I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 132
บทที่ 132 การโจมตีหมู่บ้าน
“ไอ้เปล่อยหัวหน้าหมู่บ้านไป!”
“หยุดนะ!”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของหัวหน้าหมู่บ้าน อีกทั้งยังบีบคอของหัวหน้าหมู่บ้านทําให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
หลินเฉิง มองไปที่ชายชราและพูดขึ้นว่า
“ตาแก่ ความสามารถของ แกนั้นพิเศษมาก!ทําไมตอนแรกไม่ออกมาพอถึงคราวที่ฉันจะตอบโต้กลับออกมาเป็นผู้สร้างสันติ?”
ลําคอของชายชราถูกบีบแน่นใบหน้าของเขาแดงกล่ําเมื่อได้ยินคําถามของ หลินเฉิง เขาพยายามยกแขนขึ้นอย่างอ่อนแรงและโบกมือ หลังจากที่มือของ หลินเฉิง คลายออกเล็กน้อยชายชราไออย่างรุนแรงและพูดอย่างรวดเร็วว่า
“รุ่นเยาว์ นายเข้าใจผิด! ฉันเพิ่งมาที่นี่และเห็นว่าคนเหล่านี้กําลังขัดแย้งกับนาย ฉันจึงต้องการที่จะหยุดเหตุการณ์นี้เลยต้องใช้พลังออกมา!”
“จริงๆงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินคําอธิบายของ ฮีฉีฮัน หลินเฉิง ยิ้มเยาะ
“ผู้เฒ่า ฉันเกรงว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่ความเข้าใจผิดใช่ไหม พวกคุณกําลังฆ่าพวกเราถึง 2 ครั้ง จะให้คิดยังไง?”
เมื่อพูดจบ หลินเฉิง หันไปหาโคล่าและพูดว่า
“ไปจัดการซะ! ถ้านายหิวก็กินพวกเขาได้เลย!”
เมื่อโคล่าได้ยินดังนั้น มันเองก็อยู่ในอารมณ์โกรธ จึงรีบพุ่งเข้าหาฝูงชนทันที
“อย่าไปกลัวมัน!มันเป็นแค่สุนัขอ้าก!”
ชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่งตกเป็นเป้าของโคล่าทันที เขาพยายามปลอบใจคนที่อยู่เบื้องหลัง เขาพยายามยกหอกเพื่อพร้อมที่จะต่อสู้แต่โคล่าสามารถหลบเลี้ยงด้วยการบิดตัวกลางอากาศและกัดบนไหล่ของเขา
เมื่อมองเห็นสหายของพวกเขาถูกโคล่าจัดการล้มลงอย่างรุนแรงคนอื่นๆรู้สึกวิตกกังวลและพยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ทันใดนั้นเขาก็ถูกปิดกั้นด้วยกําแพงน้ําแข็ง
“ ฉันค่อนข้างยุติธรรมถ้านายต้องการช่วยชีวิตของคนอื่นก็ต้องทําลายสิ่งกีดขวางนี่ก่อนเป็นอันดับแรก!”
เมื่อมองเห็นคนอื่นมีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือเพื่อน หลินเฉิง พูดขึ้นอย่างเหยียดหยาม
เมื่อเห็นว่า หลินเฉิง ปิดกั้นพวกเค้าด้วยกําแพงน้ําแข็งคนเหล่านั้นต่างสบตากันและจับหอก แน่นเปลี่ยนเป้าหมายมายังหลินเฉิง ทันที!”
“พวกเจ้า…ต้องตายสักกี่คนถึงจะหยุด!”
ชายชราตะโกนออกมาด้วยความโกรธในขณะที่ชายหนุ่มคนอื่นๆกําลังโจมตีหลินเฉิง เมื่อได้ยินคําสั่งของชายชราอยู่ดีๆร่างกายของพวกเขาก็ไม่สามารถขยับได้
ในเวลาเดียวกันเสียงกรีดร้องด้านหลังกําแพงน้ําแข็งก็เงียบลง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าโคล่าและชายที่ถูกโจมตีจะต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างแน่นอน
หลังจากควบคุมเหตุการอลหม่านนี้แล้ว ฮีฉีฮัน ไอออกมาเป็นเลือด เขาจงใจหลีกเลี่ยงการควบคุมร่างกายของ หลินเฉิง และถามขึ้นด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึมว่า
“หนุ่มน้อยนี่เป็นเพียงความเข้าใจผิดทําไมนายต้องเห็นเลือดก่อนถึงจะหยุดได้?ตอนนี้อยู่ในช่วงวันสิ้นโลกมีมนุษย์เหลือไม่มากนัก นายเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งแต่ทําไมมีความคิดเช่นนี้?
เมื่อมองไปรอบๆในขณะนี้รอบๆเป็นฉากที่ถูกหยุดเวลาเอาไว้ หลินเฉิง ยิ้มและพูดว่า
“ มาสอบถามว่าทําไมฉันถึงโหดเหี้ยมโทําไมพวกคุณถึงไม่มองดูตัวเองเอาแต่วิจารณ์คนอื่น?”
เมื่อได้ยินคําพูดของ หลินเฉิง ฮีฉีฮัน ถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า
“ฉันรู้ว่าพวกเขาโจมตีนายก่อน ถึงพยายามที่จะหยุดพวกเขาแต่ตอนนี้นายและสุนัขข องนายก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่พวกเรากลับได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง 2 คน! ฉันไม่รู้ว่าทําไมนายถึงมาปรากฏตัวที่ภูเขาลึกแห่งนี้ แต่ในเมื่อสิ่งต่างๆได้เกิดขึ้นแล้ว ชายชราอย่างฉันก็อยากจะขอให้นายไว้ชีวิตเด็กกลุ่มนี้ที่ไม่รู้เรื่อง!”
ท้ายสุดแล้วเมื่อมองคนเหล่านั้นให้ดีๆพบเห็นว่าคนเหล่านั้นต่างมีอายุเพียงไม่กี่สิบปีพวกเขายังคงอยู่ในวัยคะนองและรู้สึกหวาดกลัวต่อความตาย
หลินเฉิง เหลือบมองสักครู่ก่อนที่จะดีดนิ้วทําให้กําแพงน้ําแข็งรอบๆโคล่าหายไปทันที และเขาเห็นว่าชายที่อยู่ในนั้นกับโคล่านอนลงกับพื้นและเต็มไปด้วยเลือด
หลังจากนั้น หลินเฉิง เรียกโคล่ากลับมาอย่างเงียบๆและพูดกับ ฮีฉีฮัน ว่า
“เห็นแก่หน้าของคุณ ฉันจะยอมให้แต่หมีเป็นเหยื่อของฉัน ฉันไล่ตามจับมันมาแล้วครึ่งทางแต่พวกเขาแย่งไปโดยไม่พูดอะไรสักคํา สิ่งนี้หมายความว่ายังไง?”
“หมีจะเป็นของนาย ถ้านายปล่อยคนกลุ่มนี้ไป!”
ในที่สุดเมื่อเห็นทัศนคติของ หลินเฉิง ผ่อนคลายลง ฮีฉีฮัน ก็พูดอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้ามีความสุข
“โอ้”
เมื่อมองกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้า หลินเฉิง รู้สึกเบื่อหน่ายเขาจะโบกมือและพูดว่า
“ ตกลง ไปจากที่นี่ซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ!”
หลังจากนั้น หลินเฉิง ก็เดินมาหาหมีดําและเอามีดพับออกมาเตรียมที่จะผ่า แต่ทันใดนั้นก็เกิดเสียงฝีเท้าวุ่นวายดังออกมาจากในป่าทึบ ปรากฏเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งรีบออกมาจากปาพร้อมกับเสียงตะโกน
“หัวหน้า หัวหน้า! มีสัตว์ประหลาดอีกตัวออกมาจากหลุม! ต้าหยงและฮัวซื้อ ถูกฆ่าตายแล้ว! ตอนนี้สัตว์ประหลาดตัวนั้นวิ่งเข้าไปหมู่บ้านและเริ่มเข่นฆ่าผู้คนด้วยการพ่นไฟ!”
“เจ้าพูดอะไรนะ?”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ฮีฉีฮัน ตกใจทันที เขารีบคว้าไหล่ของชายหนุ่มและถามขึ้นอย่างรีบร้อนว่า
“เกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านในตอนนี้ หลานชาย หลานชายของข้า”
เมื่อเห็นว่า ฮีฉีฮัน ตื่นตกใจชายหนุ่มรีบตอบอย่างรวดเร็วว่า
“โอซา น่าจะปลอดภัย! ในตอนที่ผมรีบมารายงานสัตว์ประหลาดกําลังวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านแต่ตอนนี้”
หลังจากที่เขาพูดทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าคอเสื้อของเขาถูกดึงขึ้นและได้ยินเสียงเคร่งขรึมของ หลินเฉิง ที่ไม่รู้ว่าเดินมาจากไหนถามคุณว่า
“ สัตว์ประหลาดมันสามารถพ่นไฟได้อย่างนั้นหรอ?นายแน่ใจหรือเปล่า?”
เมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่ดูวิตกกังวล ชายหนุ่มตกตะลึงและพยักหน้าอย่างรวดเร็วจากนั้นพูดว่า
“ใช่เสัตว์ประหลาดตัวนั้นพ่นไฟได้จริงๆ มันน่าทึ่งมาก!”
หลินเฉิง คลายมือจากปกเสื้อของชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาดูสนใจเป็นพิเศษในตอนนั้นเขามักจะคิดว่าพลังที่เกี่ยวกับไฟนั้นมีเพียงแต่มนุษย์ และตอนนี้มีตัวกินคนที่สามารถใช้พลังไฟเช่นเดียว กับหวังเฉิงออกมามันทําให้เขารู้สึกตกใจและสนใจในเวลาเดียวกัน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเฉิง ลุกขึ้นแล้วหันไปหา ฮีฉีฮัน ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ให้คนสองสามคนเฝ้าหมีไว้ให้ผม!”
จากนั้นเขาผลักไหลของชายหนุ่มสั่งว่า
“นําทางไป กลับไปที่หมู่บ้านของนาย!”
เมื่อเห็นว่าทัศนคติของ หลินเฉิง เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันหลังจากได้ยินว่ามีสัตว์ประหลาดที่สามารถพ่นไฟได้กลุ่มของ ฮีฉีฮัน รู้สึกแปลกใจแต่ หลินเฉิง ขี้เกียจเกินไปที่จะอธิบายให้คนเหล่านี้ฟัง เขารีบตามชายหนุ่มเข้าไปในปาอีกครั้งเพื่อวิ่งไปยังหมู่บ้านของ ฮีฉีฮัน