I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 49
ตัวฉัน…อาซานางิ อุมิ ได้พบกับ อามามิ ยู ครั้งแรกเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว
เมื่อบทเรียนที่น่าเบื่อในห้องเรียนได้สิ้นสุดลง ฉันเดินทางกลับบ้านพร้อมเพื่อนๆเหมือนกับปกติทุกวัน ก่อนที่ฉันจะได้เห็นแผ่นหลังเล็กๆที่กำลังรีบเดินกลับบ้านเพียงลำพัง
เพียงแค่มองผ่านๆในครั้งแรก ฉันก็คิดว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมาก ผมยาวสีทองเป็นประกายและผิวที่ขาวจนน่าประหลาดใจ
ฉันเดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนในทันทีก่อนที่จะเดินเข้าไปทักเด็กคนนั้น
“สวัสดี”
“สึ…”
เด็กสาวตัวเล็กๆแสดงท่าทางแปลกใจ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยพร้อมกับย่อหลังเล็กๆของเธอลงไปอีก
ท่าทางเหมือนกับกระรอกหรือไม่ก็กระต่ายที่กำลังตื่นกลัว
“มะ-มีอะไรหรอ…?”
เด็กสาวที่กำลังมองมาที่ฉัน ใบหน้าของเธอดูราวกับว่าเธอเป็นตุ๊กตา ดวงตาสีฟ้าใส่นั้นกลมสวยงามส่องประกายราวกับหินอ่อน
เด็กชาวต่างชาติงั้นเหรอ? แต่ว่าเธอพูดภาษาญี่ปุ่นได้นี่นา?
ช่างมันเถอะ เอาไว้ถามทีหลังก็ได้
“ฉันชื่อว่าอาซานางิ อาซานางิ อุมิ แล้วเธอล่ะ?”
“เอ๊ะ? เอ่อ…ฉันชื่อยู อามามิ ยู…ค่ะ”
“ยูจังสินะ เธอเรียนอยู่ชั้นไหนหรอ?”
“ป.สาม…พึ่งย้ายมา”
เธอดูเตี้ยกว่าฉันมาก ฉันเลยคิดว่าเธอน่าจะอายุน้อยกว่า แต่ปรากฏว่าพวกเราอายุเท่ากัน
อีกอย่างเหมือนจะเคยได้ยินเพื่อนห้องอื่นบอกว่ามีนักเรียนย้ายมาใหม่อยู่เหมือนกัน
หมายความว่า เธอคนนี้คือเด็กที่ย้ายมาใหม่ใช่ไหมนะ?
“ทำไมถึงเดินกลับบ้านคนเดียวล่ะ? แล้วเพื่อนๆที่อยู่ห้องเดียวกันล่ะ?”
“เพื่อน…ไม่มี…ค่ะ”
“ไม่มีเพื่อนเลยหรอ?”
ถ้าเป็นนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่และยังเป็นเด็กสาวที่น่ารักมาก โดยปกติจะต้องมีคนพยายามเข้ามาหาเยอะไม่ใช่หรอ?
“ก่อนที่ฉันจะย้ายมาที่นี่ คนอื่นๆพยายามหลีกเลี่ยงฉันตลอดเลย…เพราะสีผมกับสีตาของฉันแตกต่างจากคนอื่น…ฉันกลัวว่าที่นี่ก็อาจจะเป็นเหมือนกัน…”
“แบบนี้เองสินะ…”
จากที่ยูเล่าเรื่องโรงเรียนเก่าของเธอให้ฟัง แต่ความประทับใจของฉันที่มีต่อเพื่อนเก่าของเธอนั้นเลวร้ายมาก แค่ได้ฟังฉันยังรู้สึกโกรธเลย
แน่นอนว่าเด็กที่มีสีผมสีอื่นที่ไม่ใช่สีดำจะเป็นจุดเด่นและมีความแตกต่างอย่างมากจากเด็กส่วนใหญ่ที่โดยปกติจะมีผมสีดำ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเด็กคนอื่นๆจะได้รับอนุญาตให้มารังแกหรือกีดกันเด็กคนนั้นออกจากลุ่ม
และยิ่งเป็นถึงเด็กที่น่ารักขนาดนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่อยากพูดถึง
ถ้าฉันอยู่ที่นั่น ฉันจะเป็นคนแรกที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอก่อนที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นแน่นอน
“เธอนี่โชคร้ายจริงๆนะ เอาล่ะ…ถ้าอย่างนั้น ต่อจากนี้ไปเธอมากลับบ้านพร้อมกันกับฉันไหม?”
“เอ๊ะ?”
หลังจากที่ฉันพูดไป ยูก็มองหน้าฉันเหมือนกับสงสัยอะไรบางอย่าง
…ทำไมต้องระแวงขนาดนั้นด้วยล่ะ? หากมีเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือแล้วล่ะก็ ฉันนี่แหละจะเป็นคนช่วยเอง นั่นคือนิสัยของฉัน
“เดินกลับบ้านคนเดียวไม่รู้สึกเหงาหรอ? หรือว่าเธอเกลียดฉันงั้นเหรอ?”
“ระ-เรื่องแบบนั้น…แต่ว่า…ไม่เป็นไรจริงๆหรอ?”
“เธอหมายถึงอะไรน่ะ?”
“..เพราะถ้าอาซานางิซังเดินกับคนอย่างฉัน บางที…”
“…ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
เมื่อพูดอย่างนั้น ฉันก็จับมิอของยูไว้แน่น ยูมีท่าทางขัดขืนเล็กน้อย แต่ฉันก็ไม่ยอมปล่อยมือของเธอ
“ถ้าฉันจะโดนกีดกันไปด้วยก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้ตัวคนเดียวสักหน่อย…ยังไงฉันก็ยังมีเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้อยู่ทั้งคน”
“! อาซานางิซัง…”
“เรียกฉันว่า อุมิ ฉันเองก็จะเรียกเธอว่ายูด้วยเหมือนกัน”
ฉันได้ตัดสินใจไปแล้วตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาทักทายและได้พูดคุยกับเด็กคนนี้
ฉันจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนี้ต้องอยู่เพียงลำพังอย่างแน่นอน
“นี่ ยู”
“มีอะไรเหรอ? อุมิจัง”
“เธอช่วยยิ้มให้ดูหน่อยได้ไหม?”
“เอ๋~…!? จู่ๆก็ให้ทำแบบนั้น…มันน่าอายนะ”
“ได้โปรดน้า แค่ฉันคนเดียวก็ได้ ขอฉันดูหน่อยน้า ฉันอยากเห็นรอยยิ้มน่ารักของยูจริงๆนะ”
“อะ อือ~…งั้น แค่นิดเดียวนะ?”
หลังจากนั่นเราก็เดินไปที่ถนนแคบๆ ตรงหลังตรอกที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน ยูค่อยๆยิ้มขึ้นมาอย่างช้าๆ
“..น่ารัก”
ตอนที่ฉันได้เห็นรอยยิ้มของยู ความรู้สึกของฉันก็หลุดออกมาจากปากโดยไม่รู้ตัว
และในตอนนั้นฉันก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่า…
เด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กที่จะมาทำตัวมืดมนเดินอยู่บนถนนเพียงลำพังแบบนั้น
เธอควรที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นรอยยิ้มน่ารักและแวววาวสว่างไสวเหมือนกับสีผมของเธอต่างหาก
“งั้น ยู กลับบ้านกันเถอะ”
“อืม อุมิจัง”
“ยู ห้ามเติมคำว่า จัง นะ”
“เอ๋~..ถะ ถ้างั้น อะ-อุมิ”
“โอเคร~ ดีมาก แบบนั้นแหละ เยี่ยม”
“งั้นเหรอ? เอะเฮะเฮะ”
ยู กับ ฉันได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน พวกเราจับมือกันและเดินออกจากโรงเรียนไปด้วยกัน
…นั่นคือ 「จุดเริ่มต้น」 ของเรื่องนี้
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
วันรุ่งขึ้น ฉันตัดสินใจที่จะแนะนำยูให้กับเพื่อนคนอื่นๆได้รู้จัก
ฉันว่าจะแนะนำให้ยูรู้จักกับ นิโทริ ซานาเอะ และ โฮโจ มานากะ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่ฉันสนิทด้วยเป็นพิเศษตั้งแต่สมัยเข้ามาเรียนที่โรงเรียนประถม และส่วนใหญ่พวกเราสามคนมักจะออกจากโรงเรียน และเดินกล้บบ้านด้วยกัน
“พร้อมนะ ยู”
“อะ อืม แต่ว่า…”
“ไม่เป็นไรนะ ทั้งสองคนเป็นเด็กดีเหมือนกับฉันนี่แหละ”
“…ถ้าอุมิบอกแบบนั้น”
ความจริงแล้วฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะแนะนำยูให้กับเพื่อนๆของฉันได้รู้จักตั้งแต่เมื่อวานนี้ แทนที่จะเป็นวันนี้ สำหรับฉันมองว่าโดยธรรมชาติแล้วยูเป็นเด็กที่ค่อนข้างเป็นคนขี้กลัว ดังนั้นหากปล่อยให้เวลาผ่านไปนานมากเกินไป ยูอาจจะไม่สามารถหาเพื่อนคนอื่นได้นอกจากตัวฉันเนื่องจากนิสัยขี้กลัวของเธอ
ถ้าฉันสามารถที่จะอยู่กับยูได้ตลอดเวลา การช่วยเธอมันคงจะง่ายขึ้นมาก แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้
ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันควรจะต้องมีพันธมิตรที่คอยช่วยเหลือยูให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“อามามิ ยู อยู่ป.สามค่ะ เอ่อ…ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“อือ ยินดีที่ได้รู้จักนะยูจัง”
“ยูจังสวยจริงๆ น่ารักมากเลย”
แน่นอนว่ามานากะกับซานาเอะยอมรับยูอย่างง่ายดาย…ถึงจะเป็นเพราะว่าฉันได้มาคุยกับทั้งสองคนไว้ล่วงหน้าแล้วก็เถอะนะ…ดังนั้นผลมันก็ต้องออกมาแบบนี้อยู่แล้ว
“ยู ดีจังเลยนะ”
“อือ ขอบคุณนะอุมิ เพราะเธอฉันถึงได้เพื่อนใหม่ตั้งสองคน”
“น่า แค่นี้สบายมาก”
ฉันไม่อยากจะอวดหรอกนะ แต่ฉันน่ะเป็นคนที่มีเพื่อนอยู่เยอะเลยล่ะ ถึงฉันมักจะมาอยู่กับซานาเอะและมานากะก็จริง แต่ฉันก็ยังมีเพื่อนอยู่ห้องเรียนอื่นด้วยนะ
ถ้าฉันจับยูให้เข้ามาอยู่ในกลุ่มเพื่อนของฉันได้ มันจะไม่ใช่แค่สองคน แต่ยูจะสามารถใช้เวลาทั้งวันอยู่กับเพื่อนได้มากขึ้น
ฉันมั่นใจแบบนั้น และผลของมันก็ออกมาตามที่คาดไว้
“เอะเฮะเฮะ อุมิ มานะจัง ซานะจัง ทางนี้ ทางนี้~”
ยูเริ่มหัวเราะอย่างสดใสต่อหน้าทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นความมั่นใจในตัวเองของยูหลังจากที่เธอโดนกีดกันและรังแกมาจากโรงเรียนเก่า
และก็เป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ตอนที่ได้พบกับยูครั้งแรก ทุกคนดูสดใสขึ้นด้วยรอยยิ้มอันแสนสดใสของยู
จนถึงจุดที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ฉันวางเอาไว้ ฉัน…ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆยู…รู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นเธอสดใสและน่ารักมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป
จนถึงจุดที่ทุกอย่างยังผ่านไปได้อย่างราบรื่น…
…ทั้งๆที่มัน…ควรจะเป็นแบบนั้น…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. ตอนสุดท้ายของวันนี้ครับ
ปล2. ทุกท่านเห็น (1) หลังชื่อตอนนั่นไหม แน่นอนว่าต้องมี (2) แต่ผมว่าคงไม่ค่อยค้างกันเท่าไหร่นะครับ
ปล3. จินตนาการอุมิจัง กับยูจังตัวเล็กๆแล้วฟินเหมือนเห็นลูกสาว น่ารักเกิ๊นนนน
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Durimtok Channel