I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 239 คาราวาน
บทที่239 คาราวาน
“บ้าเอ้ย!…ชั่งมันไม่ใช่รถกูอยู่แล้ว!”
เมื่อนึกถึงเหตุการอันน่าหวาดเสียวเมื่อกี้หลินเฉิง ได้แต่สบถออกมา “ฉาเพง ต้องไปทางไหนต่อ?”เขานึกขึ้นได้ว่ามีฉาเพงอยู่ข้างๆ
ฉาเพงรีบตอบ“เริ่มจากตรงไปข้างหน้า 30 กิโลเมตร แล้วเลี่ยวขวา!” เขากำลังตกใจกลัวกับแรงกระแทกที่เกิดขึ้น
“แล้วทำไมพี่….”ฉาเพงหายใจเขาลึกๆ ก่อนที่จะคิดอะไรบางอย่างออกและถามหลินเฉิงออกไป “พี่เหมือนจะนั้งใจมาที่ฐานทัพนี้ตั้งแต่แรกแล้วนะ เลยมาหาฉัน แต่ทำไมถึงต้องเป็นฐานทัพเรือนี่ด้วย? ถ้าต้องการที่พักแสนปลอดภัย พี่ควรจะไปที่ ไฮอัน ไม่ดีกว่าหรอ? เพราะว่าฐานทัพเรือแห่งนี้คนธรรมดาเข้าไปไม่ได้ แม้ว่ามันจะเป็นวันสิ้นโลกแล้วก็ตามที มันจึงถูกซ่อนไว้ ฉันกลัวว่าตอนนี้มันจะเป็นฐานลับของกองกำลังพิเศษมากกว่านะ?”
ได้ยินแบบนี้หลินเฉิงก็เริ่มคิด“ถ้าสิ่งที่ฉันรู้มามันไม่ผิด ฐานทัพเรือนั้นต้องเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด! นายพูดถูก น่าจะมีผู้รอดชีวิตอยู่ไม่มาก เพราะสุดท้ายแล้วคนก็รู้จักสถานที่นี้ไม่มาก! อีกอย่างฉันต้องตามหาญาติที่นั้น…”
“ฉันเข้าใจแล้ว…”
หลังจากที่ฉาเพงได้ยินคำอธิบายนั้นเขาก็เข้าใจดี.
เนื่องจากเขาเป็นแฮคเกอร์เขาจึงรู้จักการมีอยู่ของฐานทัพแห่งนั้นมานานแล้ว และก็ยังรู้อีกด้วยว่าการป้องกันของมันนั้นหนาแน่น แม้ว่าจะเป็นก่อนวันที่โลกล่มสลาย การแอบย่องเข้าไปก็มีโอกาศโดนยิงได้ ยิงโดยไม่ต้องถามเลย ถ้าเป็นหลังจากเหตุวันโลกาวินาศ มันอาจจะการเป็นที่พักพิเศษของคนบางกลุ่ม ถ้าพวกเขาพยายามเข้าไปในนั้น คนที่อยู่ในนั้นยิ่งสงสัยและมีโอกาศโดนยินมากกว่าหลายร้อยเท่า
นี้ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฉาเพงอยากจะหนีเมือหลินเฉิงอยากให้เขาพามาที่นี้ เขารู้เรื่องความลับของสถานที่นี้มากเกินไปแล้วจริงๆ ความกล้าหาญของเขาค่อยๆ ลดลง เขารับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้จะเข้ามาได้ รางสังหรณ์ของเขาก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การที่เขามาในนี้มันเหมือนกับการรนหาที่ตายเสียจริง!
แต่อย่างไรก็ตามเขาต้องรวมเดินทางกับพวกที่เรียกได้ว่า”เอามังกรมาเข้าถ้ำเสือ” เขาเห็นความเก่งกาจมาแล้วกับตา แน่นอนชายที่ขาแน่นเปรี๊ยนั่งอยู่ข้างๆ เขาคนนี้แหละ แม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมาเขาก็จะเป็นคนที่ต่อมันกระเด็นกลับไป และรวมถึงเหตุผลที่เขาไม่มีอาหารแล้วและต้องสู้เพียงอย่างเดียว ‘ว่าแต่ถ้ารถทั้งคันกลายเป็นมอเตอร์ไซต์ได้รึเปล่านะ?
ด้วยคำแนะนำของฉาเพงหลินเฉิงก็ขับรถตรงไปยังฐานทัพได้อย่างราบลื่น เมื่อระยะทางระหว่างเขากับป้าฉินสั้นลง เขาก็มีความรู้สึกอันซับซ้อนเกิดขึ้น
เพราะคำสัญญานั้นที่ให้กันไว้เขาต้องทุกข์ทรมารและบาดเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วนตลอดการเดินทาง เขาพบเจอกับสิ่งแปลกประหลาดมากมาย แต่เพราะความเชื่อและมุ่งในใจของเขาไม่เคยลดต่ำลงมาเกินขึ้นเลย!
เพราะว่าป้าฉินเป็นคนที่รับโทรศัพได้ไม่ถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ ทุกครั้งที่เปลี่ยนฤดู ป้าก็จะส่งชุดมาให้ใหม่ทุกครั้ง ผลไม้เมืองร้อนถูกขนส่งทางอากาศในวันทำงานปกติโดยไม่ถูกอะไรขัดขวางมาถึงเขา เกือบทุกเดือนป้าจะนั่งเที่ยวบินพิเศษ มาที่เมืองจงโจว เพื่อตรวจสุขภาพ
หลินเฉิงเป็นเด็กกำพร้าไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากผู้ที่เป็นแม่ แต่เขาก็นึกได้ว่าสิ่งที่ป้าฉินทำให้เขานั้นแหละคือความอบอุ่นจากแม่…
หลินเฉิงไม่เคยพูดว่าป้าฉินเป็นคนค่อยสนับสนุนเขาให้ใครต่อใครฟังแต่เรียกเธอว่าญาติ เพราะสิ่งที่เธอทำให้แก่เขา หลินเฉิงจึงแทบจะนับเธอว่าเป็นแม่!
อยู่ดีๆหลินเฉิงก็เปลี่ยนอารมณ์ ทำให้คนในรถต่างก็ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่มีใครเขาไปรบกวน ‘พี่ใหญ่สุด’ ได้แต่มองอย่างนุ่มนวล
ตอนนี้รถSUV กลังพุ่งเขาไปในป่า ตรงกับการนำทางของฉาเพง ตอนนี้พวกเขาอยู่ตรงฝั่งทิวเขาทางตะวันตกของหุบเขา ฉีชาน
หลังจากท่องไปตามทิวเขาไม่นานนักก็ขับลงไปทางตะวันตกใกล้จะถึงทางเขาแล้ว
ระหว่างที้ฟังฉาเพงหลินเฉิงก็เหยียบเบรคหยุดตรงใต้ต้นไม้ใหญ่
เมื่อเห็นว่ามาถึงจุดหมายแล้วเขาก็หยุดรถทุกคนกำลังงงุนงงกับสิ่งที่เขาทำ หลินเฉิงไม่ได้อธิบายอะไรเลย แถมเขายังกวักมือเรียกทุคนลงมาจากรถด้วย
หลังจากที่นั่งพิงอยู่กับต้นไม้ใหญ่หลินเฉิงก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ เทียนซือกระโดดตามเขาลงมาก่อน เขาก็หัวเราะก่อนที่จะชี้ไปยังมะพร้าวข้างๆ ต้นไม้ “เทียนซือ ไปเก็บมะพร้าวมาให้เจ้านายคนนี้ดับกระหายหน่อยเร็ว!” “โฮก!”Aileen-novel
ได้ยินแบบนั้นปุ๊บเทียนซือ ก็เชื่อฟังเหมือนทุกครั้ง หลินเฉิง แค่อยากเล่นมุขกับมันแต่ก็ช่วยไม่ได้ หมีแพนด้าที่กำลังทำตามคำสั่งไม่พูดอะไร…. หลินเฉิงส่ายหัวก่อนที่จะชี้ไปที่พื้นหญ้าที่กำลังถูกเงาของต้นไม้ใหญ่บดบัง ในตอนที่ทุกคนลงมาจากรถแล้ว พวกเขาก็นั่ง หลินเฉิงพูดกับพวกเขาโดยตรง “พวกเขากำลังจะไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว แต่ก่อนที่จะถึงฉันมีอะไรที่ต้องแจ้งให้ทราบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น เราไม่รู้ว่าในนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกเราต้องทำตัวให้ไม่เป็นที่สงสัยและค่อยๆ ตามหาความลับไปในเวลาเดียวกัน…”
หลินเฉิงพ่นควันกลุ่มใหญ่ออกมากเต็มหน้าของทุกคน “มีใครอยากเข้าห้องน้ำไหม? เราคงไม่มีเวลากลับมาใช้รถคันนี้แล้ว เราน่าจะใช้ขอดีของมันให้เสร็จก่อน”
“พี่หลินเข้าไปลุยก่อนเลยก็ได้ครับ ห้องน้ำมันเรื่องเล็ก พวกผมยังไหวอยู่!” เฟยหยูเอ่ยออกมาหลังจากที่เห็น หลินเฉิง มองมายังเขา
หลังจากที่เห็นว่างไม่มีใครปฏิเสธกับคำพูดของเฟยหยู หลินเฉิง ก็พยักหน้า “อย่างแรกฉันจะเข้าไปก่อน เอารถไปจอดไว้ประมาน 1 กิโลเมตรห่างออกไป เราจะอยู่กันในรถ หยูซานจะเข้าไปข้างในคนเดียวเพื่อรวบรวมข้อมูล!”
ถึงจุดนี้เขาก็หันไปมองหยูซาน“ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
“ไม่มีเลย~”เธอพูดด้วยรอยยิ้มอันเขินอาย
เมื่อเห็นอย่างนั้นหลินเฉิงที่เข้าใจผู้หญิงคนนีดีแล้วก็เลิกถามนู้นถามนี้ พยักหน้าและกล่าว “อย่างที่สอง…”
เขากำลังจะพูดต่อแต่อยู่ดีๆ ตาของเขาก็กระตุก เขาส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ และกระพริบตาสั่งหยูซาน และเห็นร่างของผู้หญิงคนนั้นหาไปในทันที! เธอที่หายไปนั้นแปปนึงนั้นกลับมาหลินเฉิงอย่างรวดเร็วทำให้ฉาเพงตะลึงมาก “มีรถสามคันกำลังมุ่งตรงมาทางเราค่ะ. ฉันมองไม่เห็นข้างในรถสองคันข้างหลัง แต่มีคนสี่คนนั่งอยู่ในรถคันแรก เป็นผุ้ชาย 3 คน ผู้หญิง 1 คนค่ะ!”
หลินเฉิงขมวดคิ้วและพยักหน้าเบาๆ หลังจากที่คิดเขาก็เข้าใจ
“สถานที่ตรงนี้ใกล้จากตัวฐานมากมันต้องเป็ยขบวนขนของที่ถูกส่งออกไปหาเสบียงแน่นอน! ฐานทัพใหญ่ขนาดนั้นคงจะมีอาหารไม่พอต้องส่งคนออกไปเอามา…”
อยู่ๆหลินเฉิงก็ยิ้ม “ถ้ามันเป็นแบบนั้น ฉันกังวลว่าจะหาข้อมูลข้างในนั้นอย่างไงมากกว่า พวกนี้น่าจะเป็น‘หน่วยข่าวกรอง’ ที่กำลังจะเข้าไปข้างในพอดิบพอดี!”
พูดจบพวกเขาก็ซ่อนตัวตามต้นไม้แถวนั้นรอรถทั้งสามคันเข้ามาใกล้ๆ และจัดการคนพวกนั้นซะ!
————————–