I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 10 – ความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกจำกัด
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 10 – ความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกจำกัด
บทที่ 10 – ความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกจำกัด
ช่วงหลังๆมานี้ จำนวนครั้งที่ผมเจอกับอาซานางิเพิ่มขึ้น เรายังคงมาเจอกันแค่วันศุกร์วันเดียวเหมือนเดิม แต่จำนวนครั้งนั้นเพิ่มขึ้นจากเดือนละครั้งหรือสองครั้ง เป็นเดือนละสองครั้งหรือสามครั้ง
เรายังคงเจอกันที่โรงเรียน (แม้ว่าจะไม่ได้คุยกัน) แต่ก็ยังเสียเวลาสุดสัปดาห์ไปกับเรื่องยุ่งๆด้วยกัน ดังนั้นผมจึงกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเราน้อยลงเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน
“อะไร? จ้องหน้าฉันทำไม? มีซอสทาบาสโกติดอยู่หรอ?”
“เปล่า แค่กำลังคิดว่าเธอทำไมเธอถึงสวยขนาดนี้ อาซานางิ”
“ห๊ะ!”
อาซานางิหันมามองผผมอย่างสงสัย
“อะไรกันละนั่น? ถึงนายจะพูดประจบประแจงฉัน แต่ยังไงนักเก็ตไก่มันก็ยังมีแค่สามชิ้นอยู่ดี ฉันไม่ยกชิ้นสุดท้ายให้หรอกนะ”
ผมสงสัยจริงๆทำไมพวกเขาถึงขายนักเก็ตเป็นเลขคี่กัน เช่น แพ็คละ 5 หรือ 7 ชิ้น ทำไมพวกเขาไม่ขายมันเป็นเลขคู่ ถ้าทำแบบนั้นพวกเขาไม่รู้รึไงว่ามันจะทำให้ทุกคนมีความสุข
เดี๋ยวก่อน! ผมไม่ได้จะพูดเรื่องนั้นสักหน่อย
“ไม่ได้พูดประจบสักหน่อย ผมพูดจริงนะ หน้าเรียวเล็ก ตัวก็สูง ถึงจะทะเล้นไปหน่อยแต่ก็ยังสวยมากอยู่ดี…ถึงจะไม่ถึงระดับอามามิซังก็เถอะนะ”
“นายสมควรพูดว่า ‘อาซานางิทั้งสวยทั้งน่ารักกว่าอามามิซัง’ นะ ถึงแม้นายจะเป็นคนซื่อขนาดไหน มันก็ต้องมีขอบเขตบ้างนะรู้ไหม”
“เห…งั้นเอาใหม่ อาซานางิเป็นผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในโลก…โอ้ย!”
อาซานางิขว้างขวดพลาสติกเปล่ามาโดนกลางหน้าผากผมอย่างแม่นยำ
“ช้าไปแล้ว เอาไปศูนย์คะแนน!!”
เพราะผมไม่รู้สึกประหม่าเวลาอยู่กับอาซานางิแล้ว ผมจึงสามารถหยอกล้อกับเธอแบบนี้ได้ ในช่วงแรกผมยังคอยเก็บห้องให้เรียบร้อยทุกครั้งที่เธอมา แต่ช่วงหลังๆมานี้ ผมเลิกที่จะทำแบบนั้นแล้ว และปล่อยให้ห้องของผมรกเหมือนปกติ แม้แต่ตอนนี้ ผมก็ยังสวมแค่เสื้อกันหนาวที่มักจะเอาไว้ใส่นอนตอนกลางคืน
อาซานางิยังอยู่ในชุดนักเรียน แต่ไม่ได้แต่งตัวเรียบร้อยเหมือนตอนที่เธออยู่ที่ แล้วก็…วันนี้เธอยังดูแย่กว่าปกติด้วย
ไม่ได้ผูกโบว์ของโรงเรียน…กระดุมสามเม็ดบนถูกปลดออก และผมยังมองเห็นผ้าที่ดูเหมือนจะเป็นชุดชั้นในของเธอได้ด้วย—
“มองอะไร ไอ้โรคจิต”
“…เธออาจจะไม่รู้ตัวว่าผมก็เป็นผู้ชายนะ มันเป็นไปตามสัญชาตญาณน่ะ”
“อืม ก็พอเข้าใจความรู้สึกของนายนะ ยังไงมันเกิดขึ้นบ่อยๆกับยู ผู้หญิงคนนั้นไม่ค่อยจะระวังตัวน่ะ”
อามามิซังอาจจะไม่รู้ตัวว่ามีคนชอบเธอมากขนาดไหน มีฉากอันตรายมากมายในขณะที่อยู่ที่โรงเรียน เช่น กระโปรงสั้นพริ้วๆของเธอโดนลมพัดจนเกือบจะเผยชุดชั้นในให้เห็นหลายครั้ง หรือเวลาที่เธอสวมชุดออกกำลังกาย เธอจะแสดงผิวสุขภาพดีของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจผ่านชายเสื้อหรือแขนเสื้อของเธอ ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น พวกนักเรียนชายจะมองเธอด้วยสายตาร้อนแรง และอาซานางิจะเป็นคนคอยดุเธออยู่เสมอ
“แล้ววันนี้เธอเลยอยากลองเลียนแบบอามามิซังหรือยังไง?”
“ใช่แล้ว แล้วอีกอย่างช่วงนี้มาเอะฮาระก็ดูแลฉันดีเป็นพิเศษด้วย ดังนั้นฉันคิดว่าฉันจะแกล้งนายสักหน่อย”
เข้าใจล่ะ ไม่แปลกใจเลยที่วันนี้เธอทำตัวแบบนี้
“ความแค้นในเกมควรเอาคืนในเกมนะ แม้ว่าสถิติของเธอจะชนะ 0 แพ้ 57 ก็ตาม”
“กฏของการต่อสู้คือการพาคู่ต่อสู้เข้าไปในสังเวียนที่เราถนัดไม่ใช่หรือไง? ไม่ต้องห่วงหรอก นายไม่รู้รึไงว่าสาวแกลผิวสีแทนที่มาทำเป็นใจดีกับพวกเวอร์จิ้น แล้วก็พากันไปทำเรื่องลามกน่ะ มันมีแต่ในหนัง DVD เท่านั้นแหละ”
“เฮ้ อะไรเนี่ย ทำไมเธอถึงรู้เรื่องพวกนั้นได้ล่ะ”
อาซานางิเป็นผู้หญิงที่สวยอย่างแน่นอน แต่เมื่อเธอทำตัวแบบนี้ บางครั้งเธอก็ทำให้ผมรู้สึกรำคาญนิดหน่อยเหมือนกัน
นั่นอาจเป็นสิ่งยืนยันว่าเราเข้ากันได้ดีในฐานะ「เพื่อน」
ดูเหมือนว่าเราสามารถพูดและเล่นมุกล้อเล่นกันแบบนี้ได้โดยไม่ต้องสนใจเรื่องเพศของเรา แต่ดูเหมือนว่าผมควรจะจัดห้องให้เรียบร้อยสักหน่อยแล้ว
เพราะผมมีงานอดิเรกหนึ่งหรือสองอย่างที่ผมไม่ต้องการให้เพื่อนรู้
“เอาล่ะ ลืมเรื่อง DVD ไปก่อนเถอะ”
“งั้นเธอช่วยลืมมันไปตลอดชีวิตเลยนะ…แล้วมีอะไรล่ะ”
“ฉันว่าจะวางแผนของสัปดาห์หน้าน่ะ แต่การคุยกันผ่านข้อความมันยุ่งยาก ดังนั้นเลยกะว่าจะวางแผนกันตอนนี้เลยได้ไหม?”
“แน่นอน ได้สิ แต่…ฉันรู้สึกเหมือนว่าเราช่วงนี้เราเจอกันทุกสัปดาห์เลยนะ เธอโอเคใช่ไหม?”
“อะไรนะ หรือคิดว่าชนะแล้วจะหนีได้งั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว เธอเข้าใจใช่ไหม ผมหมายถึง…แล้วอามามิซังล่ะ?”
ได้เล่นกับอาซานางิแบบนี้ก็สนุกดี และถ้ามีเวลามากขึ้นก็ไม่ใช่ปัญหาเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอใช้เวลากับผมมากขึ้นนั่นก็หมายความว่าเธอได้ใช้เวลากับอามามิซังน้อยลง
แม้ฉากที่อาซานางิปฏิเสธการออกไปเที่ยวกับอามามิซังจะเป็นฉากที่เห็นได้บ่อยๆตอนหลังเลิกเรียน แต่อามามิซังก็จะแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยเหมือนกับลูกสุนัขที่ถูกเจ้าของดุทุกครั้งไป
อามามิซังคงจะชอบอาซานางิมากจริงๆ ผมได้แต่จินตนาการว่า ถ้าคุณชอบใครซักคนมากๆ คุณคงอยากจะได้อยู่กับคนๆนั้นตลอดเวลา
เมื่อถูกอาซานางิถามเกี่ยวกับการเจอกันครั้งต่อไป ผมรู้สึกมีความสุขมากจริงๆ แต่ในอีกมุมหนึ่ง การที่ผมมีความสุขมากขึ้น มันก็จะทำให้อามามิซังเศร้ามากขึ้นเช่นกัน
พอผมคิดแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด
“อืม~ ฉันรู้สึกว่ามาเอะฮาระคงกำลังคิดอะไรบ้าๆบอๆอยู่แน่ๆ แต่…ถ้าอย่างนั้น อาทิตย์ขอฉันคุยกับยูก่อนแล้วค่อยมาตัดสินใจกันอีกทีก็แล้วกัน อ๊ะ…แต่ฉันขอจองที่นี้ไว้ก่อนได้ไหม?”
“บ้านผมมันก็ว่างอยู่ตลอดนั่นแหละ แต่ว่านะ…ขอคิดค่ามัดจำไว้ก่อนได้ไหม?”
“อืม~…ถ้าอย่างนั้น…สำหรับค่ามัดจำ…ฉันจะให้นายดู…”
อาซานางิพยายามปลดกระดุมเสื้อของเธออีกครั้ง จนผมต้องพยายามหยุดเธออย่างสุดความสามารถ
ตลกชะมัด เธอพูดขณะหัวเราะเยาะผม…ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือผู้หญิงคนเดียวกับคนทที่ได้รับคำสารภาพรักถึง 5 ครั้งครึ่งปี
ปิ๊ปๆๆๆๆๆ
“หืม มาเอะฮาระ เสียงนาฬิกาปลุกนายดังอยู่น่ะ”
“นาฬิกาปลุก? เสียงริงโทน เสียงเรียกเข้า นี่เธอเข้าใจว่าเสียงโทรศัพท์ผมเป็นเสียงนาฬิกาปลุกงั้นเหรอ?”
หน้าจอแสดงชื่อ「มาเอะฮาระ มาซากิ」สายเรียกเข้าจากแม่ของผมเอง ผมลุกจากที่นั่งโดยไม่สนใจเสียงของอาซานางิที่พูดว่า ‘อะไรนะ นั่นโทรศัพท์ของนายงั้นเหรอ?’
“ฮัลโหลแม่? เกิดอะไรขึ้น…อืม…เอ๊ะ? อ๊ะ อา…อืม เข้าใจแล้วครับ งั้นขอให้โชคดีกับงานนะครับ”
สอง สามนาทีผ่านไป ผมวางสาย ก่อนจะกลับไปที่ห้องนั่งเล่นที่อาซานางิรออยู่
“คุณแม่โทรมาเหรอ แปลกจัง ไม่เคยเห็นเลยนะ”
“ก็ใช่…แต่ก่อนหน้านั้น อาซานางิขอโทษที่..แต่ผมมีเรื่องต้องบอกเธอ”
“เอ๋?”
ผมเล่าเรื่องที่บอกกับผมเมื่อสักครู่ให้อาซานางิฟัง
“-ขอโทษนะ แต่ดูเหมือนสัปดาห์หน้าเราจะใช้บ้านไม่ได้น่ะ”
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. วันนี้กลับไวครับ ตอนแรกผมกะแปลให้เสร็จ 2 ตอนละค่อยลงทีเดียวเลย แต่สุดท้ายตอนสองน่าจะช้าหน่อย ก็เลยตัดสินใจเอามาลงก่อนครับ
ปล2. อีกตอนหน้าจะลงได้ตอนดึกๆครับ
ปล3. ยังไม่ได้เช็คคำผิด กับสำนวน เดี่ยวเอาไว้ตอนลงอีกตอนแล้วจะมารีเช็คอีกทีครับ