I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 204 นกนางนวล
SC:
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงรถที่วิ่งมาบนท้องถนนเป็นเวลานานก็ได้หยุดลงที่หน้าบ้านแห่งหนึ่งบนชายฝั่งทางเหนือสุดของเขตเมือง
หลังจากจัดการซอมบี้ที่เดินอยู่รอบๆหลินเฉิง มองเห็นบ้านอิฐสีแดงที่ชำรุดทรุดโทรมอยู่ด้านหน้าเขา เขาขมวดคิ้วและหันไปมอง เฉินเฟยหยู พร้อมกับถามว่า
“นี่คือที่ที่นายบอกว่ามีเรืออยู่อย่างนั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฉิง เฉินเฟยหยู ที่กำลังพิงกำแพงพร้อมกับอาเจียนอยู่นั้นพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า
“ไม่..เอ่อใช่!รอเดี๋ยว”
หลังจากนั้นเขาหยิบขวดน้ำแร่ขึ้นมาอ้วนปากและหยิบกุญแจออกมาจากเอวเพื่อเปิดประตูด้านหน้าจากนั้นเข้าไป
“เข้ามาเถอะที่นี่คือที่อยู่อาศัยของผมกับเจ้านายเก่า เจ้านายเก่าของผมเป็นเพียงชายชราเขาได้ไปพบจักรพรรดิหยกก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึงดังนั้นจริงๆแล้วที่นี่จึงเหลือเพียงผมและแฟนอยู่ที่นี้เท่านั้น
หลินเฉิง เดินเข้าไปในบ้าน เฉินเฟยหยู ปิดประตูด้านหลังและอธิบายให้เขาฟัง
“นายทำอะไรอยู่ที่นี่นั่นหรอ?”
หลินเฉิง เหลือบมองไปรอบๆห้องและถามขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินเฟยหยู ก็อธิบายว่า
“ในเขตเฉินเจียง78 เปอร์เซ็นต์ ทำงานเกี่ยวกับทะเล เจ้านายเก่าของผมก็เช่นเดียวกันเขามีเรือโดยสารขนาดเล็กที่มักจะพาแขกไปยังเกาะทางใต้ ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากการบริหารที่เข้มงวดทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเลสร้างท่าเรือเล็กๆส่วนตัวเพื่อทำธุรกิจเรือข้ามฟาก แน่นอนว่าแม้แต่เจ้านายเก่าของผมเองก็ไม่มีข้อยกเว้น บางทีอาจจะช่วยให้คุณหาเรือได้ง่ายขึ้น!”
หลังจากพูดจบเฉินเฟยหยู ยืนขึ้นจากโซฟาและเปิดประตูด้านหลังเล็กๆจากนั้นพูดกับ หลินเฉิง ว่า
“มาเถอะผมจะโชว์เรือให้คุณดู”
หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆเดินเข้าไปในประตูเล็กและเห็นท่าเรือซีเมนต์ที่ทรุดโทรมด้านหลังบ้าน ใกล้ท่าเรือมีทางเดินแคบๆที่นำไปสู่ถนนตรงหน้าบ้านมันถูกปิดกั้นด้วยประตูเหล็กที่เป็นสนิมและดูเหมือนว่าถูกใช้งานมันเนิ่นนาน
ที่ด้านซ้ายของท่าเรือโดยสารชำรุดทรุดโทรมมันทอดสมออยู่ในทะเลอย่างเงียบๆ
นี่คือเรือโดยสารขนาดเล็กที่มีความจุเพียง40 คน มี 2 ชั้นและมีดาดฟ้า แต่ชั้นบนและชั้นล่างรวมกันดูแล้วจะเหมือนไม่เกิน 20 ตารางเมตร
ที่หัวเรือมียางรถล้อมรอบอย่างหนาแน่นพร้อมกับมีเชือกป่านขนาดใหญ่2 เส้นผูกติดกับเสาเพื่อป้องกันไม่ให้เรือไถลออกไปไกลกลางทะเล มีอักษรสีแดงตัวใหญ่เขียนข้างเรือว่า นกนางนวล
หลังจากเห็นเรือโดยสารขนาดเล็กหลินเฉิง อดไม่ได้ที่จะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ดูเหมือนสิ่งที่อยู่ด้านหน้าเขาในตอนนี้ไม่น่าเชื่อที่จะใช้ข้ามทะเลได้.ไอรีนโนเวล.
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลินเฉิง เรียก เฉินเฟยหยู อย่างรวดเร็วในขณะที่เขาต้องการขึ้นเรือเพื่อแนะนำส่วนต่างๆ
“นายสามารถหาเรือที่ใหญ่กว่านี้ได้ไหมบอกตามตรงด้วยเรือนี้เพียงลำพังฉันคิดว่ามันยากมากที่จะผ่านช่องแคบทางใต้ได้อย่างปลอดภัย”
เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินเฟยหยู อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น
“ถ้าผมสามารถหาเรือที่ดีกว่านี้ผมคงพาคุณไปที่นั่นแล้วในตอนช่วงเกิดวันสิ้นโลกผู้คนต่างหลบหนีมากมายพวกเขาขับเรือทุกลำที่สามารถใช้ได้ออกไปจนหมดแล้ว หากพวกเขาไม่ลืมเลือนเรือลำนี้มันเองก็จะถูกลากออกไปเช่นกัน!”
“บ้าเอ้ย!”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเฉินเฟยหยู หลินเฉิง อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและสบถออกมา เขาต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเองจากนั้นเดินตาม เฉินเฟยหยู เดินดูรอบๆเรือ
“เจ้านายเก่าของผมซื้อนกนางนวลลำนี้ ด้วยเงินเก็บตลอดครึ่งชีวิตของเขา คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของมันในตอนนี้เพราะมันได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีจากชายชรา เจ้านายเก่าได้มอบเรือลำนี้ให้กับผมก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป ถึงแม้ว่าเกิดวันสิ้นโลกแต่โชคดีที่ประชากรในเขตของเรานั้นมีไม่ค่อยเยอะดังนั้นผมจึงมีโอกาสใช้เวลาที่เหลือจากการหาอาหารมาคอยบำรุงรักษาเรือลำนี้ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมันเลย มันไม่จมลงกลางทางแน่นอน!”
พวกเขาเดินเข้าไปในห้องกัปตันในขณะที่ เฉินเฟยหยู เล่าเรื่องของเรือให้กับ หลินเฉิง ฟังพร้อมกับหวนคำนึง
“ดี”
เมื่อได้ยินคำรับประกันจากเฉินเฟยหยู หลินเฉิง พยักหน้า
“เรือลำนี้พร้อมที่จะแล่นออกไปได้เลยหรือเปล่า”
“แน่นอน”
เฉินเฟยหยู ยิ้มอย่างมั่นใจจากนั้นกดสวิตช์ เขาจับพวงมาลัยและเตรียมพร้อมที่จะออกทะเลเพื่อทดสอบให้ หลินเฉิง ดู แต่ใครจะรู้ว่าเครื่องยนต์โดยสารส่งเสียงดังแปลกๆ 2 ครั้ง จากนั้นก็ดับลงอย่างไม่มีวี่แวว!
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้หลินเฉิง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและหันไปมอง เฉินเฟยหยู ที่กำลังอับอายต่อเหตุการณ์นี้
“เอ่อ…คือว่า..อาจมีบางสิ่งผิดปกติกับมัน!ผมลืมบอกกับคุณว่า ถึงแม้ว่าเรือนี้จะมีประสิทธิภาพที่ดีและมีการบำรุงรักษาอยู่เสมอแต่มันยังมีปัญหาเก่าที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ รอผมเดี๋ยวนะครับ”
เฉินเฟยหยู ยิ้มอย่างเขินอาย 2 ครั้งก่อนจะออกจากห้องกัปตันและไปที่ท้ายเรือจากนั้นพยายามทำบางอย่าง
“ปังปัง”
เมื่อได้ยินเสียงทุบเล็กน้อยเครื่องยนต์ของเรือก็ค่อยๆสตาร์ทใหม่ทันที หลินเฉิง ฟังอยู่สักพักและแน่ใจว่าเครื่องยนต์จะไม่ดับอีก
เฉินเฟยหยู ยังคงยืนรออยู่ที่นั่นเพื่อรอให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพก่อนที่จะกลับเข้ามายังห้องกัปตันในขณะที่เหงื่อท่วมร่างกายของเขา ในเวลานี้ตัวของเขาปกคลุมไปด้วยน้ำมันสีดำทั่วร่างกายดูสกปรกมอมแมม
เมื่อ หลินเฉิง มองเห็นดังนั้นเขารีบขว้างผ้าเช็ดตัวให้กับชายหนุ่มแล้วถามว่า
“มีอะไรผิดปกตินอกจากนี้อีกไหมอีกทั้งยังมีปุ่มมากมายในห้องขับเรืออีกด้วย”
“อ่า…ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันมันไม่ใช่แค่ผมแม้แต่เจ้านายเก่าของผมถ้ามีชีวิตอยู่เขาก็ไม่สามารถบอกได้”
ในขณะที่ เฉินเฟยหยู พูด หลินเฉิง ก็ยื่นบุหรี่ให้กับเขาจากนั้น เฉินเฟยหยู ก็พูดต่อ
“นี่เป็นเรือมือสองในตอนที่ซื้อมามีข้อบกพร่องมากมายแต่ได้รับการซ่อมแซมโดยเจ้านายเก่าของผมทีละนิด ไม่คาดคิดว่าคนที่ขายเรือลำนี้จะเห็นแก่ตัวและทิ้งปัญหามากมายไว้ให้กับพวกเรา เช่นปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์เขาไม่ได้บอกเราเลยแม้แต่น้อย! หลังจากที่เจ้านายเก่าของผมรู้ข้อผิดพลาดดังกล่าวเขาพยายามแก้ไขแต่ดูเหมือนว่าการแก้ไขเครื่องยนต์นั้นมีอันตรายเกินไปและมันยากที่จะแก้ไข ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะแก้ไขมันได้”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเฉิง จับหน้าผากของตัวเองดูเหมือนว่าวันนี้ของเขาโชคร้ายจริงๆ
เมื่อเห็นใบหน้าที่เอือมละอาของหลินเฉิง เฉินเฟยหยู รู้สึกละอายใจเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาอัดควันบุหรี่เข้าไปลึกๆและเงยหน้าขึ้นพูดว่า
“เอาล่ะถึงแม้ว่าเรือลำนี้ จะมีข้อบกพร่องแต่ผมก็คุ้นเคยกับมันและสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง…เรือลำนี้ไม่ใหญ่มันเป็นเพียงแค่เรือโดยสารเล็กๆซึ่งมันอาจเกิดปัญหาเมื่อเจอกับมือใหม่อย่างคุณ …ผมจะไปส่งคุณเอง เรือนี้จะพาคุณไปถึงเกาะ หนานซู”
———————————