I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 41 -「+1」ในวันหยุดสุดสัปดาห์ (2)
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 41 -「+1」ในวันหยุดสุดสัปดาห์ (2)
บทที่ 41 -「+1」ในวันหยุดสุดสัปดาห์ (2)
“เอ่อคือ..ขอโทษนะอามามิซัง เธอช่วยรอแปบนึงได้ไหม?”
หลังจากปิดอินเตอร์คอม ผมก็กลับไปหาอาซานางิทันที
“ยูมางั้นหรอ?”
“อืม ตอนนี้ริอยู่ที่ทางเข้าน่ะ…ว่าแต่ อาซานางิ วันนี้ตอนที่ออกจากบ้านมา…หรือว่าอามามิซังจะเห็นเธอตอนนั้น?”
“ไม่ใช่หรอก ฉันระวังตัวมากเลยนะ แต่ฉันคิดไม่ถึงว่า…”
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าบ้านของอาซานางิกับอามามิซังจะอยู่ห่างกันมาก เว้นแต่อามามิซังจะแอบดักรออาซานางิอยู่ที่หน้าบ้านเท่านั้น ดังนั้น…มันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่อามามิซังจะเจออาซานางิตอนที่กำลังออกจากบ้าน
หรืออีกนัยนึงก็คือ…อามามิซังรู้อยู่แล้วว่าอาซานางิจะมาอยู่ที่บ้านผมในวันนี้
ตอนนี้…ในทุกวันศุกร์สุดสัปดาห์
“อาซานางิ เธอบอกเรื่องของพวกเรากับอามามิซังแล้วใช่ไหม…”
“…”
“เธอยังไม่ได้บอกงั้นเหรอ?”
“…ขอโทษนะ ฉันยังหาจังหวะเหมาะๆที่จะบอกไม่ได้น่ะ”
เธอยังไม่ได้บอกงั้นเหรอ?…ดูเหมือนว่ามันคงจะสายไปแล้วที่จะมาขอโทษในตอนนี้ล่ะนะ
อาซานางิไม่ได้บอก อย่างนั้นก็หมายความว่า…อามามิซังสังเกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างผมกับอาซานางิด้วยตัวเองสินะ
บางทีที่บ้านของอาซานางิอาจจะบอกกับอามามิซังก็ได้ว่าอาซานางิไม่ได้อยู่บ้าน…ดังนั้นคงไม่มีเหตุผลที่พวกเราจะต้องปิดบังเรื่องนี้อีกต่อไปในเมื่อเรื่องทุกอย่างเดินทางมาถึงจุดนี้
ผมคิดว่าเราคงจะไม่มีทางเลือกแล้วล่ะนะ
“มาเอะฮาระ ขอโทษนะ ฉัน…”
“ไม่เป็นไรน่า เดิมทีที่ผมบอกให้ปิดบังก็เพราะไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย ถ้าเกิดคนอื่นในห้องรู้เรื่องเข้าล่ะนะ ดังนั้นถ้าอาซานางิอธิบายเหตุผลให้อามามิซังฟัง เธอต้องเข้าใจแน่นอน”
“…”
พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องอธิบายเหตุผลให้อามามิซังเข้าใจ ถ้าทำแบบนั้นความเสียหายก็น่าจะน้อยลงด้วย
“อาซานางิ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“…อือ”
ผมให้อาซานางินั่งรออยู่ที่โต๊ะ ก่อนจะกลับไปเชิญให้อามามิซังเข้ามาในบ้าน
บรรยากาศภายในบ้านดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“…อุมิ”
“…ยู”
อามามิซังจ้องมองไปที่อาซานางิอย่างตรงไปตรงมา…อาซานางิทำได้เพียงหลบสายตาของเธอเท่านั้น
อาซานางิที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว กับอามามิซังที่จ้องมองไปที่เธอด้วยแววตาแสดงความสงสาร…ตำแหน่งของทั้งสองคนสลับกันอย่างสินเชิง ไม่เหมือนกับสิ่งที่ผมมักจะเห็นบ่อยๆตอนอยู่ที่โรงเรียน
“อามามิซัง รับเครื่องดื่มหน่อยไหม…”
“ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวฉันก็จะกลับแล้วล่ะ…มันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่จะมารบกวนช่วงเวลาอันมีค่าของพวกเธอสองคน…ฉันแน่ใจว่าอุมิก็คงคิดเหมือนกัน…ใช่ไหม?”
“ไม่ใช่นะ เรื่องนั้น…”
“อาซานางิ ผมขอพูดหน่อยนะ”
มันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่จะปล่อยให้พวกเธอคุยกันในบรรยากาศแบบนี้ ดังนั้นผมจึงต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง
“อามามิซัง เธอรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าผมกับอาซานางิกำลังทำเรื่องแบบนี้กันอยู่?”
“ฉันพึ่งจะมั่นใจเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ฉันเริ่มคิดว่ามันแปลกตั้งแต่เมื่อประมาณสองสามเดือนก่อนแล้วล่ะ…ตอนที่อุมิเริ่มบอกว่า「ติดธุระที่บ้าน」บ่อยๆน่ะ”
“ตั้งแต่แรกเลยงั้นเหรอ…ถึงวิธีปฏิเสธจะค่อนข้างมองออกง่าย แต่ก็เร็วไปแล้ว…”
ในตอนช่วงเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของพวกเรา ทั้งผมกับอาซานางิก็ไม่ได้ทำอะไรโจ่งแจ้งจนมองออกง่ายขนาดนั้นนะ
ดูเหมือนว่าทั้งผม ทั้งอาซานางิ พวกเราทั้งคู่ต่างก็ดูถูกความเฉียบแหลมของอามามิซังมากเกินไป
“บางที่พวกเธอสองคนอาจจะคิดว่าคงไม่มีใครในห้องจับได้เพราะทุกคนต่างมุ่งความสนใจทั้งหมดมาที่ตัวฉันเอง…แต่ว่าขอโทษนะ ฉันเองก็เหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหละ ฉันเองก็ให้ความสนใจกับอุมิที่เป็นเพื่อนสนิทของฉันเหมือนกัน”
ผมกับอาซานางิค่อยๆกลายมาเป็นเพื่อนกันโดยการแอบใช้「สาวน่ารักที่สุดในชั้นเรียน」อามามิ ยู มาเป็นกำบังปกปิดความสัมพันธ์ของพวกเรา…ทั้งผมและอาซานางิต่างมีความชอบในสิ่งที่เหมือนๆกัน นั่นทำให้พวกเราได้มารู้จักกัน และหลังจากนั่นพวกเราก็เริ่มมาเที่ยวเล่นดัวยกันในทุกวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่บ้านของผม และยังมีเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเราได้กลายมาเป็นที่รู้จักของพ่อแม่ของกันและกันด้วย
อาซานางิปฏิเสธคำชวนไปเที่ยวเล่นของอามามิซังด้วยเหตุผลว่าติดธุระของที่บ้าน แต่ในความเป็นจริง ตัวของอาซานางิกลับกำลังแอบไปเที่ยวเล่นกับเด็กผู้ชายที่เพิ่งรู้จักและพึ่งจะได้มาเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันตอนช่วงเดือนเมษาที่ผ่านมานี่เอง…อามามิซังซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอ…กลับถูกเพื่อนรักกีดกันให้อยู่วงนอกจะมีความรู้สึกยังไงกันนะ?
“นี่ อุมิ ทำไมเธอถึงไม่ยอมบอกเรื่องของมากิคุงกับฉันล่ะ? ถึงอุมิจะอยากเก็บเป็นความลับ…แต่ฉันก็รอให้อุมิมาบอกกับฉันด้วยตัวเองมาตลอดเลยนะ”
“คะ-คือว่า…”
“อามามิซัง ขอโทษนะ เรื่องนี้ผมเป็นคนผิดเอง มันคงจะเป็นเรื่องยุ่งยากถ้าคนในห้องรู้เข้า ผมก็เลยขอร้องให้อาซานางิเก็บความลับเรื่องของเราไว้มาตลอดเลย…ใช่ไหม อาซานางิ?”
“อะ-อืม จนถึงตอนนี้ล่ะนะ”
ผมเป็นคนขอให้อาซานางิไม่บอกเรื่องนี้กับคนอื่นในห้องนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน และคำตอบของอาซานางิก็ยืนยันเรื่องนั้น
ผมสงสัยว่าทำไมอารมณ์ของอาซานางิถึงดูแย่ลงไปอีก ในเมื่อเรื่องทุกอย่างเกิดจากตัวผม
อาซานางิเองก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับความสัมพันธ์ลับๆของพวกเราและสนุกไปกับมัน…บางทีเธออาจจะกำลังโทษตัวเองในเรื่องนี้อยู่ก็ได้
“นี่อุมิ เรื่องที่มากิคุงเล่าเมื่อกี้เป็นความจริงหรือเปล่า?”
“…”
มันไม่ใช่เรื่องโกหก
มันไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน แต่อาซานางิกลับไม่พูดอะไรเลย…ไม่แม้แต่จะพยายามพยักหน้า
“อุมิ ทำไมเธอไม่ยอมพูดอะไรเลยล่ะ? หรือว่าเธอไม่เชื่อใจฉันอย่างนั้นหรอ? หรือฉันเป็นคนเดียวที่คิดว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด…หรือว่าฉันไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของอุมิอีกต่อไปแล้วอย่างงั้นเหรอ?”
“ระ-เรื่องนั้น…ฉันยังคิดว่ายูเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันอยู่นะ…แต่…มันก็เป็นความจริงที่ฉันเก็บความลับเรื่องเกี่ยวกับมาเอะฮาระไว้เหมือนกัน”
“ถ้างั้นทำไมเธอถึงไม่ยอมแนะนำมากิคุงให้ฉันรู้จักล่ะ ถ้าเธอไม่อยากให้ทุกคนในห้องรู้…หรืออยากคบกันแบบลับๆ ขอแค่เธอบอกมา…ฉันก็จะเก็บเป็นความลับให้อยู่แล้ว”
เรื่องนั้นพวกเราเองก็เข้าใจดี ทั้งผมและอาซานางิต่างก็เชื่อใจอามามิซัง และนั่นเป็นเหตุผลที่เราตัดสินใจที่จะบอกเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเรากับอามามิซังตั้งแต่วันที่อาซานางิมาค้างคืนที่บ้านของผมแล้วล่ะ
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว…อาซานางิก็ไม่ได้บอกเรื่องของเรากับอามามิซัง
“…นั่นก็จริง ถ้าฉันบอกเรื่องนี้ให้ยูฟัง เธอก็คงจะยอมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ฉันแน่ใจว่าเธอจะไม่ยอมบอกเรื่องของฉันกับมาเอะฮาระคุงให้คนอื่นฟังแน่ๆ”
“ถ้าเธอก็คิกอย่างนั้น แล้วทำไม…”
“เรื่องนั้น…ขอโทษนะ ฉันไม่สามารถบอกได้น่ะ…ไม่สิ ฉันไม่อยากจะบอกน่ะ”
ในมุมที่อามามิซังมองไม่เห็น อาซานางิแอบจับชายเสื้อของผมที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ
ความจริงผมก็สงสัยมาตลอดว่าทำไมอาซานางิถึงไม่ยอมบอกเรื่องของเรากับอามามิซังไม่ได้จนถึงตอนนี้
บางที่อาซานางิเองก็อาจจะมีเหตุผลที่อยากจะปกปิดเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับผมจากอามามิซัง
“…ขอโทษนะ มาเอะฮาระ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉันขอกลับบ้านก่อนนะ เดี่ยวแม่จะเป็นห่วงอีกน่ะ”
“อ๊ะ ถ้าอุมิจะกลับ ฉันเองก็จะกลับกับ…”
“ยูพึ่งจะมาถึงเองนะ ดื่มกาแฟแล้วก็นั่งพักอยู่ที่นี่สักพักก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้…ฉันหมายถึง ให้ฉันกลับบ้านคนเดียวเถอะนะ ถ้าตอนนี้ฉันต้องอยู่กับยูเพียงลำพัง…ขอโทษนะ ฉันขอเวลาอยู่คนเดียวสักพัก”
“อุมิ…”
เป็นการปฏิเสธที่ชัดเจนมาก
เป็นครั้งแรกที่มีรอยแตกร้าวระหว่างเพื่อนสนิททั้งสองคน
“…ขอโทษนะยู ฉันเป็นคนแย่มากเลยใช่ไหม”
“อะ-อุมิ…”
“มาเอะฮาระ วันนี้…ขอบคุณที่ชวนนะ ฉันมีความสุขมากเลยล่ะ”
ด้วยรอยยิ้มที่อ้างว้าง อาซานางิเดินออกจากบ้านของผมไป…เหมือนกับพยายามที่จะหนีไปจากผมและอามามิซัง
“นี่…มากิคุง ฉันควรทำยังไงดี…”
“อึก…”
ผมควรจะไล่ตามเธอไปตอนนี้เลย? หรือผมควรจะรอให้อารมณ์ของเธอเย็นลงก่อน?
ผมไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงดีในสถานการณ์ตอนนี้…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. ช่วงเช้าว่างก็เลยแปลให้แบบด่วนๆครับ
ปล2. ยังไม่ได้เช็คคำผิดกับสำนวนนะครับ อาจมีอ่านสะดุดๆบ้าง เดี๋ยวจะกลับมาเช็คให้อีกทีนะครับ
Durimtok Channel
ขอบคุณครับ