I Am A Prodigy ฉันนี่แหละอัจฉริยะ! - ตอนที่ 59
ในตอนบ่ายก็ถึงเวลาสำหรับการปีนเขาแบบถ่วงน้ำหนัก!
ปกติแล้วพวกเขาจะรู้สึกประหม่าและทำหน้ากังวล อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น ทุกคนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และความกระตือรือร้นที่จะเริ่มฝึกฝน
แม้แต่หลิงอ่าวก็เข้าร่วมด้วย
น้ำหนักบรรทุกเดิมอยู่ที่ 50 กก. แล้วใส่กระสอบทรายอีก 50 กก. ไว้บนหลัง
“น้ำหนัก 50 กก. ยังไม่หนักพอ ให้ฉันลอง 70 กก.!” เหย่หลิงเฉินเปล่งเสียงออกมาหลังจากได้ลอง
“ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็อยากได้อีก 20 กก. ด้วย!” อู๋หยู่ก็ร้องขอทันที
“ไร้สาระ! การฝึกต้องตรงกับสภาพปัจจุบันของคุณ คุณจะเปรียบเทียบตัวเองกับผมได้อย่างไร” เหย่หลิงเฉินกล่าว
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้ในขณะนั้น แต่ชื่อเสียงของเขาในกองทหารก็น่าประหลาดใจ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธคำพูดของเขา
อู๋หยู่เกาหัวด้วยความเขินอาย “ตอนนี้ฉันไม่ใช่คู่ของนาย แต่นายจะเป็นเป้าหมายของฉัน ฉันยังเป็นคนที่ตั้งเป้าที่จะเป็นราชาของนักศิลปะการต่อสู้!”
“เริ่มกันเลย!”
พวกเขาโค้งหลังและเริ่มไต่เขา
แม้จะแบกรับภาระอันหนักอึ้ง พวกเขาไม่ได้แสดงความไม่พอใจแม้แต่น้อย แต่พวกเขาเดินตามเหย่หลิงเฉินไปทีละขั้นด้วยสายตาที่แน่วแน่!
ฟางฮงมองไปที่ด้านหลังของกลุ่ม ดวงตาของเขาพร่ามัว จากคนกลุ่มนี้ เขาพบว่าคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของนักศิลปะการต่อสู้คือแพชชั่น!
ในชั่วพริบตา การฝึกฝนครึ่งเดือนก็สิ้นสุดลง
หลังจากอำลากลุ่มแล้ว หลิงอ่าวก็ส่งเหย่หลิงเฉินกลับไปยังมหาวิทยาลัย
เหย่หลิงเฉินไม่ได้ยกเวทออกจากแขนขาของเขาหลังจากการฝึกนานครึ่งเดือน แต่เขาเพิ่มอีก 5 กก. ให้กับแขนขาแต่ละข้าง
เมื่อเหย่หลิงเฉินเปิดประตูหอพัก เพื่อนร่วมห้องของเขาดูเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน พวกเขากรีดร้องอย่างมีความสุขในทันที
“ไอ้เ*ยเหย่! ในที่สุดนายก็กลับมาแล้วเพื่อน!”
“นี่ฉันไม่ได้เจอนายมาครึ่งเดือนได้แล้วมั้งเนี่ย นายดูเข้มขึ้น ดูผอมลงด้วยเว้ย! คิดถึงจริง ๆ เพื่อน!”
“เป็นยังไงบ้าง? การฝึกที่สมาคมนักรบนั่น?”
เหย่หลิงเฉินยิ้ม “ฉันสบายดี แล้วพวกนายล่ะ? การฝึกเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ชั้นเรียนของเราติดอันดับที่หนึ่งในมหาวิทยาลัยสำหรับการฝึกการต่อสู้ แม้แต่หน่วยงานของมหาวิทยาลัยก็ยังยกย่องเราต่อหน้าทุกคน!” เซียงหัวเราะ “อาจารย์คนใหม่เก่งกว่าซุนเฉาเป็นร้อยเท่า!”
เหย่หลิงเฉินพยักหน้า “ก่อนหน้านี้พวกนายดูอะไรอยู่เหรอ ทำไมดูตั้งใจจัง?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนั้น ทั้งสามคนได้เผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นที่แปลกประหลาดและไม่อาจบรรยายได้บนใบหน้าของพวกเขา
“เหย่ เราพบบางสิ่งที่เหลือเชื่อ! ตอนฝึกอยู่ที่นั่นนายอาจจะไม่มีอินเทอร์เน็ต นี่มันบ้าไปแล้ว ดูนี่สิ!”
ใบหน้าของเกิ้งแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น “มาดูนี่เร็ว!!”
ต้องบอกว่าเขาคลิกวิดีโอบนคอมพิวเตอร์
วิดีโอมีคุณภาพสูง แสดงให้เห็นชายคนหนึ่งเผชิญหน้ากับหมาป่า น่าเสียดายที่ชายผู้นั้นสวมหน้ากากมันจึงบดบังใบหน้าจากทัศนวิสัยที่ชัดเจน
“วิดีโอนี้เป็นทีเซอร์ที่อัปโหลดโดยซีรีส์ Legend of the Heroine ขณะถ่ายทำพวกเขาเข้าไปถ่ายทำในป่าแล้วเจอกับหมาป่าเข้า! โชคดีที่มีนักแสดงคนหนึ่งก้าวออกมาและช่วยเหลือทุกคนในกองให้พ้นจากอันตราย!”
ตาของโปเตโต้เป็นประกาย “ลองนึกภาพสถานการณ์ในที่เกิดเหตุสิ มันจะต้องตื่นเต้นและน่ากลัวมากแน่ ๆ!”
“ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้… ชายคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้!” เซียงอุทาน “แน่ ๆ เลย!”
เหย่หลิงเฉินนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และเข้าไปที่ Weibo
*Weibo = Social Media ของจีน
ข่าวดังกล่าวเผยแพร่เมื่อสามวันก่อน แต่ยังคงเป็นข่าวเด่นของ Weibo เป็นเวลาสามวันติดต่อกันโดยไม่ถูกแทนที่
มีความคิดเห็นมากกว่า 100,000 รายการ!
[ฉันจบปริญญาเอกด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ฉันขอใช้ทั้งสมองทั้งหมดที่มีอยู่ของฉันเพื่อรับประกันว่าสิ่งนี้ไม่มีร่องรอยของการถูกโฟโต้ชอป!]
[ฉันจบปริญญาเอกทางชีววิทยา ตามขนาดของหมาป่าในภาพนั้น แม้ว่าจะไม่ใช่หมาป่าอัลฟ่า แต่ก็ใกล้เคียงพอ ความสามารถในการต่อสู้ของมันมีมากกว่าผู้ใหญ่ถึงสิบคน!]
[อ่า โลกนี้มีกังฟูของจริง! ทำไมเขาถึงปิดหน้าไว้นะ? แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สัมผัสที่หกของฉันบอกว่าเขาต้องหล่อแน่!!!]
[พวกคุณเห็นเสี่ยวเฟยเฟยไหม? เธอควรจะอยู่ใกล้ในช่วงเวลานั้น ฮีโร่ช่วยหญิงสาวตกทุกข์ จากหน้าตาของเธอ ฉันบอกได้เลยว่าเธออาจจะตกหลุมรักได้…]
…
**ขโมยมาจาก ThaiNovel / My Novel **
อ่านเรื่องนี้ที่ www.thai-novel.com หรือ mynovel.co ด้วยนะคะ ผู้แปลจะได้มีกำลังใจแปลต่อ ขอบคุณค่ะ
FB : June6 Translate นิยายแปลไทย
ศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งที่ทุกคนหลงใหลอย่างลึกซึ้งซึ่งมีอยู่ในจินตนาการของพวกเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อมันถูกแสดงให้ทุกคนได้เห็น มันทำให้เกิดความโกลาหลอย่างคาดไม่ถึง
แน่นอน นอกจากความคิดเห็นเหล่านั้นแล้ว ยังมีผู้โพสต์ความคิดเห็นขยะ ๆ อีกมากมาย
[ของปลอมอยู่แล้ว ความแข็งแกร่งของหมาป่า แรงกัด และความคล่องแคล่วไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สามารถเปรียบเทียบได้!]
[นี่ก็แค่ของปลอมที่ทำมาเพื่อโปรโมทซีรีส์เท่านั้น ไร้ยางอาย!]
[มีแต่พวกปัญญาอ่อนเท่านั้นที่จะเชื่อสิ่งนี้ กังฟูเหรอ? ฉันคิดว่าพวกเขาอ่านนิยายมากเกินไปแล้วแหละ!]
…
“พวกนี้มันไม่สนใจโลกเอาซะเล้ย ทำไมกังฟูถึงจะไม่มีอยู่จริง? เหย่อยู่ที่นี่ทั้งคน!”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนโปเตโต้คงไม่เชื่อง่าย ๆ ขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ของเหย่หลิงเฉินระหว่างการฝึก เขาไม่สงสัยเกี่ยวกับการมีอยู่ของกังฟูอีกต่อไป
เกิ้งกับเซียงต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
“เหย่ นายบอกได้ไหมว่าคนในวิดีโอนั้นใช้กังฟูประเภทไหน เขาเทียบชั้นฝีมือกับนายได้ไหม” เกิ้งถามด้วยความอยากรู้
เหย่หลิงเฉินส่ายหัวและตอบง่าย ๆ ว่า “ฉันไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น จะเปรียบเทียบกับเขาได้อย่างไร”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้น” เกิ้งพยักหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้อยู่ห่างไกลจากมนุษย์ทั่วไปมากเกินไป อีกทั้งเขายังไม่เข้าใจว่าซุนเหว่ยแข็งแกร่งเพียงใด เกิ้งไม่สามารถระบุความแข็งแกร่งของเหย่หลิงเฉินอย่างเป็นกลางได้
“เวลา 20.30 น. Legend of the Heroine ตอนที่สามกำลังจะมาแล้ว!”
ใบหน้าของเซียงเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ฉันได้ยินมาว่าตอนที่สามคือการปรากฏตัวครั้งแรกของชายสวมหน้ากากที่ต่อสู้กับหมาป่าด้วยมือเปล่า!”
เหย่หลิงเฉินมองดูทั้งสามคนที่ตื่นตกใจและลูบจมูกของเขา
โชคดีที่เขาซ่อนใบหน้าไว้ระหว่างการถ่ายทำ ไม่เช่นนั้นชีวิตประจำวันของเขาจะ ‘ถูกจับตามองและน่าสนใจ‘ มากขึ้นเป็นแน่
ในขณะนั้นเอง ผู้ชมนับไม่ถ้วนจากทั่วประเทศต่างนั่งรออยู่หน้าทีวี
ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาเริ่มทวีคูณมากขึ้น พวกเขาอยากจะรู้มากขึ้นเกี่ยวกับชายสวมหน้ากาก
ผ่านไปครึ่งทางของตอนที่สาม เสี่ยวเฟยเฟยตกลงมาจากหน้าผา ชายสวมหน้ากากวิ่งไปตามกำแพงหน้าผาและบินไปช่วยชีวิตเธอ
ที่เดิมเป็นเนินดินเล็ก ๆ กลายเป็นหน้าผาสูงตระหง่าน เนื่องจากเหย่หลิงเฉินไม่ได้ใช้อุปกรณ์ใด ๆ ในการถ่ายทำฉากจึงดูสมจริงมากขึ้น วิ่งบนกำแพง ล่องลอยไปในอากาศ ฉากนั้นทำให้ผู้ชมจำนวนมากตกตะลึง
“การเคลื่อนไหวนั้นช่างราบรื่นและต่อเนื่องกันอย่างไร้ที่ติ เขาต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างแน่นอน!”
“กรี๊ดด หล่อมาก! ฉันทนไม่ไหวแล้ว ต่อจากนี้ไปฉันตัดสินใจที่จะเป็นแฟนตัวยงของเขา!”
“ฉันอยากเห็นหน้าเขาจัง! มีใครมีสปอยล์บ้างมั้ย? เขาเปิดเผยใบหน้าของเขาในตอนท้ายปะอะ?
…
“ฉันว่ามีบางอย่างแปลก ๆ… ฉันเปิดซีรีส์เพื่อตั้งใจจะมาดูเสี่ยวเฟยเฟย แต่ทำไมฉันถึงต้องจ้องมองชายสวมหน้ากากคนนั้นด้วยนะ ทำไมมมม?”
“อ๊า ฉันล่ะเสียอาการให้กับเขาเข้าเต็ม ๆ! ชายสวมหน้ากากคนนั้นน่ะ ><” “วอดเดอะะ นี่เขาอยู่ในฉากเดียวกันกับเสี่ยวเฟยเฟยนะ แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเสี่ยวเฟยเฟยโดนเบลอไปและฉากนั้นกลับเน้นไปที่เขาแทนล่ะ” “ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะมีหน้ากากปิดอยู่ แต่ร่างกายของเขากลับดูน่าหลงใหล!” “นี่ช่างกล้องมีปัญหาเหรอ? หรือมีอะไรผิดปกติกับตาของฉัน?” … การค้นหายอดนิยมที่ชื่อ “ชายสวมหน้ากาก” ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วบน Weibo [บ้าจริง ฉันคงไม่ใช่คนเดียวสินะที่โดนตก อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็สบายใจละ ฉันรักเขา กรี๊ดดด!] [นี่มันเกินไปแล้ว ชายสวมหน้ากาก! ขนาดเขาปิดบังใบหน้าของเขาเอาไว้แต่ยังแสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน ช่างน่าประหลาดใจ!] [เขาจะต้องกลายมาเป็นนักแสดงที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน! ทักษะการแสดงของเขา การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งของเขามันให้ความรู้สึกกลมกลืนกับตัวละครในละครทีวีอย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญเขายังสามารถขโมยสปอตไลท์จากเสี่ยวเฟยเฟยได้อีกด้วย!] ในเวลาเดียวกัน ผู้กำกับหลี่ไท่อยู่ที่สถานีโทรทัศน์รอผลการวัดผลผู้ชมอย่างใจจดใจจ่อ… …