Hell mode - ตอนที่ 94
บทที่ 94 ศึกโกดัง 1
ดูท่าแถวนี้จะเป็นเขตของพวกคนรวย มีคนสวมชุดหรูหราอยู่เยอะ แล้วก็เห็นชาย 2 คนที่คุ้นหน้าอยู่ตรงภัตตาคารนั้น
(คาร์เนลกับราชทูต เจ้าพวกนี้นั่งมาด้วยเหรอ)
สองคนนี้นั่งชิวๆอยู่บนโซฟาและดื่มเหล้าที่ดูราคาแพงอยู่ สัตว์อัญเชิญนก G บินเข้าไปใกล้ และหยุดอยู่ตรงตะเกียงเพื่อฟังการพูดคุย ถึงไวเคานต์คาร์เนลจะเห็นสัตว์อัญเชิญนก G แต่ก็หันไปทางอื่นราวกับไม่สนใจ
“ถึงอย่างนั้นฝ่าบาทก็ลำบากแย่เลยนะเนี่ย ที่รัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายสนับสนุนฝ่ายโรงเรียนเนี่ย”
“ถูกต้องทุกอย่างเลยครับ”
(หือ? ฝ่ายโรงเรียน)
“เดิมทีตำแหน่งนั้นควรจะเป็นของฉันด้วยซ้ำ ยังไงก็ต้องทำให้รองรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายเป็นรัฐมนตรีให้ได้ด้วยสิ”
ดูท่าราชทูตคงเมาค่อนข้างมากเลยพูดบ่นกับไวเคานต์คาร์เนล เพราะเริ่มฟังตอนกลางๆเรื่องเลยไม่รู้ว่าพูดถึงเรื่องอะไร เลยตั้งใจฟังเต็มที่เพื่อที่จะเข้าใจเนื้อหา
ดูท่าปีหน้าตำแหน่งรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายจะว่าง และคนที่จะรับตำแหน่งนั้นคือขุนนางที่อยู่ฝ่ายเดียวกับโรงเรียน และพูดคุยกันว่าจะต้องล้มล้างการกำหนดนี้ด้วยการเมืองในราชสำนักให้ได้
“ถึงอย่างนั้น พอนึกถึงหน้าของเจ้าแกรนเวลแล้วทำให้อยากดื่มเหล้าขึ้นไปอีกนะเนี่ย”
“นั่นสิ เอาเถอะดูเหมือนจะอยู่ในสภาพที่ขุดมิธริลได้แล้วด้วย การชี้นำขุนนางชั้นต่ำเป็นหน้าที่ของราชทูตด้วยสิ”
ไวเคานต์คาร์เนลเปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยจากเรื่องการเมืองภายในราชสำนักไปเรื่องอื่น
“ครั้งนี้ช่วยได้มากเลยครับ ที่ทำให้เกิดเรื่องสัญญาอย่างในครั้งนี้”
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่ามังกรขาวจะเคลื่อนตัวในช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้ รัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายมันต้องใช้เงินเยอะแท้ๆ”
“ครับ ในเวลาเช่นนี้ต้องขอโทษด้วยครับ”
ไวเคานต์คาร์เนลผงกศีรษะงกๆ
ดูเหมือนจะเป็นแรงจูงใจให้ไวเคานต์คาร์เนลทำเรื่องในครั้งนี้
(อย่างนี้นี่เอง ไวเคานต์คาร์เนลขุดมิธริลมามากกว่า 100 ปี เลยใช้อำนาจของเงินอย่างนี้มาโดยตลอด)
อเลนเข้าใจระหว่างที่การสนทนาของไวเคานต์คาร์เนลกับราชทูตดำเนินต่อไป ตระกูลไวเคานต์คาร์เนลที่ผ่านยุคสมัยมามากกว่า 100 ปี ได้เข้าหาและใช้ประโยชน์จากเจ้าหน้าที่และขุนนางในราชสำนัก ถ้ามีเงินจากมิธริลก็คงทำอย่างนั้นได้อยู่หรอก
“ถึงอย่างนั้นไม่เป็นไรแน่เหรอ? ภายในราชวังไม่ได้มีแต่พวกเรา ถ้าบารอนไปที่ราชวังแล้วก่อเรื่องวุ่นวายจะเป็นเรื่องยุ่งยากนะ? ถ้าไม่มีหนังสือสัญญาฝ่าบาทก็ไม่เคลื่อนไหวด้วย ยังไงก็ต้องทำให้ลงนามให้ได้”
ราชทูตยืนยันกับไวเคานต์
“แน่นอนครับ เพราะอย่างนั้นเลยลักพาตัวลูกสาวมา บารอนรักลูกสาวมากแถมทิ้งจดหมายไว้ว่าห้ามทำอะไรแผลงๆด้วย”
เห็นได้ชัดเลยว่าวางจดหมายทิ้งไว้ว่าห้ามไปเมืองหลวง ตอนลักพาตัวเซซิลมาจากคฤหาสน์ แล้วก็นึกออกตอนที่บารอนบอกว่าจะไปตรวจสอบที่เมืองหลวง ท่าทางของราชทูตก็เปลี่ยนไปในทันที
“งั้นเหรอ เอาเถอะ ถ้าทำให้ลงนามได้ก็พอแล้ว”
ราชทูตต้องการให้ลงนามในสัญญา หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
“ครับ ถ้าหากไม่ลงนามในสัญญาแล้ว คิดว่าส่งแขนสักข้างของลูกสาวไปน่าจะได้ผลอยู่”
“แล้วถ้าเซนอฟมาโจมตี ก็ให้นักฆ่าจัดการสินะ?”
“คิดเอาไว้อย่างนั้นครับ แต่ถ้าดรากฮาแพ้แล้วเซนอฟอาละวาดในแคว้นจะแย่เอาครับ”
“อือ อย่างนั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ ถ้าหากหัวหน้ากลุ่มอัศวินมาอาละวาดข้ามแคว้นแล้วละก็ สามารถตัดสินให้เป็นความผิดของแกรนเวลได้ โทษของการก่อความไม่สงบมันหนักด้วย ถ้ามาควรจะขอบคุณเสียด้วยซ้ำ”
“อย่างนี้นี่เอง สมกับเป็นท่านจริงๆ”
“แต่รู้ใช่ไหม? ฉันเองก็ลงมือไปตั้งขนาดนี้แล้ว”
“เข้าใจแล้วครับ เกี่ยวกับกรรมธสิทธิ์เหมืองสินะจะให้ตามที่สัญญาเลยครับ”
ราชทูตบอกว่าห้ามลืมโดยเด็ดขาด
(อืม อย่างนี้ก็รู้แล้วว่าคาร์เนลมีทั้งอำนาจและกฎหมาย ถ้าไม่พาเซซิลกลับไป บารอนคงทำอะไรไม่ได้ เพราะอย่างนั้นเพื่อกรรมสิทธิ์เหมืองเลยโจมตีตระกูลบารอนและลักพาตัวลูกสาวมาเหรอ)
ดูเหมือนจะลงมือโดยไม่สนว่าจะมีคนตายหรือไม่ พอได้ฟังข้อมูลที่สำคัญจากทั้ง 2 คน ก็ถึงเวลาคิดเรื่องที่ต้องทำหลังจากนี้
“อืมมมม!!!!!”
(แย่แล้ว เซซิลฟื้นแล้ว)
เซซิลที่นอนอยู่ข้างๆอเลนได้สติ
“เฮ้ย ดูเหมือนคุณหนูจะฟื้นแล้ว ทำตัวว่าง่ายซะ”
“อืมมมม!!!!”
เซซิลที่ได้สติ พอรู้ว่าโดนมัดอยู่ก็โกรธพร้อมกับขัดขืน แต่ปาก, มือและเท้าโดนมัดอยู่ ทำให้พูดและขยับตัวไม่ได้
แล้วเซซิลก็เห็นอเลนที่โดนมัดอยู่ด้านหน้า
“อืมมมม!!!!”
(นะ นี่อย่าเตะสิ ทั้งที่โดนมัดมือมัดเท้าอยู่แต่เก่งนะเนี่ย)
เซซิลพยายามปลุกอเลนเพราะคิดว่ายังหมดสติอยู่ แต่อเลนแกล้งหลับต่อไม่ตอบสนองต่อการเตะของเซซิลที่โดนมัดมือมัดเท้าเลยสักนิด
“บอกให้อยู่นิ่งๆไง คนรับใช้ของแกหลับเพราะฤทธิ์ยา อีกเดี๋ยวก็ถึงจะเมืองคาร์เนลแล้ว”
(เรือเหาะเวทมนตร์นี้มุ่งหน้าไปที่เมืองคาร์เนลเหรอ เอาเถอะคาร์เนลนั่งอยู่มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ที่โน้นคาร์เนลทำอะไรก็ได้ตามใจชอบด้วยสิ ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างแล้วละก็ เจ็บๆ)
เนื่องจากมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่มีลูกน้องของไวเคานต์คาร์เนลอยู่เยอะ ทำให้คิดว่าสถานการณ์อย่างนี้คงไม่ดีแน่ๆ ในระหว่างที่คิดอย่างนั้นเซซิลก็งอตัวเป็นกุ้ง ก่อนจเตะใส่ตูดของอเลน
“เฮ้ย เฮลเก้ไปทำให้เงียบๆซะ”
โจรมาร์คัสที่โดนต่อยท้อง บอกให้เพื่อนอย่างเฮลเก้ไปทำให้เงียบ
“อ้า ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่อยากโดนอัดก็อยู่เงียบๆซะ”
“อืมมมม!!!!!”
ถึงกระนั้นเซซิลก็ยังเตะตูดของอเลน คงคิดว่าถ้าอเลนฟื้นอาจจะแก้ไขสถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นได้
(อืม ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว สภาพของการ์ดก็ไม่มีปัญหา ลงมือเลยดีไหมนะ)
เพื่อความมั่นใจเลยตรวจสอบสเตตัสอีกครั้ง
[ชื่อ] อเลน
[อายุ] 12
[อาชีพ] นักอัญเชิญ
[เลเวล ] 41
[พลังกาย] 1040 + 240
[พลังเวท] 1620 + 20
[พลังโจมตี] 570 + 200
[ความทนทาน] 570 + 635
[ความว่องไว] 1065 + 679
[ความฉลาด] 1630 + 104
[โชค] 1065
[สกิล] อัญเชิญ <5>, สร้าง <5>, ผสม<5>, เสริมความแข็งแกร่ง<5>, ขยาย <4>, จัดเก็บ, แชร์, ลบล้าง, วิชาดาบ <3>, ขว้าง <3>
[ค่าประสบการณ์] 37,839,560 / 50,000,000
・ เลเวลสกิล
[อัญเชิญ] 5
[สร้าง] 5
[ผสม] 5
[เสริมความแข็งแกร่ง] 5
・ ค่าประสบการณ์สกิล
[สร้าง] 12,482 / 10,000,000
[ผสม] 10,265 / 10,000,000
[เสริมความแข็งแกร่ง] 8,269,330 / 10,000,000
・สัตว์ที่สามารถอัญเชิญได้
[แมลง] DEFGH
[สัตว์] DEFGH
[นก] DEFG
[พืช] DEF
[หิน] DE
[ปลา] D
・ถือครอง
[แมลง] F 1 ใบ, E 1 ใบ, D 29 ใบ
[สัตว์] D 10 ใบ
[นก] G 2 ใบ, D 4 ใบ
[พืช]
[หิน] D 2 ใบ
[ปลา] D 1 ใบ
“ถ้าไม่โดนอัดก็ไม่เข้าใจสินะ”
พอพูดอย่างนั้นเฮลเก้ก็มุ่งหน้าไปหาเซซิล เธอจ้องมองเฮลเก้ด้วยความหวาดกลัว แล้วตอนที่เฮลเก้ง้างหมัดขึ้นมา
(ไปก่อนนะ อาเกฮะ ทำให้หลับซะ!)
“อะไรน่ะ!?”
ระหว่างที่พวกโจรกำลังประหลาดใจ สัตว์อัญเชิญแมลง E ที่มีรูปร่างเป็นผีเสื้อขนาดเกือบ 1 เมตรก็ปรากฎตัวและโปรยเกล็ดสีเหลืองออกมา จนภายห้องเต็มไปด้วยเกล็ดสีเหลือง
(เอาละ หลับไปแล้ว 1 คน ดูเหมือนจะได้ผลอยู่)
1 ใน 3 คนที่ใช้ดาบสั้น ล้มลงราวกับพลังงานหมด สัตว์อัญเชิญแมลง E โดนเฮลเก้ฟันจนสลายกลายเป็นฟองแสง
ปึด ปึด
อเลนใช้แรงดึงเชือกที่มัดอยู่จนขาด เชือกแค่นี้ไม่สามารถมัดค่าสเตตัสของอเลนในตอนนี้ได้
เฮลเก้ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของอเลน แล้วสัตว์อัญเชิญสัตว์ D ก็โผล่มาต่อหน้าเฮลเก้
“อะไรวะเนี่ย!!!”
ฝฝกรรรรรรร!!!ฝฝ
ใช้ทักษะพิเศษ “กัดขยี้” ของสัตว์อัญเชิญ D โจมตีใส่เฮลเก้ แต่เฮลเก้หลบอย่างใจเย็น และฟันสะพายแล่งใส่สัตว์อัญเชิญสัตว์ D ถึงจะไม่สามารถจัดการได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่เฮลเก้ความว่องไวสูงกว่า ทำให้สัตว์อัญเชิญสัตว์ D จับไม่อยู่ จากการเสริมความแข็งแกร่ง พลังกายของสัตว์อัญเชิญสัตว์ D โดนโจมตี 3 ครั้งก่อนจะสลายกลายเป็นฟองแสง
และ
“อุ้ก! อะ ไอ้เด็กเปรตนี่!!!!”
“ตายไปซะ”
อเลนต่อยใส่สีข้างของมาร์คัส สัตว์อัญเชิญสัตว์ D ที่สู้กับเฮลเก้แค่เอาไว้ถ่วงเวลา เป้าหมายคือต่อยสุดแรงเกิดใส่สีข้างของมาร์คัสที่โดนนักฆ่าดรากฮาต่อย
(การจัดการพวกอ่อนแอเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เท่านี้ก็ถอนตัวจากการต่อสู้ไป 2 คนแล้ว)
มาร์คัสกุมท้อง ก่อนจะกระตุกและฟุบลงไปกับพื้น ถ้ารวมกับโจรที่หลับไป เท่ากับว่า 2 ใน 3 คนไม่สามารถต่อสู้ได้แล้ว
เฮลเก้พอเห็นอย่างนั้น ก็ค่อยๆตั้งดาบไว้ข้างหน้า