HOW MUCH รักของนายหาซื้อที่ไหน - ตอนที่ 144
ตอนที่144 ระหว่างสามีภรรยา
ญาณินีละสายตาออกไป
เพื่อนที่เธอเชื่อใจมาโดยตลอดระยะ เวลาหลายปีนี้ ทําไมในสถานการณ์เช่นนี้ กลับไม่ช่วยเธอกัน?
“เอาล่ะ เรื่องนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนแล้วกัน คุณจิดาภาเดินทางมาเหนื่อยๆ คุณกลับ ไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวจะมีงานใหม่ อีก” ญาณินียิ้มแล้วเอ่ยพูดกับจิดาภา “ฉัน กับภพธรมีเรื่องต้องคุยกันอีก คุณกลับเอง ได้ใช่ไหม?”
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ
จิดาภาตอบกลับไปเพียงประโยคเดียว สุก นยันแล้วเดินออกไป
เธอไม่ได้พยายามช่วงชิงอะไรเพื่อตัว เอง และแน่นอนว่าเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะ ประจบประแจงใครด้วยเช่นกัน
ภพธรมองดูเธอออกไปแล้ว จึงถอน หายใจออกมา และขณะที่เตรียมจะหยิบ ถ้วยกาแฟ นมานั้น ญาณินีก็เอ่ยขึ้นมา เสียก่อน คุณกลายเป็นคนของจิดาภาเร็ว ขนาดนี้เลยหรือ?”
บรรยากาศในออฟฟิศนั้นแตกต่างไปจาก
เดิม
และแววตาของญาณินีก็ปรากฏให้เห็น ถึงอารมณ์โกรธเพิ่มเข้ามา เพียงแค่ไม่กี่ วัน คุณก็ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาของคุณ แล้วหรือ?” ภพธรสายหน้า ยืดตัวขึ้นแล้วมองไปยัง ญาณินี “เรื่องนี้มันจะเลอะเทอะกันไปใหญ่ แล้ว จิดาภาไม่ได้อาศัยข่าวลือพวกนี้เพื่อ สร้างกระแสให้ตัวเองขึ้นไปอยู่ในตำแหน่ง ที่สูงขึ้น ที่เธอเลือกโอเล นั้นก็เป็นเพราะ ชื่อเสียงและคำร่ำลือของโอเล”
สีหน้าของญาณินีเปลี่ยนไป
แล้วอีกอย่าง ในสัญญาจิดาภาก็ขอไว้ อย่างชัดเจน ว่าเธอมีสิทธิที่จะเลือกจะ ตัดสินใจเอง ซึ่งตอนนั้นคุณเองก็ ยินยอม
“เส้นทางของเธอก็เดินมาลำบากมาก พอแล้ว พวกเราล้วนแต่เป็นคนที่เดินใน เส้นทางเดียวกัน ทำไมจะต้องทําถึงขนาด นี้กัน?” ญาณินีซึ่งพอได้ยินคำพูดพวกนี้แล้วนั้น ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป สักพักหนึ่งเธอจึง เอ่ยขึ้น “ฉันรู้แล้ว ว่าคุณยืนอยู่ทางฝั่งจิดา กากลายเป็นคนของเธอไปแล้วสินะ”
“นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ว่าใครจะอยู่ฝั่งใคร พวก เราไม่ได้หวังจะให้ศิลปินเราไปได้ดีหรอก หรือ อยากให้โอเลดียิ่งๆขึ้นไม่ใช่หรือ?” ภพธรรู้สึกเอะใจ
หากว่ากันไปตามในระดับหนึ่งแล้วนั้น การกระทําของญาณินีในวันนี้ ได้ล้ำเส้น ของจิดาภาเกินไปแล้ว
และนี่จะเป็นรอยร้าว ที่จะทำให้เกิดความ ยุ่งยากขึ้นระหว่างพวกเธอทั้งสองคน
“หลายปีมานี้ คุณเองก็เปลี่ยนไปแล้ว เหมือนกัน ไม่ใช่หรือ?” ญาณินีเคาะโต๊ะอย่างกระวนกระวายใจ “ฉันนัดกับทางผู้จัดการรเมศไว้แล้ว ตอนนี้ จะไปยกเลิกได้อย่างไร?”
“เดี่ยวผมจัดการเอง” ภพธรไม่ยอมให้ ดาภาไปทําเรื่องนี้อย่างแน่นอน และก็ไม่ อยากให้ญาณินี้ต้องกลับไปกลับมาเช่นกัน มิเช่นนั้นคําพูดที่พูดออกไปแล้วจะส่งผลก ระทบต่อโอเลได้
สีหน้าของญาณินีดูโล่งใจขึ้นมาบ้างเล็ก น้อย เพียงแต่เห็นแววตาของภพธรที่ดูยัง คงมีความซับซ้อนฉายให้เห็นอยู่
“ตอนนี้ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าที่เซ็นสัญญา กับจิดาภา น คือคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่”
“ผมเชื่อในความสามารถของจิดาภา เพียงแค่คุณไม่ต้องไปควบคุมเธอ เธอจะ ทำให้โอเลก้าวหน้าได้แน่นอน” ภพธรลุก ขึ้นเพื่อจะเดินออกไป เขาไม่อยากจะพูด อะไรอีกแล้ว
มิเช่นนั้น เขาเองกไม่รู้เหมือนกันว่าตัว เองจะทําอะไรออกมาอีก
หลายปีมานี้ หลายๆอย่างก็เปลี่ยนแปลง ไปหมด หรือบางทีเขากับญาณินีเองก็อาจ จะไม่ใช่พวกเขาเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ขณะที่ภพธรเดินเข้ามายังโรงจอดรถนั้น ก็เห็นว่าจิดาภา าลังรอเขาอยู่ “ผมคุยกับ คุณญาณินีไปแล้ว เรื่องนี้ให้ผมไปจัดการ แก้ไขเองนะ คุณก็ตั้งใจทํางานของคุณ ไป
“ทําให้คุณสามากใจแล้ว”
“ไม่หรอกครับ เพราะถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ ขึ้นอีก ผมก็จะยังทำแบบนี้ การทำข้อ ตกลงก้นของศิลปินอาจจะทำให้บริษัท แย่ลงกว่าเดิม หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ใครก็คงคาดได้ไม่ได้หรอกครับ” ภพธรก้ม หน้าลง “นั่นไม่ใช่ทางที่คุณจะเดิน
“ขอบคุณที่คุณเข้าใจนะคะ” จิดาภารู้สึก โล่งใจ “ฉันคิดว่า โอเลจะไม่เหมือนบริษัท อื่นๆ ที่จะไม่บีบบังคับศิลปินให้ทำในเรื่อง สกปรกๆเสียอีก”
“ถ้าหากเป็นคุณ เค.เอฟก็คงจะไม่บีบ บังคับให้คุณทําเรื่องพวกนี้” ภพธรไม่ เข้าใจจิดาภา ที่เธอยังคงจะเลือกเส้นทาง ที่มีแต่ขวากหนามมากที่สุดในเส้นทางนี้
จิดาภายกยิ้มที่มุมปาก เหตุผลนี้ทำไม เธอจะไม่เข้าใจกัน
“ฉันตอนนี้ ยังมีคุณสมบัติไม่มากพอ ฉัน ยังขัดใจคุณญาณินีไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้มีข้อดี กับฉันซักเท่าไหร่นัก
“คุณวางใจได้ ผมจัดการเรื่องนี้ได้แน่ การรับมือกับศิลปินและสังกัดอื่นๆนั้นเป็น หน้าที่ของผู้จัดการส่วนตัวอย่างผมอยู่ แล้ว สิ่งที่คุณต้องทําก็คือแสดงออกมาให้ เพียงเท่านั้น”
จิดาภารู้สึกชื่นชมเขา “เรื่องที่ให้คุณ มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน ฉันต้อง ขอบคุณคุณญาณินีจริงๆนะคะ
ภพธรส่งยิ้มตอบกลับไป “กลับไปพัก ผ่อนเถอะครับ มีเวลาก็ดูข้อมูลของ บริษัทWMไว้บ้างนะครับ เดี๋ยวผมไป จัดการเรื่องทางคุณรเมศก่อน
หลังจากที่จิดาภาออกมาจากโอเลแล้ว นั้น มุ่งหน้าไปยังเค.เอฟ แล้วเธอก็กดต่อ สายหาจิรภาสด้วย “ยังอยู่ไหมคะ?” ต่อสายสักพักจึงติดต่อ เขาได้ เธอจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อน โยน
“คิดถึงผมขึ้นมานิดนึงแล้วล่ะสิ?”
จิตาภาเม้มปาก “คุณอยากจะบอกฉันว่า คุณยังอยู่นิดหน่อย หรือว่าต้องการจะ ถามฉันว่าฉันคิดถึงคุณรึเปล่ากันแน่คะ?”
“ไม่ยุ่งแล้วครับ คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไป
หา”
“อยู่ใต้ตึกเค.เอฟค่ะ” จิดาภาเงยหน้ามอง ขึ้นไปยังออฟฟิศของจิรภาส
“ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้เลย รอผมนะ
จิรภาสพูดเสร็จแล้วจึงกดวางสายไป แล้วเอ่ยพูดกับผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้าเขา “คุณรามิลครับ ถ้าเช่นนั้นก็ตามนี้นะครับ
“ไม่มีปัญหาครับ แหวนจะส่งให้คุณตาม กําหนดนัดอย่างแน่นอน ทั้งยังเป็น เอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลกด้วยครับ ความตั้งใจของคุณ จะถูกส่งต่อไปยังมือ ของเธออย่างไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน
โรกาสหันมาบอกกับตฤณ “ผมลงไปข้าง ล่างก่อน คุณอยู่ส่งคุณรามิลด้วยนะ”
“ครับ คุณจิรภาส”
จิรภาสรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ เขาไม่อยาก ให้จิดาภามารู้เรื่องเซอร์ไพรส์นี้เข้าเสีย ก่อน
เขาเห็นจิดาภานั่งอยู่ในร้านกาแฟที่น หนึ่ง อย่างสง่างามและดูสบายใจ พร้อม รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ แล้วเดินเข้าไปเอ่ยถาม “ผมขอนั่งตรงนี้ได้ ไหมครับ?”
“ได้อยู่แล้วค่ะ” จิดาภาพยักหน้ารับแล้ว ตอบรับไปเมื่อได้ยินเสียงอันแสนคุ้นเคย
ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน
“เร็ว ครับ ไหนว่าจะแวะเข้าบริษัทก่อน? เสร็จเร็วขนาดนี้เลยหรือ?” จิรภาสรู้สึกว่า อารมณ์ของเธอดูแตกต่างไปจากปกติ
จิดาภาดูเป็นทุกข์ และขณะที่เขากำลัง พิจารณาสํารวจอย่างละเอียดอยู่นั้น จิดา ภาก็ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกจิตตกของ ตัวเองได้เลย จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ในวันนี้ที่โอเลให้เขาฟัง “ฉันรู้สึกว่าจะไม่ ง่ายอย่างที่คิด การเผชิญหน้ากับเรื่องราว ของฉันกับคุณญาณินีเรามีทัศนคติที่แตก ต่างกันเกินไปค่ะ ทั้งยังไม่สามารถจะปรับ ความแตกต่างเหล่านั้นให้เข้าหากันได้อีก บวกกับเรื่องของการดีและจิรสุดาสองคน นั้นอีก ฉันกังวล…”
จิรภาสนั่งฟังอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้ แสดงความคิดเห็นใดๆออกมา เขาในตอน นี้เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่พร้อม รับฟังเรื่องราวในใจของภรรยาตัวเอง เพียงเท่านั้น
“ผมเชื่อในการเลือกและการตัดสินใจ ของคุณ
สิ่งที่เขาให้ได้นั่นก็คือการสนับสนุนและ การให้กำลังใจเธอได้อย่างไม่มีขีดจำกัดนี้
“สิ่งที่คุณไม่ได้ยินยอมที่จะนําเหล่านั้น คุณไม่ต้องทําก็ได้ โอเลเป็นเพียงฐาน เหยียบให้คุณเท่านั้น สุดท้ายแล้วเป้า หมายของคุณไม่ใชมันอยู่แล้ว “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณยังมีผมอยู่นะ”
“ไม่ต้องกังวล แล้วก็ไม่ต้องกลัวด้วย โอ เคไหมครับ?”
จิรภาสมองจิดาภาอย่างอ่อนโยน แววตา เต็มไปด้วยความรักและห่วงใย
“ฉันมีคุณอยู่ด้วย ฉันก็ไม่กลัวอะไรทั้ง นั้น เพียงแต่ฉันแค่รู้สึกว่าคนเรานั้นแปลก เสียจริงๆเลยนะคะ คุณญาณินีที่ฉันรู้จัก ในตอนแรกไม่ใช่แบบนี้ ตอนนั้นพวกเรา ยังยืนอยู่ในเส้นทางที่เป็นไปในทิศทาง เดียวกันอยู่เลย พอตอนนี้บทจะเปลี่ยน เปลี่ยนไปเสียอย่างนั้น” จิดาภายื่นมือออก มาจับมือจิรภาสไว้
จุดที่ยืนอยู่ไม่เหมือนกัน จะทำอะไรก็ คงมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว มีบาง ความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลง ได้ อย่างเช่น เธอเป็นประธานของโอเล และคุณก็เป็นศิลปินของโอเล
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” จิดาภาพยักหน้ารับ อย่างหนักแน่น
ต่อไปหากญาณินีนําเช่นนี้กับเธอ เธอ จะไม่ลังเลอีกแล้ว และจะไม่ทำให้ตัวเอง ต้องลําบากใจด้วย….ในเมื่อทุกๆคนต่าง ก็มีหลักการเป็นของตัวเอง เธอไม่อยาก ต้องฝืนตัวเอง