I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 34 – อามามิซังผู้มีพรสวรรค์
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 34 – อามามิซังผู้มีพรสวรรค์
บทที่ 34 – อามามิซังผู้มีพรสวรรค์
พวกเธอตัดสินใจที่จะพักการเล่นเกมไว้และมากินแพนเค้กที่พึ่งทำเสร็จออกมาใหม่ๆและยังคงร้อนอยู่ก่อน
เนื่องจากคนที่รอชิมคืออาซานางิกับอามามิซัง ผมจึงตั้งใจทำด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด และผลลัพธ์ก็ออกมาน่าพอใจ ผมรู้สึกภูมิใจที่จะบอกว่าพวกมันเป็นแพนเค้กที่ดีที่สุดที่ผมเคยทำมา มันดูนุ่มฟูเป็นอย่างมาก…รู้สึกคุ้มค่ากับการเสียเวลาในการตีไข่ขาวจริงๆ
ผมแบ่งแพนเค้กออกเป็นสามส่วนเท่าๆกัน ก่อนที่ผมจะบอกให้สองสาวเป็นคนชิมก่อน
“ว้าว…นุ่มมากเลย…มันไม่ค่อยหวานเพราะใส่แค่กล้วย แต่ว่ารุ้สึกเหมือนกำลังกินกล้วยอยู่เลย…และเหนือสิ่งอื่นใด มันอร่อย …”
“…อืม นี่มันค่อนข้างจะ…”
“แพนเค้กอันนี้น่ะมีปริมาณแคลอรี่แค่หนึ่งในสามของแพนเค้กปกติ ดังนั้นเราจึงสามารถที่จะเติมเนยหรือไซรัปเยอะขนาดไหนก็ได้ตามใจโดยไม่ต้องรู้สึกผิด…แล้วทั้งสองคนล่ะ สนใจไหม?”
“เอาค่า~!”
“…ขอนิดนึงแล้วกันนะ”
และเหนือสิ่งอื่นใด ดูเหมือนว่าพวกเธอจะชอบมันนะ
อามามิซังมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขบนใบหน้าของเธอ ส่วนอาซานางิกำลังทำเสียง ‘หืม’ พร้อมกับสีหน้าที่แสดงความประหลาดใจ
เวลามีคนชิมอาหารของเรา ปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไปของพวกเธอแบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับคนทำ
ผมต้องขอบคุณอาซานางิที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสแบบนี้
“มากิคุง…เอ่อ…มันหมดแล้วอ่ะ…”
อามามิซังมีท่าทางเขินอาย ภายในจากของเธอนั้นกลายเป็นว่างเปล่าไปเป็นที่เรียบร้อย
“เอ่อคือ…ผมเตรียมของไว้สำหรับสามคน…ดังนั้นมันเลยยังพอมีแป้งเหลืออยู่ สนใจเติมเพิ่มไหม?”
“จะดีหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ขอเพิ่มค่ะ”
“รับทราบ…เอ่อ…แล้วอาซานางิซังล่ะ?”
“…อ๊ะ~อา”
แน่นอนว่าจานของอาซานางิเองก็กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์เช่นกัน
“…ขอโทษนะ แต่ฉันขอเติมด้วยได้ไหม?”
“เข้าใจแล้ว งั้นผมทำเพิ่มให้อีกอันนะ”
“อ๊ะ มากิคุง ขอโทษทีรบกวนนะ แต่ขอฉันดูตอนที่นายกำลังทำได้ไหม? คราวหน้าฉันอยากจะลองทำเองที่บ้านดูน่ะ”
“ยู เธอจะยอมเชื่อฟังเรื่องที่คุณป้าเคยบอกใช่ไหม? ถ้าเธอเป็นคนทำ…สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นแผ่นดิสก์สีดำๆแน่ๆเลยล่ะ”
“มู่~ ฉันแน่ใจว่าจะทำได้ถ้าได้รับสอนอย่างถูกต้อง นี่ มากิคุงเองก็คิดเหมือนกันใช่ไหม?”
“ถ้าเธอสามารถจับเวลาได้ในระดับนึง กับไม่พลาดเวลาพลิกแพนเค้กล่ะนะ”
“…ถ้าอย่างนั้นฉันขอดูด้วยคนนะ”
สุดท้าย…ผมก็ถูกประกบด้วยอาซานางิกับอามามิซังในขณะที่พวกเธอกำลังดูผมทำแพนเค้ก
“เริ่มจากเทเนื้อแพนเค้กลงในกระทะแบบที่เคลือบสารกันติด…ขั้นแรกก็ให้ปิดฝาแล้วอุ่นประมาณห้านาที…หลังจากนั้นก็คอยสังเกตความฟูของแพนเค้ก ถ้าเห็นว่าความฟูเริ่มยุบตัวก็แสดงว่าแพนเค้กสุกแล้ว ที่เหลือก็แค่พับครึ่ง…แบบนี้”
“โอ้~ จริงด้วย ดูง่ายมากเลยล่ะ”
“หากไม่แน่ใจตรงไหน เธอก็สามารถหาวิธีทำบนอินเทอร์เน็ตมาดูประกอบได้ อีกอย่าง…โดยพื้นฐาน ถ้าเธอทำตามขั้นตอนกับไม่ผิดพลาดเรื่องการจับเวลา แม้ว่ามันอาจจะไหม้เล็กน้อย นั่น…”
“…อะไรน่ะ? ถ้านายอยากพูดว่าสสารมืดหรือถ่านก็พูดมาได้เลย ฉันจะว่าอะไรนายได้ล่ะ?”
“ไม่ได้จะพูดแบบนั้นสักหน่อย…”
ใช้ประโยชน์จากจุดบอดของอามามิซัง อาซานางิหยิกที่สีข้างของผม แต่ดูเหมือนเธอจะออมแรงเอาไว้เพราะถ้าผมเจ็บ…อามามิซังอาจจะรู้ตัวได้…ผมไม่ได้จะพูดแบบนั้นจริงๆนะ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ…
หลังจากที่พวกเรากินซูเฟล่แพนเค้กกันจนพอใจแล้ว พวกเราสามคนก็กลับมานั่งเล่นเกมกันอีกครั้ง
“เฮะๆ คอยดูนะอุมิ ตามคำแนะนำของมากิคุง คราวนี้ฉันจะสอยเธอให้ได้เลย”
“ห๊ะ เธอจะเอาชนะฉันด้วยตัวละครกับอาวุธน่ารักๆแบบนั้นอ่ะนะ ฉันต่างหากที่จะเป็นคนสอยเธอให้พรุนด้วยอุปกรณ์หนักพวกนี้เอง”
ในเกมนี้เราสามารถแต่งตัวและเลือกอุปกรณ์ส่วมใส่ของตัวละครได้อย่างอิสระ…อามามิซังเลือกตัวละครและอุปกรณ์ที่ดูน่ารักเป็นหลัก ในขณะที่อาซานางิมีแนวทางการเล่นเหมือนกับผมที่เป็นสไตล์การเล่นที่เน้นความแข็งแกร่งกับการป้องกันเป็นหลัก
เนื่องจากความต่างด้านประสบการณ์การเล่นมีมากเกินไป ทางเดียวที่จะชดเชยได้ก็คือการเพิ่มทักษะในการเล่น
“เอาล่ะ…ก่อนอื่นเลยคือต้องมีสติและอย่าตื่นตระหนก…อย่ายิงมั่วๆแม้ว่าจะเห็นตัวศัตรูแล้วก็ตาม พยายามเลือกทำเลและภูมิประเทศที่ทำให้เราได้เปรียบในการต่อสู้…จริงๆมีอีกหลายอย่าง แต่เบื้องต้นเอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน”
“อือ”
ผมนั่งอยู่ข้างๆอามามิซังที่กำลังเล่นเกมอยู่กับอาซานางิ และคอยให้คำแนะนำกับเธอเป็นครั้งคราว
แล้วผลลัพธ์ก็ออกมาในทันที
“เอาล่ะใจเย็นๆ…ค่อยๆเล็ง..แบบนั้นแหละ”
“…อ๊ะ!?”
“โอ้! สำเร็จแล้ว! ยิงอุมิได้แล้ว…ครั้งแรกเลยนะเนี่ย!”
บางทีเธอน่าจะใช้เวลาประมาณสิบนาทีในการทำตามคำแนะนำของผม และในที่สุดเธอก็สามารถเอาชนะอาซานางิผู้ที่เล่นได้ดีมาโดยตลอดได้เป็นครั้งแรก
โดยปกติอาซานางิจะฝึกซ้อมเล่นที่บ้าน และมาเล่นกับผมในช่วงสุดสัปดาห์ แล้วเธอก็เล่นได้ดีขึ้นมาก…แต่การเล่นของอามามิซังเมื่อสักครู่นี้บางทีอาจจะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญที่เธอสามารถยิงอาซานางิได้…แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น
เธอบอกว่าเธอไม่ค่อยได้เล่นเกมแนวนี้ ผมคิดว่าบางทีอามามิซังอาจจะมีพรสวรรค์มากกว่าที่คิด
“เฮ้อ…ดูเหมือนจะประมาทไปหน่อย แล้วก็เพราะว่าฉันยังไม่ได้เอาจริงหรอกนะ”
“เห~ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าครั้งต่อไปฉันจะได้ยิงอุมิที่กำลังเอาจริงสินะ”
หลังจากนั้นผมไม่ให้คำแนะนำใดๆกับอามามิซังอีก และเลือกที่จะเป็นผู้ชมที่ดีนั่งดูการต่อสู้ของทั้งสองคนอยู่ที่ข้างสนามแทน
“อยู่นิ่งๆแบบนั้นแหละ…”
“เจอแล้ว เจอแล้ว! อุมิจังอยู่นี่เอง! คราวนี้จับตาดูดีๆล่ะ~”
“ฉันจะฆ่าเธอให้ได้…!”
การต่อสู้ระหว่างเพื่อนสนิทเป็นไปอย่างดุเดือดโดยไม่คาดคิด
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
หลังจากเล่นกันไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเราก็ตัดสินใจที่จะหยุดเล่นกันก่อนในวันนี้
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะยังไม่ค่อยพอใจกันสักเท่าไหร่ แต่เพราะว่าครั้งนี้อามามิซังอยู่ด้วย มันจึงไม่ค่อยเหมาะที่จะอยู่ที่บ้านของผมนานมากนัก
โดยเฉพาะผม เนื่องจากผมเพิ่งทำไปก่อเรื่องมาเมื่อสองสามวันก่อน ผมจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องนี้
“มู่…หลังจากนั้นฉันชนะแค่สามครั้งเองนะ…น่าหงุดหงิดจัง”
“ถึงเธอจะเป็นมือใหม่ แต่มันก็น่าแปลกใจนะที่เธอสามารถเอาชนะฉันได้”
ก็เป็นอย่างที่อาซานางิพูด เกมส์นี้เป็นเกมที่ต้องใช้ทักษะค่อนข้างสูงในการเล่น…มันยากมากที่จะชนะคนที่เล่นเกมนี้มาจนชำนาญ…โดยเฉพาะผู้เล่นใหม่ที่ยังไม่ชินกับเกม
ถึงแม้จะได้คำแนะนำจากผม แต่สำหรับอามานมิซัง ผู้ที่พึ่งจะเคยจับจอยเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ มันน่าทึ่งมากที่เธอสามารถคว้าชัยชนะมากจากอาซานางิ ผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าและยังติดเกมนี้อย่างหนักได้ถึงสองสามครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น มากิคุง ไว้เรามาเล่นกันใหม่ครั้งหน้านะ!”
“อา อืม…ไว้เล่นกันใหม่ครั้งหน้านะ”
ถึงการได้เล่นด้วยกันแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ แต่ผมก็อยากให้เธอช่วยนัดวันเวลาที่ชัดเจนก่อนที่จะมาล่ะนะ
หากเราสามารถพูดคุยกันในเรื่องทั่วๆไปได้บ่อยขึ้น ต่อไปในอนาคตพวกเราก็คงจะสามารถคุยกันได้ง่ายขึ้นด้วย
“อุมิ เป็นอะไรไปเหรอ? กลับกันเถอะ”
“อา~ ขอโทษทีนะ ยูเดินล่วงหน้าไปก่อนได้ไหม? พอดีฉันลืมของนิดหน่อย หาเจอแล้วเดี๋ยวจะรีบตามไปนะ”
“เอ๊ะ? ฉันไปช่วยหาด้วยก็ได้นะ…”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันจำได้ว่าลืมไว้ที่ไหน แล้วอีกอย่างเธอก็ใส่รองเท้าแล้วด้วย เธอล่วงหน้าไปก่อนได้เลย”
“จะดีหรอ? เอาอย่างนั้นก็ได้…งั้นฉันไปก่อนนะ”
อาซานางิผลักอามามิซังออกไปทางประตูหน้าบ้าน ในรูปแบบที่เหมือนกับอาซานางิกำลังไล่อามามิซังออกไปจากบ้าน
ด้วยวิธีนี้ ผมกับอาซานางิก็ได้อยู่กันตามลำพังเป็นครั้งแรกของวันนี้
“ฉันยอมแพ้จริงๆ…ผู้หญิงคนนั้น…ถ้าเธออยากจะทำอะไร เธอก็สามารถทำได้ทุกอย่างเลย”
“เธอกำลังหมายถึงเกมใช่ไหม? ก็จริงที่ผมคิดว่าอามามิซังเรียนรู้ได้ไว แต่ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วเรื่องอื่นๆที่อามามิซังอยากทำล่ะ…”
“มันไม่สำคัญหรอก สำหรับยู…การเล่นเกมในวันนี้…นั่นอาจจะเป็นความสามารถทั้งหมดของเธอในตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่เธอได้เล่นเธอก็จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าเรื่องอะไร เธอก็จะซึมซับสิ่งที่คิดว่าตัวเองชอบได้อย่างรวดเร็ว และก่อนที่ฉันจะรู้ตัว…”
“…อาซานางิ?”
“ขอโทษนะ ฉันแค่ที่อยากระบายน่ะ…บางที…ฉันก็คิดว่าตัวเองเหมือนเด็กนิสัยไม่ดีจริงๆ”
“อา ผมเข้าใจ…ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วล่ะ”
ในโลกใบนี้ มีคนที่เก่งเหมือนอามามิซังมากมาย…คนที่สามารถเรียบรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือกีฬาก็ตาม ซึ่งหากคนธรรมดาต้องการที่จะไล่คนเหล่านี้ให้ทันก็ต้องใช้เวลามากกว่าพวกเขาหลายเท่า
นอกจากความสามารถแล้ว อามามิซังยังเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนอีกด้วย ในฐานะเพื่อนสนิทที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ คงไม่แปลกที่อาซานางิอาจจะมีความรู้สึกอิจฉาขึ้นมาในบางครั้ง
“อืม ฉันก็หวังว่านายจะเข้าใจความลำบากของฉันนะ……ถ้างั้นก็…มาเอะฮาระ วันนี้สนุกมากเลยล่ะ”
“อืม ด้วยความยินดี”
“แล้วเจอกันนะ”
“อืม ไว้เจอกัน”
อาซานางิโบกมือก่อนที่จะเดินออกจากประตูหน้าบ้านไป
“ทั้งๆที่บอกว่าสนุก…แล้วทำไมเธอถึงมีสีหน้ามืดมนแบบนั้นด้วยล่ะ…”
บรรยากาศของอาซานางิตอนที่กำลังเดินออกจากบ้านไปดูเดียวดายเป็นอย่างมาก…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆
ปล. วันนี้ครับ…ลืมอัพไฟล์ขึ้นคลาวด์ ต้องมานั่งแปลใหม่ตอน 2 ทุ่มครับ
ปล2. งานด่วนนะครับ เผานิดหน่อย เดี๋ยวมารีเช็คอีกที วันนี้ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะครับ
ปล3. อ่านติดๆตรงไหนแจ้งไว้ได้เลยนะครับ หรือจะ inbox ไปที่เพจก็ได้ครับ
ติดตามเพจได้ที่นี่เลยครับ Durimtok Channel | Facebook ขอบคุณครับ