I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 23 – เป็นเพื่อนกันนะ
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 23 – เป็นเพื่อนกันนะ
ตอนที่ 23 – เป็นเพื่อนกันนะ
หลังจากกล่าวคำขอโทษต่ออาซานางิเสร็จแล้ว ในที่สุดเราก็ได้คุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้น…เราคงต้องจัดการกับขนมที่เตรียมไว้เสียก่อน
“อ่า คุกกี้พวกนี้อร่อยมาก~ อุมิ ดูสิ อันนี้มีช็อคโกแลตอยู่ด้วยล่ะ”
“หืม…อืม อร่อยมาก เธอลองกินคุกกี้สลับกับมันฝรั่งทอดดูสิ เธอจะได้สัมผัสกับวัฏจักรระหว่าง『หวาน』กับ『เค็ม』ที่ทำให้กินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อเลยล่ะ”
“จริงเหรอ… มู่~ ไม่…ฉันทำไม่ได้ กินแบบนั้นน้ำหนักขึ้นกันพอดีสิ”
ทั้งสองแบ่งขนมกันกินอย่างมีความสุข
แม้ว่าจะมีหลายคนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนสมัยเด็ก แต่ก็หายากมากที่จะเจอคู่ที่สนิทกันขนาดนี้
“อืม ขอโทษนะ เราเผลอลืมนายไปเลย…โอเค มาเอฮาระคุง อะนี่…คุกกี้”
“อะ-อืม ขอบคุณ…”
ผมเอื้อมมือออกไปรับคุกกี้ที่อามามิซังหยิบมาให้ แต่เธอกลับถอยออกไปก่อนที่ผมจะรับมัน
“โม่~ ไม่ใช่อย่างนั้นสิ มาเอฮาระคุง อ้าม~ ยังไงล่ะ อ้าม~”
“อะ-อ้าม~…?”
“ฉันจะป้อนมาเอะฮาระเอง เอาล่ะ ที่นี้ก็อ้าปากสิ”
ผมไม่เข้าใจว่าคุณอามามิกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ครู่หนึ่ง แต่『อ้าม~』ในสถานการณ์แบบนี้คงจะมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“เฮ้ เป็นอะไรไป มาเอฮาระคุง ไม่ต้องอายหรอกน่า~”
“…เอ่อ…ถ้าอย่างนั้น…”
ผมรู้สึกถึงสายตาที่เฉียบคมมาจากใครบางคน แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ยอมพูดอะไรเลย และถ้าผมปฏิเสธสิ่งนี้ อามามิซังก็จะงอนอีก ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะทำตามอามามิซังไปก่อน…นี่แหละคือความสำคัญของการอ่านบรรยากาศ??
“…มุกุ”
(TL:むぐ จะออกเสียงยังไง แล้วคนปกติเค้าออกเสียงกันแบบนี้เรอะ)
“เป็นยังไงบ้าง? อร่อยใช่มั้ย?”
“แน่นอน ผมเป็นคนเลือกมันเองกับมือเลยนะ”
กลิ่นหอมของเนยและความขมเล็กน้อยของโกโก้ที่อยู่ในช็อกโกแลตผสมผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดี บวกกับความหวานที่กำลังพอดี…อย่างที่คาดไว้ ของขวัญจากสวรรค์ชัดๆ
“…โม่~ ฉันบอกเธอไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วนะยู เธอต้องหยุดทำแบบนี้สักที นี่เป็นเหตุผลที่พวกเด็กผู้ชายจะเข้าใจผิดนะ รู้ตัวบ้างสิ”
“อ๊ะ ขอโทษนะ อุมิ…ก็มาเอะฮาระคุงดูน่ารักมากเวลากินคุกกี้พวกนี้! เขาดูเหมือนกระต่ายเลย~”
“อุ—”
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดแบบนี้ต่อหน้าผม ผมไม่ชอบการอ้าปากกว้างๆ โดยเฉพาะเวลากินข้าว นั่นทำให้ผมกินช้ากว่าคนอื่นมาก
ผมกลายเป็นกระต่าย…ผมนึกจินตนาการตาม…แต่ภาพของคิเมร่าที่น่าขนลุกก็ถือกำเนิดขึ้นมาในหัวของผม ดังนั้นผมจึงเตะมันออกจากสมองทันที
ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้วว่าทำไมอามามิซังถึงเป็นที่นิยมในชั้นเรียนของเรา เธอปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความใจดีอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่คำนึงถึงเพศหรือความนิยม จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่สำคัญ…เธอปฏิบัติต่อทุกคนราวกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของเธอ
ถ้าจู่ๆก็มีเด็กสาวน่ารักๆ มาทำอะไรประมาณ『อ้าม~』และใจดีกับเขา ไม่ว่าจะเป็นเด็กหนุ่มคนไหนก็ต้องเข้าใจผิดแน่อยู่แล้วล่ะ
ในอีกแง่หนึ่ง ผมก็คิดว่ามันเป็นบาปเช่นกัน…ในการไปทำให้ใครรู้สึกแบบนั้น
“เอาล่ะ ยู ช่วยหยุดกินแปบนึงได้ไหม แล้วเข้าหัวข้อหลักสักที ฉันหมายถึง…เหตุผลที่เรามาที่นี่ตั้งแต่แรก?”
“ชะ-ใช้แล้ว…มาเอฮาระคุง ฉันขอโทษจริงๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว…มาเอฮาระคุงไปเที่ยวกับเพื่อนใช่ไหม แต่ฉันก็ยังพยายามเข้าไปรบกวนมาเอฮาระคุงโดยไม่สนใจความรู้สึกของมาเอฮาระคุงเลย…และนั่นก็เป็นเพราะฉันไม่สามารถอ่านบรรยากาศได้น่ะ”
“อา…อืม ผมเองก็ด้วย ในตอนนั้นผมก็ต้องขอโทษด้วย”
ฉันก้มศีรษะและเริ่มอธิบายเหตุผลให้อามามิซังฟังว่าทำไมผมถึงทำตัวเป็นศัตรูกับเธอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ผมบอกเธอตามตรงว่าฉันรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น เช่น เมื่อมีคนตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผมจะรู้สึกกังวลและจะไม่สามารถที่จะรู้สึกสนุกกับตัวเองได้ เรื่องที่ผมรู้สึกหวงแหนเวลาที่มีกับเพื่อนและไม่อยากให้มครเข้ามารบกวน
อามามิซังไม่พูดอะไรและตั้งใจฟังผมอย่างจริงจัง
“…บางที ผมคิดว่าผมสนุกกับช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเพื่อนคนนั้นมาก มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน…”
ผมยังเก็บความจริงบางอย่างไว้กับตัวเอง ถ้าฉันบอกทุกอย่างกับอามามิซัง เธอก็จะรู้ว่าเพื่อนของผมคืออาซานางิ ถ้าโดนจับได้อาซานางิก็อาจจะรู้สึกผิด…ผมเลยตัดสินใจที่จะรักษาจุดนั้นไว้
“… ฉันเข้าใจ ถ้าอย่างนั้นมาเอฮาระคุงก็ชอบเพื่อนคนนั้นมากๆเลยสินะ”
“ชะ-ชอบมาก…?!”
“ ? มาฮาระคุง เป็นอะไรไป?”
“ม-ไม่มีอะไร…ก็…เธออาจจะมองแบบนั้นก็ได้…แต่คนๆนั้นเป็นเพื่อนเพียงคยเดียวของผม…ผมเลยไม่รู้ว่าความรู้สึกว่า『ชอบมาก』มันเป็นแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า”
อย่างที่อามามิซังพูด เพราะอาซานางิเป็น『เพื่อน』คนเดียวที่ผมมี แน่นอนว่าเธอสำคัญกับผมมาก แต่การบอกว่าผมชอบเธอมากต่อหน้าเธอแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้ สุดท้าย…มันเลยกลายเป็นคำตอบที่น่าสับสน
ผมรู้สึกอายมาก จนผมไม่สามารถที่จะมองไปทางอาซานางิได้
ผมสงสัยว่าตอนนี้เธอกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่?
อย่างไรก็ตาม ฉันสำนึกผิดเกี่ยวกับคดีของสัปดาห์ที่แล้ว และฉันไม่โกรธอีกต่อไป นั่นเป็นสาเหตุที่เรื่องราวนี้จบลง
“อย่างไรก็ตาม ผมสำนึกผิดเกี่ยวกับเรื่องที่ขึ้นแล้ว และผมจะไม่โกรธอีกต่อไป ดังนั้น…ผมอย่างให้นี่…คือจุดสิ้นสุดของเรื่องนี้”
“ถ้ามาเอะฮาระพูดอย่างนั้น… ถ้าอย่างนั้นจับมือกันเป็นเครื่องหมายแห่งความสมานฉันท์”
“อืม”
ผมกับคุณอามามิจับมือกันแน่น
“ดีใจด้วยนะยู”
“อืม ขอบคุณนะอุมิ ขอบคุณจริงๆ ฉันเลยสามารถปรับความเข้าใจกับมาเอะฮาระคุงได้”
“ด้วยความยินดี”
ผมกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ แต่อย่างน้อยเรื่องของสัปดาห์ที่แล้วก็คลี่คลายลงไปแล้ว
ในตอนนี้ ข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับอามามิซังก็ยังมีอยู่บ้าง แต่ถ้าพวกเราไม่ไปให้ความสนใจกับข่าวลือพวกนั้น ในที่สุดมันก็จะหายไปเอง
เด็กสาวที่ดังที่สุดในชั้นเรียนกับคนไม่มีเพื่อน เราอาศัยอยู่ในโลกที่แตกต่างกัน และตอนนี้เราก็สามารถใช้ชีวิตปกติในโลกของตัวเองได้โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก
“เอาล่ะ ก็จบเรื่องแล้ว กลับบ้านกันเถอะ มาเอฮาระคงจะรำคาญถ้าเราอยู่นานเกินไป….ยู เป็นอะไรไป?”
“อะ อืม…มีเรื่องนึงที่อยากจะถามมาเอะฮาระคุง”
“เรื่องอะไรหรอ?”
เมื่อผมกำลังจะทำความสะอาด หลังจากที่อาซานางิกับอามามิซังกลับบ้าน…อามามิซังก็เดินกลับมาแล้วเดินเข้ามาหาผม
คำถามของอามามิซัง…ผมสงสัยว่ามันคือเรื่องอะไร?
“คือว่านะ…มาเอฮาระคุง ถ้านายไม่ชอบก็บอกว่าเกลียดกับฉันตรงๆได้นะ”
“เข้าใจแล้ว…อะไรนะ!?”
“เอ่อ…คือว่านะ…”
อามามิซังพูดต่อในขณะที่มีท่าทางกระวนกระวาย
“มาฮาระคุง ถ้านายต้องการ…ได้โปรดมาเป็นเพื่อนกับฉันด้วยค่ะ!”
เห็นได้ชัดว่าชีวิตของผมดูจะต้องวุ่นวายไปอีกสักพัก…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. ที่เก่าเวลาเดิม ยังไม่ได้เช็คอะไรทั้งนั้นครับ ราตรีสวัสดิ์ คร่อก~~~~~