I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 162 ผีวัณโรค
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาในที่สุดทั้งกลุ่มก็เดินมาถึงใกล้กับโรงงานร้างบนถนนสายเหนือหน้าโรงงาน
“นี่คือรังเก่าของมังกี้ พวกเขาขนคนไปจับคุณทั้งหมดในครั้งนี้คาดการณ์ว่าเหลือเด็กเพียงไม่กี่คนที่อยู่ด้านใน”
จูฮ่าว ชี้ไปด้านหลังอาคารโรงงานที่ทรุดโทรมนี้ และหันไปพูดกับ หลินเฉิง
“เด็กๆอยู่นั่นหรอ?”
หลินเฉิง ส่ายหัวและมอง โคล่า ที่อยู่ไม่เป็นสุขในตอนนี้
“ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ภายในคุณควรที่จะส่งคนเข้าไปสำรวจรายละเอียดก่อน”
จูฮ่าว พยักหน้าเห็นด้วยและพูดว่า
“ได้ ก่อนอื่นพวกเราไปตรวจสอบสถานการณ์ที่อยู่ภายในเพื่อให้เกิดความมั่นใจกันก่อน!”
จากนั้นเขาโบกมือไปให้ชายร่างเตี้ยที่อยู่ด้านหลังและพูดว่า
“ผีวัณโรคนายเป็นคนเข้าไปดูสถานการณ์!”
ด้วยคำสั่งของจูฮ่าว ชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างแคระแกรนลักษณะของเขาดูเหมือนว่าอาการป่วยพยักหน้าอย่างอ่อนแรงและเตรียมพร้อมที่จะวิ่งไปโรงงาน
เมื่อมองเห็นสถานการณ์หลินเฉิง พูดไม่ออกเขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“คุณส่งคนปกติไปไม่ได้หรอชายคนนี้จะไอตายก่อนที่จะเปิดประตูหรือเปล่า?”
จูฮ่าว โบกมือยิ้มพร้อมกับอธิบายให้ฟังว่า.ไอลีนโนเวล.
“อย่าประมาทชายคนนี้เขาเป็นผู้ป่วยวัณโรคก่อนที่จะเกิดวันสิ้นโลก ใครจะรู้ว่าหลังจากเกิดภัยพิบัติสภาพของเขาดีขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับสามารถปลุกพลัง “ความเงียบ”ให้ตื่นขึ้นได้ แม้กระทั่งเขาพยายามตะโกนออกมาต่อหน้าคุณคุณก็จะไม่ได้ยินเสียงคำพูดใดๆ!”
หลินเฉิง ยังคงหันไปมองชายผู้ป่วยวัณโรคซ้ำหลายครั้ง และคิดว่าปรากฏการณ์อวสานโลกนี้น่าทึ่งจริงๆที่สามารถทำให้คนพ้นจากความตายได้
เมื่อจูฮ่าว พยักหน้าและหันไปมอง ร่างของ ผีวัณโรค หน้าตาของเขา “ดูดี”ขึ้นเล็กน้อยและออกวิ่งไปยังโรงงานอย่างเงียบๆ
หลังจากที่ผีวัณโรคได้ออกไปตรวจสอบหลินเฉิง หันกลับมาแล้วให้ความสนใจกับมังกี้ มือและเท้าของเขาถูกหักทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ หลินเฉิง เดินเข้าไปถามขึ้นว่า
“ได้เวลาตอบคำถามแล้ว?”
“ได้ได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิง มังกี้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“พี่ใหญ่ไม่ว่าคุณจะถามอะไรผมจะตอบทุกอย่าง…เพียงแค่อย่าทรมานผมแบบนี้..มันเจ็บปวดมาก! ฮือ”
เมื่อได้กล่าวถึงเรื่องนี้มังกี้ส่ายหน้าพร้อมกับร้องไห้
เมื่อเห็นว่ามังกี้ ผู้เคยเหมือนชายอมตะในครั้งก่อนมีลักษณะน้ำมูกน้ำลายไหลร้องไห้เหมือนกับเด็ก 10 ขวบ จูฮ่าว และพรรคพวกของเขามองหน้ากันทันที แม้กระทั่ง หยูซาน ยังคุกเข่าลงและเช็ดน้ำตาให้กับเขา
เมื่อเห็นดังนั้นหลินเฉิง ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวเกี่ยวกับการกระทำของ หยูซาน
“ร้องไห้ทำไม! ผมยังไม่ได้ทรมานนาย เอาล่ะตอบมา พวกนายมีทั้งหมดกี่คนและถูกทิ้งไว้ในโรงงานกี่คน นอกจากคนที่พาออกไปจับผมแล้ว?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้มังกี้หยุดร้องไห้อย่างรวดเร็วและตอบขึ้นว่า
“มีน้อยกว่า10 คน!ส่วนใหญ่เป็นผู้บาดเจ็บ!”
“จริงหรอ?”
หลินเฉิงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“แต่ผมไม่เข้าใจว่าการที่นายเหลือคนจำนวนน้อยไว้ที่นี่ไม่กลัวว่ากองกำลังอื่นจะใช้โอกาสนี้โจมตีด้านหลังอย่างนั้นหรอ?”
เมื่อมังกี้ได้เห็นรอยยิ้มอันน่าสยดสยองของหลินเฉิง เขารีบพูดขึ้นทันที
“พี่ใหญ่เรื่องมันเป็นแบบนี้…กองกำลังของเราเป็นกองกำลังเล็กๆที่อยู่ภายใต้อำนาจของ ท่านจิว กองกำลังแต่ภูมิภาคสามารถค้นหาทรัพยากรด้วยตัวเองเท่านั้นและไม่สามารถปล้นทรัพยากรของคนอื่นได้ ความจริงแล้ว ท่านจิว เกรงว่าพวกเราจะสะสมทรัพยากรเป็นจำนวนมากและเริ่มปล้นของกองกำลังอื่นๆทำให้เกิดการสั่นคอนภายใต้การดูแลของเขาดังนั้นเขาจึงสร้างกฎขึ้นมา!”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเฉิง พยักหน้าแล้วพูดว่า
“ถ้านายพูดเป็นความจริงและตอบอย่างซื่อสัตย์ผมก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของนายจะถูกรักษาเอาไว้อย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิง ดวงตาของ มังกี้เหลือบมองไปด้านข้างและพูดว่า
“จริงๆนะ..พี่ใหญ่คุณเป็นคนดีมากมีปัญหาอะไรรีบถามผมเลย..แม้ว่าคุณจะถามผมว่ากางเกงในเมียผมสีอะไร ผมก็จะตอบ!”
“ไร้สาระ!ผมเกลียดความคิดไร้สาระนี้มาก!ขาทั้งสองข้างยังต้องการเอาไว้อยู่ใช่ไหม?”
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิง ปฏิเสธ มังกี้ ยอมรับอย่างสงบ จูฮ่าว และกลุ่มของเขาถอนหายใจและรู้สึกว่าคนไร้ยางอายนี้ไม่เพียงแต่ทำลายแขนขาของอีกฝ่ายแต่ยังทำให้อีกฝ่ายเป็นหนี้บุญคุณเขาได้อีกด้วย
สำหรับจูฮ่าว แล้วเขาจ้องมอง หลินเฉิง ด้วยดวงตาชื่นชม หลินเฉิง จุดบุหรี่และยัดเข้าไปในปากของ มังกี้ จากนั้นเขาก็จุดบุหรี่ให้ตัวเองและถามขึ้นว่า
“ดีมากตอนนี้บอกผมนอกจากผู้ที่บาดเจ็บแล้วนายยังซ่อนอะไรไว้อีก?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิง มังกี้ รีบส่ายหัวอย่างรุนแรง
“ไม่..ไม่มีครับ…ไม่มีแน่นอน พี่ใหญ่คุณต้องเชื่อผม หากผมมีคนที่ทรงพลังผมคงให้เขาออกมาจัดการกับคุณแล้ว!”
“โอ้…”
เมื่อได้ยินคำพูดของมังกี้ หลินเฉิง พยักหน้าและหันไปลูบหัวโคล่าจากนั้นพูดกับเขาว่า
“แต่เพื่อนของผมรู้สึกว่ามีคนที่น่าทึ่งในโรงงานของนาย…มันหมายความว่ายังไง?”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ใบหน้าของมังกี้ แสดงออกถึงความแปลกใจเขาขมวดคิ้วและคิดอยู่สักครู่ ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนออกมาว่า
“ผมรู้แล้ว!”
เพียงแค่ตะโกนออกมาก็พบว่าการแสดงออกของหลินเฉิง นั้นเย็นชาอย่างรวดเร็วมังกี้ลดเสียงและพูดว่า
“ถ้ามีคนทรงพลังอยู่ด้านในบางทีอาจเป็นคนของท่านจิว! พี่ใหญ่บางทีเขาอาจจะสังเกตเห็นว่ากลุ่มของผมกำลังประสบปัญหาดังนั้นจึงส่งคนมาที่โรงงานเพื่อตรวจดูว่าเรากลับมาแล้วหรือไม่พวกเขาก็อาจมา กวาดล้างเสบียงหลังจากที่กลุ่มของเราถูกทำลาย!”
เมื่อได้ฟังการวิเคราะห์ของมังกี้การแสดงออก ของ หลินเฉิง ค่อยๆจริงจังมากยิ่งขึ้น
ถ้ามันเป็นความจริงอย่างที่มังกี้ พูด ความสามารถของ ท่านจิว ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับบุคคลธรรมดา หากเขาต้องการฆ่าชายคนนี้คงไม่สามารถวิ่งไปตัวเปล่าพร้อมกับมีดยาว 1 เล่มเหมือนแต่ก่อน!
———————————