างมาก เพราะอย่างนั้นทำให้ตอนนี้มาช่วยชำแหละไวท์เดียร์
“ถึงอย่างนั้น เรียนรู้เร็วนะเนี่ย บานส์ของฉันนี่เข้าใจค่อนข้างช้าเลย”
หัวหน้าพ่อครัวรู้สึกชื่นชม
(หรือเพราะค่าความฉลาด)
งานเสิร์ฟก็ใช่ แต่ช่วงนี้จำอะไรต่างๆได้ดี ถึงจะบอกว่าช่วงนี้ ที่จริงก็ตั้งแต่อยู่หมู่บ้านคุเรนะแล้ว ยิ่งเลเวลเพิ่มยิ่งเห็นเด่นชัด จำเรื่องสมัยโลกก่อนที่ยังเป็นเคนอิจิได้ดีราวกับเรื่องโกหกเลยด้วย ถึงนิสัยจะไม่ได้เปลี่ยนไปก็ตาม แต่กลับจำได้ทุกอย่าง ร่างกายเคลื่อนไหวไปเองด้วย
ไม่ได้รู้สึกว่าเฉลียวฉลาดขึ้น เรื่องที่นึกไม่ออกก็ยังนึกไม่ออก แสดงว่าถึงความรู้จะเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอัจฉริยะ
(แทนที่ค่าความฉลาดเป็น S สู้ให้ทุกอย่างเป็น A ยังดีซะกว่า ไวท์เดียร์เมื่อวานหนักมากเสียด้วย นักอัญเชิญนี่เป็นพวกแนวหลังสินะ)
นักอัญเชิญค่าความสามารถของความฉลาดอยู่ที่ระดับ S ซึ่งอยู่สูงสุด แต่พลังโจมตีอยู่ที่ C ทำให้รู้สึกแปลกๆ
สำหรับอเลนที่ต่อสู้ด้วยการขว้างและดาบแล้ว คิดว่าถ้าความฉลาดอยู่ที่ S แล้วทำให้พลังโจมตีถูกปรับอยู่ที่ C แล้วละก็ สู้ให้ทุกอย่างเป็น A ยังดีซะกว่า
ถึงจะคิดอะไรอย่างนั้นแต่ก็ไม่หยุดมีดที่อยู่ในมือ และทำการชำแหละต่อไปเรื่อยๆ
ช่วยชำแหละจนถึงดึกดื่นและพอกลับไปที่คฤหาสน์ พ่อบ้านบอกว่าถ้าช่วยงานเสิร์ฟเสร็จแล้ว ให้มาที่ห้องพ่อบ้านด้วย
คิดขึ้นมาว่าช่วงนี้โดนเรียกตัวไปบ่อย เพราะโดนสั่งให้ไป หลังจากที่ทำงานเสิร์ฟเสร็จเลยมุ่งหน้าไปที่ห้องพ่อบ้าน
ก๊อกก๊อก
“ขอโทษครับ อเลนเองครับ”
“เข้ามาได้”
ช่วงเวลาค่อนข้างดึก พอเข้าไปในห้องของพ่อบ้านก็โดนบอกให้นั่งตรงโซฟาเหมือนอย่างทุกที
“เมื่อวานเป็นวันหยุดแต่ให้ช่วยงานจนดึกต้องขอโทษด้วยนะ”
(หือ? ขอโทษเหรอ)
ทำไมถึงขอโทษ เลยตอบไปว่าไม่เป็นไรครับ เมื่อวานเป็นวันหยุดได้ไปล่าไวท์เดียร์ด้วย แถมที่อยู่ช่วยชำแหละจนดึกเพราะจะเอาหินเวท
“แล้ววันนี้มีอะไรหรือครับ?”
“อืม ก่อนอื่นก็นี่”
ทำการวางถุงเล็กๆที่ใส่ของเอาไว้บนโต๊ะที่อยู่ระหว่างโซฟา
“สิ่งนี้คือ?”
“เหรียญเงิน 100 เหรียญไง”
(เอ๊ะ? รางวัลสำหรับปราบไวท์เดียร์คือ 100 เหรียญเงินเหรอ?)
ไวท์เดียร์ 1 ตัวที่มีเนื้อส่วนที่กินได้ราวๆ 500 กิโลกรัม ไหนจะมีขนสวยงามที่น่าจะได้ราคาอีก ถ้าจับมาได้ 1 ตัวไม่น่าจบแค่ 100 เหรียญเงินหรอก
“อย่างไรก็ตาม นี่รวมเงินเดือนของเดือนนี้เข้าไปแล้วด้วย”
(หา!? ถ้างั้นรางวัลสำหรับการปราบก็แค่ 50 เหรียญเงินเหรอ? จะไม่มีทำอีกแล้ว!! เสียวันหยุดไป 1 วันเต็มๆเลย คงต้องขอปฏิเสธเสียงแข็ง!!”
ทุกสิ้นเดือนจะได้รับเงินเดือน ซึ่งเงินเดือนของอเลนอยู่ที่ 50 เหรียญเงิน ทำให้อเลนคิดว่า 50 เหรียญเงินเป็นรางวัลสำหรับกำจัดไวท์เดียร์
“เฮ้อ”
การตอบที่ใกล้เคียงกับการถอนหายใจ รู้สึกได้เลยว่าปล่อยความเหนื่อยออกมาทางปาก
“อเลนเอ๋ย เธอเป็นเด็กที่ฉลาด แถมค่อนข้างซื่อตรง นี่เป็นเงินเดือนของเดือนนี้”
“เอ๊ะ?”
“เธอทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แถมตั้งใจทำงาน แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ให้ 100 เหรียญเงินหรอกนะ”
จากการพูดคุยกับพ่อบ้าน เงินเดือนของคนรับใช้ฝึกหัดจะอยู่ที่ 100 เหรียญเงิน แต่ถึงอเลนจะทำงานได้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้เงินเดือน 100 เหรียญเงินตั้งแต่เดือนนี้
“เอ่อ 50 เหรียญเงินเป็นส่วนของงานอื่นอย่างนั้นหรือครับ?”
“อย่างนี้นี่เอง ฉลาดจริงๆ ใช่แล้ว อยากจะให้อเลนทำงานของนายพรานด้วย”
“นายพราน?”
พ่อบ้านบอกออกมาว่าอยากจะให้งานใหม่อย่างนายพรานด้วย สำหรับที่โลกก่อน เป็นงานที่ถูกเรียกว่าผู้คุมเกมของขุนนางอังกฤษ
“ใช่แล้ว อเลนเอ๋ย เธอชื่นชอบการล่าใช่ไหม?”
“ครับ”
ตอบกลับในทันที
“นายพรานก็คือ—-”
เซบาสทำการอธิบายเกี่ยวกับงานของนายพราน
สำหรับขุนนางใหญ่อย่างเคานต์จะมีนายพรานหลายคน แต่ตระกูลบารอนแกรนเวลไม่ได้ถึงขนาดนั้น
เนื้อหางานของนายพรานมีตามด้านล่างนี้
・ล่ามอนสเตอร์ เพื่อหาเนื้อ
・หากนอกเมืองมีประชาชนที่ลำบากเพราะมอนสเตอร์ ให้ไปทำการช่วยเหลือ
“โอ้วววว!!!”
พอได้ยินดังนั้นก็ส่งเสียงที่ดีใจออกมา เข้าใจได้ทันทีเลยว่าเป็นนายพรานที่แบกชื่อของขุนนางเอาไว้ เป็นงานที่ทำการล่า หรือช่วยเหลือผู้คนที่เดือนร้อนจากมอนสเตอร์
อนึ่ง นายพรานของยุคกลางโลกก่อน จะมีหน้าที่เลี้ยงเหยื่อให้ขุนนาง หรือคอยปกป้องสัตว์ป่าที่ขุนนางมีไม่ให้ประชาชนทั่วไปมาล่า ดูเหมือนในต่างโลกที่มีมอนสเตอร์อย่างนี้จะแตกต่างกันคือทำได้ตามใจชอบเลย
“สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่เหล่าคนรับใช้เรียกร้องมาด้วยน่ะ”
”เอ๊ะ?”
พ่อบ้านทำหน้าปั้นยากก่อนจะพูดออกมาอย่างยากลำบาก
หลายวันมานี้ คนรับใช้ส่วนใหญ่มาบอกพ่อบ้านว่าอยากจะให้อเลนไปทำการล่า และการที่อเลนไปล่าไวท์เดียร์มาได้ยิ่งแสดงให้เห็นถึงฝีมือที่เก่งกาจ ในวันหยุดก็จับกระต่ายมีเขามาได้ 5 ตัว เพราะอย่างนั้นทำให้อาหารการกินของคนรับใช้ดีขึ้น
แต่นั้นมันเพียงเล็กน้อยมาก ถ้าเพิ่มความถี่แล้วละก็ เนื้อที่ใช้กินในตระกูลแกรนเวลก็จะเพิ่มมากขึ้น นี่คือสิ่งที่คนรับใช้มาพูดกับพ่อบ้าน
เขามาบอกกับพ่อบ้านกันว่าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ต่อตระกูลแกรนเวลมากกว่าให้ไปคอยช่วยเหลืองานทั่วไปของเซซิล หลายวันนี้มีการปรึกษาอย่างนั้นเข้ามามาก
“เพราะอย่างนั้น ไม่นึกเลยว่าจะไปล่าไวท์เดียร์มาอย่างนี้ เอาเถอะ ถ้าให้พูดตามตรง ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับระกูลแกรนเวล”
คงคิดว่าแทนที่จะซื้อมอนสเตอร์จากอเลนทั้งอย่างนี้ สู้เพิ่มเงินเดือนให้อีก 50 เหรียญเงินจะดีกว่า เพราะเป็นไวท์เดียร์ยังไงก็ต้องให้เงิน แต่ไม่ได้มีมากเพียงพอขนาดนั้น เพราะไม่สะดวกอย่างนั้นเลยจะจัดงานเลี้ยงปีใหม่อย่างเรียบง่าย
“อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้วครับ จะขอรับ 50 เหรียญเงินกับตำแหน่งนายพรานไปเองครับ แล้วจะให้เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เลยใช่ไหมครับ”
(ไม่สิ ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ต้องเพิ่มเงินให้ก็ได้ ชีวิตที่ไปล่ามอนสเตอร์ที่น่าจะเป็นอาหารได้ไม่กี่ตัว แล้วเวลาที่เหลือไปสนุกกับการล่าก็อบลิน นะ น้ำลายสอแล้ว เฮอะๆ”
รู้สึกได้ถึงการเริ่มล่าที่แสนสนุก เพราะจะได้เริ่มชีวิตของนายพรานทุกวัน ทำให้ยิ้มรับตำแหน่งนายพราน
“เอาเถอะ รอก่อน ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่บอกว่าทำงานของนายพราน “ด้วย” ไม่ใช่เหรอ?”
”เอ๊ะ?”
“แน่นอนว่ายังต้องคอยดูแลคุณหนูเซซิล และฝากไปทำงานนายพรานสัปดาห์ละ 1 วัน”
“หา!?”
โดนบอกให้ดูแลเซซิลเหมือนเดิม
ในหนึ่งสัปดาห์จะไปล่าทุกวันหยุด 1 วัน แล้วได้วันล่าเพิ่มอีก 1 วันในวันที่ไม่ได้หยุด 5 วัน
“หือ? ไม่พอใจเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเรื่องนายพรานถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้นะ”
“หา!? ไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ ขอรับไว้ด้วยความยินดีเลยครับ……”
“อย่าหดหู่ไปเลยน่า เธอเป็นเด็กที่เรียนรู้ได้ดี ถ้าตั้งใจทำงานแล้วละก็อาจจะได้เป็นคนรับใช้ก็ได้ ถ้าให้ไปเป็นนายพรานทั้งอย่างนี้ก็น่าเสียดาย เนอะ อเลนเอ๋ย”
ไม่รู้ทำไมถึงหลุดคำว่าคนรับใช้ออกมาตอนที่พูดเกี่ยวกับคนรับใช้ฝึกหัด คงเห็นการกระทำของอเลนว่าไม่อยากจะเป็นคนรับใช้ฝึกหัดหรือเปล่า
“เอ่อ”
“เป็นอะไรไปเหรอ? จะรับการเป็นนายพราน 1 วันต่อสัปดาห์ไหม?”
“คะ ครับ ขอบพระคุณมากเลยนะครับที่คิดเกี่ยวกับการทำงานต่างๆของผม”
เพราะอย่างนั้นทำให้อเลนต้องทำงาน 3 อย่างคือการเป็นคนรับใช้ของเซซิล, งานเสิร์ฟ และนายพรานให้กับตระกูลแกรนเวล มาถึงคฤหาสน์นี้ได้ 2 เดือน เวลาในการล่ากลายเป็น 2 วันต่อสัปดาห์