I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 30 – อาหารเช้ากับอาซานางิ
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 30 – อาหารเช้ากับอาซานางิ
ตอนที่ 30 – อาหารเช้ากับอาซานางิ
นี่~ นี่~ มาเอะฮาระ ยังไม่ตื่นอีกหรอ~?
เช้าวันรุ่งขึ้น
การนอนบนโซฟาไม่ได้สบายอย่างที่คิด ผมใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะสามารถข่มตาหลับลงได้ แต่อยู่ๆก็มีเสียงแสนอ่อนโยนมากระซิบที่ข้างหู
ผมยังรู้สึกว่าหนังตาของตัวเองหนักมาก อาจจะเป็นเพราะเมื่อวานผมได้นอนน้อยเกินไป ใจจริงผมอยากจะกลับไปนอนต่อ แต่ถ้ายังนอนบนโซฟาต่อไปแบบนี้ผมคงจะต้องปวดหลังแน่ๆ สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องจำใจลุกขึ้นมา
“ห้าว~ อรุณสวัสดิ์อาซานางิ…ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
“อรุณสวัสดิ์มาเอะฮาระ เอ่อ…น่าจะยังไม่เจ็ดโมงเช้านะ”
ดูเหมือนอาซานางิจะตื่นมาสักพักแล้ว เพราะตอนนี้เธอได้เปลี่ยนจากเสื้อสเวตเตอร์กลับไปอยู่ในชุดนักเรียนเรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการติดกระดุมเสื้อหรือว่าความยาวของกระโปรงก็ล้วนสมบูรณ์แบบราวกับเป็นนักเรียนดีเด่น แต่สุดท้ายมันก็แค่เสื้อผ้าภายนอก จริงๆแล้วเธอก็ยังเป็นเด็กเกเรที่แอบมานอนค้างบ้านเพื่อนอยู่ดี
“เมื่อคืนหลับสบายไหม?”
“อืม ต้องขอบคุณนายนั่นแหละนะ…แต่ดูเหมือนนายจะหลับไม่ค่อยสบายนะ”
“มันเหมาะใช้ในการงีบหลับมากกว่า ยังไงก็สู้เตียงไม่ได้อยู่ดีล่ะนะ”
“ฮะๆ ถือว่าเป็นการฝึกไปในตัวแล้วกัน แต่ถ้านายยังง่วงอยู่จะกลับไปนอนที่เตียงก็ได้นะ ฉันพึ่งจะตื่นมาไม่นาน ดังนั้นที่เตียงน่าจะยังพอมีความอบอุ่นของฉันเหลืออยูุ่บ้าง”
“ไม่ละครับ…แล้วเธอเป็นพวกขายตรงรึไง?”
…พอได้ยินเรื่องแบบนี้ ผมไม่มีทางนอนหลับได้หรอกนะ
“แล้วแม่ล่ะ?”
“ตอนที่ไปดู เธอยังนอนอยู่น่ะ”
“งั้นปล่อยให้เธอนอนเถอะ…อ๊ะ เธอยังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่ไหม? งั้นเดี๋ยวผมทำให้เอง รอแปบนึงนะ”
“เอ๊ะ? ไม่เป็นไร แค่นอนค้างคืนก็รบกวนนายมากพอแล้ว มันคงไม่ดีถ้ายังรบกวนนายเรื่องข้าวเช้าอีก”
“ผมจะต้องทำข้าวเช้าให้แม่อยู่แล้ว แค่ทำเพิ่มมาอีกนิดหน่อยมันไม่เป็นอะไรหรอก แล้วอีกอย่างเธอก็เป็นแขก ดังนั้นเธอแค่ไปนั่งรอก็พอแล้ว”
“ถ้ามาเอะฮาระว่าอย่างนั้น งั้นฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ”
“อืม”
เมื่ออาซานางิไปนั่งรอที่โซฟา ผมก็เดินไปที่ห้องครัวทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดนอน
(TL: โคตรพ่อบ้านเลยครับ)
“อาซานางิ ขนมปังกับข้าว เธอว่าอันไหนดีกว่ากัน?”
“ข้าวเช้าฉันอยากกินอะไรที่มันอิ่มๆหน่อยน่ะ”
“งั้นเอาเป็นข้าวแล้วกัน อืม…ก็ตั้งใจแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะนะ”
ผมเช็ควัตถุดิบในตู้เย็น ก่อนจะแบ่งบางส่วนออกมาเพื่อใช้ในการทำอาหารเช้า
“นี่ ให้ฉันช่วยนะ ถึงฉันจะทำอาหารไม่เป็น แต่ฉันช่วยเตรียมจานหรือทำความสะอาดโต๊ะได้นะ”
“อืม งั้นรบกวนด้วยนะ”
เราแบ่งหน้าที่กันในการเตรียมอาหารเช้า ผมทำอาหาร ส่วนอาซานางิก็จัดการส่วนที่เหลือ แต่เนื่องจากมีข้าวที่เหลือจากเมื่อวาน ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องทำก็มีแค่การทำไข่ม้วนกับย่างปลาแซลมอน
“มาเอะฮาระ ฉันจัดโต๊ะเรียบร้อยแล้ว…ว่าแต่นายทำซุปมิโซะด้วยได้ไหม?”
“ได้สิ ผมเตรียมน้ำซุปไว้แล้ว ดังนั้นแค่ใส่เต้าหู้กับวากาเมะแห้งก็ใช้ได้แล้วล่ะ”
ผมเตรียมน้ำซุปไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มันคือน้ำซุปที่ทำง่ายๆ ด้วยการโยนปลาซาร์ดีนแห้งลงในหม้อที่เติมน้ำไว้แล้วปล่อยให้เดือดสักสองสามชั่วโมง เราก็จะได้น้ำซุปมาอย่างง่ายดาย
ในระหว่างที่กำลังทำซุปมิโซะ ผมก็ทำไข่ม้วนกับย่างปลาแซลมอนไปพร้อมๆกัน ถ้าเป็นแบบนี้ทุกอย่างก็น่าจะเสร็จภายในเวลา 10 นาที
“…เอาล่ะ กับข้าวเสร็จแล้ว อาซานางิ เธอกินข้าวเยอะไหม? หรือจะเอาแบบเยอะพิเศษ?”
“ปกติตอนเช้าฉันจะกินค่อนข้างเยอะนะ แต่ผู้หญิงที่ดีต้องเชื่อฟังคุณสามี ดังนั้นขอแบบปกติมาก่อนก็ได้ ถ้ายังไม่อิ่มเดี๋ยวค่อยขอเติมเอาก็ได้”
“เธอคิดว่าที่นี่เป็นร้านอาหารครอบครัวที่สามารถเติมข้าวได้ไม่อั้นรึไง? แต่เอาเถอะ…ผมหุงข้าวไว้เยอะ ดังนั้นเธอกินได้ตามสบายเลย”
ผมตัดสินใจเริ่มกินทันทีโดยจัดข้าวและกับข้าวแยกกันกับอาซานางิคนละชุด
“อืม…อุหว่า~ ไข่ม้วนอันนี้ อร่อยกว่าไข่ม้วนเมื่อวันก่อนอีก”
“ก็ไข่ม้วนวันนั้นมันเย็นแล้ว ไข่ม้วนอันนี้พึ่งจะทำใหม่ก็ต้องอร่อยกว่าอยู่แล้ว และจะยิ่งอร่อยถ้าได้กินกับข้าวสวยร้อนๆ”
“เห็นด้วยเลย…แล้วก็…ขอเติมข้าวค่ะ”
“ไม่สิ นี่กินหมดแล้วเรอะ”
ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เพราะการที่เธอกินเยอะก็ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอาหารที่ผมทำนั้นอร่อย
ผมเติมข้าวให้อาซานางิอีกถ้วย
โดยปกติผมจะกินข้าวคนเดียวจึงไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้…ตอนที่ผมได้นั่งกินข้าวกับใครสักคน ผมพบว่าการกินข้าวมันสนุกกว่าที่เคย
“ฟู่~~ ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ ขอโทษนะ ดูเหมือนฉันจะกินเยอะไปหน่อย”
“ไม่เป็นไร ผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำได้แต่อาหารง่ายๆแบบนี้ให้เธอ”
“ไม่ต้องขอโทษ แค่นี้ก็อร่อยมากแล้ว ขอบคุณนะ มาเอะฮาระ”
สุดท้ายพวกเราก็กินข้าวหมดไปครึ่งหนึ่งของที่ผมทำไว้ ถึงพวกเราจะเป็นนักเรียนม.ปลาย แต่ผมก็คิดว่าเรากินเยอะไปหน่อยอยู่ดี
“เอาล่ะ ก่อนที่จะกลับบ้าน ฉันจะช่วยทำความสะอาดก่อนแล้วกัน…แล้วเดี๋ยวฉันจะโทรหานายทีหลังนะ แล้วก็ต้องฝากนายช่วยขอบคุณคุณป้าแทนให้ด้วยนะ”
“ได้สิ แต่…แม่ไม่ได้แลกเปลี่ยนเบอร์โทรกับเธอแล้วหรอ?”
“อืม…เธอบอกว่า「ถ้ามากิสร้างปัญหาให้อุมิจัง อุมิจังสามารถโทรมาปรึกษาได้ตลอดเวลาเลยนะ」น่ะ”
“ทำไมถึงเป็นผมคนเดียวล่ะ…”
มันน่าจะเป็นอาซานางิสร้างปัญหาให้กับผมมากกว่าไม่ใช่เรอะ เมื่อวาน…แม่กับอาซานางิคุยเรื่องอะไรกันบ้างนะ?
ถึงจะอยากรู้ แต่ผมคงไม่สามารถถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
“มาเอะฮาระ เอากาแฟหลังอาหารไหม? ถึงจะไม่เพียงพอที่จะขอบคุณที่นายทำข้าวเช้าให้ แต่ฉันจะตั้งใจชงให้สุดฝีมือเลย ใส่แค่น้ำตาลอย่างเดียวใช่ไหม?”
“ใช่ เหมือนทุกทีแหละ”
“อืม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง…อ๊ะ ขอรับโทรศัพท์แปบนึงนะ บางทีแม่ของฉันอาจจะโทรมาน่ะ”
ผมมองตามหลังอาซานางิไปในตอนที่เธอกำลังออกไปจากห้องนั่งเล่นพร้อมกับเสียงวิ่งดังตั๊กๆ
อาซานางิดูมีชีวิตชีวาอย่างมากในตอนที่เธอใส่ผ้ากันเปื้อนทับไปบนชุดนักเรียนของเธอ ผมไม่เคยนึกเลยว่าจะได้เห็นอาซานางิแต่งตัวแบบนี้ภายนอกชั้นเรียนวิชาคหกรรมศาสตร์ที่โรงเรียน
เดิมทีความสัมพันธ์ของผมกับอาซานางิควรจะเป็นแบบเพื่อนทั่วไปมากกว่า แต่เมื่อเราได้ทำอะไรร่วมกันบ่อยๆ แม้จะทีละเล็กทีละน้อย แต่ผู้หญิงที่ชื่ออาซานางิ อุมิ ก็ค่อยๆกลายมาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผม
ไม่ใช่เพราะเธอคือ「เพื่อน」คนแรกของผม แต่เพราะเธอเป็นมนุษย์ที่ชื่อว่า อาซานางิ อุมิ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องการที่จะรักษาความสัมพันธ์นี้ตลอดไป…และอีกเรื่องก็คือ…ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกแปลกๆที่ผมรู้สึกเมื่อคืนนี้คืออะไรกันแน่
“ฉันกลับมาแล้ว…”
“อ๊ะ ยินดีต้อนรับกลับนะ…เหมือนจะคุยกันนานเลย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“อ่า…อืม…จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะ แต่แม่ไม่ยอมน่ะ…”
อาซานางิกลับมาหาผมหลังจากที่เธอคุยโทรศัพท์กับพ่อแม่เสร็จแล้ว แต่เธอกลับมีท่าทางการแสดงออกเหมือนกำลังสับสนอยู่ ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เธอกำลังอารมณ์ดี
…ผมมีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เอ่อ…เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม”
“อืม…เอ่อ…คือว่า”
อาซานางิชำเลืองมองมาที่หน้าผมอย่างขอโทษ ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า…
“แม่อยากให้พามาเอะฮาระไปที่บ้านตอนนี้เลยน่ะ”
ถึงผมเองตั้งใจจะไปเองอยู่แล้วก็เถอะนะ แต่ดูเหมือนจะโดนเรียกตัวอย่างเป็นทางการซะแล้วล่ะ…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. เย็นๆน่าจะมาอีกตอน ส่วนดึกๆตอน 3 จะไหวไหมเดี่ยวแจ้งอีกทีนะครับ
ปล2. ยังไม่ได้เช็คคำผิดเน้อ