I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 281 คำขาด
SC:
SC:บทที่ 281 คำขาด
เมื่อเธอรู้ว่าที่หลินเฉิงก็ทำเพื่อพวกเธอแม้ว่าฉินชูหยีจะรู้สึกปวดหัวแต่เธอก็ไม่อยากจะทำให้เขาผิดหวัง เธอเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรอีกแล้ว เธอเอาวัตถุดิบปรุงอาหารมาจากชั้นวางของในห้องครัว
อาศัยข้อดีจากการที่ป้าฉินกำลังตั้งใจจะทำอาหารหลินเฉิงจึงขอตัวกลับบ้านไปก่อนและเขาก็พบว่าหยูซานยังไม่กลับมา เขาก็อดกังวลไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขาก็คิดว่าผู้หญิงคนนั้นก็ใช้ยาเสริมพลัง D-Type มาแล้วทั้งที พลังในการพลางตัวของเธอก็ดีมากไม่มีทางที่จะโดนเจอโดยบังเอิญได้ เพราะงั้นเขาจึงไม่กังวลมากนัก จริงๆ แล้วเขาก็อยากจะส่งเธอออกไปหนึ่งวันเต็มแต่ถ้าเป็นแบบนั้นจะไม่มีคนดูแลโคล่ากับเทียนซือ พวกมันต้องไปอยู่บ้านของป้าฉินแทน
เห็นหลินเฉิงกลับมาฉินชูหยีที่กำลังจัดการกับปลาแซลมอนอยู่ เหมือนเห็นพระเจ้ากลับมา เธอจับแขนของหลินเฉิงไว้และก็ถาม “น้องส้ม ป้าพึ่งไปเช็ควิธีจัดการกับปลาแซลม่อนมา แต่มันก็จัดการไม่ได้ง่ายๆ นี้สิ ป้าก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี..”
“ง่ายนิดเดียวเองครับ!” ไอรีนโนเวล
หลินเฉิงตบไหล่ป้าฉินเบาๆเขายกตู้ปลาไปไว้ในห้องครัว และเขาก็ยกปลาแซลมอนตัวใหญ่ทั้งตัวออกมาจากตู้อย่างง่ายดายก่อนที่จะโยนมันลงไปบนพื้น ใช้มือซ้ายแนบลงไปบนหัวของปลา ก่อนที่จะมีเสียง แกร็ก ดังขึ้นเบาๆ หัวของปลาก็แข็งเหมือนไอศครีมทันที!
หลังจากที่แช่หัวของปลาแล้วปลาแซลม่อนมันดิ้นลนเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะแน่นิ่งไป หลินเฉิงถึงเดินไปหยิบมีดขึ้นมาก่อนที่จะเล็งไปที่คอและตัดอย่างแม่นยำ!
“ฉั่วะ!”
สิ้นเสียงนั้นหัวของปลาก็หลุดออกมาในทันที หลินเฉิงผ่าพุงของมันออกและกระชากเครื่องในออกมา ก่อนที่จะล้างมันด้วยน้ำสะอาด หลินเฉิงค่อยๆ เลาะเนื้อออกมาจากก้าง ผ่านไปไม่นานปลาแซลมอนทั้งตัวเมื่อกี้กลายเป็นชิ้นปลาสีส้มเกือบจะทั้งหมดแล้ว
ฉินซูหยีตกคะลึงกับความสามารถในการควบคุมพลังน้ำแข็งและการใช้มีดของหลินเฉิง แม้ว่าหลินเฉิงจะทำให้เธออึ้งมามากพอแล้ว เธอก็ยังรู้สึกยากที่จะเชื่อ หลังจากที่เห็นฉากนี้ เธอก็รู้สึกงุนงง
ตอนนี้หลินเฉิงไม่ใช้แค่มากไปด้วยความสามารถแต่เขาก็ยังดูแลตัวเองได้ดีมากด้วย เขาไม่ใช้เด็กน้อยที่ต้องการความดูแลเอาใจใส่ในทุกอย่างอีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อหลินเฉิงเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ ฉินชูหยีก็รู้สึกหนักใจมากขึ้นเท่านั้น เธอรู้สึกว่ามีสิ่งที่เธอต้องช่วยเขาน้อยลงทุกที ไม่นานเขาคงทิ้งเธอไป!
หลังจากจัดการกับปลาเสร็จหลินเฉิงก็ยิ้มอย่างแจ่มใส่ เดิมที่แล้วเขาอยากจะให้ป้าฉินชื่นชมเขา แต่พอผ่านไปนานเข้าเขาก็ไม่ได้ยินคำชมอะไร เขาจึงรีบหันหลังกลับมาดูโดยไม่รู้ตัวดวงตาของป้าก็เริ่มเป็นสีแดงแล้ว!
“เป็นอะไรหรอครับป้าฉิน?” ไอลีนโนเวล
เห็นแบบนี้หลินเฉิงก็เป็นห่วงจากใจจริง
มองดวงตาของหลินเฉิงที่เต็มไปด้วยความกังวลเธอก็เช็ดน้ำตาออก “ป้าไม่เป็นไรป้าสบายดี ป้าก็แค่คิดว่าเธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทุกที ป้าก็กลัวว่าจะไม่มีอะไรให้ป้าต้องช่วยแล้วในอนาคต…”
ได้ยินป้าฉินว่าอย่างนั้นหลินเฉิงก็ยิ้มอย่างขมขื่น “ผมจะบอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ได้ยังไง? มันจำเป็นจริงๆ ที่ต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ในใจของผม ป้าก็ยังคงเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาได้ตลอดเวลา! ไม่ว่าผมจะทรงพลังแค่ไหน ผมก็ยังคงต้องทีญาติมิตร ด้วยความเคารพนะครับในฐานะของป้าไม่มีใครมาแทนได้หรอก!”
ได้ยินคำปลอบใจจากหลินเฉิงเธอเองก็รู้สึกดีขึ้นมาก“ดีเลย ดีเลย! น้องส้ม ป้าฉินจะไม่ทิ้งเธอไปไหนไม่ว่าเธอจะทำอะไรแล้วไปที่ไหน อย่างน้อยเธอก็ต้องบอกให้ป้ารู้นะ!เข้าใจไหม?”
“ผมรู้อยู่แล้วครับป้า!”
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงรีบพยักหน้าตอบ“ป้ามั่นใจได้เลยว่าถ้าไม่มีสถานการณ์พิเศษอะไร ผมจะไม่มีวันทิ้งป้าไปไหน!”
“ดีดี…”
ได้ยินหลินเฉิงยืนยันฉินชูหยีก็พยักหน้าด้วยความดีใจ แม้เธอจะเข้าใจคำว่า สถานการณ์พิเศษ ของหลินเฉิง ถ้ามันเกิดขึ้นเขาอาจะจากเธอไป เธอก็ไม่พูดอะไรอีก เพราะยังไงๆ เขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว มันจะเป็นอะไรที่เห็นแก่ตัวเกินไปถ้าเธอจะบังคับให้เขาอยู่กับเธอต่อไป
“แม่!หนูกลับมาแล้ว!”
ด้วยความช่วยเหลือจากหลินเฉิงตู้เย็นก็เต็มไปด้วยเนื้อปลาแซลมอนที่เป็นเสบียงเสริมเพิ่มเข้ามา ฉินชูหยีกำลังจะเริ่มทำอาหาร ก็ได้ยินเสียงของหลีเหมิงเดียดังมาจากห้องนั่งเล่น หลินเฉิงเองก็ได้ยินเสียงของน้องสาวดังมาชัดเจนแถมเขาก็รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและดีใจจากโทนเสียงของเธอ แต่อยู่ๆ ใบหน้าของเขาก็แย่ลงทันที
ตอนนี้เขาก็เดาเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยที่น้องของเขากำลังดีใจอยู่นั้นต้องเป็นเพราะเจ้าฉางเหวินฉวนแน่ๆ !
ถ้าเป็นเมื่อวานเขาเองก็คงจะเป็นกังวลแต่หลังจากได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับชูฉิง หลินเฉิงก็เข้าใจว่า ฉางเหวินฉวนคือหมาป่าในชุดของแกะ หลีเหมิงเดียนั้นโง่และกำลังถูกหลอกอยุู่ แถมยังรับสินน้ำใจเขามาโดยไม่รู้อะไรอีก แน่นอนว่านั้นทำให้เขาไม่พอใจเหมือนกัน
คิดได้อย่างนั้นหลินเฉิงก็เดินออกจากห้องครัว เห็นหลีเหมิงเดียกำลังบิดขี้เกียจอยู่บนโซฟา เขาก็ถาม “ไปอยู่ไหนมาหละ?”
ได้ยินแบบนั้นเธอก็มองมายังหลินเฉิงเห็นสีหน้าแปลกเธอก็ถามไป “ทำไมถึงกลับมาหละพี่? มีอะไรต้องทำอีกเยอะไม่ใช่หรอ?”
“ฉันไม่ได้ขอให้เธอถามฉันกลับมานะ?” เห็นน้องพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยหลินเฉิงก็มองหน้าและถามตรงๆ เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ก่อนที่จะขมวดคิ้วและถาม “ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอต้องไปข้างนอกกับเจ้าฉางเหวินฉวนมาใช่ไหม ตั้งแต่ที่แยกกับพวกพี่ไปในตอนเที่ยง?”
“อ่า?….นั้น….”
เห็นหลินเฉิงถามมาอย่างจริงจังหลีเหมิงเดียก็อึ้ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ของเธอถึงเปลี่ยนมาเป็นอารมณ์จริงจังแบบนี้ “ใช่แล้ว….แต่พี่….”
“เหอะ!”
เห็นหลีเหมิงเดียพยักหน้าหลินเฉิงก็ขัดจังหวะทันที “ตั่งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอควรจะลดโอกาศที่จะไปเจอกับเจ้าฉางเหวินฉวนนั้นลงไปหน่อยแล้วหละนะ ถ้าเธอไม่ฟัง อย่าโทษสิ่งที่พี่จะทำต่อไปนี้หละ!”
“ไม่นะพี่….พี่หมายความว่าไง?พี่ฉิงพูดอะไรกับพี่? น้องบอกเลยว่ามันเป็นความเข้าใจผิด พี่ฉางเหวินฉวนหนะ…” เห็นความเยือกเย็นของหลินเฉิงเธอก็กระพริบตาปริบๆ รีกเข้าไปหาหลินเฉิงและอธิบาย แต่ก็ถูกเขาขัดจังหวะอีกครั้ง “เธอไม่ต้องบอกอะไรฉันเยอะ สายตาของพี่แม่นยำกว่าคน 10 คนอีก! ฉางเหวินฉวนนั้นเป็นปัญหาใหญ่ ก่อนที่พี่จะเจอกับต้นตอของปัญหา เธอต้องซื่อสัตย์กับพี่เข้าใจไหม!”
“ใช่แล้วหลีเหมิงเดีย แม่จะบอกให้ แม่ควบคุมเธอไม่ได้ก่อนหน้านี้ พ่อแย่ๆ ของเธอไม่ได้สนใจเธอหรอก แต่ตอนนี้พี่ของเธอก็อยู่ที่นี่แล้ว เธอต้องฟังเขาทุกอย่างในอนาคต เข้าใจนะ!”
คราวนี้ฉินชูหยี ที่อยู่ในห้องครัวกำลังทำอาหารก็เหมือนจะได้ยินสิ่งที่พี่น้องคุยกัน เธอจึงรีบตะโกนสนับสนุนหลินเฉิง
————————–