I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 1 – สาวน่ารักอันดับสองในชั้นเรียนของผม
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 1 – สาวน่ารักอันดับสองในชั้นเรียนของผม
บทที่ 1 – สาวน่ารักอันดับสองในชั้นเรียนของผม
บางครั้งผมก็สงสัยนะว่าอะไรกันแน่ที่จะทำให้ “เพื่อน” ถึงจะสามารถเรียกว่าเป็น「เพื่อน」ที่แท้จริงได้
คนสองคนที่เรียนอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน แล้วก็ได้พูดคุยกันบ่อยๆจะสามารถถูกเรียกว่าเพื่อนได้หรือไม่?
หรืออาจจะเป็นสองคนที่ไปโรงอาหารของโรงเรียนด้วยกันและทานข้าวกลางวันด้วยกันบ่อยๆ…
คำตอบคือ ไม่ …ใช่ไหมล่ะ? นั่นเขาเรียกกันว่าเป็น「เพื่อนร่วมชั้น」กันไม่ใช่หรือยังไง? ถึงแม้ผมจะยังเป็นนักเรียนอยู่ แต่มันคงไม่เกินเลยไป ถ้าผมจะบอกว่ากรณีเหล่านี้น่ะมันไม่แตกต่างจากการพูดคุยหรือรับประทานอาหารกลางวันกับ「เพื่อนร่วมงาน」ของคุณในที่ทำงานสักหน่อย
กับเพื่อนร่วมงานน่ะ คุณอาจเรียกพวกเขาว่า「คนรู้จัก」แต่คุณจะไม่สามารถเรียกพวกเขาว่า 「เพื่อน」หรือ「คู่หู」ได้หรอกนะ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าคุณต้องมีความสัมพันธ์ในเรื่องส่วนตัวกับใครสักคนในระดับหนึ่งก่อน จึงจะสามารถเรียกพวกเขาว่า「เพื่อน」ได้
เช่น ไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งนึงหลังเลิกเรียนด้วยกัน หรือ วางแผนที่จะไปพบปะสังสรรค์กันในช่วงวันหยุด
หลังจากสามารถข้ามเส้นนั้นไปแล้ว「คนรู้จัก」ถึงจะกลายเป็น「เพื่อน」ได้
และด้วยความคิดแบบนี้ จำนวนคนที่ผม「มาเอะฮาระ มากิ」จะเรียกว่าเป็น「เพื่อน」หรือ「คู่หู」ได้นั้นแทบจะเป็นศูนย์
ก็นะ ให้คิดซะว่าผมเป็นคนประเภทที่คิดเล็กคิดน้อยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ก็ได้… ตั้งแต่สมัยผมยังเรียนอยู่ชั้นประถมจนถึงตอนนี้ ตอนที่ผมอยู่ม.ปลาย ผมจะกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียนและจะใช้เวลาในวันหยุดเล่นเกมอยู่บ้าน เว้นแต่จะมีอย่างอื่นที่ผมจำเป็นต้องทำ
และแน่นอน กฎข้อนี้ก็สามารถใช้กับเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งอยู่ข้างๆผมได้ด้วย
“อรุณสวัสดิ์ มาเอะฮาระคุง”
“อืม อรุณสวัสดิ์ โอยามะคุง”
ผมมีเพื่อนร่วมชั้นที่จะพูดกับผมแบบนี้ เพื่อนที่นั่งข้างๆผมนั่นเอง「โอยามะคุง」เรามักจะพูดคุยกันแบบนี้บ่อยๆ เพราะงานอดิเรกของเราเข้ากันได้ แต่ว่าโอยามะคุงมีเพื่อนสมัยม.ต้น ที่ทานอาหารกลางวันด้วยกันเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงไม่ได้ไปทานอาหารกลางวันด้วยกันเลยตอนพักกลางวัน
ที่จริงแล้ว โอยามะคุงก็เคยชวนไปกินข้าวด้วยกันอยู่ครั้งหรือสองครั้งก่อนหน้านี้ แต่อย่างที่คุณเห็น ผมไม่ใช่คนที่เข้าสังคมเก่ง มันกลายเป็นว่าผมไปสร้างบรรยากาศอึดอัดให้กับทุกคนแทน ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เลยชอบกินข้าวกลางวันคนเดียวเป็นส่วนใหญ่
ถึงเราจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เรายังคงเรียกกันด้วยนามสกุลและยังเติมคำว่า ‘- คุง ‘ ต่อท้าย คงทำให้เห็นภาพความสัมพันธ์ของเราแบบคร่าวๆได้ละนะ
“เฮ้อ~…เหนื่อยชะมัด…ผมอยากให้วันเสาร์มาถึงไวๆจัง…นายคิดเหมือนกันใช่ไหม มาเอะฮาระคุง?”
“นายทำท่าทางแบบนี้มาทั้งสัปดาห์แล้วนะ…แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับนายหรอกนะ”
ผมตอบกลับไปอย่างนั้น แต่ความจริงผมก็ไม่ได้มีแผนทำอะไรพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่แล้ว ในวันธรรมดา ผมก็มาโรงเรียน และกลับบ้านทันทีหลังจากเลิกเรียน หลังจากนั้น ผมก็จะเล่นเกม หรืออ่านการ์ตูนจนกว่าจะนอน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมก็แค่ลบส่วนที่เกี่ยวกับ ‘โรงเรียน’ ทั้งหมดออกไป นั่นแหละคือวิถีการดำเนินชีวิตของผม และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ผมไม่เคยที่จะตั้งตารอวันหยุดสุดสัปดาห์
…ก็เคยคิดแบบนั้นล่ะนะ…
“อรุณสวัสดิ์ทุกคน! ทุกคนถึงจะเหนื่อยในวันจันทร์หลังวันหยุด แต่สัปดาห์นี้เรามาทำให้ดีที่สุดด้วยกันเถอะ~!”
ขณะที่ทุกคนค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องเรียนทีละคนๆ ก็มีเสียงสุดแสนสดใสดังก้องไปทั่วห้องเรียน
“อะ-อรุณสวัสดิ์ อามามิซัง”
“รุณหวัด อามามิ”
“อามามิน อรุณสวัสดิ์ ~”
ทันทีที่เธอเดินเข้าไปในห้องเรียน บรรยากาศที่เคยเงียบสงบในห้องเรียนก็เปลี่ยนไปและสดใสขึ้นทันตาเห็น
“อืมม! ทุกคน อรุณสวัสดิ์! เอะเฮะเฮะ~”
ชื่อของสาวน้อย ผู้พัดพาบรรยากาศอันเงียบสงบของชั้นเรียนให้หายไปด้วยรอยยิ้มของเธอก็คือ「อามามิ ยู」
ดูเหมือนว่าคุณยายของเธอจะเป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นเธอจึงมีสายเลือดของชาวต่างชาติอยู่ 1/4 แต่ดูเหมือนว่าสายเลือดต่างชาติของเธอดูจะเข้มข้นกว่า ในขณะที่ใบหน้าของเธอดูเหมือนชาวญี่ปุ่น แต่ผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้าของเธอ ทำให้เธอดูเหมือนหลุดออกมาจากอนิเมะ หรือ มังงะ
“ร่าเริงเหมือนเดิมเลยนะ อันดับหนึ่งของเรา…”
“…เห็นด้วย…”
อย่างที่โอยามะคุงพูด อามามิถูกเรียกว่า「สาวน่ารักที่สุดในชั้นเรียน」โดยพวกเด็กผู้ชายในห้อง แต่เอาจริงๆ ในกรณีของอามามิ เธอสามารถเป็นที่หนึ่งหรือสองในโรงเรียนได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ
ทั้งรูปร่างหน้าตาและบุคลิกของเธอที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ— นั่นเป็นเหตุผลที่มีคนมากมายอยู่รอบตัวเธออยู่เสมอ
“ยู มันยังเช้าอยู่เลยนะ ถึงมันจะดีตรงที่เธอเต็มไปด้วยความร่าเริง แต่ช่วยลดเสียงลงหน่อยเถอะ มันสร้างความรำคาญให้กับห้องอื่นนะรู้ไหม?”
“อรุณสวัสดิ์ อุมิ! วันนี้เป็นเช้าที่ดีนะ”
“ใช่จ้า ใช่จ้า อรุณสวัสดิ์ แต่ว่านะ เธอทักฉันวันนี้เป็นครั้งที่สามแล้วนะ”
“เอ๋~ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย อุมิเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันนะ~”
“ถึงจะเป็นเพื่อนสนิท แต่ตอนเช้าก็ทักกันครั้งเดียวก็พอแล้ว!”
“มู~~ อุมิ เย็นชาจังเลยน้า~~”
มีสาวๆมากมายรายล้อมอามามิซัง แต่ในหมู่พวกเธอมีเด็กสาวที่สนทนาอย่างเป็นกันเองกับอามามิซัง และมีบรรยากาศที่คูลจนดึงดูดสายตาของผม
เธอชื่อ「อะสะนางิ อุมิ」หรือที่รู้จักในชื่อ「สาวน่ารักอันดับสองในชั้นเรียน」
“เอาล่ะ ทุกคน โฮมรูมกำลังจะเริ่มแล้ว! รีบนั่งที่ให้เรียบร้อย! โดยเฉพาะอามามิซัง ที่นั่งของคุณไม่ได้อยู่ตรงนั่นใช่ไหม”
เสียงกริ่งดังขึ้น เมื่อครูประจำชั้นของเราเข้ามาในห้องเรียน นี่เป็นสัญญาณให้ทั้งชั้นกลับไปนั่งที่
“อุเอะ~~ อุมิ~!”
“จ้า จ้า เดี่ยวจะโอ๋ให้ทีหลังนะ ตกลงไหม? แต่ตอนนี้กลับไปนั่งที่ได้แล้ว ยูจัง”
“ฉันเป็นหมาหรอ~!”
เมื่อเห็นอะสะนางิซังแกล้งอามามิซังแบบนั้น ทุกคนก็พากันหัวเราะ นี่เป็นฉากปกติในยามเช้าที่เกิดขึ้นทุกวันในชั้นเรียนของเรา
“โอเค จะเช็คชื่อแล้วนะ… อันดับหนึ่ง อะสะนางิซัง”
“มาค่ะ”
“อันดับสอง อามามิซัง”
“มาค่ะ!”
อามามิซังยังคงอยู่ระหว่างเดินไปที่ที่นั่งของเธอ ใน ขณะที่เธอยกมือขึ้นอย่างร่าเริงเมื่อชื่อของเธอถูกเรียก
ในขณะที่สายตาของเกือบทุกคนในชั้นเรียนจับจ้องมาที่อามามิซัง ที่เปรียบเหมือนเป็นมาสคอตประจำห้องห้อง แต่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เพ่งความสนใจไปที่อย่างอื่น
「อรุณสวัสดิ์」
「…อืม」
ขณะที่ทั้งชั้นเรียนกำลังจดจ่ออยู่กับอามามิซัง
อะสะนางิซัง ก็หันมามองที่ผม ซึ่งนั่งห่างจากที่นั่งของเธอเล็กน้อย และแอบโบกมือทักทายผม
“อ๊ะ? อะสะนางิซังพึ่งมองมาทางนี้เหรอ?”
“…นายคิดไปเองแหละ”
ขณะที่หลอกโอยามะคุง ผมก็แอบเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
(อะสะนางิซัง) : เฮ้ มาเอะฮาระ วันศุกร์นี้ฉันไปที่นั่นตอนหลังเลิกเรียนได้ไหม
ถ้าจะให้ผมพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ไม่ว่าเราจะเป็น「เพื่อนร่วมชั้น」หรือ「เพื่อน」ตามมาตรฐานที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้…
「อะสะนางิ อุมิ」
เธอคือ「สาวน่ารักอันดับสองในชั้นเรียน」และยังเป็น「เพื่อน」คนแรกของผมอีกด้วย
———————————————————————————————————
TL: แปลเรื่องแรกครับ ผิดพลาดตรงไหนแจ้งมาได้เลยนะครับ จะพยายามจะแปลลงทุกวัน ให้ได้วันละ 1 ตอน