CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 74

  1. Home
  2. I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
  3. ตอนที่ 74
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ในเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อที่จะได้ไปโรงเรียนด้วยกันกับอุมิ ผมก็ถามอุมิเกี่ยวกับเรื่องของอามามิซังที่เกิดขึ้นเมื่อวานในตอนที่เธอแวะมารับผมที่บ้าน  

 

“–หืม? อืม~ ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากนะ ส่วนมากจะเป็นเรื่องที่บ่นให้กันฟังมากกว่า”

 

หลังจากที่กินเค้กร้อนที่ผมเป็นคนทำกับจิบกาแฟหลังอาหาร อุมิก็พูดขึ้นมา

 

“เรื่องที่บ่นงั้นหรอ…ฉันจะไม่ถามเกี่ยวกับรายละเอียดเเล้วกัน อย่างที่คิดจริงๆ อามามิซังก็มีเรื่องที่ลำบากเหมือนกันสินะ”

 

“ไม่สิ จะว่าไปเมื่อไม่นานมานี้ฉันเองก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนกัน”

 

“แล้วตอนนี้ล่ะ”

 

“เอ๊ะ? ตอนนี้เหรอ?”

 

อุมิสะดุ้ง ก่อนที่ร่างของเธอจะแข็งทื่อไป

 

ตอนที่ผมถามคำถามนี้ไปก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ปฏิกิริยาตอบรับของอุมิดูจะแปลกไปสักหน่อย

 

งั้นมาดูกันว่าเธอจะตอบว่ายังไงกันดีกว่า

 

“ตะ ตอนนี้สินะ”

 

“อือ”

 

“คือว่าเรื่องนั้น…ฉันหมายถึง บางทียูก็ชอบคุยเรื่องความรักจนฉันตามไม่ค่อยทันน่ะนะ”

 

“……”

 

“กะ-ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา ฉันเองก็ระวังตัวอยู่เหมือนกันนะ แต่ก็เพราะว่ายูเอาแต่ถามมาไม่หยุดจนฉันคิดไม่ทัน…ก็เลยหลุดปากไปนิดหน่อยเอง…”

 

“แล้วหลุดไปขนาดไหนล่ะ?”

 

“เอ่อ…ก็เรื่องก่อนหน้านี้…ประมาณถึงเรื่องตอนที่อยู่ในลิฟต์…”

 

“นั้นมันก็ทุกอย่างจนเกือบถึงล่าสุดเลยไม่ใช่เรอะ!”

 

สำหรับคนคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง พวกเรามาเลี้ยงขนมที่อามามิซังชอบจนกว่าเธอจะพอใจกันเถอะ

 

แล้วนอกจากเรื่องใหญ่อย่างเรื่องความรักของพวกเรา ตามที่อุมิเล่ามาก็มีเรื่องของคำสารภาพรักของโนโซมุ ดูเหมือนว่าอามามิซังจะกังวลกับภาพลักษณ์ของโนโซมุภายในห้องเรียน พวกเธอจึงไม่ได้กลับมาทานอาหารกลางวันที่ห้อง และเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศของผู้ที่ไปแอบดูตอนกลับมาที่ห้อง ผมคิดว่าการตัดสินใจของอามามิซังนั้นถูกต้องแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งเซกิคุงและผมต่างก็มีความหวังลมๆแล้งๆว่าบางทีอามามิซังอาจจะมีความสนใจเล็กน้อยเกี่ยวกับคำสารภาพรักของเขา แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะคิดผิด

 

“จะว่าไป ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่ามากิกับเซกิจะกลายมาเป็นเพื่อนกันได้…จะว่าไงดีละ ฉันคิดว่าพวกนายเหมือนอยู่กันคนละโลกซะอีก”

 

“ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่ฉันกับอุมิก็ยังมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ได้เลยนะ…จะว่าไปเราก็ไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าเราจะเข้ากับใครได้จนกว่าเราจะได้คุยกับคนๆนั้นล่ะนะ”

 

“ก็คงอย่างนั้นล่ะมั้ง? แต่ยังไงมันก็ถือเป็นเรื่องดี หลังจากฟังเรื่องที่มากิเล่าให้ฟัง ฉันคิดว่าพวกนายคงสามารถจะคบกันไปยาวๆจนหลังเรียนจบได้ล่ะนะ เพื่อนแบบนี้นะหาเจอได้ไม่บ่อยหรอกนะ ดังนั้นนายก็ดูแลมันดีๆล่ะ”

 

“อืม ฉันว่าจะทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”

 

โทรศัพท์ของผมที่มีเพียงสามรายชื่อ คือ แม่ อุมิ และอามามิซัง ในตอนนี้เบอร์โทรของโนโซมุก็ได้ถูกเพิ่มเข้าไปเป็นที่เรียบร้อย

 

สำหรับผม โนโซมุคือเพื่อนผู้ชายคนแรก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกค่อนข้างมีความสุข

 

แน่นอนว่าผมมีอุมิเป็นเพื่อนคนแรก และยิ่งรู้สึกโชคดียิ่งกว่าเมื่อความสัมพันธ์ของเรามีการพัฒนาจนกลายมาเป็นมากกว่าเพื่อน(แต่ยังไม่ใช่แฟน)…แต่ยังไงก็ตามผมยังรักตัวเองอยู่ ดังนั้นผมต้องระวังไม่ให้ตัวเองหลุดพูดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไป…

 

“จะว่าไป ไม่อยากให้ฉันช่วยให้ความร่วมมือจริงๆใช่ไหม? ถ้าเซกิจริงจังจริงๆ ฉันก็ยินดีช่วยนะ”

 

“ขอบคุณนะ แต่ตอนนี้เราสองคนขอลองทำอะไรด้วยตัวเองดูก่อน ถึงตอนนี้จะยังไม่มีแผนอะไรก็เถอะนะ ถือว่าช่วงนี้ใช้เวลาศึกษาข้อมูลกันไปก่อนก็แล้วกัน”

 

ดูเหมือนว่าโนโซมุตอนช่วงม.ต้นจะมีผลการเรียนค่อนข้างดี แต่เกรดของเขาก็เริ่มตกลงในช่วงม.ปลายเพราะว่ายุ่งกับกิจกรรมชมรม และดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางผ่านการสอบที่กำลังจะมาถึงไปได้

 

และถ้าเขาได้คะแนนไม่ดี ดูเหมือนว่าเขาจะต้องมาเรียนเสริมในวันคริสต์มาส ดังนั้นแผนในตอนนี้คือการเตรียมตัวสำหรับการสอบที่จะมาถึง

 

“อ่า เหมือนเราจะลงเรือลำเดียวกันนะ ตอนนี้ฉันเองก็ต้องมาคอยคุมคุณหนูม้าดีดกระโหลกอยู่คนนึงเหมือนกัน”  

 

(tl: ประโยคต้นฉบับรุนแรงจนไม่รู้จะแปลยังไงเลยครับ 5555+ เลยเอามาแบบซอฟๆแล้วกันครับ)

 

“หมายถึงอามามิซังสินะ”

 

อามามิซังเป็นอัจฉริยะที่ทำได้ทุกอย่างในสิ่งที่เธอสนใจไม่ว่าจะเป็นทางด้านกีฬาหรืองานศิลปะ แต่ดูเหมือนว่าในด้านวิชาเรียนเธอจะทำได้ไม่ค่อยดีนะ หรือแม้กระทั่งเวลาอ่านหนังสือสอบ อามามิซังก็พร้อมที่จะหลับไปทันทีหากอุมิเผลอปล่อยให้เธอคลาดสายตา

 

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่อุมิรู้สึกทึ่งสุดๆเมื่ออามามิซังสามารถสอบเข้าโรงเรียนมัธยมของเราได้

 

“ฉันคิดว่าถ้ายูมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเรียนก็คงไม่มีปัญหาอะไรล่ะนะ”

 

“เหมือนจะมีสอบวันศุกร์หน้าใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น…ทำไมเราไม่จัดติวสอบก่อนหน้าที่จะถึงวันสอบล่ะ”

 

“หมายถึง…ติวพร้อมกันสี่คน?”

 

“ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะช่วยกันจับตาดูอามามิซังได้ด้วย”

 

ผมกับอุมิเก่งกันคนละวิชา ดังนั้นถ้าเราร่วมมือกันติวหนังสือก็สามารถครอบคลุมได้เกือบทุกวิชา

 

แต่ถ้าอามามิซังยังอึดอัดใจเกี่ยวกับเรื่องคำสารภาพรักของโนโซมุ เราก็สามารถแยกกันติวสอบได้เหมือนเดิม

 

“เข้าใจล่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะนัดเรื่องเวลากับยูอีกที่นึง ว่าแต่ติวที่บ้านมากิได้ใช่ไหม?”

 

“ได้สิ ฝากบอกอามามิซังด้วยว่างฉันจะเตรียมของว่างอร่อยๆไว้ให้ด้วย”

 

“หืม ถ้าอย่างนั้นฉันคิดว่ายูคงรีบตอบตกลงทันทีเลยล่ะ ผู้หญิงน่ะชอบของหวานที่สุดเลยนะรู้ไหม?”

 

“นั่นรวมถึงอุมิด้วยใช่ไหม?”

 

“ฮะๆ นั่นสินะ”

 

ดังนั้น ตารางของสัปดาห์หน้าจึงเต็มไปด้วยการติวสอบ

 

…ที่เหลือก็คือเรื่องแผนการสำหรับเวลาหลังจากนั้น

 

จากนี้ไป มันคือประเด็นหลักจริงๆแล้ว

 

“คะ…คือว่านะ อุมิ”

 

“หืม~?”

 

ผมมองไปที่ใบหน้าของอุมิที่กำลังจัดทรงผมให้ผมอยู่เหมือนที่ทำเป็นประจำทุกเช้า

 

มองยังไงก็น่ารัก แน่นอนว่าไม่ใช่แค่หน้าตาเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะรูปร่างที่เธอยังสามารถรักษาสัดส่วนเอาไว้ได้แม้จะกินเยอะขนาดไหนก็ตาม หรือไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยที่เป็นคนจริงจัง ไม่ว่าตรงไหนก็น่ารักไปหมด

 

ถึงแม้อุมิจะเป็นคนจริงจัง แต่เธอกลับชอบทำตัวบ้าๆบอๆเวลาที่อยู่ใกล้กับคนที่เธอสนิทด้วย ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องดี

 

มีเด็กผู้หญิงน่ารักแบบนี้มาคอยดูแลตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ ผมช่างเป็นคนที่ช่างมีความสุขจริงๆ

 

“อะไรน่ะ? ทำไมจ้องหน้าฉันแบบนั้น”

 

“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่าอุมิน่ารักดี….เดี๋ยวสิ ไม่ได้อยากจะพูดเรื่องนั้นสักหน่อย”

 

“ถ้าอย่างนั้นมีอะไรล่ะ? มากิจัง?”

 

“ยะ อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กสิ”

 

“เอ๋~? ก็ตอนนี้มากิทำตัวน่ารักเหมือนเด็กขี้อายอยู่นี่นา”

 

อุมิมองมาที่ผม พร้อมกับรอยยิ้มซุกซน

 

บางที่ความสัมพันธ์ของผมกับอุมิคงจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนาน ในฐานะผู้ชายผมอาจจะรู้สึกน่าสมเพชเล็กน้อย แต่เธอจะทำแบบนี้ก็ต่อเมื่อเราอยู่กันเพียงลำพังสองต่อสอง ดังนั้นผมจึงไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร

 

“อุมิ ช่วงวันหยุดสัปดาห์นี้มีแผนจะไปไหนหรือเปล่า?”

 

“วันหยุด? หมายถึงวันเสาร์อาทิตย์ไม่ใช่วันศุกร์ใช่ไหม?”

 

“อือ ถ้า…ไม่ได้มีแผนจะไปที่ไหนก็กะว่าจะชวนไปดูหนังน่ะ”

 

“นั่นหมายถึง…ชวนเดท?”

 

“ก็แบบนั้นแหละ ตอนงานวัฒนธรรมอุมิเป็นคนชวนใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ฉันเลยตัดสินใจเป็นฝ่ายชวนดูบ้าง”

 

ในครั้งนั้นเราโดนขัดจังหวะจากอามามิซังกับเพื่อนของเธออีกสองคน และก็เกิดเรื่องขึ้นซะก่อน ผมก็เลยยังไม่ได้ให้คำตอบอุมิไป

 

“มีแผนอะไรไหมน้า~…แต่เพราะมันเป็นเดทแรกของเรา ฉันก็อยากจะตอบ OK อยู่นะ”

 

“หรือว่ามีนัดกับอามามิซังพอดี?”

 

“อือ แล้วก็มีนีน่าด้วยอีกคน คือนัดกันว่าจะไปเลือกซื้อชุดสำหรับใส่ไปงานปาร์ตี้น่ะ”

 

“งั้นเหรอ…ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ”

 

ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ชวนเธอเร็วกว่านี้

 

ดูเหมือนว่าคนที่ว่างจนไม่ทันคิดจนถึงช่วงนาทีสุดท้ายจะมีเพียงคนแบบผมที่ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก

 

“อ่า ก็ไม่ใช่ว่ารีบร้อนอะไรหรอกนะ ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นช่วงเดือนหน้า…อุมิ?”

 

“อ๊ะ ขอโทษนะมากิ ขอออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกห้องแปบนึงนะ”

 

ก่อนที่ผมจะพูดจบ อุมิที่ผมพึ่งจะชวนออกเดทก็โทรศัพท์ไปที่ไหนสักที่ ก่อนจะขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ที่นอกห้อง

 

แล้วหลังจากนั้นประมาณ 3 นาที

 

อุมิก็กลับเข้ามาพร้อมด้วยสีหน้ามีความสุข

 

“โอเค ไม่มีอะไรแล้ว ไปดูหนังกันเถอะ”

 

“เอ๊ะ? ไปได้หรอ?”

 

“อือ ตอนที่ฉันบอกทั้งสองคนว่ามากิชวนไปออกเดท พวกเธอก็บอกว่าฉันควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก่อนน่ะ แล้วนีน่าก็บอกว่าค่อยมาเล่าเรื่องให้ฟังทีหลังด้วย”

 

ผมคิดว่าการไปเลือกซื้อชุดสำหรับใส่ไปงานปาร์ตี้ก็สำคัญเช่นกัน…แบบนี้จะไม่เป็นอะไรจริงๆหรอ?

 

“อา ถ้าว่างแล้วก็โอเค…ถ้าอย่างนั้นวันเสาร์เจอกันนะ”

 

“อือ อ๊ะ! ฉันจะชวนนายไปเที่ยวกันช่วงเย็นวันศุกร์ เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำตัวให้ว่างไว้ด้วยล่ะ”

 

“ก็ว่างเป็นปกติอยู่แล้วล่ะนะ…ว่าแต่มีแผนจะไปทำอะไรงั้นเหรอ?”

 

“ก็ถ้าเราจะไปเดทกันวันเสาร์ นายก็ต้องมีเสื้อผ้าสำหรับไปเดทสิจริงไหม?”

 

“…..เอ๊ะ?”

 

“เอ๊ะ?”

 

ถึงตรงนี้อุมิกำลังทำหน้าเหมือนกับมองตัวประหลาดอยู่

 

ว่าแต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเสื้อผ้าด้วยอย่างนั้นเหรอ? พวกเราแค่ออกไปดูหนังที่โรงหนังใกล้ๆนี่เอง…ไม่สิ คิดว่าหลังจากดูเสร็จก็คงชวนกันไปเดินเล่นในเมืองต่ออีกสักพัก

 

“นายคงไม่ได้คิดจะใส่ชุดที่นายมีอยู่ตอนนี้หรอกใช่ไหม?”

 

“…ไม่ได้เหรอ?”

 

“ไม่ได้!”

 

“ตะ แต่มันมีฟังก์ชั่นการ…”

 

“ไม่ได้!!”

 

“…ครับ”

 

ดังนั้นแผนการในวันศุกร์จึงถูกกำหนดเป็นที่เรียบร้อย

 

พูดถึงเรื่องเงิน ผมคงไม่มีทางเลือก ต้องเล่าสถานการณ์และคุยกับแม่อย่างตรงไปตรงมาแล้วล่ะ

 

☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆

 

ปล. สวัสดีครับ Durimtok เจ้าเก่าเจ้าเดิมเองครับ(ฮา) ที่มี v2 ก็เพราะตอนนี้กลายร่างเป็นร่าง 2 ครับ ช่วงนี้ตะลุยกินบุฟเฟ่จนเหนื่อยเลยครับ จนบางทีก็คิดว่าหรือบางทีเราควรหัดไปเอาดีเรื่องรีวิวร้านอาหาร(ฮา) แล้วก็ติดเกมด้วยครับ แล้วรอบนี้ที่หยุดแปลไปก็ไม่มีอะไรครับ ขี้เกียจล้วนๆครับ แบบว่าอิ่มแล้วก็ไม่อยากทำอะไรแล้ว เล่นเกมดีกว่า(ประมาณนั้นครับ) จนรู้ตัวอีกทีก็ผ่านมาหลายเดือนซะแล้ว แล้วก็แบบว่ารู้สึกผิดครับ (แต่ว่า dragon quest 11 ผมเล่นจนปล่อย auto last boss ชิวๆเลยนะเอ่อ)

 

แล้วคราวนี้ที่ได้มีไฟกลับมาแปลนี่ก็ต้องขอบคุณเพจ ดอกไม้ไฟ (Hanabiakira) ดอกไม้ไฟ เลยครับ จุดไฟในตัวคุณขึ้นมาอีกรอบด้วยตอนพิเศษเทศกาลคริสต์มาสของ sneaker bunko เลยครับ เลยแบบว่ากลับมาแปลดีกว่า จังหวะมันได้แล้ว ก็จะพยายามแปลวันละนิดวันละหน่อยนะครับ ค่อยๆลง

 

ขอบคุณที่ลอยคอมาเสมอครับ 

Durimtok Channel

ขอบคุณครับ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 74"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์