I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 32 – ครอบครัวอาซานางิ
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 32 – ครอบครัวอาซานางิ
บทที่ 32 – ครอบครัวอาซานางิ
บ้านของอาซานางิตั้งอยู่บนถนนที่ในเวลาปกติผมจะไม่ค่อยได้ผ่าน และอยู่เลยทางรถไฟที่ผมไม่เคยข้ามมาก่อน
การเดินใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทั้งๆที่มันน่าจะเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล แต่ผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้น มันเหมือนว่าผ่านไปเพียงชั่วพริบตา…พวกเราก็เดินมาถึงบ้านของอาซานางิเป็นที่เรียบร้อย
“…เอาล่ะ ถึงแล้ว นี่คือบ้านของฉันเอง”
“…โอ้”
มันเป็นบ้านที่ดูธรรมดาเหมือนที่อาซานางิเคยบอก การออกแบบเหมือนบ้านเดี่ยวทั่วไป…โครงบ้านไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนของย่านที่อยู่อาศัย จึงทำให้มีพื้นที่สวนที่มีขนาดใหญ่กว่าบ้านหลังอื่นๆในบริเวณนี้เล็กน้อย
ที่มุมหนึ่งของสวน มีสวนผักเล็กๆตั้งอยู่ ภายในสวนมีมะเขือเทศที่กำลังออกผลสีแดงสดที่น่าจะโดนดูแลโดยแม่ของอาซานางิ
อาซานางิกดอินเตอร์คอมที่หน้าบ้านของเธอ ผ่านไปไม่นานหลังจากนั้น เราก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินตรงมาที่หน้าประตูบ้าน ก่อนที่แม่ของอาซานางิจะปรากฏตัวออกมาจากภายในบ้าน
“…กะ-กลับมาแล้วค่ะ”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน อุมิ…แล้วก็ ยินดีต้อนรับนะ มาเอะฮาระคุง”
“ยะ-ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อมาเอะฮาระ มากิครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่ออาซานางิ โซระ ถึงจะรู้สึกโชคร้ายนิดหน่อย…แต่ฉันเป็นแม่ของเด็กนิสัยไม่ดีที่ยืนอยู่ตรงนั่นน่ะ”
อุฟุฟุ ถึงแม่ของอาซานางิจะหัวเราะเบาๆ แต่ดวงตาของเธอดูเหมือนจะไม่หัวเราะด้วย
เธอมีบรรยากาศรอบตัวที่ดูสงบมาก และนอกจากนี้เธอยังสวยมากอีกด้วย ถ้าดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว มันคงยากที่จะเชื่อว่าเธอมีลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ชั้นม.ปลาย
ผมไม่มีทางต่อต้านคนๆนี้ได้แน่นอน
“ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่า ครั้งแรกที่ลูกสาวของฉันไปนอนค้างบ้านเพื่อน คนๆนั้นจะไม่ใช่ยูจังแต่กลับเป็นเด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอแทน…ฉันรู้สึกแปลกใจมากเลยล่ะตอนที่แม่ของมาเอะฮาระคุงโทรหาฉันเมื่อคืนนี้”
“เอ่อ…ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมควรที่จะปลุกอาซานางิ แต่แทนที่จะทำแบบนั้น ผมก็เผลอหลับไปเหมือนกัน…”
“เอ๊ะ…มาเอะฮาระคุง…คนผิดไม่ใช่เธอหรอก คนที่ผิดจริงๆคืออุมิที่ไม่รู้จักระวังตัวแล้วยังเผลอไปนอนหลับในห้องของเด็กผู้ชายต่างหาก…ลูกเห็นด้วยไหม? อุมิ?”
“โม่~ หนูก็เลยขอโทษไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่…แล้วอีกอย่าง…ถ้าแม่เทศน์หนูที่นี่…เกิดบังเอิญเพื่อนบ้านมาได้ยินมันจะดูไม่ดีนะคะ…”
“มันไม่ใช่แบบนั้น อุมิ มันไม่เกี่ยวว่าลูกขอโทษไปแล้วหรือยังไม่ได้ขอโทษ ลูกรู้ตัวไหมว่าครั้งนี้ลูกโชคดีแค่ไหนที่แม่ของมาเอะฮาระคุงกับมาเอะฮาระคุงเป็นคนดี แต่ถ้าเกิดว่าลูกไม่โชคดีเหมือนคราวนี้ล่ะ…ลูกจะทำยังไง?”
“นะ-นั่นมัน…”
คำพูดของเธอมันเป็นเรื่องจริงและตรงประเด็นอย่างมาก ทั้งผมและอาซานางิต่างก็พูดอะไรไม่ออก
สาเหตุที่แม่ของอาซานางิไม่ได้กำหนดเวลาเคอร์ฟิวก็เพราะอาซานางินั้นเข้มงวดกับตัวเองในเรื่องของการวางตัวมาโดยตลอด ดังนั้นโซระซังจึงเชื่อใจอาซานางิเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นในคราวนี้…มันอาจจะทำลายความไว้ใจนั้นไปแล้วก็ได้
โชคดีที่เมื่อคืนแม่ของผมบังเอิญกลับมาที่บ้าน เธอเลยสามารถจัดการเรื่องได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเธอไม่ได้กลับมา พวกเราคงได้นอนกันจนถึงเช้า และถ้าเป็นแบบนั้น…มันคงจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่แน่นอน
ถึงแม้ว่าคราวนี้จะโชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พวกเราก็ต้องระวังตัวให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต…นั่นคือสิ่งที่โซระซังต้องการจะบอกกับอาซานางิและผมที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ
“ฉันไม่ได้จะบอกให้พวกเธอเลิกไปเที่ยวเล่นด้วยกันหรอกนะ แต่พวกเธอทั้งคู่ต้องรู้จักจัดการตัวเองให้ดีกว่านี้ แล้วก็ต้องไม่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงหรือเป็นกังวลอีก พวกเธอเข้าใจใช่ไหม?”
“…อืม หนูขอโทษนะแม่…หนูสัญญาว่าในอนาคตหนูจะระวังตัวให้มากกว่านี้”
“…ผมเองก็จะระวังตัวครับ”
ผมกับอาซานางิก้มหัวคำนับขอโทษโซระซัง
พวกเราจำเป็นต้องคิดทบทวนและไตร่ตรองการกระทำของเราในครั้งนี้ให้ดี เนื่องจากพวกเราก็ยังเป็นนักเรียนม.ปลาย เราต้องรู้จักการวางตัวให้เหมาะสมมากกว่านี้
“ดีมาก ความจริงแม่ยังมีเรื่องที่ต้องการจะคุยอีกหลายเรื่อง แต่เอาไว้หลังจากที่เข้าไปในบ้านก็แล้วกัน…เอาล่ะ มาเอะฮาระคุง เชิญเข้ามาก่อนสิ”
“คะ-ครับ ขอรบกวนด้วยครับ”
ผมเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะสำหรับแขก ก่อนจะถูกพาไปที่ห้องนั่งเล่นของครอบครัวอาซานางิ
ดูเหมือนว่าโซระซังจะเตรียมอาหารเช้าไว้ให้พวกเรา ทำให้ตอนนี้บนโต๊ะเต็มไปด้วยขนมปังปิ้ง โยเกิร์ต และผลไม้ต่างๆ
“อุมิ จะกินอาหารเช้าไหม? แล้วแม่ก็เตรียมเผื่อสำหรับมาเอะฮาระคุงไว้ด้วยนะ”
“หนูกินข้าวที่บ้านมาเอะฮาระมาเยอะเลย งั้นหนูขอกินแค่ผลไม้ก็แล้วกัน…แล้วมาเอะฮาระล่ะ?”
“ผมก็เหมือนกัน”
โซระซังบอกให้ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งก่อนที่อาซานางิจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ส่วนโซระซังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเรา
“…เอ๊ะ? แล้วพี่ล่ะคะ?”
“ดูเหมือนเมื่อคืนริคุจะอยู่ทำอะไรสักอย่างจนดึกน่ะ ตอนนี้เลยน่าจะยังไม่ตื่น…แล้วอีกอย่างแม่บอกไปว่าวันนี้จะมีแขกมา ดังนั้นแม่คิดว่าถึงจะตื่นแล้ว แต่ริคุก็คงไม่ลงมาหรอก”
“อา~…งั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ”
ครอบครัวของอาซานางิมีสมาชิกทั้งหมดสี่คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ อาซานางิ และพี่ชายของอาซานางิที่ชื่อริคุ
ผมคิดว่าจะได้แนะนำตัวกับพี่ชายของเธอด้วย…แต่ดูเหมือนว่าจะต้องรอโอกาสหน้าแล้วล่ะ
จากบทสนทนาของทั้งสองคน ผมคิดว่าผมไม่ควรเข้าไปรบกวนพวกเธอในตอนนี้
“อ๊ะ แม่ เมื่อวานแม่ได้โทรไปที่บ้านของยู…”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับบ้านของอามามิซัง ลูกไม่ต้องกังวลไป…แต่ถ้าแม่ของมาเอะฮาระคุงติดต่อมาช้ากว่านี้อีกสักครึ่งชั่วโมง บางทีแม่อาจจะโทรไปที่บ้านของอามามิซังก็ได้นะ”
ดูเหมือนแม่ของผมจะติดต่อกับแม่ของอาซานางิทันแบบฉิวเฉียดเลยทีเดียว ผมคงต้องกลับไปขอบคุณแม่อีกสักทีแล้วล่ะ
“นี่ มาเอะฮาระคุง มีเรื่องสำคัญกว่านั้นนะ…ป้าอยากรู้ว่ามาเอะฮาระคุงมาเป็นเพื่อนกับอุมิของเราได้ยังไง? ป้าถามอุมิไปหลายรอบแล้ว แต่เธอไม่ยอมบอกอะไรเลย เอาแต่พูดว่า「ไม่ใช่เรื่องสำคัญสักหน่อย」อยู่นั่นแหละ”
“เดี๋ยวก่อนสิแม่…! มะ-มาเอะฮาระเองก็ด้วย ห้ามบอกอะไรทั้งนั้น!”
“เห็นไหม? เธอเป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย แล้วอีกอย่างมาเอะฮาระคุงก็เป็นแฟนคนแรกที่ลูกสาวพามาที่บ้านเลยนะ…แบบนี้มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ป้าจะอยากรู้จักมาเอะฮาระคุงให้มากขึ้นไม่ใช่หรือไง?”
(TL: โซระซังใช้คำว่า ボーイフレンド = boyfriend จริงๆนะเออ)
“เอ๊ะ? อะไร…คนแรกนะครับ?”
อามามิซังอาจจะมาที่นี่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนผมจะเป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกของอาซานางิที่เธอพามาที่บ้านนะ
ผมเป็นคนแรกของอาซานางิ…เดี๋ยวนะ นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย
“ก็…ก็เรื่องแบบนั้นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญสักหน่อยนี่ ใช่ไหมล่ะ? อีกอย่างนะ…มาเอะฮาระ นายไม่ต้องไปสนใจคุณป้าช่างพูดคนนี้หรอกนะ เอ้านี่! ลูกพีช! กินลูกพีชนี่สิ หวานอร่อยมากเลยนะ”
“แหมๆ นี่ลูกแก้เขินด้วยการปอกลูกพีชให้มาเอะฮาระคุงงั้นเหรอ อุมิน่ารักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน้า? ตอนแรกแม่เป็นห่วงลูกมากเลยนะเพราะช่วงนี้ลูกไม่ค่อยพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้านเลย…แต่ดูเหมือนแม่จะประมาทอุมิเกินไปหน่อย นี่~นี่~”
“คะ-ใครจะไปทำแบบนั้น! โม่~ แม่บ้าที่สุดเลย!”
“มาเอฮาระคุง ขอบคุณที่คอยสนับสนุนอุมิมาโดยตลอดนะ ถึงจะทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ แต่ยังไงเธอก็เป็นคนสวยเหมือนป้า และโดยเนื้อแท้แล้ว…เธอเป็นคนที่ตรงไปตรงมาแล้วก็มีจิตใจที่ดีมากเลยนะ อ๊ะ! จริงสิ…ทำไมครั้งหน้ามาเอะฮาระคุงไม่มานอนค้างที่นี่ล่ะ เพราะถ้าเธอมาค้างที่นี่ ป้าก็จะได้ไม่ต้องกังวลด้วย…อืม ดูเหมือนนี่จะเป็นความคิดที่ดีนะ”
“อะ—อา—-! แม่! ได้โปรดหยุดพูดสักที! มาเอะฮาระ ฉันขอสั่งให้นายไปปิดปากแม่ของฉันเดี๋ยวนี้เลย!”
“มะ-ไม่มีทางที่ผมจะทำแบบนั้นได้อยู่แล้วไม่ใช่เรอะ…”
ดูเหมือนยามเช้าที่บ้านของอาซานางิจะค่อนข้างครึกครื้น ถึงปกติผมจะเคยชินกับการกินข้าวเช้าคนเดียว แต่ผมก็ไม่คิดว่าบรรยากาศแบบนี้มันแย่อะไร
หลังจากนั้น ในขณะที่ผมกำลังดิ้นรนหาทางรอดระหว่างโซระซังที่ต้องการฟังเรื่องราวของพวกเรา กับอาซานางิที่ต้องการปิดบังทุกอย่างเป็นความลับ…โดยไม่คาดคิด…ผมกลับรู้สึกเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแบบนี้
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. วันนี้อาจจะตอนเดียวนะครับ วันนี้หนังสือมาฮิรุมาส่งพอดีครับ (ฮา)
ปล2. เช็คคำผิดไปบ้างแล้ว แต่ติดตรงคำแทนตัวเองของโซระซังนิดหน่อย บางทีเธอก็แทนตัวเองด้วยคำว่าป้า บางทีก็ใช้คำว่าฉัน ถ้าเป็นไปได้ก็อ่านผ่านๆไปอย่าไปซีเรียสมากนะครับ (ฮา2)
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Durimtok Channel