I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 28 – โดนพ่อแม่จับได้ซะแล้ว
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 28 – โดนพ่อแม่จับได้ซะแล้ว
บทที่ 28 – โดนพ่อแม่จับได้ซะแล้ว
เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ระวังตัวให้ดี แต่ว่านะ…ผมไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องของผมกับอาซานางิจะโดนแม่จับได้ก่อนอามามิซัง
“….ขอโทษนะอาซานางิ ผมตั้งใจจะปลุกเธอตอนที่ถึงเวลากลับบ้าน”
“อืม…ไม่เป็นไร~ พวกเราหลับสนิทกันซะขนานนั้น ถ้าคุณป้ามาเอะฮาระไม่ได้มาปลุก บางทีเราอาจจะไม่ตื่นจนกว่าจะถึงตอนเช้าเลยก็ได้นะ”
บางทีพวกเราน่าจะหลับสนิทเกินไปจริงๆ เพราะตอนที่แม่ของผมมาปลุก เวลาก็ได้เลยเที่ยงคืนไปแล้ว ถึงบ้านของอาซานางิจะไม่ได้กำหนดเวลาเคอร์ฟิว แต่โดยปกติถ้าเธอจะกลับบ้านช้าเธอก็จะติดต่อไปบอกที่บ้านก่อนเสมอ แต่ดูเหมือนครั้งนี้พวกเราจะทำให้ที่บ้านของอาซานางิเป็นห่วงไปซะแล้วล่ะ
“ใช่ค่ะ ดูเหมือนพวกเขาสองคนจะเผลอหลับไปตอนกำลังอ่านการ์ตูนกันอยู่ค่ะ…ฉันต้องขอโทษแทนลูกชายด้วยนะคะ…ค่ะ…ใช่ค่ะ…ไม่หรอกค่ะ ลูกชายของฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดค่ะ—”
ในขณะที่ผมกับอาซานางิกำลังคุกเข่านั่งตัวตรงอยู่ที่พื้นภายในห้องนั่งเล่น แม่ของผมก็กำลังโทรคุยกับพ่อแม่ของอาซานางิ ในขณะที่พูดคุยกัน เธอก็โค้งคำนับและแสดงท่าทีขอโทษอย่างเต็มที่
(TL: 正座 ท่านั่งที่เรียกว่า เซสะ หรือนั่งตัวตรงแบบญี่ปุ่นครับ)
ทั้งแม่ของผมและพ่อแม่ของอาซานางิก็ดูจะเบาใจขึ้นนิดหน่อย เมื่อทราบว่าผมและอาซานางิเป็น「เพื่อน」ต่างเพศที่มีความชอบแบบเดียวกันเท่านั้น
ผมคิดว่าจะแนะนำอาซานางิให้แม่รู้จักถ้ามีโอกาส…แต่ไม่ใช่ในสถานการณ์แบบนี้…หรือจะพูดให้ชัดก็คือนี่เป็นวิธีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการพบกันครั้งแรกของแม่กับอาซานางิ
“ขอโทษที่ให้รอนะอุมิจัง เพราะว่าตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว คุณแม่ของอุมิจังเลยอนุญาตให้อุมิจังค้างที่นี่ได้น่ะ”
“เอ๊ะ? ตะ-แต่ว่ามันจะไม่เป็นการรบกวนหรอคะ? นอกจากนี้ มาเอะฮะ—ไม่สิ มากิคุงเองก็…”
ใช่แล้ว ไม่ว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแค่ไหน ยังไงซะผมเองก็ยังเป็นผู้ชาย ส่วนอาซานางิก็เป็นผู้หญิง เป็นเรื่องปกติที่เธอจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม้ว่าบ้านของอุมิจังจะอยู่ใกล้ๆ แต่การปล่อยให้เด็กผู้หญิงเดินไปตามถนนตอนกลางคืนคนเดียวมันอันตราย แล้วอีกอย่างลูกชายของฉันก็ไม่สามารถพึ่งพาในเรื่องอะไรแบบนี้ได้ด้วยล่ะนะ…และแน่นอนว่าฉันจะไม่ยอมให้ลูกชายได้แตะต้องอุมิจังแม้แต่ปลายเล็บ…ดังนั้นอุมิจังไม่ต้องกังวลนะ”
“ผมไม่ได้จะแตะต้องเธอซะหน่อย ขนาดตอนอยู่ในห้อง ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย แถมปล่อยให้เธอนอนบนเตียงสบายๆ ส่วนผมยอมลงไปนอนที่พื้นเลยนะ”
“ถึงจะพูดแบบนั้น แต่แน่ใจนะว่าลูกไม่ได้แอบดูใบหน้าที่กำลังหลับของอุมิจัง แล้วก็แอบเอานิ้วไปจิ้มแก้มของเธออะไรแบบนั้น?”
“ไม่มีทางที่ผมจะทำแบบนั้น แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นกับอาซานางิซะหน่อย…ผมหมายถึง…กรุณาเชื่อใจลูกชายของตัวเองหน่อยเถอะ”
ถึงแม้แม่จะเดาจะถูกเพียงครึ่งเดียวก็ตาม แต่ผมก็ไม่ได้แตะแก้มของอาซานางิจริงๆ…ผมเพียงแต่มองดูหน้าของเธอตอนหลับเท่านั้น และแน่นอนว่าผมไม่ได้รู้สึกผิดในเรื่องนี้แต่อย่างใด
“ถึงอย่างนั้นแม่ก็ไม่อยากเชื่อเลยนะว่ามากิจะสามารถมีเพื่อนผู้หญิงที่น่ารักขนาดนี้ได้…ก็ลูกเอาแต่เล่นเกมอยู่คนเดียวทุกวันๆ แถมไม่ได้แสดงท่าทางว่าอยากจะมีเพื่อนเลยด้วย นี่…มากิ ลูกเริ่มพาอุมิจังมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?”
“ที่พูดนั่นไม่โหดร้ายกับลูกชายเกินไปหน่อยเรอะ…เอ่อ…ผมน่าจะเริ่มพาเธอมาเล่นที่นี่ได้ประมาณสองเดือนแล้วล่ะ”
ความจริงแล้วเป็นอาซานางิที่มาหาผมที่บ้านก่อน มันแตกต่างจากการที่ผมพาเธอมาที่นี่นิดหน่อย…แต่ตอนนี้ผมคงต้องยอมรับความผิดทั้งหมดเอาไว้ก่อน
“นั่นสินะ ช่วงหลังๆมาแม่ก็รู้สึกเหมือนว่าได้กลิ่นน้ำหอมตอนที่กลับมาบ้านช่วงเช้าๆ…แต่แม่ไม่เคยคิดว่ามันจะมีเหตุผลแบบนี้เลยนะ”
ผมบอกแม่ว่าผมไม่ได้สนใจกลิ่นกระเทียมของพิซซ่าที่ล่องลอยอยู่ในห้องและไม่ต้องการไปทำอะไรกับมัน แต่ความจริงแล้วมันคือการลบร่องรอยของอาซานางิต่างหาก
ไม่รู้ว่าเป็นที่น้ำหอมหรือเครื่องสำอางของอาซานางิหรือเปล่า แต่หลังจากที่เธอกลับบ้านไป มันมักจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆลอยวนเวียนอยู่ในบ้านเสมอ และเนื่องจากแม่ของผมมีประสาทการรับรู้กลิ่นที่ค่อนข้างไวต่อกลิ่นแปลกปลอม ผมจึงต้องพยายามโกงทุกวิถีทางเพื่อซ่อนมันจากแม่ให้ได้มากที่สุด .
แต่ในท้ายที่สุด ความพยายามทั้งหมดนั่นก็ไร้ความหมายเพราะความประมาทของตัวผมเอง
“ยังไงก็ตาม คุณแม่ของอุมิจังก็อนุญาตแล้ว ดังนั้นคืนนี้อุมิจังก็นอนค้างที่นี่แหละ แล้วค่อยกลับบ้านตอนพรุ่งนี้เช้า และก็อย่าลืมไปขอโทษคุณแม่อย่างถูกต้องอีกครั้งด้วยล่ะ ตกลงไหม?”
“อาซานางิ เอาตามที่แม่ของผมบอกเถอะ แล้วอีกอย่าง…พรุ่งนี้ผมก็จะไปขอโทษคุณแม่ของอาซานางิด้วยเหมือนกัน”
พรุ่งนี้เช้าผมว่าจะเดินทางไปที่บ้านอาซานางิพร้อมกันกับเธอด้วย เพื่อที่จะได้ไปขอโทษพ่อแม่ของอาซานางิเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วยตัวเองอีกครั้ง
“เอ่อ…นายไม่ได้ทำอะไรจริงๆใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ นี่คิดว่าผมเป็นคนยังไงกัน”
“ก็จริงนะ ถ้ามาเอะฮาระมีความกล้าที่จะทำอะไรแบบนั้น เราคงจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่แรกแล้วล่ะ…อืม”
อาซานางิพยักหน้าสองสามครั้ง ในตอนแรกดูเหมือนเธอจะลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดผมก็สามารถโน้มน้าวเธอได้
“…เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้น…วันนี้ขอรบกวนด้วยนะคะ”
“อืม ยินดีที่ได้รู้จักนะอุมิจัง ถ้าอย่างนั้นอุมิจังรีบไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน เดี่ยวชุดจะมีรอยยับ ส่วนชุดนอนก็ใส่ชุดนอนของฉันไปก่อนแล้วกันนะ…เดี๋ยวพออาบเสร็จแล้วเราค่อยมาคุยกันตามประสาผู้หญิงนะ…มากิ ลูกควรกลับเข้าไปอยู่ในห้องก่อนนะ”
“รู้แล้วน่า”
ผมรู้ว่าแม่กำลังโกรธผมอยู่ แต่แม่ดันทำท่าทางใจดีกับอาซานางิ ผมหมายถึง…แม่ดูจะตื่นเต้นมากจนดูไม่เหมือนคนที่พึ่งกลับมาจากการทำงาน
เอาเถอะ…จนถึงตอนนี้ผมเองก็ยังไม่เคยโดนชวน หรือเคยชวนเพื่อนมาเที่ยวที่บ้านมาก่อนเลยสักครั้ง…นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้วันนี้แม่ดูมีความสุขกว่าปกติหรือป่าวนะ?
แน่นอนว่าความตื่นเต้นของแม่ก็อาจจะมาจากการที่อาซานางิเป็นเด็กผู้หญิงที่สวยมากก็เป็นได้
ผมจำได้ว่าบางครั้งแม่ก็บอกว่าอยากมีลูกสาวด้วยนี่นะ
“ก่อนที่ผมจะกลับห้อง คือว่า…แล้ววันนี้จะให้อาซานางินอนที่ไหนดีล่ะ? ถึงจะให้นอนที่โซฟาได้เพราะว่าเรามีผ้าห่มสำรอง แต่ผมว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะให้เธอนอนที่โซฟา”
เราไม่มีฟูกสำรองและไม่มีห้องสำหรับรับแขกด้วย ดังนั้นที่เดียวที่จะนอนได้ก็คือที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
“เอ๊ะ? ฉันไม่ได้ว่าอะไรนะถ้าต้องนอนบนโซฟา…”
“ไม่ได้นะอุมิจัง ถ้าอุมิจังนอนบนโซฟาเดี๋ยวจะรู้สึกไม่สบายตัว หรือไม่ก็อาจจะนอนไม่หลับเอาได้นะ”
“แต่ว่า…จะให้นอนที่…”
อาซานางิเหลือบมองมาที่ผม
บ้านหลังนี้มีห้องนอนเพียงแค่ 2 ห้องเท่านั้น คือ ห้องของผม และห้องของแม่ และแน่นอนว่าแม่จะต้องนอนในห้องของเธอ…ที่เหลือก็มีแค่ที่ห้องของผมเท่านั้น
“เข้าใจล่ะ งั้นคืนนี้ผมนอนที่โซฟาเอง ส่วนอาซานางิก็นอนในห้องของผมก็แล้วกัน พอเธออาบน้ำเสร็จแล้วค่อยมาเรียกผมที่ห้องก็แล้วกันนะ”
“แล้วมาเอะฮาระล่ะ…”
“ผมเป็นคนที่นอนง่ายน่ะ ขนาดนอนบนพื้นยังหลับได้เลย แค่นอนบนโซฟาไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้อาซานางินอนสบายมากกว่าอยู่แล้ว หรือเธอไม่อยากนอนสบายๆงั้นหรอ?”
“นั่นก็จริง…แต่ว่า…แบบนี้จะดีหรอ?”
“ไม่เป็นไร…แล้วอีกอย่างผมพึ่งเอาฟูกไปตากแดดเมื่อไม่นานมานี้เอง รับรองได้ว่ามันไม่สกปรกแน่นอน”
แล้วอีกอย่าง…ผมนึกถึงตอนที่ผมได้เห็นใบหน้าของอาซานางิที่กำลังหลับสบายอยู่บนที่นอน…ครั้งนี้ผมจะยอมถอยให้ก่อนก็แล้วกัน
“เอาล่ะ ในเมื่อมากิเองก็ยอมแล้ว ดังนั้น…อุมิจังก็ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ งั้นขอรบกวนอีกครั้งนะคะ”
ดังนั้น ดูเหมือนว่าวันนี้…เวลาของผมกับอาซานางิที่จะได้อยู่ด้วยกันจะต้องดำเนินต่อไปอีกสักพักล่ะนะ…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. วันนี้ 1 ตอนก่อนนะครับ
ปล2. ยังไม่ได้ตรวจคำผิด กับสำนวนเหมือนเดิม เดี๋ยวดึกๆกลับมาเช็คพร้อมกับบทที่ 27 ครับ
ปล3. อุมิจังแอบเนียนเรียกมากิคุงไป 1 ดอก สงสัยกำลังลองเชิงดูท่าทีของมากิคุงอยู่ (ร้ายกาจ!)
ฝากติดตามเพจกันด้วยนะครับ Durimtok Channel ขอบคุณครับ