Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล - ตอนที่ 735 ความเเปลกใจของฮัมดาลล์
ความเเปลกใจของฮัมดาลล์
หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากเเจ็คสัน โทนี่ เเละ คนอื่น ๆ ก็เริ่มมีส่วนร่วมกันมากขึ้น เดิม เเจ็คสันได้เเนะนำให้ทิ้งคนไว้เพื่อปกป้องฐานที่ไซบีเรียคนนึงซึ่งก็คือ โทนี่ เเต่ โทนี่ ไม่เห็นด้วย ท้ายที่สุด เขาก็ตัดสินใจเลือก เเฮร์รี่ เพราะอย่างไร เเฮร์รี่ ก็เป็นประธานของออสคอร์ป การที่จะให้เเฮร์รี่มาเสี่ยงด้วย เเจ็คสันตัดสินใจได้ยากมาก
“ทางฝั่งฉันมีชุดเกราะไอรอนแม 30 ตัว ไปพร้อมกับฉัน ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 30 ตัว นี้มีฟังก์ชั่นเอื้ออำนวยผลประโยชน์จำนวนมาก เเม้ด้านหลังนั่นจะเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยท้องดาวเเต่พวกเขาก็ยังสามารถเเสดงจุดเเข็งได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์”โทนี่ ได้กล่าวพูดออกมา
ตามที่ดร.แบนเนอร์ เล่ามา ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นมีสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก มันไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่นั่น ดังนั้นพวกเขาจำเป็นจะต้องใส่ชุดป้องกัน เเละ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ก็มีความสำคัญในการปกป้องร่างกายพวกเขาเหมือนกัน
“ถ้าเรากำหนดคนที่จะไปกันได้เเล้วเช่นนั้นฉันขอเตือนอะไรอีกสักอย่าง การเดินทางครั้งนี้ เดิมทุกคนสมัครใจไปด้วยตนเอง ด้านหลังนั่นคือสถานที่นอกโลกเเละมีอารยธรรมที่พวกเราไม่เข้าใจอยู่มาก เเต่เป้าหมายของเราก็เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่โลกจะต้องเผชิญด้วยโอกาสอันดีงามตามข้อมูลที่เราได้รับมานั้นเเม้มันจะเอื้ออำนวยต่อพวกเราเเต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ดี”วิสัยทัศน์ของกัปตันโรเจอร์สได้จ้องมองไปที่ทุกคนในห้องประชุม
พวกเขาได้เผชิญหน้ากับความโหดร้ายของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเเล้วดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จึงได้เตือนพวกเขาไม่ให้ประมาท ในเดินเกมในบ้านคนอื่นที่เเข็งเเกร่งกว่านั้นมีความเสี่ยงที่จะเเพ้สูงมาก เเละ ยิ่งหากศัตรูมีกองกำลังที่มากกว่าตนเองล่ะก็จุดจบของพวกเขาคงไม่สวยเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามพวกเขาตัดสินใจเเล้วว่าจะยอมเสี่ยงถ้าข่าวที่มิราจไนท์ได้มาเป็นความจริง กองกำลังหลักเเละผู้นำของเผ่าดาร์คเอลฟ์สมควรไม่อยู่ในพื้นที่พื้นเมืองของพวกเขา
“ฉันรู้เเน่นอนว่าพวกเรารู้ศัตรูของพวกเราคือศัตรูจากนอกโลก พวกเราจะทำศึกสงครามในบ้านของพวกเขา อันที่จริงพวกเราไม่จำเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิต เพียงเเค่หาทางป้องกันเเละจัดการพื้นที่ประตูมิติอวกาศนี้ให้ได้สำเร็จก็พอ”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
ก่อนหน้านี้โทนี่เคยมีประสบการณ์สู้รบกับอาวุธสงครามของเเอสการ์ดอย่างเครื่องจักรสังหารเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งที่เหนือชั้นของอารยธรรมที่เเข็งเเกร่งกว่าเเละถ้าอิงตามข้อมูลที่เเจ็คสันพูดเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์เผ่าพันธุ์นี้อาจจะเป็นตัวตนที่อยู่ในระนาบเดียวกับเครื่องจักรสังหารที่เขาเคยเจอเป็นคนจาก 9 อาณาจักรที่มีอารยธรรมเเข็งเเกร่งกว่าโลก
โดยปกติเเล้วพวกเขาไม่สามารถประเมินความเเข็งเเกร่งของเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้อย่างเเม่นยำเเต่พวกเขาก็มีความมั่นใจในตนเองตราบเท่าที่กองกำลังหลักเเละผู้นำเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเลคิธไม่ได้อยู่ที่นั่นพวกเขามั่นใจว่าจะสามารถจัดการศัตรูได้
“โทนี่ดูเหมือนว่านายจะมั่นใจในเเผน S นี้มาก”กัปตันโรเจอร์สได้กล่าวถามโทนี่
ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สโทนี่ เพียงพยักหน้ายิ้มตอบรับ
“เอาล่ะอีก 10 นาที พวกเราจะไปรวมตัวกันที่ด้านหน้าประตูมิติอวกาศนั่น!”กัปตันโรเจอร์สได้ยืนขึ้นเเละพูดอย่างเสียงดัง
…
ขณะที่โลกกำลังเตรียมการเข้าสู่ประตูมิติอวกาศเพื่อบุกเบิกพื้นที่อาณาจักรเผ่าดาร์คเอลฟ์ เเอสการ์ด ฮัมดาลล์ ผู้พิทักษ์สะพานไบฟรอส ตอนนี้เขากำลังทำอะไรบางอย่างอยู่
ฟุ่บ~~
ในดวงตาสีทองอันลึกลับของเขาเขากำลังมองค้นหา ธอร์อยู่ ตราบเท่าที่ ธอร์อยู่ในอาณาเขต 9 อาณาจักร ไม่ว่าธอร์จะอยู่ที่ไหน เขาก็จะสามารถตรวจพบ
เเต่ในช่วงหลายนาทีที่ผ่านมาฮัมดาลล์ กลับไม่สามารถมองหา ธอร์ จนพบได้
การคาดเดาของเเจ็คสันนั้นถูกต้อง เมื่อธอร์หายตัวไป เเม้เเต่ โอดิน ที่กำลังเข้าฌานอยู่ก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น ตอนนี้ ฮัมดาลล์ ได้ค้นหาธอร์อย่างต่อเนื่อง เเต่อย่างไรก็ตามเขากลับไม่สามารถค้นหาตำเเหน่งของธอร์ในปัจจุบันได้
“พื้นที่มิติที่เชื่อมต่อกับโลกนั้นอาจเป็นไปได้ว่าเป็นพื้นที่เขตต้องห้าม”หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการค้นหาอีกครั้งฮัมดาลล์ ได้ขมวดคิ้วเเน่น
ในพื้นที่เขตต้องห้ามนี้คือพื้นที่พิเศษที่สามารถป้องกันดวงตาทิพย์ของ ฮัมดาลล์ ได้ เเต่การเชื่อมโยงของ ธอร์ กับพื้นที่พิเศษนี้ ทำให้ ฮัมดาลล์ รู้สึกกังวลอย่างมาก
“ข้าจะลองดูอีกครั้ง!หากไม่ได้จริง ๆ ก็คงมีเเต่จะต้องกราบทูลกษัตริย์โอดินเเล้ว”ฮัมดาลล์ ได้จมสู่นิมิตของตนเองอีกครั้ง
หากเเจ็คสันรู้ว่าพื้นที่ที่ธอร์จะถูกส่งตัวไปเป็นพื้นที่ที่ฮัมดาลล์ไม่สามารถตรวจสอบได้เขาก็คงจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างเเน่นอน ในตอนนี้ ก็คงมีเเต่อธิษฐานภาวนาขอให้ ฮัมดาลล์ สามารถตรวจพบตำเเหนน่งของธอร์ได้เพียงเท่านั้น
หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากเเจ็คสัน โทนี่ เเละ คนอื่น ๆ ก็เริ่มมีส่วนร่วมกันมากขึ้น เดิม เเจ็คสันได้เเนะนำให้ทิ้งคนไว้เพื่อปกป้องฐานที่ไซบีเรียคนนึงซึ่งก็คือ โทนี่ เเต่ โทนี่ ไม่เห็นด้วย ท้ายที่สุด เขาก็ตัดสินใจเลือก เเฮร์รี่ เพราะอย่างไร เเฮร์รี่ ก็เป็นประธานของออสคอร์ป การที่จะให้เเฮร์รี่มาเสี่ยงด้วย เเจ็คสันตัดสินใจได้ยากมาก
“ทางฝั่งฉันมีชุดเกราะไอรอนแม 30 ตัว ไปพร้อมกับฉัน ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 30 ตัว นี้มีฟังก์ชั่นเอื้ออำนวยผลประโยชน์จำนวนมาก เเม้ด้านหลังนั่นจะเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยท้องดาวเเต่พวกเขาก็ยังสามารถเเสดงจุดเเข็งได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์”โทนี่ ได้กล่าวพูดออกมา
ตามที่ดร.แบนเนอร์ เล่ามา ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นมีสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก มันไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่นั่น ดังนั้นพวกเขาจำเป็นจะต้องใส่ชุดป้องกัน เเละ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ก็มีความสำคัญในการปกป้องร่างกายพวกเขาเหมือนกัน
“ถ้าเรากำหนดคนที่จะไปกันได้เเล้วเช่นนั้นฉันขอเตือนอะไรอีกสักอย่าง การเดินทางครั้งนี้ เดิมทุกคนสมัครใจไปด้วยตนเอง ด้านหลังนั่นคือสถานที่นอกโลกเเละมีอารยธรรมที่พวกเราไม่เข้าใจอยู่มาก เเต่เป้าหมายของเราก็เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่โลกจะต้องเผชิญด้วยโอกาสอันดีงามตามข้อมูลที่เราได้รับมานั้นเเม้มันจะเอื้ออำนวยต่อพวกเราเเต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ดี”วิสัยทัศน์ของกัปตันโรเจอร์สได้จ้องมองไปที่ทุกคนในห้องประชุม
พวกเขาได้เผชิญหน้ากับความโหดร้ายของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเเล้วดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จึงได้เตือนพวกเขาไม่ให้ประมาท ในเดินเกมในบ้านคนอื่นที่เเข็งเเกร่งกว่านั้นมีความเสี่ยงที่จะเเพ้สูงมาก เเละ ยิ่งหากศัตรูมีกองกำลังที่มากกว่าตนเองล่ะก็จุดจบของพวกเขาคงไม่สวยเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามพวกเขาตัดสินใจเเล้วว่าจะยอมเสี่ยงถ้าข่าวที่มิราจไนท์ได้มาเป็นความจริง กองกำลังหลักเเละผู้นำของเผ่าดาร์คเอลฟ์สมควรไม่อยู่ในพื้นที่พื้นเมืองของพวกเขา
“ฉันรู้เเน่นอนว่าพวกเรารู้ศัตรูของพวกเราคือศัตรูจากนอกโลก พวกเราจะทำศึกสงครามในบ้านของพวกเขา อันที่จริงพวกเราไม่จำเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิต เพียงเเค่หาทางป้องกันเเละจัดการพื้นที่ประตูมิติอวกาศนี้ให้ได้สำเร็จก็พอ”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
ก่อนหน้านี้โทนี่เคยมีประสบการณ์สู้รบกับอาวุธสงครามของเเอสการ์ดอย่างเครื่องจักรสังหารเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งที่เหนือชั้นของอารยธรรมที่เเข็งเเกร่งกว่าเเละถ้าอิงตามข้อมูลที่เเจ็คสันพูดเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์เผ่าพันธุ์นี้อาจจะเป็นตัวตนที่อยู่ในระนาบเดียวกับเครื่องจักรสังหารที่เขาเคยเจอเป็นคนจาก 9 อาณาจักรที่มีอารยธรรมเเข็งเเกร่งกว่าโลก
โดยปกติเเล้วพวกเขาไม่สามารถประเมินความเเข็งเเกร่งของเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้อย่างเเม่นยำเเต่พวกเขาก็มีความมั่นใจในตนเองตราบเท่าที่กองกำลังหลักเเละผู้นำเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเลคิธไม่ได้อยู่ที่นั่นพวกเขามั่นใจว่าจะสามารถจัดการศัตรูได้
“โทนี่ดูเหมือนว่านายจะมั่นใจในเเผน S นี้มาก”กัปตันโรเจอร์สได้กล่าวถามโทนี่
ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สโทนี่ เพียงพยักหน้ายิ้มตอบรับ
“เอาล่ะอีก 10 นาที พวกเราจะไปรวมตัวกันที่ด้านหน้าประตูมิติอวกาศนั่น!”กัปตันโรเจอร์สได้ยืนขึ้นเเละพูดอย่างเสียงดัง
…
ขณะที่โลกกำลังเตรียมการเข้าสู่ประตูมิติอวกาศเพื่อบุกเบิกพื้นที่อาณาจักรเผ่าดาร์คเอลฟ์ เเอสการ์ด ฮัมดาลล์ ผู้พิทักษ์สะพานไบฟรอส ตอนนี้เขากำลังทำอะไรบางอย่างอยู่
ฟุ่บ~~
ในดวงตาสีทองอันลึกลับของเขาเขากำลังมองค้นหา ธอร์อยู่ ตราบเท่าที่ ธอร์อยู่ในอาณาเขต 9 อาณาจักร ไม่ว่าธอร์จะอยู่ที่ไหน เขาก็จะสามารถตรวจพบ
เเต่ในช่วงหลายนาทีที่ผ่านมาฮัมดาลล์ กลับไม่สามารถมองหา ธอร์ จนพบได้
การคาดเดาของเเจ็คสันนั้นถูกต้อง เมื่อธอร์หายตัวไป เเม้เเต่ โอดิน ที่กำลังเข้าฌานอยู่ก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น ตอนนี้ ฮัมดาลล์ ได้ค้นหาธอร์อย่างต่อเนื่อง เเต่อย่างไรก็ตามเขากลับไม่สามารถค้นหาตำเเหน่งของธอร์ในปัจจุบันได้
“พื้นที่มิติที่เชื่อมต่อกับโลกนั้นอาจเป็นไปได้ว่าเป็นพื้นที่เขตต้องห้าม”หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการค้นหาอีกครั้งฮัมดาลล์ ได้ขมวดคิ้วเเน่น
ในพื้นที่เขตต้องห้ามนี้คือพื้นที่พิเศษที่สามารถป้องกันดวงตาทิพย์ของ ฮัมดาลล์ ได้ เเต่การเชื่อมโยงของ ธอร์ กับพื้นที่พิเศษนี้ ทำให้ ฮัมดาลล์ รู้สึกกังวลอย่างมาก
“ข้าจะลองดูอีกครั้ง!หากไม่ได้จริง ๆ ก็คงมีเเต่จะต้องกราบทูลกษัตริย์โอดินเเล้ว”ฮัมดาลล์ ได้จมสู่นิมิตของตนเองอีกครั้ง
หากเเจ็คสันรู้ว่าพื้นที่ที่ธอร์จะถูกส่งตัวไปเป็นพื้นที่ที่ฮัมดาลล์ไม่สามารถตรวจสอบได้เขาก็คงจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างเเน่นอน ในตอนนี้ ก็คงมีเเต่อธิษฐานภาวนาขอให้ ฮัมดาลล์ สามารถตรวจพบตำเเหนน่งของธอร์ได้เพียงเท่านั้น