I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 65
ตอนนี้ลืมเรื่องของวันคริสต์มาสไปก่อนเถอะ
ผมกับอุมิตัดสินใจที่จะยังคงความสัมพันธ์กันไว้ในฐานะแบบเพื่อนไปก่อน โดยมีเป้าหมายว่าในสักวันพวกเราจะกลายมาเป็นคู่รักกันจริงๆให้ได้ แต่ในตอนนี้เอาจริงๆการปฏิบัติตัวของพวกเราก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นพิเศษ
พวกเราพยายามที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แต่เรื่องที่เราคุยกันก็ยังคงเป็นเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อยๆเหมือนเดิมกับ เช่น ความเห็นเกี่ยวกับพิซซ่าหน้าใหม่ๆ หรือในตอนที่เราเล่นเกมกัน พวกเราก็ยังคงซ้ำศพและล้อเลียนกันเหมือนปกติ…ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขจริงๆ
“อุมิ~~ อรุณสวัสดิ์~~”
“อรุณสวัสดิ์ ทั้งๆที่อากาศหนาวขนาดนี้แต่เธอก็ยังร่าเริงเหมือนเดิมเลยนะยู”
“เอเฮะๆ ก็ปกตินี่นา~ ว่าแต่ให้ฉันแบ่งพลังไปให้อุมิด้วยดีไหม?”
“ไม่ต้องเลยๆ แต่ว่านะ ถ้าจะแบ่งจริงๆนี่จะแบ่งพลังมายังไงล่ะนั่น?”
“อืม~ จูบล่ะมั้ง?”
“อย่าแม้แต่จะคิดเชียว แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นด้วย”
เมื่อตอนที่ผมเดินเข้ามาภายในห้องเรียน ผมก็สังเกตเห็นเด็กสาวสองคนที่กำลังคุยเล่นกันอยู่อย่างสนิทสนม
อามามิ ยู และ อาซานางิ อุมิ…สุดยอดสองสาวสวยประจำห้องของพวกเรา
ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชั้นประถม แต่ดูเหมือนว่าช่วงหลังๆมานี้พวกเธอจะสนิทกันมากยิ่งขึ้นไปอีก
แน่นอนว่าการมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ดังนั้นผมจึงไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้…แต่ว่านะ การที่อามามิซังกำลังจับนู่นจับนี่อย่างสนุกสนานนี่มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเพื่อสนิทด้วยใช่ไหม?
–ฟุฟุ อามะxอาซะ นี่มันสุดยอดที่สุด…
(TL: 天×朝 = เป็นการอ่านแบบ kun-yomi นะครับ ออกเสียงก็จะเป็น あまxあさ = อามะ x อาสะ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดอะนะครับ(ฮา))
–ไม่ใช่เฟ้ย ดูยังไงก็เป็นอาซะxอามะ…
ผมไม่สนใจเสียงซุบซิบที่ดังมาจากที่ไหนสักแห่งในห้องเรียน และเดินเข้าไปหาทั้งสองคนที่ดูเหมือนกำลังจีบกันอยู่
“เอ่อ…อรุณสวัสดิ์ อามามิซัง”
“!อ๊ะ มากิคุง! อรุนสวัสดิ์~! วันนี้อากาศหนาวมากเลยเนอะ ตอนแรกมือของฉันชาจนเกือบจะปลดกระดุมเสื้อโค้ทไม่ได้เลยล่ะ ว่าแต่มากิคุงไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ให้ฉันช่วยอุ่นมือให้ดีไหม?”
“อ๊ะ ไม่เป็นไร พอดีผมมีที่อุ่นมืออยู่น่ะ เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรหรอก”
พูดจบอามามิซังก็เอื้อมมือออกมาเหมือนกำลังจะจับมือของผม ผมจึงรีบถอยหลังหลบออกมาทันที
ก็เหมือนทุกที อามามิซังไม่เคยระวังตัวในเรื่องของระยะห่างระหว่างชาย-หญิง เธอไม่เคยสนใจว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง..นั่นจึงทำให้ผมรู้สึกกลัวในหลายๆความหมายล่ะนะ…บางทีในมุมมองของอามามิซัง เธออาจจะแบ่งวิธีการปฏิบัติตัวออกเป็นแค่สี่ขั้นง่ายๆก็เป็นได้ ยกตัวอย่างเช่น 「คนแปลกหน้า」 → 「คนรู้จัก」 → 「เพื่อน」 → 「เพื่อนสนิท」ดังนั้นภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจึงมีเด็กผู้ชายจำนวนมากเข้าใจผิดและตกเป็นเหยื่อที่โดนเธอบดขยี้โดยไม่ได้ตั้งใจ
“อรุณสวัสดิ์ มาเอะฮาระ”
“อือ อรุณสวัสดิ์ อาซานางิ”
นี่คือวิธีปกติที่ผมใช้โต้ตอบกับอุมิเวลาที่อยู่ในห้องเรียน พวกเราทำตัวเหมือนปกติจนดูเหมือนว่าไม่มีอะไรระหว่างพวกเราเปลี่ยนแปลงไปเลย
หลังจากเหตุการณ์การจับมือแบบคู่รัก คนทั้งชั้นเรียนก็ได้รู้ว่าผมกับอุมิมีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน แต่ว่า…ผมไม่เคยคิดที่จะมานั่งจีบกันต่อหน้าคนอื่นหรอกนะ
ถึงในตอนนี้ชีวิตที่โรงเรียนมันจะดูน่าเบื่อไปเสียหน่อย
แต่เมื่อพวกเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองมันก็อีกเรื่องนึงล่ะนะ
นี่คือวิธีที่ผมคบหากับอุมิในตอนนี้
“…หุฟุฟุ~”
“ยู เหมือนเธออยากจะพูดอะไรบางอย่างสินะ”
“เปล่าสักหน่อย~”
อามามิซังที่รู้เรื่องทุกอย่างของพวกเราเป็นอย่างดี จะยิ้มอย่างสนุกสนานอยู่เสมอในตอนที่เห็นพวกเราสองคนคุยกันแบบนี้
ด้วยความที่อุมิคอยระวังตัวเป็นอย่างดี ในที่สุดเสียงซุบซิบนินทาเกี่ยวกับพวกเราก็ค่อยๆจางหายไป…แต่ว่านะ…พวกเราไม่สามารถทำอะไรเพื่อที่จะหยุดการกระทำของอามามิซังได้เลยแม้แต่น้อย
หรือบางทีพวกเราคงจะรู้สึกยอมแพ้ไปแล้วล่ะนะ
เมื่อความสัมพันธ์ของผมกับอุมิสนิทกันมากขึ้น ดังนั้นเวลาที่พวกเราใช้ร่วมกันก็ยอมมากขึ้นตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน…เวลาที่อุมิจะใช้ร่วมกับอามามิซังก็ต้องน้อยลงอย่างช่วยไม่ได้ แต่ว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะดูเหมือนว่าช่วงนี้อามามิซังจะค้นพบ「ความสนุก」บางอย่างเข้า และเธอก็กำลังสนุกไปกับเรื่องที่เธอค้นพบมากขึ้นเรื่อยๆ
“อุมิ ทำไมช่วงนี้เธอดูเหมือนเว้นระยะห่างกับมากิคุงมากขึ้นล่ะ? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? จะว่าไป…อุมิเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันจันทร์นี่นา เหมือนวันนั้นเธอจะมาโรงเรียนพร้อมกันกับมากิคุงใช่มั้ยน้า~”
“หะ หา? มะ-ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย”
อุมิในตอนนี้นี่ดูออกง่ายชะมัด
ถ้าพูดถึงวันนั้น…เป็นวันที่จู่ๆอุมิก็หอมแก้มของผมสินะ…
ในตอนนั้นพวกเราทั้งสองคนกำลังอยู่ในช่วงที่หวั่นไหว และแน่นอนว่าที่อุมิทำแบบนั้นก็เพราะบรรยากาศพาไปอย่างแน่นอน และก็ด้วยเหตุนั้นเองทำให้เวลาพวกเราเจอหน้ากันทีไรมันจึงรู้สึกอึดอัดแปลกๆ
“เอ๋? เป็นอะไรไปอุมิ~? ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ?”
“เอ่อ…ชะ-ใช่แล้ว มันต้องเป็นเพราะเครื่องปรับอากาศแน่ๆเลยล่ะ”
“…ฟุฟุ อุมิน่ารักจัง ♪”
“ยะ…ยัยปลาหมึกนี่…!”
(TL: จริงๆอุมิจังพูดว่าタコ助 ทาโกะสึเกะ เหมือนกับเป็นคำเรียก คำอุทาน แบบหยาบคายคำนึงครับ ไม่รู้จะแปลไงก็แปลแบบบ้านๆไปเลยแล้วกันนะครับ ทาโกะ = ปลาหมึก ไปโลด(ฮา))
ความสนุกที่อามามิซังค้นพบก็คือท่าทางน่ารักๆของอุมิที่จะแสดงออกมาเมื่อเธอถูกล้อเลียนด้วยเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของผมกับเธอ
…ช่างเป็นงานอดิเรกที่ดีต่อใจจริงๆ
ผมแยกตัวออกมาจากทั้งสองคนที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่ และเมื่อผมนั่งลงที่โต๊ะเพื่อเตรียมตัวเรียนตามปกติ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของผมก็สั่น
[ อาซานางิ ] : นายอย่าเข้าใจผิดล่ะ
[ มาเอะฮาระ ] : อุมิน่ารักจัง
[ อาซานางิ ] : ดูเหมือนนายจะอยากตายสินะ
[ มาเอะฮาระ ] : ขอโทษครับ
[ มาเอะฮาระ ] : จริงสิ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธออยู่น่ะ
[ อาซานางิ ] : หืม? เรื่องอะไรหรอ?
[ มาเอะฮาระ ] : ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก
[ อาซานางิ ] : หืม?
[ มาเอะฮาระ ] : เกี่ยวกับวันคริสต์มาสน่ะ
เมื่อผมพิมพ์ไปแบบนั้น อุมิก็ตอบกลับมาช้าไปเล็กน้อย
[ อาซานางิ ] : คนลามก
[ มาเอะฮาระ ] : ………
[ มาเอะฮาระ ] : ไหงกลายเป็นงั้น?
[ อาซานางิ ] : ก็นั่นไง จากที่นายบอก มันเป็นคำเชิญวันคริสต์มาสใช่ไหมล่ะ?
[ อาซานางิ ] : แบบว่า…มาใช้เวลาร่วมกันในวันคริสต์มาสที่ห้องของมากิ อะไรแบบนั้นน่ะ
[ มาเอะฮาระ ] : อืม ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วอีกอย่างแม่ก็ไม่อยู่บ้านเพราะติดงานด้วย
[ อาซานางิ ] : เห็นไหมล่ะ
[ มาเอะฮาระ ] : …คนอื่นๆก็ทำแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ
อย่างที่คิด ถ้าพูดถึงคำคืนของวันคริสต์มาส ทุกคนก็คงเชื่อมโยงไปถึงเรื่องอย่างนั้นสินะ
จริงๆผมเองก็เหมือนเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน
ค่ำคืนศักดิ์สิทธิ์ที่คู่รักจะใช้เวลาร่วมกัน…แต่ผมไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของผมกับอุมิจะไปถึงขั้นนั้นหรือยังน่ะสิ
[ อาซานางิ ] : ล้อเล่นๆนา ว่าแต่นายมีแผนจะทำอะไรงั้นเหรอ?
[ มาเอะฮาระ ] : ตอนแรกคิดว่าถ้าอุมิมาที่บ้าน ก็กะว่าอย่างน้อยจะทำเค้กล่ะนะ
[ อาซานางิ ] : เอาจริงดิ? มากิ นี่นายทำเค้กได้จริงดิ?
[ มาเอะฮาระ ] : อ่า…ถ้ามีวัตถุดิบกับอุปกรณ์ครบก็ไม่ใช่ปัญหา
[ อาซานางิ ] : เอ๋? จริงๆแล้วมากิเป็นเอเลี่ยนปลอมตัวมาใช่ไหม?
[ มาเอะฮาระ ] : ไม่ใช่เฟ้ย ฉันเป็นชาวโลกนะ
ถ้าจะให้พูดจากมุมมองของผม อาซานางิผู้ที่สามารถเปลี่ยนช็อกโกแลตให้กลายเป็นถ่านได้ (※ตามคำให้การของอามามิซัง) ต่างหากที่ดูจะเป็นเอเลี่ยนมากกว่า…แต่ผมคงพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้เพราะตัวผมเองอาจจะตายได้
[ อาซานางิ ] : เค้กทำมือของมากิงั้นเหรอ~ งั้นฉันคงต้องวางแผนใหม่แล้วสินะ
[ มาเอะฮาระ ] : …วางแผนใหม่? นี่แสดงว่าอุมิมีนัดไว้ก่อนแล้วหรอ?
[ อาซานางิ ] : อืม เคยคุยกันไว้นานแล้วล่ะ
[ อาซานางิ ] : เอ๊ะ? นี่มากิ…หรือว่านายไม่รู้เรื่องปาร์ตี้วันคริสต์มาสงั้นเหรอ?
ปาร์ตี้อะไรนะ?
ผมหยุดตัวเองไว้ได้ก่อนที่จะพิมพ์ตอบไป…
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
หากถูกใจก็ฝากติดตามเพจ Durimtok Channel | Facebook กันด้วยนะครับ
ขแบคุณที่ติดตามครับ