I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 35 – ชั้นเรียนที่เปลี่ยนไป
- Home
- I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class
- ตอนที่ 35 – ชั้นเรียนที่เปลี่ยนไป
บทที่ 35 – ชั้นเรียนที่เปลี่ยนไป
ตั้งแต่ที่ผมเริ่มมีความสัมพันธ์กับอามามิซังมากขึ้น สิ่งต่างๆที่โรงเรียนก็เริ่มเปลี่ยนไป
เรื่องนี้เริ่มขึ้นในตอนที่ผมมาถึงห้องเรียนอย่างโดดเดี่ยวตามปกติ ท่ามกลางคลื่นของผู้คนที่สับสนวุ่นวายเหมือนกับทุกๆวัน
“…โอ้ โย่ว มาเอะฮาระ”
“?! เอ๊ะ เอ๊ะ…?”
เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งส่งเสียงทักทายผม เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มที่พวกชมรมกีฬามารวมตัวกัน…เป็นอีกกลุ่มของห้องเรียนนอกเหนือไปจากกลุ่มของพวกเด็กผู้หญิงที่มีอามามิซังเป็นศูนย์กลาง
ถ้าจำไม่ผิด เขาชื่อเซกิคุงใช่ไหมนะ? เขาสูงกว่าผมประมาณหนึ่งศีรษะ เขามีรูปลักษณ์ที่ดูดีแล้วก็มีบรรยากาศที่ดูสดชื่นเหมือนกับพวกหนุ่มนักกีฬาทั่วไปควรจะมี
ผ่านไปครึ่งปีแล้วตั้งแต่ที่ผมได้เข้ามาอยู่ในชั้นเรียนนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยกับเด็กผู้ชายคนอื่นนอกเหนือไปจากโอยามะคุง ผมเลยอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ ก่อนที่จะแสดงความสงสัยออกมาอย่างชัดเจน
“เฮ้ เฮ้ ทำไมทำหน้าแบบนั้น? พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันนะ…แล้วฉันก็แค่ทักทายเอง ไม่ได้ทำเรื่องอะไรแปลกๆสักหน่อย”
“นะ-นั่นสินะ…งั้นก็อรุณสวัสดิ์นะ”
“โอ้”
เซกิคุงบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่เขาเดินออกจากห้องเรียนไป
ผมสงสัยว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันคืออะไรกัน
“อรุณสวัสดิ์ มาเอะฮาระคุง เมื่อกี้นายคุยกับเซกิคุงอยู่ใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
“โอยามะคุง…ไม่รู้สิ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน”
ถ้าตามปกติมันก็เป็นอย่างที่เซกิคุงพูดไว้นั่นแหละ…เพื่อนร่วมชั้นจะทักทายกันแบบนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร…แต่ที่มันไม่ปกติก็อยู่ตรงที่อยู่ๆเซกิคุงก็มาทักทายผมนี่แหละ…ทั้งๆที่เราไม่เคยคุยกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ถ้าเป็นเรื่องภายในห้อง บางทีอาจจะ…
“อ๊ะ นั่นมากิคุง…อะ~รุณส~วัสดิ์~ มากิคุง!”
“!? อุ๊ฟ…”
ตอนที่ผมกำลังคิดว่าจะนั่งลงเพื่อคุยกับโอยามะคุงสักสองสามประโยค…อยู่ๆผมก็โดนผลักจากทางด้านหลังด้วยแรงที่ค่อนข้างหนักแน่นที่มาพร้อมกับเสียงอันแสนไพเราะ
“ขะ-ขอโทษนะ พอดีตอนที่ฉันเข้ามาในห้องเรียน ฉันเห็นหลังของมากิคุงเลยตื่นเต้นไปหน่อย ก็เลยเผลอทำแบบนั้นไป…ขอโทษจริงๆค่ะ”
“อามามิซัง…ไม่เป็นไร ผมไม่ว่าอะไรหรอก”
พอผมหันกลับไปก็ได้เจอกับอามามิซังที่มีรอยยิ้มสดใสราวกับนางฟ้า ดูเหมือนว่าอามามิซังก็น่าจะพึ่งมาถึงเหมือนกัน
“…นี่แหนะ!”
“ว๊าย!? ทะ-ทำอะไรของเธอตั้งแต่เช้าเนี่ยอุมิ!…ถ้าฉันตกใจตายขึ้นมาเธอจะทำยังไง”
“ก็เลียนแบบมาจากยูนั่นแหละ ฉันบอกเธอไปแล้วนะว่าเวลาเห็นคนรู้จักอย่าพุ่งเข้าไปทักทายแบบนี้อีก เธอคิดว่าตัวเองเป็นหมารึไง…ไม่สิ ตอนนี้เธอเป็นหมาอยู่แล้วต่างหาก”
แน่นอนว่าคนที่อยู่ด้านหลังของอามามิซังก็คืออาซานางิที่ตอนนี้กำลังดึงอามามิซังออกไปจากตัวผม ราวกับกำลังดึงสุนัขของตัวเองที่กระโดดเข้าไปใส่คนอื่น อาซานางิในตอนนี้คืออาซานางิที่กำลังสวมบทบาทสุดเท่เหมือนทุกที…ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ที่บ้านของผม
“…อรุณสวัสดิ์ อาซานางิซัง”
“รุนหวัดนะ เอาล่ะ เอาล่ะ ยูจัง หมดเวลาเดินเล่นตอนเช้าแล้ว กลับบ้านกันได้แล้วนะ~”
“โม่~ หยุดทำเหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงเลยนะ…อ๊ะ เจอกันอีกทีตอนพักกลางวันนะ มากิคุง!”
“อา…ได้สิ…”
อามามิซังถูกอาซานางิลากกลับไปที่นั่ง…เธอจะทำแบบนี้อีกครั้งตอนช่วงพักกลางวันใช่ไหม?
ในตอนนี้ผมกับอามามิซังกลายมาเป็นเพื่อนกันแล้ว เราจึงสามารถคุยกันได้มากขึ้น แต่ผมก็หวังว่าเธอควรจะหยุดพักบ้าง เพราะถ้าเราคุยกันบ่อยเกินไปมันจะกลายมาเป็นจุดสนใจได้
เธอน่าจะรู้นะว่าถ้าเธอทำแบบนี้…พวกนักเรียนคนอื่นๆในห้องก็จะเริ่มนินทาหรือไม่ก็พูดซุบซิบกัน แบบตอนนี้…
・・・・・・・・・・。
(…….เอ๊ะ?)
ในขณะที่ผมกำลังสร้างกำแพงที่มองไม่เห็นเพื่อป้องกันไม่ให้คำนินทาของคนอื่นๆในชั้นเรียนเข้ามาทำลายหัวใจของผม…ผมก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงจะยังรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาอยู่นิดหน่อย แต่การพูดดูถูก การแอบซุบซิบนินทา…ผมไม่ได้ยินใครพูดอะไรทำนองนั้นเลย
ถึงจะสงสัยมาหลายครั้งแล้วก็เถอะนะ…แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เมื่อผมนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง ผมก็ส่งข้อความหาอาซานางิทันที
[ มาเอะฮาระ ] : รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องเรียนมันแปลกๆนะ เธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?
[ อาซานางิ ] : ถึงนายจะถามฉันก็เถอะ…ฉันเองก็สงสัยเหมือนกัน
[ มาเอะฮาระ ] : อามามิซังได้ทำอะไรหรือเปล่านะ?
[ อาซานางิ ] : ถ้านายหมายถึงว่า…เธอกำลังทำอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่าละก็…ไม่ใช่หรอก ยูไม่ใช่เด็กที่ชอบทำอะไรแบบนั้น
[ มาเอะฮาระ ] : ถ้าอย่างนั้น ผมคิดว่าน่าจะมีคนอื่นเป็นคนทำเรื่องนี้
[ อาซานางิ ] : ก็อาจจะ ฉันหมายถึง…มันก็คิดได้แต่แบบนั้นล่ะนะ
[ มาเอะฮาระ ] : นั่นแหละ นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่เซกิคุงเข้ามาคุยกับผมในวันนี้ก็ได้
[ อาซานางิ ] : เซกิ? อ่อ ฉันพอเข้าใจแล้วล่ะ
[ มาเอะฮาระ ] : ? เธอรู้เรื่องอะไรใช่ไหม?
[ อาซานางิ ] : อา บางที่มาเอะฮาระอาจจะไม่ได้สังเกต เพราะนายไม่ค่อยสนใจกับสถานการณ์ในห้องเรียนเท่าไหร่
[ มาเอะฮาระ ] : หืม
[ อาซานางิ ] : ผู้ชายคนนั้นน่ะ ดูเหมือนว่าจะกำลังเล็งไปที่ยูอยู่น่ะ แต่ดูเหมือนยูเองก็จะไม่รู้ตัวเหมือนกันนะ
[ มาเอะฮาระ ] : อา…แบบนี้เองสินะ
ทั้งๆที่อาซานางิกำลังคุยกับอามามิซังและนิตตะซังอยู่แท้ๆ แต่เธอกลับสามารถแลกเปลี่ยนข้อความกับผมได้อย่างคล่องแคล่วโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลย…
ถึงจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อความที่นานไปสักหน่อย แต่ตอนนี้ผมก็พอจะเข้าใจประเด็นขึ้นมาบ้างแล้ว
ผมคิดว่าเพื่อนร่วมชั้นบางคนอาจจะสังเกตเห็นว่าผมกับอามามิซังเข้ากันได้ดี
ดังนั้น…บางทีพวกเขาอาจจะคิดว่าการพูดจาไม่ดีกับผม มาเอะฮาระ มากิผู้นี้ อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับ อามามิ ยู ที่เป็นเพื่อนของผมได้
แล้วก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดี อามามิซังนั้นถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของชั้นเรียน และเป็นที่ชื่นชอบของทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง
สาวน่ารักอันดับหนึ่งของชั้นเรียน…ไม่สิ สาวที่น่ารักที่สุดของชั้นปี กับ คนโดดเดียวและแสนมืดมนของชั้นเรียน…ในตอนแรกพวกเขาอาจจะแค่คิดว่ามันดูน่าตลกและเป็นเรื่องแปลกๆ จึงพากันนินทาด้วบความขบขัน แต่อย่างไรก็ตาม…ถ้าพวกเขาสังเกตตอนที่ผมคุยกับอามามิซัง พวกเขาก็น่าจะพอเดาความสัมพันธ์ของพวกเราได้
มันคงอันตรายเกินไปที่จะพูดถึงผมในทางไม่ดีอีกต่อไปในอนาคต
นั่นเป็นเหตุผลที่เซกิคุง ผู้ที่แอบมีความรู้สึกให้กับอามามิซัง (แต่ดูออกง่ายมากสำหรับอาซานางิและสาวคนอื่นๆ) เลือกที่จะมาแสดงเป็นมิตรกับผมเพื่อสร้างความประทับใจให้กับอามามิซัง แล้วพอเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆที่ไวต่อความเปลี่ยนแปลงเห็นแบบนั้น พวกเขาก็เลือกที่จะทำตามเซกิคุง
นั่นอาจจะเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของทั้งชั้นเรียน
และอีกไม่นานหลังจากนี้ พวกเขาจะรู้ว่าการตัดสินใจของพวกเขานั้นไม่ผิด…
☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆ ☆