I Became Friends with the Second Cutest Girl in My Class - ตอนที่ 77
พ่อที่ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าผมในตอนนี้ ดูเหมือนกับพ่อที่อยู่ในความทรงจำของผมในอดีตอย่างไม่ผิดเพี้ยน
แน่นอนว่าสีของสูทกับเน็คไทอาจจะไม่เหมือนเดิม แต่วิธีการแต่งตัวของเขายังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“บังเอิญจริงๆ พ่อไม่คิดว่าจะบังเอิญมาเจอกันในที่แบบนี้นะเนี่ย…ครั้งสุดท้ายที่เจอกันน่าจะเป็นช่วงก่อนปิดเทอมฤดูร้อนใช่ไหมนะ?”
“ใช่ครับ ยังจำได้เลยว่าตอนนั้นอากาศร้อนสุดๆไปเลย แต่ตอนนี้กลับต้องใส่เสื้อสองชั้นซะแล้ว”
“โทษทีนะ หลังจากนั้นพ่อก็งานยุ่งมากเลยล่ะ”
“จะว่าไปวันนี้พ่อก็ยังยุ่งเหมือนเดิมใช่ไหมล่ะครับ?”
“อา จริงๆวันนี้ก็มาดูงานโปรเจคที่จะทำต่อไปล่ะนะ เสร็จแล้วก็คงจะกลับบ้าน…แต่ถึงจะบอกว่ากลับบ้านก็เถอะ ยังมีงานรออยู่ที่บ้านอีกเพียบเลย”
สถานีนี้มีแผนจะรื้อแล้วสร้างใหม่ในอีกไม่กี่ปี แล้วดูเหมือนว่าพ่อจะมีส่วนร่วมในโปรเจคนี้ด้วย
“ดูเหมือนงานจะหนักนะครับ ร่ายกายยังไหวใช่ไหมพ่อ?”
“ฮ่าๆ ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อไปตรวจสุขภาพอยู่ทุกปี ดังนั้นแค่นี้สบายมาก”
พูดจบพ่อก็ยิ้มให้ผม ถึงพ่อจะอายุ 40 กลางๆแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะยังมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีอยู่ บางทีอาจจะเป็นเพราะพ่อเคยเป็นนักกีฬารักบี้ตอนอยู่มหาลัยก็ได้
แล้วแถมยังดูหน้าเด็กมากเมื่อเทียบกับอายุ
บางทีผมก็อยากจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับพ่อ แต่ดูเหมือนว่าผมจะได้แม่มาเยอะกว่า จำได้ว่าเคยมีญาติสักคนนึงบอกว่าตาของผมเหมือนกับพ่อเป๊ะเลย แต่ผมกลับคิดว่านั่นต้องเป็นเพียงจินตนาการของญาติคนนั้นเพียงคนเดียวแน่ๆ
“ว่าแต่ทำไมวันนี้ถึงมาแถวนี้ล่ะ…มาเที่ยวเล่นงั้นเหรอ? แต่จะว่าไปมากิเองก็เป็นนักเรียนม.ปลายแล้วนี่นะ”
“อ๊ะ เปล่าสักหน่อย แค่มาเดินซื้อของนิดหน่อยน่ะครับ นี่ไง รองเท้าที่ใส่อยู่มันขาดหมดแล้วด้วย”
“งั้นเหรอ ว่าแต่…มากับเพื่อนใช่ไหม?”
“อา ก็เหมือนสมัยก่อนแหละครับ”
ผมรีบตอบทันที ในความเป็นจริงแล้วผมมากับอุมิและอามามิซัง แถมที่โรงเรียนก็พึ่งจะได้เป็นเพื่อนกับโนโซมุด้วย ดังนั้นเมื่อเทียบกับสมัยก่อนตอนช่วงก่อนปิดเทอมฤดูร้อนถือว่าผมมาไกลกว่าเดิมมาก
แต่ว่าผมไม่ได้บอกออกไป
“งั้นเหรอ…โทษนะที่พ่อถามอะไรแปลกๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็ยังสบายอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ ว่าแต่พ่อยุ่งอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?”
“! จริงด้วย พูดให้ถูกคืองานที่นี่ยังไม่เสร็จเลย”
ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากอยู่คุยกับพ่อต่อหรอกนะ แต่ตอนนี้อุมิกับอามามิซังกำลังรออยู่ ผมว่าผมควรรีบกลับไปหาพวกเธอน่าจะดีกว่า
[ อาซานางิ ] : มากิ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ?
[ อามามิ ] : มากิคุง เนื้อรอเราอยู่น้า~
ถ้าผมอยู่คุยกับพ่อนานเกินไป ทั้งสองคนอาจจะสงสัยเอาได้
“….ผู้อำนวยการมาเอะฮาระ คือว่า….”
และนอกจากนี้ยังมีคนอื่นรอพ่อของผมอยู่ด้วย
“! มินาโตะ ผมบอกให้คุณรออยู่ข้างนอกก่อนไม่ใช่เหรอ?”
“ขอโทษค่ะ แต่พอดีฉันได้ยินเสียงแปลกๆก็เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าน่ะค่ะ”
ผู้หญิงในชุดสูทสีเทาเดินเข้ามาเรียกพ่อของผม เธอเรียกพ่อว่าผู้อำนวยการ ดังนั้นเธอก็น่าจะเป็นลูกน้องของพ่อที่บริษัท
เธอเป็นผุ้หญิงที่สวยและมีดวงตาที่สดใส
“พ่อครับ คนนี้คือ? ว่าแต่พ่อได้เลื่อนตำแหน่งอีกแล้วสินะ ยินดีด้วยนะครับ”
“แต่ได้เงินเดือนเท่าเดิม แล้วงานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอะนะ…ช่างมันเถอะ คนนี้นี่คือมินาโตะ มินาโตะ เคียวกะ เป็นลูกน้องในที่ทำงานน่ะ…แล้วก็มินาโตะ นี่คือลูกชายของฉันเอง ชื่อมากิ”
“! ลูกชายของผู้อำนวยการงั้นเหรอคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อมินาโตะค่ะ”
“อะ ผมชื่อมาเอะฮาระ มากิ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ…”
นามบัตรที่เธอยื่นมาให้ผมชื่อตำแหน่งถูกเขียนไว้ว่า「ผู้จัดการ」ดังนั้นหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคนนี้ต้องเป็นคนที่เก่งมากแน่ๆ ทั้งๆที่ดูเหมือนจะอายุเพียง 20 กลางๆเท่านั้น แต่กลับสามารถเป็นถึงผู้จัดการได้ ผมเคยได้ยินมาว่าการเลื่อนตำแหน่งในบริษัทใหญ่ๆเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมาก
“ดูเหมือนพ่อจะยุ่งๆอยู่นะ ถ้างั้นผมขอกลับก่อนนะ เอาไว้เจอกันใหม่ครับ”
“อา ไว้เจอกันนะ”
“…”
ผมยกมือลาพ่อกับคุณมินาโตะที่พยักหน้าให้เล็กน้อย
ผมน่าจะคุยกับพ่อแค่ไม่กี่นาที แต่กับคนที่ต้องยืนรออยู่อาจจะรู้สึกนานก็ได้ อุมิเป็นคนแรกที่เห็นผม ผมสังเกตว่าแก้มของเธอนั้นพองออกมาเล็กน้อย
“มากิ ช้าเกินไปแล้ว นี่ไม่ใช่ว่าหลงทางหรอกใช่ไหม?”
“อา ไม่ใช่แบบนั้น”
ผมไม่แน่ใจว่าควรบอกเรื่องที่เจอพ่อที่นี่ดีไหม แต่ถ้าบอกมันอาจจะต้องเล่ายาวสักหน่อย แล้วอีกอย่างอามามิซังก็อยู่ที่นี่ด้วย ผมเลยตัดสินใจเงียบไว้ก่อน
ผมรู้สึกเหนื่อยจากการช็อปปิ้ง แถมตอนนี้ยังหิวมากด้วย ดังนั้นผมจึงยังไม่อยากใช้ความคิดไปกับเรื่องอื่นๆที่ไม่จำเป็น
“ขอโทษนะอุมิ ไม่คิดว่าจะทำให้เธอเป็นห่วง”
“ไม่ใช่สักหน่อย ฉันแค่คิดว่ามันช้าเกินไปต่างหาก…แต่เอาเถอะ คนเยอะแบบนี้นายไม่หลงทางก็ดีแล้วล่ะ”
“ฉันก็ว่างั้น”
ตอนนี้ผมเป็นนักเรียนม.ปลายแล้วนะ มันคงน่าอับอายมากแน่ๆถ้าเกิดผมหลงทางเข้าจริงๆ แถมพ่อกับมินาโตะซังก็อยู่แถวๆนี้ด้วย ผมคงทนรับความอับอายไม่ไหวแน่ๆถ้าพวกเขารู้เรื่องเข้า
“นี่ นี่ มากิคุง มากิคุง ถึงตอนนี้อุมิจะทำเป็นปากแข็ง แต่จริงๆแล้วก่อนที่มากิคุงจะกลับมาเธอกระวนกระวายมากเล…อุ๊ฟ”
“ยู~? หยุดพูดอะไรไร้สาระแล้วไปกันได้แล้ว ฉันหิวแล้วเห็นไหม~?”
“อู~อูอูอูอู~”
“มากิเองก็ด้วย…ไปกันได้แล้ว”
“อือ”
ผมจับมือของอุมิ ก่อนจะพากันเดินไปที่เป้าหมายสุดท้ายของวันนี้ ร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างที่ทานได้ไม่อั้น
“…คือว่านะ อุมิ”
“อะไรเหรอ? มีอะไรอยากบอกฉันหรอ?”
“…ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากจะบอกว่าอุมิน่ารักดีน่ะ”
“ถ้านายพูดอะไรอีกคำเดียว ฉันจะต่อยนาย”
“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ แค่ล้อเล่นๆ”
พวกเรายังมีเวลาอีกมาก ดังนั้นจึงมีโอกาสอีกมากเพื่อที่ผมจะได้เล่าเรื่องพ่อของตัวเองให้อุมิฟัง
ผมควรที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องวันพรุ่งนี้ กับเรื่องวันคริสต์มาสที่จะมาถึงนี้ก่อน
แล้วนอกจากนี้ยังมีเรื่องความปรารถนาของโนโซมุอีกเรื่อง…ซึ่งดูเหมือนว่าจะไปได้ไม่สวยสักเท่าไหร่
[ก็ไม่ได้อยากจะคิดอะไรแปลกๆหรอกนะ..แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแบบนี้กันนะ]
ผมคิดอยู่ในใจเมื่อนึกถึงภาพใบหน้าของผู้คนมากมายที่ปรากฏเข้ามาในความคิดของผม
★★★★★★★★★★★★★★★★★★
Durimtok