Hell mode - ตอนที่ 9
บทที่ 9 ติ๊ต่าง
ดูเหมือนหมู่บ้านบุกเบิกนี้จะก่อตั้งมาแล้ว 8 ปี เคยไปตรงประตูเมืองที่อยู่แถวใจกลางหมู่บ้านบุกเบิกแค่ครั้งเดียวตอนที่โรดันอุ้มไป ตรงบริเวณโน้นมีร้านค้าและโรงแรมเปิดกิจการอยู่หลายแห่ง หัวหน้าหมู่บ้านเองก็อาศัยอยู่ตรงที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น แทบจะไม่มีทาสติดที่ดินเลยมีแต่ประชาชนธรรมดาอาศัยอยู่
ตรงที่มีสวนมากมายที่อเลนอาศัยอยู่ เป็นส่วนชานเมือง
ดังนั้น เสียงระฆังดังมาจากใจกลางหมู่บ้านตรงส่วนที่ประชาชนอาศัยอยู่อย่างแน่นหนา
ก๊อง
ก๊อง
ก๊อง
ตัวเองรู้สึกได้เลยว่าเสียงหัวเต้นแรงขึ้น และรู้สึกประหลาดใจกับตัวเองที่ตื่นเต้นไปกับการต่อสู้ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
หลังจากที่เสียงระฆังจบลงไปราวๆ 10 นาที เธอก็มาถึง คู่แข่งที่ฝีมือสูสี
“อเลน มาเล่นแล้ว”
สาวน้อยผมสีชมพูปะบ่า ดวงตาสีฟ้าสดใส ลอดผ่านประตูสวนที่ทำขึ้นมาอย่างลวกๆ เสื้อผ้าเป็นผ้าป่านแบบทาสติดที่ดินเหมือนกับอเลน
แล้วไม่รู้ทำไมในมือของสาวน้อยถึงมีของที่ดูไม่เข้ากันอย่างดาบไม้ที่เอาไม้มาเหลาอย่างลวกๆอยู่ด้วย
คุเรนะมาเล่นด้วยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ดูเหมือนเพื่อนบ้านเกลด้าจะรู้เหมือนกันว่าว่า พออเลนอายุได้ 3 ขวบ และเทเรเซียอนุญาตให้ออกมาข้างนอกตามใจชอบได้มากขึ้น
วันแรกอย่างวันที่ 1 ตุลาคม คุเรนะมาพร้อมกับเกลด้า ไม่รู้ทำไมตอนที่ได้เห็นดาบไม้เหลาในมือ 2 เล่มถึงได้รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย
เกลด้าก้มหัวขอร้องโรดัน ว่าหลังเวลานอนกลางวันตอนบ่าย 3 อยากจะให้เล่นกับคุเรนะจอมแก่นด้วย
ตั้งแต่นั้นทุกวัน คุเรนะจะวิ่งมาที่บ้านขออเลนพร้อมกับตอนที่ระฆังดัง ความรู้สึกอย่างนี้น่าจะออกวิ่งตั้งแต่ตอนที่ระฆังเริ่มดังอยู่
(มีบ้างเหมือนกันที่คิดว่า มันยังไงอยู่ที่คุณเกลด้าซึ่งเหมือนกอริลลาล่ำบึ้กยังปรามไม่ได้เนี่ย)
พ่อของคุเรนะอย่างเกลด้า รูปร่างดีกว่าพ่อของอเลนอย่างโรดัน ตอนที่เบ่งกล้ามแขนเห็นว่ามีเส้นเลือดปูดขึ้นมาเลย และเพราะโรดันกับเกลด้า ทำให้คิดว่าทาสติดที่ดินส่วนใหญ่จะมีบึกบึนอย่างนั้น
“สวัสดีคุเรนะ วันนี้ก็ร่าเริงดีนะเนี่ย แล้ววันนี้จะเล่นอะไรเหรอ?”
(ถ้าถืออะไรอย่างนั้นมาก็พอจะรู้อยู่หรอก แต่ลองถามเพื่อความแน่ใจ)
“โธ่ ติ๊ต่างเป็นอัศวินไง!”
เธอทำแก้มป่องราวกับจะบอกว่าทำไมถึงถามอะไรอย่างนั้น
“ติ๊ต่างเป็นอัศวินสินะ ที่นี่ต้นไม้เกะกะ ไปทางนู้นกันเถอะ”
“อืม!!”
คุเรนะยิ้มแฉ่ง ที่แคบๆมันไม่ได้ อเลนรู้ดีว่าแผนการรบจะต้องใช้ทั้งพื้นดินและสภาพแวดล้อม
(เห็นเขียนไว้ว่าโลกนี้เป็นโลกแฟนตาซีที่มีทั้งดาบและเวทมนตร์ อะไรอย่างนั้นสินะ)
ตรงสวนกว้างมีแค่เด็ก 2 คนยืนอยู่ ทั้งคู่ต่างตั้งดาบไม้ขึ้นมา ตัวดาบยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งถือเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของความสูงตัวเอง
“ถ้างั้นลุยเลยนะ ชื่อของข้าคืออัศวินคุเรนะ! มาเลยอเลน!!”
“โอ้ว!”
“ไม่ใช่โอ้วสิ! อเลนเองก็ต้องเอ่ยชื่อด้วย!!”
คุเรนะทำหน้าไม่พอใจ ถ้าไม่ยอมบอกชื่อให้ดีๆ จะไม่ยอมเริ่มการเล่นติ๊ต่าง เธอโบกดาบไม้ไปมาราวกับต้องการจะบอกว่าให้ตั้งใจทำหน่อย
(โธ่เว้ย น่าอายจริงๆ คุณเกลด้าสอนอะไรไปเนี่ย!! ทำไมต้องมาเล่นติ๊ต่างตอนอายุปูนนี้ด้วยเนี่ย ถึงจะแค่ 3 ขวบก็เถอะ)
“ชื่อของข้าคืออัศวินอเลน! เข้ามาได้เลย!!”
จับดาบไม้ขึ้นมาตั้งบริเวณเอวด้วยมือทั้งสองข้าง ถึงอายุจิตจะ 38 ปี แต่ก็เอ่ยชื่อตัวเองออกมาด้วยเสียงอันดัง
คุเรนะพึงพอใจที่อเลนเอ่ยชื่อของตัวเองหรือเปล่าเลยพุ่งเข้ามาใกล้ แรงกระแทกโถมใส่อเลนที่ใช้ดาบไม้รับ ทางนี้เลยใช้มือทั้งสองข้างเหวี่ยงดาบไม้ลงมาสุดแรงเกิด ซึ่งคุเรนะปัดมันได้อย่างง่ายดาย
การติ๊ต่างเป็นอัศวินยังคงดำเนินต่อไป ดาบไม้ที่เหวี่ยงใส่กันไปมา จนได้ยินเสียงดังก๊อก ก๊อกมาจากทางสวน
(ปะ แปลก แปลกจริงๆนะเนี่ย)
เป็นฝ่ายตามมาตั้งแต่ต้น คิดอยู่ภายในใจซ้ำไปมาว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ นั่นก็เพราะว่าถึงอเลนจะใช้พรคุ้มครองแบบเต็มที่แล้ว แต่วันสองวันมานี้ก็โดนจัดอยู่ฝ่ายเดียว
ทำการปรับการ์ดแล้ว เปลี่ยนการ์ดจากระดับ H เป็นระดับ G นอกจากที่สร้างมาชนิดละ 2 ใบเพื่อใช้ในการตรวจสอบแล้ว ส่วนที่เหลือก็ไปลงสัตว์ G หมดเพื่อเอาพรคุ้มครองด้านการโจมตี
พลังตอนนี้เหนือกว่าเด็กอายุ 10 ขวบ ซึ่งอเลนเองก็คิดว่าตอนนี้เขาน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับผู้ใหญ่แล้ว ทั้งที่ใช้สกิลและพรคุ้มครองเต็มที่แล้ว แต่กลับต้องเอาจริงกับอีกฝ่ายที่เป็นเด็กแค่ 3 ขวบ
(ไม่โดนเลยย ควรจะเพิ่มความเร็วด้วยนก G ไหม ไม่สิถ้าลดพลังไปมากกว่านี้คงรับไม่ไหว ทุกอย่างมันไม่พอเลย)
ดูเหมือนคุเรนะจะเหนือกว่าทั้งพลังโจมตีและความเร็ว และพยายามประจัญหน้ากับปิศาจไร้เดียงสาพร้อมกับจัดตำแหน่งอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อไม่ให้โดนไล่ต้อนเข้ามุมสวน
“กะแล้วเชียวว่าเล่นติ๊ต่างกับอเล่นมันสนุกมากกว่าป๊ะป๋ะ !”
“ขอบคุณ”
คุเรนะพูดพร้อมกับโบกมือที่ว่างอยู่ไปมาอย่างตื่นเต้น ดูเหมือนอเลนที่มีรูปร่างพอๆกัน และใช้การ์ดออกมาเต็มที่ จะเป็นคู่มือที่เล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินได้เป็นอย่างดีเยี่ยมอยู่
เขาฝืนยิ้มตอบออกมา การเล่นติ๊ต่างเพิ่งจะเริ่ม ระหว่างนั้นก็มีพักบ้างจนเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง
กลางคืนของทาสติดที่ดินมันเร็ว เนื่องจากรอบๆมีแหล่งไฟแค่เตาอิฐตามบ้าน พอเลย 4 โมงเย็นไป โรดันกับเทเรเซียที่ทำงานสวนเสร็จก็กลับมา
“แหมๆ คุเรนะจัง วันนี้ก็มาเล่นเหรอ”
“อืม! มาเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับอเลน”
เทเรเซียที่เห็นอเลนกับคุเรนะเปื้อนดินโคลนตรงสวนก็ยิ้มออกมา การเล่นติ๊ต่างจบลง ทำให้อเลนที่ป้องกันฝ่ายเดียวรู้สึกโล่งใจ
“เหรอ ดีจังเลยนะ คุเรนะจัง อีกเดี๋ยวจะมืดแล้ว กลับบ้านได้แล้วนะ”
“อืม เข้าใจแล้ว อเลน! ไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ!!”
สาวน้อยกำดาบไม้ ออกวิ่งไปด้วยความร่าเริงที่ล้นเหลือ
“พยายามได้ดีมาก สมกับที่เป็นลูกพ่อ”
โรดันที่ได้ฟังเรื่องราวจากเกลด้าเข้ามาตบไหล่
ก่อนจะรีบไปเตรียมอาหารเย็น ซึ่งภาพตอนกินข้าวมีอย่างหนึ่งที่เปลี่ยนไป
“นี่ของป๊ะป๋ะ”
“โอ้ว”
อเลนเอาถั่วต้มให้โรดัน ซึ่งอเลนเองเริ่มช่วยงานบ้านแล้ว
“อเลนนี่เป็นเด็ดีจริงๆเลยนะเนี่ย”
ได้รับการลูบศีรษะจากเทเรเซีย พออายุ 3 ขวบ อเลนก็เริ่มช่วยงานบ้าน ซึ่งมันมีเหตุผลอยู่
เทเรเซียนั่งปกป้องท้องอย่างระมัดระวัง ท้องของเธอโตขึ้นมากซึ่งกำลังตั้งครรภ์คนที่ 2 รอคอยลูกคนที่สองด้วยความคาดหวัง ได้ยินมาว่าน่าจะคลอดช่วงปีใหม่ด้วย ที่มาช่วยงานบ้านเนื่องจากเป็นห่วงสภาพร่างกายของเทเรเซีย
ในระหว่างที่กินข้าว อเลนก็คุยกับโรดัน
“ป๊ะป๋ะ ท้องของมาม้าก็โตมากแล้ว เดี๋ยวจะไปช่วยเก็บมันฝรั่งเอง”
หลายวันนี้ ทนเห็นเทเรเซียที่ขยับตัวไม่ได้ อเลนเองก็มีพลังพอๆกับผู้ใหญ่ด้วย ถึงการอัญเชิญหรือสัตว์อัญเชิญมันจะยังไงอยู่ แต่อย่างน้อยอยากจะให้ครอบครัวรู้ว่ามีพลังบ้างก็ยังดี
“……”
โรดันพูดไม่ออก ดูเหมือนจะช็อกเอาเรื่องอยู่ เขาแข็งทื่อนึกคำพูดไม่ออก
“อเลน อเลนยังเป็นเด็กอยู่ ไปเล่นกับคุเรนะเถอะ”
เทเรเซียที่ทนไม่ไหวเข้าร่วมวงสนทนา
“ใช่แล้ว แค่อเลนช่วยงานบ้านอย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว งานสวนถ้าถึงเวลาเดี๋ยวจะให้ไปทำเอง จนกว่าจะถึงตอนนั้นไปเล่นให้เต็มที่เถอะ”
อเลนตอนที่ยังเป็นเคนอิจิ ตอนเป็นเด็กรับหน้าที่ทำความสะอาดอ่างอาบน้ำ เพราะนึกถึงสมัยนั้นออกเลยบอกไปว่าอยากจะช่วยงานสวน
แต่สำหรับโรดันงานสวนเป็นอะไรที่ยากลำบาก เป็นหน้าที่ของทาสติดที่ดิน ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุก จะให้เด็กอายุ 3 ขวบมาทำไม่ได้ แล้วไม่คิดว่าทาสติดที่ดินเป็นอะไรที่ดีด้วย
บทสนทนาของอเลนและโรดันที่มีค่านิยมที่แตกต่างกันอย่างมาก ถึงจะเพิ่งเกิดใหม่เป็นเวลาแค่ 3 ปี อเลนหรือเคนอิจิก็มีอายุ 35 ปีแล้ว ค่านิยมหรือสามัญสำนึกนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้ในช่วงเวลาแค่ 3 ปีหรอก
(อืม ไม่ได้จริงด้วยสินะ ยังไงก็แค่อายุ 3 ขวบ เอาเถอะ ถ้างั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เพิ่มกิจวัตรประจำวันดีกว่าไหมนะ)
อเลนคิดว่าเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่โดนปฏิเสธ
ถึงจะมีเรื่องที่อยากทำ ก่อนจะถึงตอนนั้นก็ช่วยงานบ้านไปก่อน
“จะว่าไป วันนี้คุเรนะเนี่ย”
“แหม คุเรนะจังทำไมเหรอ?”
ราวกับจะปัดเป่าบทบรรยากาศที่หนักอึ้งเกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องช่วยงานบ้าน อเลนเลยพูดเรื่องของคุเรนะในวันนี้ด้วยรอยยิ้ม