I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 66
เกี่ยวกับงานปาร์ตี้คริสต์มาส
จากที่อุมิเล่าให้ฟัง ดูเหมือนว่างานปาร์ตี้จะเริ่มมีการเจรจากันตั้งแต่ช่วงจบวันหยุดฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยที่จะมีการเช่าสถานที่และทำการเชิญโรงเรียนมัธยมในพื้นที่รอบๆมาเข้าร่วมเพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกัน ซึ่งโรงเรียนของเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
โดยกิจกรรมนี้ทางสภานักเรียนของโรงเรียนเราเป็นคนคิดขึ้นมา เพื่อให้เหล่ารุ่นพี่ปี 3 ที่กำลังอยู่ในฤดูการเตรียมสอบได้พักผ่อนบ้าง โดยมีค่าธรรมเนียมการเข้างานอยู่ที่ 3,000 เยน และการลงทะเบียนก็พึ่งจะปิดไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
อันที่จริงแล้วอาจารย์ยางิซาวะที่เป็นอาจารย์ประจำชั้นก็ได้แจ้งเรื่องนี้กับทุกคนแล้วในช่วงสิ้นสุดวันหยุดฤดูร้อน และแน่นอนว่าผมไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้อุมิไม่ว่างในช่วงวันคริสต์มาสนั่นเอง
และเนื่องจากการลงทะเบียนเข้างานได้สิ้นสุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นที่แน่นอนว่าผมไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ถึงจะอยากเข้าร่วมก็ตาม
[ อาซานางิ ] : อืม ฉันก็แค่ไปเป็นเพื่อนยูล่ะนะ แต่เอาจริงๆฉันกับยูก็ไม่ได้อยากไปงานนี้สักเท่าไหร่หรอกนะ
[ มาเอะฮาระ ] : อามามิซังด้วยงั้นเหรอ? นึกว่าอามามิซังน่าจะชอบงานอะไรแบบนี้ซะอีกนะ
[ อาซานางิ ] : เดิมทียูก็ชอบแล้วก็ตั้งตารอไปงานนี้นั่นแหละนะ แต่ว่านะ
[ อาซานางิ ] : งานนี้มีโรงเรียนอื่นเข้าร่วมด้วยใช่ไหมล่ะ?
[ มาเอะฮาระ ] : แล้ว?
[ อาซานางิ ] : โรงเรียนสตรีทาจิบานะ
[ มาเอะฮาระ ] : …เข้าใจล่ะ
พอรู้แบบนั้นผมก็เข้าใจทันที
โรงเรียนสตรีทาจิบานะคือโรงเรียนที่อุมิกับอามามิซังเรียนมาด้วยกันจนถึงม.ต้น และนั่นก็อาจหมายความว่าเพื่อนเก่าอีกสองคนของพวกเธออาจจะเข้าร่วมงานด้วย…นิโทริซังกับโฮโจซัง
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของพวกเธอหลังจากวันงานวัฒนธรรมโรงเรียน แต่ถ้าฟังจากคำพูดของอุมิแล้ว ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอจะไปได้ไม่สวยสักเท่าไหร่
มันเป็นเรื่องจริงที่วันงานเทศการวัฒนธรรมโรงเรียนทำให้ผมกับอุมิได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น…แต่แน่นอนว่าพวกเราก็ต้องสูญเสียบางสิ่งเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน…สิ่งนั้นก็ไม่ใช่สิ่งไกลตัว…และมันก็คือความแตกแยกระหว่างเพื่อนเก่าทั้งสองคนกับอามามิซัง
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้…แต่ทั้งผมและอูมิต่างก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
[ อาซานางิ ] : แล้วก็เพราะเราจ่ายค่าธรรมเนียมเข้างานไปแล้ว แถมยังยกเลิกไม่ได้ด้วย พวกเราก็เลยวางแผนที่จะไปกินข้าวในงานให้เยอะๆแล้วค่อยกลับบ้าน
[ อาซานางิ ] : นั่นเป็นแผนที่ยูคิดขึ้นมาล่ะนะ
[ มาเอะฮาระ ] : เข้าใจแล้ว มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
ถ้าพวกเธอยกเลิกในช่วงนี้ พวกรุ่นพี่ที่เป็นคนวางแผนก็จะเดือดร้อนด้วย ดังนั้นการที่เข้าร่วมงานแล้วก็รีบกลับทันทีหลังจากถึงเวลาเลิกงานก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว
และดูเหมือนว่านั่นคือแผนของอามามิซังที่จะทำในงานปาร์ตี้คริสต์มาส
[ อาซานางิ ] : อ๊ะ! แต่ว่านะ…
[ มาเอะฮาระ ] : อะไรเหรอ?
[ อาซานางิ ] : ดูเหมือนว่างานจะเลิกตอนช่วงประมาณ2ทุ่มถึง3ทุ่มล่ะ
[ อาซานางิ ] : ดังนั้นแล้ว….ได้ไหมนะ?
หลังจากงานปาร์ตี้จบแล้ว
พูดอีกอย่างก็คือ ยังมีเวลาหลังจากนั้นสินะ
[ มาเอะฮาระ ] : เข้าใจล่ะ
[ มาเอะฮาระ ] : ถ้างั้นจะเตรียมอะไรเบาๆไว้ให้นะ
[ มาเอะฮาระ ] : แล้วก็จะได้บอกแม่ด้วยว่าอุมิจะมาตอนดึกๆ
[ อาซานางิ ] : ฝากด้วยนะ
[ อาซานางิ ] : ฉันเองก็จะบอกแม่ด้วยเหมือนกัน
[ อาซานางิ ] : แล้วก็บางที
[ มาเอะฮาระ ] : …บางที?
[ อาซานางิ ] : ก็
ทันทีที่ผมอ่านข้อความถัดมาของอุมิ หัวใจของผมก็เต้นแรงทันที
[ อาซานางิ ] : ฉันอาจจะค้างคืนก็ได้
วันคริสต์มาส
ผมคิดว่ามันคือวันที่เราจะได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนที่เราห่วงใย เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่คนรัก
และในคืนนั้น……
และเมื่อผมหันไปมองอุมิที่นั่งอยู่ในแนวทแยงจากโต๊ะของผม ราวกับโชคชะตาเล่นตลก..สายตาของผมกับอุมิก็มาบรรจบกันพอดี
“…!”
แก้มของผมรู้สึกร้อนขึ้นมา ผมจึงรีบก้มหน้าลงบนโต๊ะทันที
และเมื่อผมเหลือบตาดูอุมิ ก็พบว่าเธอเองก็มีท่าทางเหมือนกันกับผม
…ฉันอาจจะค้างคืนก็ได้…
…นั่นหมายความว่า
(TL: ( ͡° ͜ʖ ͡°) ( ͡° ͜ʖ ͡°) ( ͡° ͜ʖ ͡°))
[ มาเอะฮาระ ] : เอ่อ…ลามกจัง
[ อาซานางิ ] : !
[ อาซานางิ ] : หนวกหูนะตาบ้า!
[ อาซานางิ ] : ใจร้ายจริงๆเลยนะ
[ อาซานางิ ] : จริงๆแล้วมันเป็นความผิดของนายไม่ใช่รึไง?
[ อาซานางิ ] : นายเป็นคนชวนฉันในวันคริสต์มาสเองแท้ๆ
[ มาเอะฮาระ ] : ก็คงจะเป็นการโกหกถ้าบอกว่าไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้นเลยอะนะ
แน่นอนว่าผมเองก็ต้องมีแอบคิดเรื่องแบบนี้บ้างอยู่แล้วไม่ใช่รึไง…แล้วบอกตามตรงนะว่าผมเองก็แอบจินตนาการแบบนั้นแล้วก็ใช้เวลาไปกับมันด้วย
ผมหมายถึงว่า…นี่พวกเรากำลังคุยอะไรกันในตอนเช้าแบบนี้เนี่ย!!
โชคดีที่พวกเราแชทกันแบบส่วนตัว…แต่ถ้ามีคนอื่นมาเห็นแชทของพวกเรา พวกนั้นก็คงมองพวกเราแบบแปลกๆพลางนึกในใจว่า「พวกคู่รักงี่เง่า」สินะ
ผมหมายความว่า…ผมไม่รู้สึกอายที่จะมีคนอื่นมาเห็นแชทพวกนี้หรอกนะ
แล้วทั้งๆที่พวกเรามาไกลถึงขนาดนี้แล้ว แต่พวกเราก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน…แบบนี้มันแปลกไหมนะ?
และเพราะว่าผมไม่มีเพื่อนคนอื่น ผมจึงมาสามารถที่จะไปปรึกษาใครได้…ถ้ามีเพื่อนสักคนก็คงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาได้ล่ะนะ…แต่ทันใดนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า…หรือบางทีผมควรที่จะหาเพื่อนที่เหมือนกับอุมิเพิ่มดีนะ
กลุ่มเพื่อนในปัจจุบันของผมนั้นแคบมาก…เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมคืออุมิ แล้วนอกจากนี้ก็มีเพียงอามามิซังที่เป็นเพื่อนสนิทของอุมิอีกที
ผมไม่มีเพื่อนที่เป็นเพศเดียวกันเลย แต่ผมกลับมีเพื่อนที่เป็นสาวสวยที่สุดของห้องสองคน….อืม มันเป็นมิตรภาพที่แปลกประหลาดจริงๆ
[ อาซานางิ ] : ตอนนี้หยุดคุยเรื่องวันคริสต์มาสกันก่อนเถอะ
[ มาเอะฮาระ ] : นั่นสินะ
[ มาเอะฮาระ ] : แต่ว่าถ้าเป็นแบบนี้อามามิซังก็น่าสงสารอยู่นะ
[ อาซานางิ ] : อา ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
[ อาซานางิ ] : เพราะฉะนั้นแล้ว ฉันเลยว่าจะพายูไปด้วย
แบบนี้อาจจะดีกว่าก็ได้ หลังจากที่งานปาร์ตี้จบ อุมิก็ยังมีเวลาได้อยู่กับผมกันสองคน แต่ถ้าเป็นแบบนั้น…อามามิซังก็คงต้องกลับบ้านเพียงลำพังคนเดียว
มีเพียงอามามิซังคนเดียวที่จะถูกแบ่งแยกออกไป ซึ่งผมไม่อยากให้มันกลายเป็นแบบนั้น
[ มาเอะฮาระ ] : คงปล่อยให้อามามิซังอยู่คนเดียวแบบนั้นไม่ได้จริงๆล่ะนะ
[ อาซานางิ ] : นั่นสิน้า
[ อาซานางิ ] : ยูน่ะ ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่จิตใจของเธอก็เป็นนางฟ้าด้วย
[ อาซานางิ ] : ช่วงนี้ก็เลยมีแต่เรื่องหนักใจล่ะนะ
[ มาเอะฮาระ ] : เรื่องหนักใจ?
[ มาเอะฮาระ ] : หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากงานวัฒนธรรม?
[ อาซานางิ ] : อืม
[ อาซานางิ ] : อันที่จริงมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานปาร์ตี้นี้ด้วยล่ะนะ
[ มาเอะฮาระ ] : ??
[ อาซานางิ ] : อืม ถ้าเห็นเองน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า
[ อาซานางิ ] : วันนี้ไว้มาเจอกันตอนพักเที่ยงนะ
[ มาเอะฮาระ ] : หืม? โอเค
หลังจากนั้นผมกับอุมิก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
“อุมิเป็นอะไรไปน่ะ ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะ?”
“ก็นิดหน่อยน่ะ ว่าแต่วันนี้ช่วงเย็นเธอว่างไหม? ฉันมีเรื่องอยากคุยนิดหน่อย”
“แน่นอน! เอเฮะๆ เรื่องอะไรกันน้า? ฉันตั้งตารอเลย~”
ผมไม่เห็นถึงสิ่งผิดปกติอะไรจากท่าทางที่อามามิซังแสดงออกมาในชั้นเรียนเลยแม้แต่น้อย
แต่ถ้ามีอะไรที่ผมสามารถช่วยได้ ผมก็อยากจะช่วยเธอเหมือนกัน….