I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 11 – ออกไปข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกัน
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 11 – ออกไปข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกัน
ตอนที่ 11 – ออกไปข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกัน
ปัจจุบันแม่ของผมทำงานเป็นบรรณาธิการที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง แม้ว่าบริษัทจะเล็ก แต่เธอก็ต้องทำงานอย่างหนักทุกวันเพื่อหารายได้สำหรับค่าครองชีพและค่าเล่าเรียนของผม
และด้วยลักษณะของงาน แม่ของผมจึงยุ่งมากเป็นพิเศษ
เธอจะออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่และกลับบ้านดึกทุกวัน แม้แต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์…เธอก็ยังต้องทำงานล่วงเวลาที่บริษัทเป็นประจำ แต่ในครั้งนี้ เธอต้องกลับมาทำงานที่บ้าน เนื่องจากไม่สามารถใช้พื้นที่สำนักงานที่บริษัทได้เนื่องจากมีเหตุจำเป็นบางอย่าง
แต่ว่า…แม้เธอจะได้อยู่ที่บ้าน แต่เธอก็ยังต้องทำงาน ดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลามาทำอาหารเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นในส่วนอาหารการกินจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันหยุดปกติ แต่อย่างไรก็ตาม…ผมคงไม่สามารถพาอาซานางิมาเที่ยวเล่นที่บ้านได้ในตอนที่แม่อยู่บ้าน
สำหรับผม อาซานางิเป็นเพียง「เพื่อน」แต่สำหรับคนอื่น พวกเขาอาจจะเข้าใจผิดได้ ดังนั้นแล้วผมจึงเก็บเรื่องระหว่างผมกับอาซานางิเป็นความลับไม่ให้แม่รู้ แล้วถ้าเกิดถูกเธอจับได้มันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“…เข้าใจแล้ว ดูเหมือนอาทิตย์หน้าจะมาใช้ที่นี่ไม่ได้สินะ”
“ถูกต้อง…แต่สัปดาห์ต่อไปก็ใช้ได้ตามปกติแล้วล่ะ”
ผมรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ได้เล่นกับอาซานางิในอาทิตย์หน้า แต่ก็อย่างที่ผมเคยบอกไว้ ถ้าเป็นแบบนี้อาซานางิก็จะมีเวลาให้กับอามามิซังมากขึ้น
นอกจากนี้ ผมก็แค่ใช้เวลาอยู่คนเดียวในห้อง มันมีหลายวิธีที่จะใช้แก้เบื่อได้ ดังนั้น…มันจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“ช่วยไม่ได้หรอก มันเป็นงานของแม่นายนี่นา งั้นสัปดาห์หน้าก็ยกเลิกการแข่งไปก่อนแล้วกันนะ”
“ผมจะให้เวลาเธอฝึกสองสัปดาห์ จะไปหัดวิ่งหนีหรือหัดซ่อนตัวก็ได้ แต่ถ้าเธอไม่ระวังตัวเมื่อไหร่…โดนสอยร่วงแน่!”
ในช่วงนี้ ทักษะการเล่นเกมของอาซานางิพัฒนาขึ้นมาก ดังนั้นผมจะยอมแพ้ไม่ได้
“…นี่มัน เวลาขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย ฉันต้องรีบกลับบ้านก่อนแล้วล่ะ”
“อืม…ถ้าอย่างนั้น อีกสองสัปดาห์เจอกันนะ”
“เอ๊ะ? นายกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ? ถึงสัปดาห์หน้าจะมาบ้านนายไม่ได้ แต่แผนของเราก็ไม่เปลี่ยนซะหน่อย”
“เอ๋?”
อาซานางิกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ?
เพราะเราไม่สามารถใช้บ้านได้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเล่นด้วยกันได้เหมือนปกติ อาซานางิจึงมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ในสัปดาห์หน้า…แต่เธอกำลังคิดจะทำอะไร?
“อยู่บ้านไม่ได้ เราก็ไปเล่นข้างนอกได้นี่ ร่วมถึงไปกินข้าวข้างนอกด้วย”
“…ห๊ะ?”
เป็นอะไรที่…ผมคาดไม่ถึงจริงๆ…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
นั่นเป็นเหตุผลที่สัปดาห์ต่อมาผมยังคงมีนัดกับอาซานางิเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในแผนของเรา ทั้งผมและเธอตัดสินใจไปเที่ยวเล่นกันเหมือนปกติ
…แค่ย้ายออกมาเที่ยวเล่นนอกบ้าน
“มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง…?”
หลังเลิกเรียน ผมกลับบ้านไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง ก่อนจะมายืนรออยู่คนเดียวที่หน้าทางเข้าสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นย่านช็อปปิ้งใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้
เนื่องจากวันนี้เป็นเย็นวันศุกร์ ที่สถานีจึงแออัดไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ทั้งพนักงานออฟฟิศที่กำลังเดินทางกลับบ้าน ทั้งนักเรียนที่พึ่งกลับจากโรงเรียน และรวมถึงเหล่าแม่บ้านที่ออกมาช็อปปิ้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่นี่ในเวลานี้ตั้งแต่ย้ายมา…
ปกติผมจะมาที่นี่เดือนละครั้งเพื่อซื้อเกมและหนังสือ แต่ส่วนใหญ่ผมจะมาตอนช่วงเช้าที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก…นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากขนาดนี้
“…นายกำลังดูอะไรในมือถืออยู่น่ะ? แต่ว่านะ…ตอนแรกฉันก็คิดว่าจะหานายเจอได้ยังไงเพราะว่าคนที่นี่เยอะมาก! แต่มันกลับง่ายจนฉันอยากหัวเราะเลยล่ะ…นายเป็นเหมือนหยดน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำเลย”
“ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมได้…หวัดดี…อาซานางิ”
“หวัดดี”
เมื่อผมเงยหน้าขึ้น ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคืออาซานางิที่อยู่ในชุดลำลอง ถึงเธอจะบอกว่าต้องใช้เวลาเตรียมตัว แต่เธอก็ยังมาถึงก่อนเวลานัดห้านาที
แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้ อาซานางิก็ยังคงจริงจัง แต่ว่านะ…ผมเองก็เป็นคนจริงจังที่มารอตั้งแต่สิบห้านาทีที่แล้ว…
“ฉันหิวแล้ว ไปกินข้าวกันก่อนเถอะ”
“อืม ก็ดีนะ แต่ว่าร้านไหนดีล่ะ?”
“ฉันคิดไว้แล้ว ฉันพึ่งจะโทรไปเมื่อกี้…ร้านบอกที่นั่งยังว่างอยู่ ฉันอยากไปที่นั้นมานานแล้ว”
“มีงบแค่สองพันเยน น่าจะพอนะ”
“มันขึ้นอยู่กับท้องของเราต่างหากว่าเราจะกินเยอะขนาดไหน”
ผมกลัวว่าเงินจะไม่พอ จึงเอาเงินมามากกว่านั้น…แต่มันก็ไม่เสียหายที่จะประหยัดหากสามารถทำได้
วันนี้ผมจะปล่อยทุกอย่างให้อาซานางิเป็นคนจัดการ จริงๆแล้วเธอเป็นคนบอกเองว่าจะเป็นคนนำเอง เพราะต้องการขอบคุณผมที่ยอมให้เธอไปเที่ยวเล่นที่บ้านมาโดยตลอด
ถึงผมจะไม่ค่อยชอบสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านมากนัก แต่นานๆครั้งได้ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกบ้างก็รู้สึกไม่เลวเหมือนกัน
“ขอถามอะไรนิดนึงสิ อาซานางิ”
“หืม?”
“แน่ใจใช่ไหมที่จะไปในชุดแบบนั้นน่ะ”
ผมไม่ได้พูดถึงมันจนมาถึงตอนนี้ แต่ชุดของอาซานางินั้นแย่กว่าที่ผมคาดไว้มาก
เธอสวมหมวกแก็ปสีดำและเสื้อฮู้ดขนาดใหญ่เกินมาหนึ่งไซต์ ที่ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนส์ที่จับคู่กับรองเท้าผ้าใบราคาถูก
แม้จะดูสบาย แต่มันก็ดูเหมือนชุดที่เอาไว้ใส่ไปร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน
(TL: ไม่น่ารักตรงไหนเอาปากกามาวง)
ถึงจะดูคล้ายกัน แต่ผมก็เลือกชุดที่ดีที่สุดที่มี ผมไม่ได้แต่งตัวมานานมากแล้ว ผมจึงค่อนข้างกังวล ถึงจะน่าอายที่จะบอก…แต่ผมใช้เวลาเลือกชุดไปถึง 30 นาที
ในทางตรงกันข้าม ดูเหมือนอาซานางิจะไม่ต้องใช้เวลาตัดสินใจเลือกชุดนานมากนัก
“ปกติก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้หรอก แต่วันนี้เป็นกรณีที่พิเศษ…นายคิดดูสิ เราเป็นเพื่อนลับๆกันใช่ไหม เพื่อนในห้องคนอื่นๆไม่มีใครรู้ ดังนั้นเราต้องไม่ทำตัวเด่นนะเข้าใจไหม?”
ก็เข้าใจได้…แม้ตอนนี้ผมจะยังไม่เห็นเพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกัน แต่ผมก็เห็นนักเรียนจำนวนมากที่สวมชุดนักเรียนของโรงเรียนเรา
ในกรณีของผม ต่อให้เจอใครเข้าก็คงไม่มีใครจำผมได้ อย่างมากก็คงแค่คิดว่าคนหน้าตาคล้ายกัน แต่อาซานางินั้นไม่เหมือนผม เธอนั้นโดดเด่น และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
“…คือถ้าเสี่ยงที่จะโดนจับได้ เราก็ไม่ควรออกมาเสี่ยงตั้งแต่แรกนะ”
“มันเหมือนกับการเล่นเกมไง…แอบออกไปเที่ยวโดยที่ไม่ให้ใครจับได้ นายไม่คิดว่ามันน่าสนุกหรอ…แต่ไม่ต้องห่วง ฉันคิดแผนสำรองเผื่อไว้แล้ว”
“ถ้างั้นก็โอเค”
“ต้องแบบนั้นสิ งั้นเรารีบไปกันเถอะ”
ถึงจะยังกังวลอยู่ แต่ผมเลือกที่จะเชื่อใจเธอ
…และถึงแม้มันจะเสี่ยง แต่ก็เป็นความจริงเช่นกัน…ที่ผมก็แอบตั้งตารอคอยที่จะได้ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกกับอาซานางิแบบนี้
รวมถึงความจริงที่ว่า…ผมใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการตัดสินใจว่าจะใส่ชุดไหนดี ผมสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันพูดถึงมันเด็ดขาด หากอาซานางิรู้เข้าล่ะก็…ผมมีหวังโดนล้อจนตายแน่นอน…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล.ตอนสุดท้ายของวันนี้ ตอนแรกว่าจะแปลให้เสร็จอีกตอน แต่พรุ่งนี้ต้องขับรถก็เลยขอพักก่อนแล้วกันครับ
ปล2. อาซานางิซังน่ารัก
ปล3. อาซานางิซังน่ารักมาก <3 <3
สุดท้าย ขอฝากเพจ Durimtok Channel ไว้เหมือนเดิมนะครับ