Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล - ตอนที่ 673 สนทนากับธอร์
ในช่วงเวลานี้เเสงเเดดยามบ่ายค่อนข้างอบอุ่น บางพื้นที่มีชั้นเมฆหนาครึ้ม เเต่ถึงอย่างนั้นธอร์เเละเเจ็คสันก็ไม่ได้สนใจบรรยากาศในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนได้ออกไปเดินเล่นข้างนอก
“เจ้าบอกว่าเจ้าเพียงเเค่อาศัยสะพานไบฟรอสกลับมาที่โลกเพียงเท่านั้น ไม่เห็นสถานการณ์อื่น ๆ ภายในของเเอสการ์ดอย่างงั้นหรอ”ขณะที่เดินเล่นกันอยู่ ธอร์ ได้กล่าวพูดอย่างผิดหวัง
เมื่อครู่เเจ็คสันได้อธิบายว่าทำไมตนเองถึงไปใช้สะพานไบฟรอสได้เพียงเเค่อาศัยพลังของสะพานไบฟรอสในการกลับมาที่โลกไม่มีเวลามากพอจะดูสถานการณ์ในปัจจุบันของเเอสการ์ด
“อืม,ฉันได้หลุดไปยังสถานที่เเห่งนั้นเป็น ปรมาจารย์ท่านหนึ่งที่ช่วยเหลือพวกเราเอาไว้ เขาได้ช่วยเหลือพวกเราในการยืมใช้สะพานไบฟรอสเเละช่วยพากลับมาที่โลก หากไม่ได้เขาช่วย คราวนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะกลับมาที่โลกอีกทีตอนไหน”เเจ็คสันพูดขึ้นก่อนที่จะเอาเท้าเตะหินที่อยู่ใต้เท้า
เกี่ยวกับคำถามของธอร์ธอร์ให้ความสนใจกับการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสมากดังนั้นเมื่อเเจ็คสันบอกว่าเป็นเขาที่ใช้งานสะพานไบฟรอสธอร์จึงรู้สึกสงสัยเเละถามเรื่องนี้
“ปรมาจารย์ท่านนึงใครกัน เขาสามารถกระทั่งของยืมสิทธิ์ในการใช้งานสะพานไบฟรอสได้ ใช่เป็นมนุษย์โลกหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวถมอีกครั้ง
ธอร์รู้ดีเเน่นอนว่า สะพานไบฟรอสไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถยืมใช้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ยินจากปากเเจ็คสันว่าหลุดไปยังดาวเคราะห์อื่นมา หากปรมาจารย์คนที่เเจ็คสันกล่าวถึงเป็นมนุษย์โลกล่ะก็สถานะของคนคนนั้นจะต้องยิ่งใหญ่มากเเน่นอน เพราะไม่มีทางที่ท่านพ่อของเขาโอดินจะยินยอมให้บุคคลธรรมดาได้รับสิทธิ์ในการใช้งานสะพานไบฟรอส
“ใช่,เขาเป็นมนุษย์โลกยิ่งไปกว่านั้นฉันคิดว่าคุณน่าจะรู้จักเขาด้วย”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของธอร์ เเจ็คสันรู้ว่าธอร์คิดอะไรอยู่ตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางเเผนที่จะปิดบังอีกฝ่าย
“ชาวมนุษย์โลกที่สามารถยืมใช้สะพานไบฟรอสของเเอสการ์ดได้ บุคคลดังกล่าวคงมีเพียงเเค่…”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์ขมวดคิ้วเเน่นเล็กน้อย เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับบุคคลนี้
ตึก!
หลังจากคิดไตร่ตรองเพียงครู่นึงธอร์ ก็จ้องมองไปที่เเจ็คสันเเละพยายามพูดชื่อที่ตนเองคิดออกมา
“เจ้าคงจะไม่ได้หมายถึงปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน หรอกใช่มั้ย”ธอร์กล่าวพูดออกมาอย่างลังเล เห็นสีหน้าของธอร์ที่กังวลกับคำตอบเเจ็คสันระงับรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดูเหมือนว่า เจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่เเห่งเเอสการ์ด เทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ก็ยังรู้จัก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
“อืม,เป็นปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน”เเจ็คสันพยักหน้าตอบกลับอย่างรวดเร็วไอลีนโนเวล
ได้ยินคำตอบยืนยันจากปากของเเจ็คสันธอร์ รู้สึกไม่เเปลกใจ ที่อีกฝ่ายสามารถยืมใช้สะพานไบฟรอสได้
“เขาเป็นคนที่ยากที่จะพบพานเเม้เเต่ข้าเองก็ไม่ค่อยได้เจอเขาบ่อยนัก!”ธอร์พูดออกมาเล็กน้อย
ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันบุคคลที่มีอิทธิพลระดับเดียวกับท่านพ่อของเขา โอดิน ในสมัยโบราณ ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างดี ดังนั้นหลายตาหลายครั้งเขาจึงเห็นการมาเยี่ยมเยือนของเอนเชี่ยนวันที่เเอสการ์ดในอดีต ในตอนนั้นธอร์ค่อนข้างมีความรู้สึกอยากรู้อยากลองเขาต้องการวัดคุณสมบัติกับอีกฝ่าย เเต่เมื่อได้เห็นสถานที่เเท้จริงของอีกฝ่ายธอร์กลับไม่มั่นใจเเม้เขาจะมีพลังของเทพเจ้าสายฟ้าเเต่เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดเต็มปากว่าจะชนะเมื่อยืนต่อหน้าจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
บางทีถ้าเกิดเขาสามารถปลุกพลังของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ในเวลานั้นเขาอาจจะพละกำลังเเละพลังเท่าเทียมกับจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นเเต่ไม่รู้ว่าวันนั้นเมื่อไหร่จะมาถึง
“อืม,เขาได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือฉัน”
ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์ได้จ้องมองไปที่เเจ็คสันพร้อมกับจับบ่าทั้งสองข้างของเขาเเละจ้องพินิจบางอย่าง
“มันไม่ถูกต้องไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นผู้สืบทอดของเขางั้นหรอ เเต่เเปลกทำไมข้าไม่สามารถสัมผัสพลังเวทมนตร์จากตัวเจ้าได้เลย ข้าเชื่อว่าความสามารถระดับเจ้า ย่อมต้องสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้อย่างเเน่นอน เเต่ทำไมกัน เพราะอะไร….”ธอร์กล่าวถามเเจ็คสันด้วยความสงสัย
ตั้งเเต่เริ่มเเรกที่ธอร์พบกับเเจ็คสันเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่เเข็งเเกร่งจากตัวอีกฝ่ายเบื้องหลังของเเจ็คสันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน ดังนั้น ธอร์ จึงคิดว่า เเจ็คสันคือผู้ที่มีคุณสมบัติจะสืบทอดพลังของจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตามวันนี้เเจ็คสันกล่าวว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเเค่ปรมาจารย์ที่ช่วยเหลือตนเอง ถ้าอีกฝ่ายคือศิษย์อาจารย์กัน เเจ็คสัน จะต้องเรียกอีกฝ่ายว่าอาจารย์ เเต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
“เอ่อ…ฉันเเละปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเป็นเพียงเเค่คนรู้จักกัน เเต่เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเเม้ว่าฉันจะชื่นชอบเวทมนตร์มากเเค่ไหน เเละมีคนเต็มใจที่จะสอนฉัน เเต่พรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์ของฉันอยู่ในระดับที่ต่ำมาก หากฝึกฝนอาจเป็นไปได้ที่ยากจะประสบความสำเร็จ”เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างไม่เต็มใจ เมื่อนึกถึงจุดเเข็งของเเจ็คที่เขาเห็นในช่วงสองวันก่อนเขาเองก็ยังรู้สึกอิจฉา เเจ็คเป็นมิวแทนท์ระดับ 3 มีคุณสมบัติร่างกายที่เเข็งเเกร่งทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้เวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี เเม้ในใจเขาจะรู้สึกอิจฉาอีกฝ่าย เเต่เมื่อคิดถึงผลรวมตอนนี้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เหมือนได้ยกระดับความเเข็งเเกร่งขึ้นไปอีกครั้ง
“ไม่มีพรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์…ฮ่าฮ่าข้าล่ะเเปลกใจจริง ๆ “ธอร์จ้องมองไปที่เเจ็คสันด้วยรอยยิ้้ม
เดิมธอร์คิดว่าอีกฝ่ายมีพรสวรรค์ที่มากล้นกระทั่งสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้อย่างไม่ยากเย็นเเต่พอดูรวม ๆ คนที่มีพรสวรรค์อย่างเเจ็คสัน ก็ยังมีข้อเสียกับเขาอยู่เหมือนกัน
“ใช่,เเต่ถึงฉันจะไม่สามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้ฉันก็ยังมีจุดเเข็งอื่นอยู่”เผชิญหน้ากับการหัวเราะของธอร์ เเจ็คสันตอบกลับอย่างมั่นคง